บทที่ 2 โอกาสเปลี่ยนแปลง

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

ในตอนที่เฉินปิ่งเซิงกลับมาก็เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว เมื่อเห็นว่าเฉินชางยังอยู่ในห้องก็ไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย “นี่ ยังอยู่เหรอ? ผมคิดว่าคุณไปแล้วซะอีก”

เฉินชางจนใจ “หัวหน้า คุณผ่าตัดไปสามชั่วโมงเลยนะครับ ผ่าไส้ติ่งไม่ใช่เหรอ? ใช้เวลาไปสามชั่วโมงขนาดนี้…ไส้ติ่งหนักเท่าไหร่กัน?”

เฉินปิ่งเซิงหัวเราะ “คุณนี่ก็นะ แค่ให้ทำโอทีนิดหน่อยก็เรื่องมากขนาดนี้แล้ว ไปเถอะ ไปกินข้าวได้แล้ว”

เฉินชางยิ้ม “หัวหน้า วันนี้ผมเลี้ยงคุณเอง”

เฉินปิ่งเซิงชะงักไปครู่หนึ่ง “โอ้โห! รวยแล้วเหรอ?”

เฉินชางส่ายหน้า “ไม่ใช่ครับ วันนี้ผมดีใจน่ะ ไปเถอะ วันนี้พวกเราไม่กินข้าวที่โรงอาหาร ไปกินร้านเหล่าหลิวกันเถอะ”

เฉินปิ่งเซิงกล่าว “เดี๋ยวผมเปลี่ยนเสื้อผ้าล้างมือก่อน วันนี้มีเรื่องจะคุยกับคุณพอดี”

ร้านอาหารของครอบครัวเหล่าหลิวมีชื่อว่าร้านหลิวมามา อยู่เยื้องๆ กับโรงพยาบาล เป็นร้านอาหารที่เปิดโดยหัวหน้าพยาบาลในแผนกศัลยกรรมทั่วไป ปกติพนักงานในโรงพยาบาลมักมากินข้าวกันที่นี่ กิจการไม่เลวเลยทีเดียว

ตอนนี้เลยเวลากินข้าวไปแล้วจึงมีคนไม่มาก เมื่อเห็นเฉินปิ่งเซิงและเฉินชางเข้ามา คุณป้าก็พูดขึ้นยิ้มๆ “ต้าเฉินเสี่ยวเฉินมากันแล้ว มาช้าแบบนี้ แผนกฉุกเฉินคงยุ่งล่ะสิ”

เฉินปิ่งเซิงยิ้ม “คุณป้าครับ บะหมี่ชามใหญ่สองชาม”

เฉินชางพูดต่อ “เพิ่มออเดิร์ฟเย็นที่หนึ่ง ไข่พะโล้สองฟอง แล้วก็เต้าหู้สองจานด้วยนะครับ”

เมื่อพูดจบเฉินชางก็หยิบมือถือขึ้นมาสแกนจ่ายเงิน ไม่แพงเท่าไหร่ แค่สามสิบห้าหยวนเท่านั้น

คุณป้าคนนั้นเห็นเฉินชางเป็นคนจ่ายจึงพูดหยอกล้อ “โอ้โห วันนี้เสี่ยวเฉินร่ำรวยแล้วเหรอ?”

เฉินชางยิ้มกระอักกระอ่วน “วันนี้ผมมีเรื่องให้ดีใจน่ะครับ”

เฉินปิ่งเซิงก็ไม่ได้ห้าม มองหามุมสะอาดๆ ก่อนนั่งลงกับเฉินชาง

เฉินปิ่งเซิงจุดบุหรี่ขึ้นมวนหนึ่ง “วันนี้เช้าพอผมผ่าตัดเสร็จก็เจอผู้อำนวยการเหอเข้าพอดี พวกเขากำลังเตรียมผ่าตัดใหญ่ผมเลยไปช่วยเป็นลูกมือ ได้ยินว่าพวกเขาคุยกันว่าช่วงนี้โรงพยาบาลของพวกเราอาจมีการถ่ายโอนบุคลากร ส่วนทางพนักงานก็อาจมีการปรับเปลี่ยนสัญญาจ้างกับโรงพยาบาล คุณก็เตรียมตัวไว้ให้ดี”

เฉินชางชะงัก ดวงตาเปล่งประกาย “จริงเหรอครับ!”

