หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา online Ep.308 – เลือดของตะวันและจันทรา

 

กู่ฉิงซานถอนหายใจ

 

เขาเตรียมพร้อมที่จะบรรลุภารกิจปลุกตนหวนคืนสู่นักดาบนิรันดร์ให้สำเร็จ

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาเป็นถึงนักดาบนิรันดร์ที่ทรงพลัง ควบคู่ไปกับในชีวิตนี้ที่ได้ตระหนักรู้เกี่ยวกับสกิลดาบอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น หากทั้งสองซ้อนทับ ผสานรวมเข้าด้วยกัน มันจะช่วยเพิ่มพูนความแข็งแกร่งให้กับตัวเขาอย่างมหาศาล

 

แต่เวลานี้ คงทำได้แค่เพียงเริ่มก้าวเดินไปทีละขั้น ทีละขั้น

 

เมื่อคิดถึงจุดนี้ กู่ฉิงซานก็เอ่ยถามออกมาว่า “เรื่องวัสดุหลอมกลั่นไปถึงไหนแล้ว?”

 

“ยังขาดอีกสามชนิด ซึ่งสองในสามไม่มีสสารใดสอดคล้องกันกับวัสดุชนิดใดในโลกเลย” เทพธิดากงเจิ้งกล่าว

 

“จากวัสดุนับสิบ ขาดเหลืออีกแค่สามชิ้นเท่านั้นเองหรอ?”

 

กู่ฉิงซานกล่าวอย่างคาดไม่ถึง “ไหนขอฉันดูอีกสามชนิดที่ว่านั่นหน่อยสิ”

 

จอม่านแสงสว่างวาบ พร้อมกับรายการของวัสดุแสดงออกมา

 

วัสดุทั้งสามชนิดถูกทำเครื่องหมายขีดเส้นใต้สีแดง บ่งบอกว่ายังไม่ได้ถูกทำการเก็บรวบรวมมา

 

“ศิลาเดือด , แร่เงินฟ้า แล้วก็เลือดของตะวันและจันทรา… ” กู่ฉิงซานบ่นพึมพำ

 

“ถูกต้อง ศิลาเดือดกับแร่เงินฟ้า – ไม่ตรงกับสสารใดที่รู้จัก” เทพธิดากงเจิ้งกล่าว

 

ในเมื่อไม่สามารถค้นหาพวกมันได้จากในโลกจริง ถ้าอย่างงั้นล่ะก็ ..

 

กู่ฉิงซานหยิบถุงหลากสีสันออกมา แล้วกวาดจิตสัมผัสเทวะเข้าไปค้นหาสองสิ่งที่พึ่งว่ามา

 

“มีจริงๆด้วย!”

 

ดวงตาของกู่ฉิงซานเปล่งประกายสดใส

 

เขาหยิบวัสดุสองชนิดนั้นออกมาจากถุงหลากสีสัน และวางมันลงบนพื้น

 

มีเพียงสองสิ่งนี้เท่านั้นที่ไม่อาจหาได้ในโลกจริง ทว่ามันกลับสามารถหาได้ในโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ!

 

เอาล่ะ ตอนนี้ก็ยังคงเหลือวัสดุที่เรียกว่าเลือดของตะวันและจันทรา แต่จากการค้นถุงหอมเมื่อครู่ ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีในโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ

 

คาดว่านี่จะเป็นวัสดุที่มีเอกลักษณ์ซึ่งมีแต่โลกเทวะเท่านั้นที่มีไว้ในครอบครองแต่เพียงผู้เดียว ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าสิ่งนี้จะมีในโลกจริงหรือไม่

 

กู่ฉิงซานเอ่ยถาม “ยังเหลือเลือดของตะวันและจันทรา แล้วเรื่องของวัสดุชิ้นนี้ล่ะว่ายังไง?”

