บทที่ 5 แล้วก็พบกันอีก

หมอผีแม่ลูกติด

บทที่ 5

แล้วก็พบกันอีก

เทคนิคการฝังเข็มของหลินซีเหยียนนั้นรวดเร็วมาก หลังจากที่ผ่านไปไม่นานร่างกายของเจียงหวายเย่ก็ได้เต็มไปด้วยเข็มเงิน ใบหน้าของนางนั้นขึงขังมาก พิษที่เรื้อรังอยู่ในร่างกายขององค์ชายเย่นั้นรุนแรงมาก หลังจากที่ถูกกดดันและยับยั้งเอาไว้อยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดมันก็ปะทุออกมา

จำเป็นต้องให้มันออกมา แม่นางหลินจึงได้ตัดสินใจที่จะให้เลือดของเจียงหวายเย่ไหลออกมา นางจึงได้เปิดปากแผลเล็กๆที่เอวของเจียงหวายเย่ แล้วจากนั้นก็นำชามขนาดใหญ่ออกมารองเลือดนั้น ไม่นานนักเจียงหวายเย่ที่เสียเลือดมากเกินไปสีหน้าก็ได้แย่ลงและซีดเซียวมากขึ้นไปอีก

“เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ?” มีเงาสีเหลืองโผล่เข้ามาแล้วผลักหลินซีเหยียนออกไป แล้วรีบห้ามเลือดของเจียงหวายเย่ แล้วจากนั้นก็มองดูคนที่หมดสติด้วยสีหน้าที่ปวดใจ “องค์ชาย ข้าขอรับรองว่าข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายท่าน”

“แม่นางอวี้ตี๋เอ๋อ ได้โปรดอย่าเข้ามารบกวนแม่นางหลินรักษาองค์ชาย” อันอี้ก็ได้มองไปที่ผู้ที่เคยถูกขับไล่โดยองค์ชายด้วยสีหน้าที่ดำมืด

“รักษาเหรอ?” อวี้ตี๋เอ๋อก็ได้มองไปที่หลินซีเหยียนด้วยสีหน้าที่ไม่ดี แล้วจากนั้นก็ได้หยิบเอาแผ่นป้ายที่ทำมาจากแผ่นไม้จันทร์ออกมาด้วยสายตาที่หนักแน่น “ข้าได้รับคำสั่งมาจากหมอเทวดา และเขายังได้ให้สูตรยาที่สามารถควบคุมพิษขององค์ชายเอาไว้ได้ และบางทีก็อาจจะทำให้องค์ชายกลับมาเดินได้อย่างคนธรรมดาได้ด้วย”

หลินซีเหยียนที่ยืนอยู่ข้างๆก็มองดูอยู่เงียบๆ สภาพร่างกายของเจียงหวายเย่นั้นใกล้เคียงกับนางมาก นางจึงรู้ดีว่าพิษเช่นนี้ไม่สามารถขับออกมาได้ง่ายๆแน่ แต่เมื่อสักครู่นางบอกว่าให้ควบคุมพิษเอาไว้ นางจึงอยากที่จะเห็นวิธีการรักษาของหมอเฉินที่รู้จักกันว่าเป็นหมอเทวดาได้เขียนเอาไว้

“แม่นางอวี้ ได้โปรดช่วยบอกสูตรยานั้นด้วย” มันเป็นของที่ได้มาจากหมอเทวดาเฉิน และเขายังบอกด้วยว่าสามารถทำให้นายท่านยืนและเดินได้ด้วย ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา

อวี้ตี๋เอ๋อก็ได้มองมาที่หลินซีเหยียนด้วยสีหน้าดูถูกแล้วกล่าว “ไปเอาพู่กันมา”

ในมือถือพู่กัน อวี้ตี้เอ๋อก็ได้เขียนสูตรยาที่ท่านอาจารย์บอกมาโดยปราศจากข้อผิดพลาด แล้วก็ยื่นส่งให้กับอันอี้ที่รอรับสูตรยา แล้วจากนั้นเขาก็บอกตอบกลับว่าไม่มีปัญหาแล้วรีบไปปรุงยาทันที

“แม่นางหลิน ข้าสามารถจัดการกับอาการป่วยขององค์ชายได้ ถ้าเจ้าอยู่ที่พระราชวังนี้ต่อก็ไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงเรื่อง ติฉินนินทาได้ ดังนั้น…..” อวี้ตี้เอ๋อก็ได้พูดไล่หลินซีเหยียนอย่างอ้อมๆ

หลินซีเหยียนก็หาได้โกรธอันใดไม่ แต่มองไปที่ เจียงหวายเย่ที่ยังหมดสติแล้วจากนั้นก็ทำปากย่นแล้วกล่าว “ก็อย่างที่แม่นางอวี้ว่า แต่ทว่าองค์ชายเย่ยังติดหนี้ข้าอยู่ หากข้ายังไม่ได้เงินข้าจะไปได้อย่างไร?”

