บทที่ 101 บิดเบือนความจริง
ก่อนหน้านี้ตอนที่ซือเซี่ยเข้ามาช่วยเธอรับตบของเฉิงเสวี่ย เธอก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีแล้ว เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้
เยี่ยหวั่นหวันเปิดกระทู้แสดงความคิดเห็นดู ทันใดนั้นก็เห็นกระทู้ยอดฮิตอยู่หน้าแรกในแถวที่เห็นเด่นชัดมาก “เรื่องที่ไม่พูดไม่ได้ของสาวอัปลักษณ์เบอร์หนึ่งกับเดือนโรงเรียนชิงเหอ”
‘สาวอัปลักษณ์’ กับ ‘เดือนโรงเรียน’ หัวข้อที่กระตุ้นสายตาแบบนี้ แค่เห็นก็ดึงดูดได้ดีมาก
กระทู้นั้นเขียนอธิบายอย่างละเอียดตั้งแต่เธอสอบได้ที่โหล่ครั้งนั้นเป็นต้นมา เขียนว่าเธอวางแผนเข้าใกล้ซือเซี่ยแต่ละขั้นตอนอย่างไร
จงใจสอบได้ที่โหล่เพื่อเข้าใกล้ซือเซี่ย ลอกข้อสอบให้ได้ที่หนึ่งของชั้นเพื่อเข้าใกล้ซือเซี่ยต่อ แล้วยังวางแผนโกงการเลือกสโนว์ไวท์ของซือเซี่ยอีก ตอนเรียนก็จงใจออดอ้อนและตามรังควาน…
ทั้งบทความนั้นไม่มีเหตุผลเลย ทั้งหมดคือการใส่ความ
เรื่องผลสอบนั้นมีครูทุกคนเป็นพยาน เหลียงลี่หวาก็ยอมรับแล้วว่าผลคะแนนเธอเป็นของจริง ส่วนการจับฉลาก เธอไม่มีโอกาสไปแตะต้องกล่องใส่ฉลากเลย จะโกงได้ยังไง ถ้าเธอตามรังควานซือเซี่ยจริง ตอนที่เหลียงลี่หวาจะเปลี่ยนคนในหอประชุมเล็กนั่น ทำไมซือเซี่ยถึงได้ออกหน้าแทนเธอ?
แต่เรื่องพวกนี้จะสำคัญอะไร ไม่มีใครสักคนที่จะมีใจคิดไปตรวจสอบเรื่องจริง มีแต่จะคอยรุมทึ้งฉีกกัดเธออย่างบ้าคลั่งเหมือนแร้งเห็นเนื้อเน่า
ใครใช้ให้ยัยอัปลักษณ์อย่างเธอโชคดีได้ใกล้ชิดหนุ่มหล่อของพวกเขาขนาดนี้ล่ะ มีหนุ่มหล่อออกหน้าแทนเธอได้ นี่เป็นอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดแล้ว
รักหานเยี่ยที่สุด: [ฉันเป็นนักเรียนห้อง F ฉันเห็นกับตา ตอนเรียนยัยอัปลักษณ์นั่นตั้งใจถูไถกับตัวซือเซี่ย! น่ารังเกียจที่สุด!]
ชินจังไม่มีดินสอสี: [โอ้โหจริงเหรอเนี่ย! น่ารังเกียจเกินไปแล้ว! ยัยอัปลักษณ์นี่พิลึกมาก! สภาพเหมือนผีอย่างหล่อนไม่รู้จักหัดส่องกระจกดูตัวเองบ้างเลย ถึงกับกล้าอาจเอื้อมซือเซี่ย!]
เงาสะท้อนของมือซ้าย: [ดีที่หนุ่มหล่อนิสัยดีไม่ถือสาเธอ แล้วยังตำหนิว่าเป็นความผิดของตัวเองอีก! บ้าจริง หน้าตาแบบนั้นใครจะไปจูบลง? ถ้าเป็นฉัน ฉันคงอ้วกเอาข้าวมื้อคืนก่อนที่กินออกมาแล้วจริงนะ?]
บันทึกของเด็กซื่อ: [ครั้งที่แล้วก็บอกจะถอนตัวไม่ใช่เหรอ นี่ก็ยังไม่ไสหัวไปอีก! ประเมินแผนของยัยอัปลักษณ์นี่ต่ำไปจริงๆ!]
รักหานเยี่ยที่สุด: [หึๆ ถ้าไม่มีแผนจะเล่นปั่นหัวลูกพี่ใหญ่ของชิงเหอได้เหรอ? คนแบบนี้ควรจะไสหัวออกไปจากชิงเหอได้แล้ว!]
Timeless: [เยี่ยหวั่นหวันไสหัวออกไปจากชิงเหอซะ!]