 

เทพธิดากงเจิ้ง “สสารตัวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นภายในโลก แต่ทว่า เมื่อ 40000 ปีก่อนได้บังเกิดฝนดาวตกขนาดใหญ่ขึ้น มันถูกดึงดูดโดยชั้นบรรยากาศ ร่วงตกลงมายังพื้นโลก และมีบางคนได้ค้นพบสิ่งที่ตรงกับสสารที่ว่าจากการถลุงอุกกาบาตเหล่านั้น” เทพธิดาอธิบาย

 

“โอ้? นี่มันน่าสนใจจริงๆ แต่ในเมื่อคุณค้นพบแล้ว ทำไมตอนนี้ถึงยังเอามันมาไม่ได้อีกล่ะ?” กู่ฉิงซานถามต่อ

 

เทพธิดากงเจิ้งฉายภาพขึ้นมา

 

“วัสดุที่คุณต้องการ บนโลกใบนี้มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ” เทพธิดากล่าว

 

กู่ฉิงซานมองไปยังมงกุฏอันงดงามที่อยู่ในภาพ

 

มันเป็นมงกุฏทองคำบริสุทธิ์ พร้อมด้วยยอดปลายแหลม 12 แฉกที่ตรงกลางถูกฝังไว้ด้วยอัญมณีทรงกลมอันสมบูรณ์แบบและไร้ที่ติ

 

เขาจ้องมองดูอัญมณีที่เปล่งประกายระยิบระยับอยู่บนมงกุฏ นิ่งค้างไปเนิ่นนานมิอาจกล่าวคำใดได้

 

“สสารที่ตรงกันกับเลือดของตะวันและจันทราเพียงหนึ่งเดียวในโลก ถูกติดตั้งไว้อยู่ในมงกุฏของจักรวรรดิฟูซี” เทพธิดาเฉลย

 

กู่ฉิงซานยกสองมือขึ้นกอดอกและถอนหายใจออกมา “การจะได้มันมาคงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

 

เขามองไปยังหน้าต่างระบบเทพสงคราม

 

ภารกิจปลุกนักดาบนิรันดร์ลอยเด่นอยู่บนหน้าต่าง

 

“ภารกิจที่หนึ่ง : ได้รับดาบสองเล่ม (ไม่ตกอยู่ในสภาพเสียหาย)”

 

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสามารถจัดการบรรลุภารกิจแรกให้เสร็จสมบูรณ์

 

สายตาของกู่ฉิงซานจับจ้องอยู่บนหัวข้อภารกิจสักพัก ก่อนจะเริ่มหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมา

 

อย่างรวดเร็ว การเชื่อมต่อระหว่างสองสายก็ได้รับการตอบรับ

 

เสียงที่หนักและฟังดูแข็งแรงดังขึ้น “นักวิทยาศาสตร์กู่น้อย พวกเจ้าพร้อมจะมาแล้วใช่ไหม?”

 

มันคือเสียงของจักรพรรดิแห่งฟูซี

 

กู่ฉิงซานตกใจในตอนแรก แต่แล้วพลันจำได้ว่าเขากับแอนนาสัญญากับอีกฝ่ายว่า จะต้องไปยังวังของพรรดิที่ตั้งอยู่ในฟูซีเพื่อพักร้อนที่นั่น

 

“ก็ไม่เชิงพะยะค่ะ พอดีว่าแอนนากำลังมีบางอย่างที่ต้องทำอยู่อีกสักพักหนึ่ง หม่อนฉันจึงอยากจะแวะไปเยี่ยมเยือนที่วังก่อน” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“ยินดีต้อนรับทุกเมื่อ! ข้าจะส่งรถเหินเวหาออกไปรับเจ้าตอนนี้เลยดีไหม?” องค์จักรพรรดิมิได้เอ่ยถามถึงแอนนา แต่กล่าวเรื่องนี้ออกมาแทนโดยตรง

 