อวี้ตี้เอ๋อก็ได้หรี่สายตาของนางลง และคิดว่า หลินซีเหยียนนั้นหาข้ออ้าง นางจะต้องชอบองค์ชายเย่แน่ๆ ถึงแม้ว่าโลกภายนอกจะลือกันให้แซ่ดว่าองค์ชายเย่นั้นเสียโฉมและพิการไปแล้ว ในตอนแรกนางก็เชื่อเช่นนั้น แต่นางก็พบเข้าโดยบังเอิญว่าองค์ชายเย่นั้นยังคงหน้าตางดงามอยู่ นางจึงรู้ว่าเจียงหวายเย่นั้นไม่ได้เสียโฉมอย่างที่ลือกัน แล้วนางก็คิดว่าหลินซีเหยียนก็น่าจะต้องรู้เช่นกัน “องค์ชายติดหนี้นางเท่าไร ข้าจะให้พ่อบ้านเอาให้เจ้าโดยไว เพื่อไม่ให้เจ้าเสื่อมเสียชื่อเสียง”

“ทั้งหมดก็ 4,000 ตำลึงทอง หากว่าข้าได้เงินนี้เมื่อไรข้าก็จะออกจากพระราชวังนี้ไปทันที” หลินซีเหยียนกล่าวโดยมีแววตาแดกดันปรากฏขึ้นมา

หญิงสาวที่โหดร้ายคนนี้พูดโดยไม่ไว้เยื่อใยแม้แต่น้อย องค์ชายเย่นั้นได้ตื่นขึ้นมาตอนนี้อวี้ตี๋เอ๋อกำลังพูดไล่หลินซีเหยียน แต่เพราะความเอาแต่ใจของเขาจึงได้แกล้งทำเป็นหลับอยู่ แต่พอเขาได้ยินคำพูดที่แสนเจ็บปวดของหลินซีเหยียนแล้วเขาก็ได้ลืมตาขึ้นมาอย่างผิดหวังและเสียใจ

“จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะเป็นเงินมากขนาดนั้น เจ้าคงจะเห็นว่าองค์ชายเย่ยังหมดสติอยู่ จึงได้ใช้โอกาสนี้ขูดรีดเอาเงินสินะ” อวี้ตี๋เอ๋อพูดอย่างขุ่นเคือง

“เปิ่นหวางเป็นหนี้แม่นางหลิน 4,000 ตำลึงทองจริงๆ” จู่ๆเสียงของเจียงหวายเย่ก็ได้ดังขึ้นมาทำให้อวี้ตี๋เอ๋อตกใจ แต่นางก็ได้รีบตั้งสติแล้วจับมือของเจียงหวายเย่ “แต่องค์ชายย่อมไม่ได้ขัดสนเงินทองขนาดนั้นแน่นอน ได้โปรดเอาเงินให้แม่นางหลินโดยเร็วเถอะเจ้าค่ะ”

“ออกไป!” เจียงหวายเย่ตะโกนด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวอย่างสุดๆ เขาเหวี่ยงอวี้ตี๋เอ๋อออกไปไกลไม่กี่เมตร เพราะเห็นแก่หน้าของหมอเทวดาเฉิน

ในชั่วขณะนั้นเองอวี้ตี๋เอ๋อก็พลันนึกบางอย่างได้ สีหน้าของนางก็ได้ซีดขึ้นมา องค์ชายเย่นั้นไม่ชอบผู้หญิงที่เข้าหาเขา เคยมีคนที่ชื่นชมองค์ชายเย่แล้วพยายามที่จะเข้าหา แต่ถูกเหวี่ยงออกไปไกลหลายสิบเมตรโดยองค์ชายเย่จนกลายเป็นคนพิการไป

“องค์ชาย อวี้เอ๋อไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะ” มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของอวี้ตี๋เอ๋อ แล้วจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนด้วยความกลัว น้ำเสียงของนางก็สั่นเครือเล็กน้อย

เจียงหวายเย่ก็ไม่ได้สนใจมองไปที่นางอีก โดยไม่มีแม้แต่เยื่อใย นางทำได้แค่มองดูองค์ชายเย่ที่มองไปที่หลินซีเหยียนอย่างเสน่หา “แม่นางหลิน เปอ่นหวางขอกล่าวอย่างสัตย์จริง ว่าเปิ่นหวางหาได้มีเงินเยอะไม่ ข้าขอให้แม่นางรออยู่ที่นี่อย่างอดทนก่อน ถ้าแม่นางรอไม่ไหว เปิ่นหวางก็ไม่เกี่ยงที่จะจ่ายเป็นร่างกายนี้ หรือพระราชวังรัตติกาลเองก็มีมูลค่าถึง 4,000 ตำลึงทองแน่นอน”

เป็นถึงองค์ชายของประเทศหนึ่ง แล้วยังเป็นถึงเทพสงครามไร้พ่ายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ใครจะไปเชื่อว่าเขานั้นไม่มีเงินกัน