………
ท้ายกระทู้ เรื่องของหลิงตงก็โดนขุดคุ้ยออกมาด้วย แล้วให้ฉายาเธอเพิ่มอีกว่าภายนอกดูใสซื่อแต่ชอบเหยียบเรือสองแคม ใส่ความเธอจนอ่วมไปทั้งตัว
แต่ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เธอกลับอธิบายอะไรไม่ได้
จะอธิบายยังไง บอกว่าหลิงตงกับซือเซี่ยต่างก็ชอบเธอฝ่ายเดียว?
ถึงตอนนั้นกลัวว่าจะโดนถ่มน้ำลายใส่จนตายน่ะสิ!
“หวั่นหวัน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? คนพวกนี้ทำเกินไปจริงๆ มาว่าเธอแบบนี้ได้ยังไง!” เฉินเมิ่งฉีทำท่าโกรธเคืองด้วยความไม่ยุติธรรม
เธอไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมจนถึงตอนนี้เยี่ยหวั่นหวันถึงยังมีชีวิตดีอยู่ ก่อนหน้านี้เธอส่งข้อความพวกนั้นไปก็ขึ้นโชว์ว่าอ่านแล้ว ซือเยี่ยหานเห็นแล้วแน่นอน
อีกฝ่ายไม่เพียงแต่อยู่อย่างสงบสุข อ่อยหลิงตงคนหนึ่งจบ แม้แต่ท่าทีของซือเซี่ยที่มีต่อหวันหวั่นก็ดูพิเศษมากขึ้นทุกที
เห็นสีหน้าเป็นห่วงของเฉินเมิ่งฉีแล้ว เยี่ยหวั่นหวันคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มที่มุมปาก
‘รักหานเยี่ยที่สุด’ คนที่ตั้งกระทู้นี้ หรือคนที่ใส่ร้ายเธอสารพัดวิธีก็คือชื่อ ID ของเฉินเมิ่งฉี
รักหานเยี่ยที่สุด…
ID นี้ความหมายช่างลึกซึ้งเสียจริง…
หึ มาเล่นแสดงความเห็นในที่สาธารณะกับเธอ?
เดิมทีเธอคิดว่าจะเก็บของในมือไว้อีกหลายวัน แต่ตอนนี้เป็นเวลาเหมาะที่จะเอาออกมาใช้แล้ว
……………………………………………
บทที่ 102 กอสซิปพอร์เตอร์
“แต่ว่า หวั่นหวัน ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและซือเซี่ยดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ? ฉันได้ยินมาว่าวันนี้เขาไม่ใช่แค่ช่วยเธอพูดต่อหน้าครูประจำชั้น ยังช่วยเธอรับตบของเฉิงเสวี่ยด้วย!” เฉินเมิ่งฉีถามหยั่งเชิง
ก่อนหน้านี้เรื่องของหลิงตงใหญ่ขนาดนั้นยังไม่เห็นผลอะไรเลย ดังนั้นถึงแม้ท่าทีที่ซือเซี่ยมีต่อหวั่นหวันนั้นไม่ธรรมดา แต่เธอไม่มั่นใจว่าบอกเรื่องนี้กับซือเยี่ยหานแล้วจะมีประโยชน์หรือเปล่า
เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่านับวันซือเยี่ยหานจะเอาอกเอาใจเยี่ยหวั่นหวั่นมากขึ้น หรืออาจเป็นเพราะคนอื่นไม่อยู่ในสายตาของซือเยี่ยหานเลย มีแค่กู้เยว่เจ๋อเขาถึงจะสนใจได้?
แต่ความจริงน่ะเหรอ…
เฉินเมิ่งฉีเข้าใจผิดทั้งหมด คนที่เป็นราชาจอมขี้หึงแห่งอาเซียนนั่น อย่าว่าแต่หลิงตงที่เป็นคนตัวโตขนาดนี้เลย แค่สุนัขตัวหนึ่ง เยี่ยหวั่นหวันลูบหลายทีหน่อย ยังกลัวว่าคนคนนั้นจะเอาไม้มาตีเลย
“นั่นก็เพราะซือเซี่ยเขานิสัยดีน่ะสิ!” เยี่ยหวั่นหวันใช้คำพูดในกระทู้ตอบกลับ
เฉินเมิ่งฉีสำลักจนพูดไม่ออกทันที พูดเตือนว่า “ยังไงเธอก็ระวังไว้หน่อยเถอะ ผู้หญิงชอบซือเซี่ยมากขนาดนั้น ต้องเพ่งเล็งเธอแน่นอน โดยเฉพาะเฉิงเสวี่ยนั่น! กระทู้นี่แปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นเฉิงเสวี่ยโพสต์เพื่อแก้แค้นเธอนะ!”