“นั่นมันจะเป็นการรบกวนท่านมากเกินไป กระหม่อมขอเดินทางไปที่นั่นโดยลำพังคนเดียวจะดีกว่า” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“ทำแแบบนั้นข้าก็รู้สีกผิดต่อเจ้าน่ะสิ” องค์จักรพรรดิรำพึง

 

กู่ฉิงซาน “มิจำเป็นต้องรู้สึกผิดเลย เพราะหากเรากระทำการอย่างเป็นทางการ ทางฝั่งกระหม่อมจะเป็นปัญหาเอาน่ะพะยะค่ะ”

 

องค์จักรพรรดิกล่าวเห็นด้วย “นั่นก็จริง ชัดเจนว่ารัฐบาลกลางของเจ้ามีเทพธิดากงเจิ้งอยู่ แต่กระบวนการทุกอย่างกลับช่างเชื่องช้า ดีไม่ดีระหว่างขั้นตอนการขอเยี่ยมเยือนทางการทูตอาจจะล่าช้าลากยาวไปถึงครึ่งเดือน ช่างเป็นการประสานงานที่ไร้ประสิทธิภาพเสียจริงๆ”

 

เขาเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้าน “หากข้ามีเทพธิดากงเจิ้งไว้ในครอบครองล่ะก็ ข้าคงสามารถรวบรวมโลกทั้งใบเป็นปึกแผ่นเดียวกันได้แล้ว”

 

กู่ฉิงซานฝืนยิ้มออกมา “เช่นนั้นกระหม่อมจะเริ่มออกเดินทางทันที คาดว่าจะถึงภายในวันนี้เลย”

 

“เข้าใจแล้ว ข้าจะรอเจ้าที่วังก็แล้วกัน” องค์จักรพรรดิกล่าว

 

แล้วการเชื่อมต่อก็ถูกตัดขาดลง

 

กู่ฉิงซานเดินออกนอกประตูไป

 

ตามด้วยหัวของเรือรบประจัญบานที่โผล่ลงมาจากชั้นเมฆ

 

“อลังการแบบนี้ไม่ดีหรอก” กู่ฉิงซานถอนหายใจ

 

“ใต้เท้า อ้างอิงตามสถานะของคุณ มันต้องระดับนี้จึงจะคู่ควรแก่การไปเยี่ยมเยือน” เทพธิดากล่าว

 

“ขอให้ฉันได้ไปเงียบๆเถอะ อีกอย่าง ฉันไม่ต้องการกระตุ้นอะไรทางฝั่งรัฐบาลกลางด้วย เพราะงั้นให้ฉันไปเงียบๆเถอะ” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“รับทราบแล้ว” เทพธิดาตอบรับ

 

แล้วหัวเรือรบประจัญบานก็เชิดขึ้นไปเหนือชั้นเมฆ จากนั้นก็บินหายไป

 

ต่อมา รถเหินเวหาสีเงินที่มีรูปทรงงดงามและสมบูรณ์แบบก็ทะลุผ่านชั้นเมฆลงมา มันร่อนลงจอดบนพื้นดินเบื้องหน้าของกู่ฉิงซาน

 

“นี่มันก็ค่อนข้างที่จะ … ดูหวือหวาเกินไปนิดนึงนะ” กู่ฉิงซานกวาดสายตามองรถเหินเวหา

 

“นี่คือรถรุ่นใหม่ล่าสุดที่พึ่งผ่านชุดการทดสอบความเร็ว และความเร็วของมันได้รับการยืนยันแล้วว่าปลอดภัย” เทพธิดากงเจิ้งแนะนำ

 

“ก็ได้ๆ” กู่ฉิงซานตัดบทและก้าวเข้าไปภายใน

 

รถเหินเวหาค่อยลอยลำขึ้นอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเข้าสู่สถานะการบินในทันใด

 

เตรียมเข้าสู่โหมดเพิ่มความเร็วขึ้น เร่งเครื่องออกตัว!

 

ปัง!