อวี้ตี๋เอ๋อก็ได้มองไปที่องค์ชายเย่ด้วยความไม่เชื่อ ในแววตาของนางเต็มไปด้วยความอิจฉาและชิงชัง เห็นได้ชัดว่าองค์ชายนั้นคิดที่จะแต่งกับนางคณิกานี่ มีคนที่คอยดูแลเขาและเป็นห่วงเป็นใยเขาตั้งมากมาย แต่เขากลับเลือกนางคณิการาคาถูกอย่างหลินซีเหยียน

ไม่ได้ นางจะต้องไม่ยอมแพ้

หลินซีเหยียนก็พลันรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมาจากด้านหลังของนางแล้วมุมปากของนางก็ได้ย่นขึ้นมา “องค์ชายอย่าได้ล้อเล่นสิเจ้าคะ ข้าเชื่อว่าอย่างท่านจะต้องมีถึง 4,000 ตำลึงทองเป็นแน่”

“ในเวลานี้เปิ่นหวางทั้งพิการแล้วยังโดนพิษอย่างหนัก ต้องอาศัยยาครอบจักรวาลในการรักษา เปิ่นหวางให้มีชีวิตรอด ดังนั้นเปิ่นหวางจึงได้จนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” เจียงหวายเย่พูดอย่างช้าๆและไม่รีบร้อน ราวกับว่าเขากำลังรำพึงรำพันถึงความลำบากมากมายที่เขาต้องประสบพบเจอ “แน่นอนว่า ถ้าแม่นางหลินสามารถรักษาเปิ่นหวางให้หายได้ เปิ่นหวางก็จะได้มีเงินเก็บมากขึ้น

เจียงหวายเย่ก็ได้พูดคำเหล่านี้ออกมาอย่างสนิทสนมและไม่ชัดเจน ดวงตาที่นุ่มลึกของเขาก็ได้จ้องไปที่ใบหน้าที่สวยงามของหลินซีเหยียน ราวกับว่าเขาไม่ต้องการที่จะพลาดทุกอารมณ์บนใบหน้าของนาง

“องค์ชายเย่ก็กล่าวชมข้าเกินไป ข้าไม่มีความมั่นใจที่จะรักษาท่านขนาดนั้นหรอก หากองค์ชายยืนยันเช่นนั้น ข้าก็ขอเป็นตัวเลือกสุดท้ายก็แล้วกันเจ้าค่ะ” หลินซีเหยียนตอบอย่างเย็นชา

เงินทองเป็นของนอกกาย ถึงแม้นางจะอยากได้มัน แต่นางก็ไม่อยากที่จะวุ่นวายในเรื่องของการเมือง ถึงแม้ว่านางจะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่นางก็รู้ดีถึงความน่ากลัวของมัน

“ช่างกล้าพูด อย่างเจ้าน่ะก็คิดแค่จะเอาองค์ชายมาเป็นหนูทดลองยาเท่านั้นแหละ” เมื่อได้ยินที่หลินซีเหยียนพูดเช่นนั้นแล้ว อวี้ตี๋เอ๋อจึงได้โต้แย้ง

“ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นเกียรติของข้าที่ได้เป็นประโยชน์ให้กับแม่นางหลิน” เจียงหวายเย่พูดราวกับว่าหากหลินซีเหยียนดีใจเขาก็ยินดี ซึ่งทำให้อวี้ตี๋เอ๋อโมโหอย่างมาก

“ข้าเป็นคนเดียวที่รักษาท่านได้” อวี้ตี๋เอ๋อยังคงดื้อรั้น แล้วจ้องไปที่หลินซีเหยียนด้วยความโกรธ “อย่างผู้หญิงคนนี้ทำไม่ได้หรอก”

การพูดออกมาอย่างดูถูกและโอหังเช่นนี้ทำให้หลินซีเหยียนโมโหขึ้นมา ทำให้นางหงุดหงิดมาก และคิดที่จะบอกกับ อวี้ตี๋เอ๋อว่าที่โลกภายนอกยังมีคนอีกมากที่เก่งกว่านางในโลกใบนี้ แต่แล้วอันอี้ก็ได้เข้ามาพร้อมกับยาต้ม

“องค์ชาย”

เจียงหวายเย่ก็ไม่ได้หันไปมองอันอี้แต่มองไปที่ หลินซีเหยียนด้วยสีหน้าเศร้าๆแฝงไปด้วยความระวังนิดหน่อย

กลิ่นของยาลอยออกมาแตะจมูกของเขา เมื่อ หลินซีเหยียนได้กลิ่นก็คิ้วขมวดขึ้นมา ยาชามนี้มีพิษแรงๆอยู่มากมาย นี่อวี้ตี๋เอ๋อต้องการที่จะช่วยเจียงหวายเย่หรือจะทำร้ายเขากันแน่

“องค์ชายได้โปรดรีบดื่มเถอะเจ้าค่ะ นี่คือยาที่ท่านอาจารย์ได้มอบสูตรให้ข้ามาเจ้าค่ะ” อวี้ตี๋เอ๋อมองดูชามยาด้วยสีหน้าที่เบิกบาน “ท่านอาจารย์บอกว่าถ้าตรงตามที่ท่านคาดเอาไว้ ด้วยยาชามนี้จะทำให้ท่านสามารถลุกขึ้นได้”