เฉินปิ่งเซิงพ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นวง “จริงแท้แน่นอน ผมจะหลอกคุณทำไม”

ตั้งแต่ที่เฉินชางจบการศึกษาระดับปริญญาตรีก็มาทำงานที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลอันดับสองของจังหวัด ตอนสมัครมีแผนกฉุกเฉินเปิดรับพนักงานแค่แผนกเดียว สวัสดิการธรรมดา เงินเดือนพื้นฐานสองพันสองร้อยหยวน ไม่มีประกันสังคม ไม่มีโบนัสผลงาน พูดไปแล้วก็คือเป็นงานงั้นๆ นั่นเอง

จะอย่างไรนี่ก็เป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจังหวัด หากจะเปิดรับสมัครพนักงานอย่างเป็นทางการอย่างน้อยต้องเป็นนักศึกษาปริญญาโท และตอนนี้ขั้นต่ำต้องปริญญาเอกแล้ว

นักเรียนที่จบปริญญาตรีคนหนึ่ง หากอยากทำงานในโรงพยาบาลใหญ่ก็เป็นได้แค่พนักงานชั่วคราว

เมืองตงหยางเป็นเมืองระดับสองของมณฑลอันหยาง แม้จะไม่มีความกดดันมากเท่ากับเมืองระดับหนึ่ง แต่สำหรับเฉินชางที่เป็นเด็กจากหมู่บ้านชนบทก็ยังรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง

เขาอยากอยู่เรียนทักษะอยู่ที่นี่สักหลายปี รอให้พัฒนาไปถึงระดับกลางค่อยกลับบ้าน

จะให้ซื้อบ้านอยู่ที่นี่เหรอ?

ตารางเมตรละหนึ่งหมื่นห้าพันหยวน เฉินชางไม่เคยคิดสักนิด

แต่คำพูดของเฉินปิ่งเซิงทำให้เฉินชางต้องเปลี่ยนความคิด ถึงแม้พนักงานสัญญาจ้างจะไม่อาจเทียบได้กับการจ้างบุคลากรภายในสังกัด แต่ตอนนี้มีการปฏิรูปการรักษาพยาบาลขนานใหญ่ พนักงานสัญญาจ้างและบุคลากรภายในสังกัดจึงมีเงินเดือนเท่ากัน สิ่งสำคัญคือผลงาน หากคุณทำเท่าไหร่ก็ได้มากเท่านั้น

ปกติรายได้จากโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่ใช่เงินเดือนพื้นฐาน แต่เป็นรางวัลที่จะเพิ่มขึ้นตามประสิทธิภาพการทำงาน ข่าวนี้ทำให้เฉินชางกระตือรือร้นขึ้นมา

เฉินปิ่งเซิงกล่าวต่อไป “คุณเตรียมตัวให้ดี พนักงานชั่วคราวในโรงพยาบาลของพวกเราหากไม่ถึงร้อยก็แปดสิบ ผมเดาว่าคงมีโควต้ามากสุดแค่ยี่สิบ คุณต้องแสดงผลงานให้ดี ผมจะไปหาหัวหน้าแผนกและผู้อำนวยการเหอให้คุณ ดูว่าจะช่วยพูดให้คุณได้หรือเปล่า”

เฉินชางยิ้มอย่างซาบซึ้งใจ “ฮ่ะๆ ถ้างั้นต้องขอบคุณหัวหน้าแล้ว”

เฉินปิ่งเซิงยิ้มพลางแสร้งตำหนิไปประโยคหนึ่ง “คุณที่ไม่จริงใจเอาซะเลย รีบกินเถอะ จะได้กลับไปนอนสักหน่อย”

เฉินชางแย้มยิ้มกระอักกระอ่วน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูบัญชีอาลีเพย์ ด้านในมีเงินอยู่ 21052.5 หยวน นี่เป็นเงินที่เขาเก็บสะสมมาสองปี

เบ็ดเสร็จแล้วหนึ่งปีหาเงินได้สองหมื่นกว่าหยวน นอกจากค่ากินค่าอยู่ สองปีนี้เฉินชางก็เก็บเงินได้สองหมื่นหยวน ซึ่งเป็นผลจากการกินใช้อย่างประหยัดอดออม

เฉินชางมองดูสัญลักษณ์เพื่อนสนิทในแอพ มีชื่อของเฉินปิ่งเซิงอยู่ด้วย เขาโอนเงินไปให้สองหมื่นหยวน

เขารู้ดีว่าเฉินปิ่งเซิงดีกับเขามาก แต่ดีก็ส่วนดี เดินเรื่องให้เขาไม่ต้องใช้เงินหรือไง? คงให้คนอื่นควักกระเป๋าตัวเองมาวิ่งเต้นให้ไม่ได้หรอก ใช่หรือไม่?

จะทำแบบนี้ไม่ได้!

เฉินปิ่งเซิงได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตนดังขึ้นจึงหยิบขึ้นมาดู เมื่อพบว่ามีเงินโอนเข้ามาจึงชักสีหน้าถลึงตาใส่เฉินชาง “คุณทำอะไร?”