 

หลังจากบังเกิดเสียงคลื่นโซนิคบูม รถเหินเวหาก็หายวับไปทันที

 

ภายในรถเหินเวหา

 

“ฉันไปพบกับจักรพรรดิฟูซี เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางจะต้องรู้ข่าวนี้อย่างแน่นอน” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“วินิจฉัยได้ถูกต้องแล้ว ข้อมูลนี้นับว่าเป็นเรื่องง่ายดายมากที่จะได้รับ” เทพธิดาเอ่ยสนับสนุน

 

“เฮ้อ งั้นฉันขอฝากให้ช่วยค้นหาระเบียบขั้นตอนการไปต่างประเทศ แบบที่ไม่ต้องมีคนมาตรวจสอบด้วยตนเองทีนะ ขอเป็นอะไรก็ได้ แต่ต้องในทำนองนั้น”

 

“ถ้าอย่างนั้นเอาเป็น ‘ให้ความช่วยเหลือทางด้านการกุศล’ ดีไหมใต้เท้า ขั้นตอนของมันนับว่ารวดเร็วที่สุด และไม่จำเป็นต้องถูกส่งคนมาตรวจสอบ”

 

“ดี เอาอันนั้นแหละ ดำเนินการได้เลย”

 

หลังจากนั้นไม่นาน รถเหินเวหาก็บินเข้าสู่น่านฟ้าของสาธารณรัฐฟูซี

 

ตามด้วยระบบสื่อสารบนตัวรถที่ดังขึ้นอย่างกระทันหัน

 

กู่ฉิงซานกดตอบรับการสื่อสาร

 

จอม่านแสงสว่างขึ้น ปรากฏให้เห็นถึงใบหน้าของเจ้าหน้าที่ติดอาวุธวัยกลางคน ที่กำลังกวาดสายตามองขึ้นๆลงๆบนตัวกู่ฉิงซาน

 

“ที่นี่คือชายแดนป้อมปราการแห่งสาธารณรัฐฟูซี กรุณาทำการยืนยันตัวตนของคุณด้วย มิฉะนั้นทางเราคงต้องยิงคุณให้ร่วง!” เจ้าหน้าที่วัยกลางคนกล่าว

 

“ผมชื่อกู่ฉิงซาน และมีนัดหมายกับฝ่าบาทของประเทศคุณ” กู่ฉิงซานอธิบาย

 

สีหน้าของเจ้าหน้าที่วัยกลางคนคลายลงทันที

 

เขายิ้มและกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นใต้เท้ากู่ฉิงซานนี่เอง โปรดเชิญเดินทางต่อได้เลย”

 

“อ้าว คุณไม่จำเป็นต้องทำการตรวจสอบ ยืนยันตัวตนผมหรอ?” กู่ฉิงซานถาม

 

“เทพธิดากงเจิ้งได้ทำการยืนยันตัวตนของคุณแล้ว และฝ่าบาทก็ทรงตรัสว่าคุณเป็นแขกผู้มีเกียรติ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนใดๆ” เจ้าหน้าที่กล่าว

 

“ขอให้เดินทางโดยสวัสดีภาพ”

 

แล้วการเชื่อมต่อก็ถูกตัดขาดไป

 

กู่ฉิงซานขับรถเหินเวหาต่อโดยไม่ชะลอ มุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

 

หลังจากนั้นไม่นาน

 

รถเหินเวหาประเภทต่อสู้ 12 ลำก็ไล่ตามหลังเขามา

 

6 ลำแยกกันประกบปีกซ้ายขวาของเขา ส่วนอีก 6 เลือกที่จะบินไปนำหน้า

 

และเสียงแจ้งเตือนการเชื่อมต่อสื่อสารก็ดังขึ้นอีกครั้ง

 

“ยินดีต้อนรับใต้เท้า พวกเรามีหน้าที่คุ้มกันท่านไปยังวังของฝ่าบาท” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น

 