เยี่ยหวั่นหวันยิ้มเยาะในใจ ขณะที่แกล้งเป็นคนดีก็ยังไม่ลืมสาดโคลนใส่คนอื่นด้วย ไหลลื่นจริงๆ
“รู้แล้ว ฉันจะระวังตัว กลับหอก่อนนะ บาย”
เฉินเมิ่งฉีมองแผ่นหลังของเยี่ยหวั่นหวันที่จากไป สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ก่อนหน้านี้เธอยังดีใจที่เยี่ยหวั่นหวันอาจจะโดนตัดหางปล่อยวัดแล้ว ไม่มีคุณสมบัติอยู่ที่คฤหาสน์จิ่นหยวนอีก ตอนนี้ที่กลุ้มใจคือเยี่ยหวั่นหวันไม่อยู่ที่จิ่นหยวน เธอก็ไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ซือเยี่ยหานเช่นเดียวกัน
ซือเยี่ยหานน่าจะยุ่งและไม่สะดวก เขาไม่เคยรับสายเธอเลย เธอเคยลองส่งข้อความไปนัดเขา แต่ข้อความนั้นเหมือนโยนหินลงไปในมหาสมุทร บางครั้งเธอถึงกับรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเครื่องมือที่มีไว้คอยส่งข่าวเยี่ยหวั่นหวัน มีเพียงข่าวที่เกี่ยวกับเยี่ยหวั่นหวั่น ซือเยี่ยหานถึงค่อยตอบสนองกลับ
ความรู้สึกแบบนี้มันช่างแย่จริงๆ!
หลังต่อกรกับเฉินเมิ่งฉีเสร็จ เยี่ยหวั่นหวันก็ออกไปทางประตูหลัง เข้าไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตร้านหนึ่งหน้าโรงเรียน
เธอหาที่นั่งสำหรับนั่งคนเดียว จากนั้นเข้าไปในกระทู้ของโรงเรียนชิงเหอ
ขณะกำลังเข้าสู่ระบบ เธอนึกถึง ID เดิมของตัวเองที่เลี่ยนยิ่งกว่า ‘รักหานเยี่ยที่สุด’ ของเฉินเมิ่งฉี คือ ‘ชุ่มฉ่ำไปด้วยความรักหนึ่งหมื่นปี’
เยี่ยหวั่นหวันเลยลงทะเบียนบัญชีใหม่ จากนั้นคิดชื่อใหม่ขึ้นมาอีกชื่อเป็น ‘กอสซิปพอร์เตอร์’
หลังจากลงทะเบียนชื่อใหม่เสร็จแล้ว เยี่ยหวั่นหวันก็เขียนกระทู้หนึ่งขึ้นมา
ชื่อกระทู้ ‘สุดช็อก! ดาวโรงเรียนชิงเหอเฉินเมิ่งฉีเป็นมือที่สามแย่งแฟนเพื่อนรัก!’
เนื้อหาเหมือนหัวข้อ มีเพียงประโยคสั้นๆ หนึ่งประโยค เขียนเสร็จแล้วเยี่ยหวั่นหวันก็โพสต์ลงไป
เหมือนอย่างที่คิดไว้ หัวข้อที่สะดุดตามากแบบนี้ดึงดูดให้คนเข้ามาคลิกและตอบกลับภายในพริบตา
หนุ่มหน้าสวยสายแอ๊บแบ๊ว: “มายก๊อด! เฉินเมิ่งฉี นี่สาวในฝันของฉันไม่ใช่เหรอ หมายความว่ายังไงมือที่สาม?”
ชินจังไม่มีดินสอสี: “เจ้าของกระทู้สร้างข่าวลือมั่วแบบนี้ต้องโดนปิดบัญชีแน่!”
ข้าหล่อสุด: “สังคมนี้มันอะไรกัน เฉินเมิ่งฉีผู้หญิงใสซื่อจิตใจดีขนาดนี้ยังมีคนใส่ความอีก?”
รักหานเยี่ยที่สุด: “ฉันว่าเจ้าของกระทู้น่าจะอิจฉาตาร้อนมากกว่า!”
อาโนเน๊ะ: “ที่เจ้าของกระทู้พูดจะใช่เรื่องระหว่างเฉินเมิงฉี เจียงเยียนหราน กับซ่งจื่อหังหรือเปล่า? เหมือนจะเคยได้ยินมาก่อน…”
รักหานเยี่ยที่สุด:”เจ้าของกระทู้ไปได้ยินข่าวลือมั่วๆ นี่มาจากไหน เธอเห็นกับตาตัวเองเหรอ?”
อาโนเน๊ะ: ”เอ่อ ไม่มีนะ ฉันก็ได้ยินคนอื่นพูดมาเหมือนกัน!”
บันทึกของเด็กซื่อ: “ในเมื่อมีคนจงใจใส่ร้ายเฉินเมิ่งฉี ต้องปล่อยข่าวลือของเธอไปทุกที่แน่นอน! ข่าวลือแบบนี้เชื่อถือไม่ได้!”
ชินจังไม่มีดินสอสี: “เจ้าของกระทู้มีปัญญาก็เอาหลักฐานมาโชว์สิ แอบอยู่ข้างหลังพูดจามั่วๆ เก่งตรงไหน? คิดจะหลอกใช้พวกเราเรอะ ฝันหวานเกินไปแล้ว!”
…………………………………………………..