เฉินชางยิ้ม “หัวหน้าครับ ผมไม่คุ้นเคยกับคนอื่นแล้วก็ไม่รู้จักใคร ไม่มีเส้นสายให้เลือกมากนัก ผมก็มีเงินเท่านี้ คุณช่วยผมวิ่งเต้นดูหน่อยว่าพอได้หรือเปล่า ผมคงไม่ปล่อยให้คุณควักกระเป๋าตัวเองเพื่อวิ่งเต้นให้ผมหรอกใช่ไหมครับ?”

เฉินปิ่งเซิงอารมณ์เสีย โอนเงินคืนให้เฉินชางด้วยใบหน้าดำคล้ำ “เรื่องนี้ไม่ต้องให้คุณยุ่งหรอก เรื่องวิธีลัดก็อย่าให้ผมจัดการด้วย คุณพัฒนาทักษะของตนเองไปซะ จะยังไงโรงพยาบาลก็พิจารณาจากความสามารถเป็นหลัก พรุ่งนี้คุณก็เริ่มลงมือผ่าตัดด้วยตัวเองเถอะ สองปีแล้ว คงลงมีดด้วยตัวเองได้แล้ว เรียนรู้การผ่าตัดเอาไว้บ้าง”

“คุณอยู่แผนกศัลยกรรมภายนอก ผมว่าคงประเมินจากฝีมือการผ่าตัดพื้นฐานและการรักษาบาดแผลภายนอกพื้นฐาน ตอนนี้พื้นฐานของคุณค่อนข้างดี เรื่องนี้ผมวางใจได้ แต่เรื่องผ่าตัดคุณยังต้องพยายามอีก”

ทั้งสองรีบกินข้าว เฉินปิ่งเซิงยังต้องเข้าเวรบ่ายจึงกลับไปโรงพยาบาล ส่วนเฉินชางเมื่อเลิกเวรดึก วันนี้ตอนกลางวันก็ไม่มีอะไรทำจึงกลับไปนอนต่อ

แต่เมื่อกลับไปแล้วเฉินชางก็นอนไม่หลับ จะอย่างไรเขาก็ได้ระบบนี้มาแล้ว ถ้าไม่ทำความเข้าใจมันสักหน่อยคงผิดต่อวาสนาที่สั่งสมมาทั้งชาติ

อาชีพของตนคือแพทย์ นี่เป็นคำอธิบายที่ดี แต่ระดับอาชีพระดับสิบสองนี่หมายความว่าอย่างไร?

[ติ๊ง! คำอธิบาย:

ระดับ 1-20 คือแพทย์ดูแลไข้

ระดับ 20-40 คือแพทย์เจ้าของไข้

ระดับ 40-60 คือรองหัวหน้าแพทย์

ระดับ 60-80 คือหัวหน้าแพทย์

ระดับ 80-90 คือแพทย์มีชื่อระดับจังหวัด

ระดับ 90-100 คือแพทย์มีชื่อระดับประเทศ สามารถเพิ่มระดับอาชีพได้จากประสบการณ์ที่ได้รับ

อธิบายเพิ่มเติม: ระดับที่สูงขึ้นสามารถเรียนรู้ทักษะอาชีพที่สูงขึ้น]

เฉินชางชะงัก ที่แท้ก็หมายถึงแบบนี้ ตอนนี้ตนระดับสิบสอง อยู่ในระดับแพทย์ดูแลไข้

แล้วระดับทักษะอาชีพล่ะ?

[ติ๊ง! ระดับทักษะอาชีพแบ่งออกเป็น:ระดับต้น ระดับกลาง ระดับสูง ระดับปรมาจารย์ ระดับสมบูรณ์ อธิบายเพิ่มเติม: ตั้งแต่ระดับสูงเป็นต้นไป ทักษะของคุณจะได้รับคุณสมบัติพิเศษ]

เฉินชางรู้สึกมึนงงทันที อะไรคือคุณสมบัติพิเศษ?

ผ่านไปนานระบบก็ยังไม่มีคำอธิบายใด ดูท่าทางคงต้องหาด้วยตัวเอง

แล้วระดับความรู้สึกดีล่ะ?

ตอนนี้มีระดับความรู้สึกดีปรากฏขึ้นแล้ว คงมีคำอธิบายให้นะ?

[ติ๊ง! เมื่อระดับความรู้สึกดีถึง 60 จะดูคุณสมบัติของอีกฝ่ายได้ และจะได้รับภารกิจมากขึ้น โปรดหารายละเอียดเพิ่มเติมในระหว่างการฝึกฝน]

เฉินชางเปิดตารางคุณลักษณะของตน มองไปยังทักษะอาชีพทันที [ทำแผล 2010/2000 (สามารถเพิ่มระดับได้) ] ประสบการณ์พอที่จะเลื่อนระดับแล้ว