“ลำบากพวกคุณซะแล้ว” กู่ฉิงซานตอบกลับไป

 

เมื่อการสื่อสารถูกตัดสายลง กู่ฉิงซานก็ส่ายหัวออกมา

 

ถึงกับส่ง 12 รถเหินเวหาประเภทต่อสู้ออกมาคุ้มกัน นี่มันนับได้ว่าเป็นการรักษาความปลอดภัยระดับสูงเลยนะสำหรับในสาธารณรัฐฟูซี … แน่นอนว่าเรื่องเงินที่ต้องจ่ายไปก็เช่นกัน

 

องค์จักรพรรดิก็ยังคงเป็นองค์จักรพรรดิ เป็นบุคคลที่ทุนหนาและเต็มใจจ่ายทุกบาททุกสตางค์เพียงเพราะความพึงพอใจของตนอย่างแท้จริง

 

หลังจากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

 

รถเหินเวหาก็ข้ามผ่านพื้นที่รกร้างส่วนใหญ่ของฟูซี และโผล่ลงมาจากชั้นเมฆ

 

เบื้องล่างเป็นทะเลทรายผืนใหญ่

 

ท่ามกลางทะเลทรายสีเหลืองนวลอันไร้ที่สิ้นสุด มีโอเอซิสตั้งอยู่

 

และวังขององค์จักรพรรดิก็ตั้งอยู่ที่นี่

 

จากโอเอซิส ห่างออกไปสิบไมล์ รถเหินเวหาก็เริ่มทำการลงจอด

 

กู่ฉิงซานก้าวลงมาจากรถเหินเวหา ขณะเดียวกันก็มีคนกางร่มขึ้น และยื่นมันมาช่วยกันลมกันฝนให้แก่เขา

 

ภูมิภาคแห่งนี้แห้งแล้งและร้อนอบอ้าวอยู่เสมอ แต่จู่ๆก็ต้องพบกันฝนเย็นฉ่ำอย่างต่อเนื่อง มันคงเป็นยากสำหรับคนที่นี่ที่จะปรับตัวจริงๆ

 

ขบวนอูฐรออยู่ข้างนอก

 

บนหลังอูฐแต่ละตัว ถูกติดตั้งไว้ด้วยที่นั่งที่ดูสะดวกสบายพร้อมกับหลังคาที่ครอบคลุมเบื้องบน เพื่อใช้ป้องกันลมแดดและลมฝน

 

เจ้าหน้าที่โค้งกายทักทายและนำอูฐเดินตรงมายังกู่ฉิงซาน

 

“ใต้เท้า โซนเบื้องหน้าเป็นเขตห้ามบิน ดังนั้นเชิญตามผู้น้อยมา” เจ้าหน้าที่พูดคุยด้วยรอยยิ้ม

 

“ผมเข้าใจแล้ว” กู่ฉิงซานตอบรับ

 

แล้วเขาก็ขึ้นไปบนอูฐ จากนั้นก็ขี่มันเดินคู่ไปกับเจ้าหน้าที่

 

“ฝ่าบาทรู้สึกยินดียิ่งเมื่อได้ยินว่าคุณกำลังจะมา จึงทำการเลื่อนงานเลี้ยงรื่นเริงในวันพรุ่งนี้ ให้มาเป็นวันนี้แทน” เจ้าหน้าที่หัวเราะ

 

“ผมก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งเช่นกัน ว่าแต่ถ้างานเลี้ยงถูกเลื่อนมาเป็นวันนี้ แล้วฝ่าบาทของคุณวางแผนที่จะทำอะไรในวันพรุ่งนี้แทนอย่างงั้นหรอ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

 

“วันพรุ่งนี้ก็ยังคงเป็นงานเลี้ยงอีกเช่นเคย” เจ้าหน้าที่ตอบราวกับเป็นเพียงเรื่องปกติ

 

“สมกับเป็นฝ่าบาทจริงๆ .. ” กู่ฉิงซานอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมา