บทที่ 5 ซื้อแก่นคริสตัล

ราชาซากศพ

บทที่ 5 ซื้อแก่นคริสตัล

เนื่องจากบ้านของหลินเว่ยนั้นอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและอยู่ไม่ไกลจากร้านขายของชำมาก ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาเพียงสิบนาทีในการมายืนอยู่ที่หน้าประตูร้านขายของชำ

“โอ้! นี่ไม่ใช่เสี่ยวหลินเว่ยหรอกหรือ! ทำไมเจ้ามาถึงที่นี่ตั้งแต่เช้า วันนี้ข้ายังไม่ทันได้เปิดร้าน จึงยังไม่มีอะไรให้เจ้ากินหรอกนะ”

เมื่อเห็นหลินเว่ยยืนอยู่ที่ประตู เจ้าของร้านขายของชำก็วางลงไม้กวาดในมือของเขาและขมวดคิ้วจ้องมองไปที่หลินเว่ย ทางด้านหลินเว่ยเมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าของร้าน หลินเว่ยก็ตรงเข้าไปและพูดว่า “จริงหรือ งั้นข้าจะเป็นลูกค้าคนแรกของท่าน หลินเว่ยกล่าวกับเจ้าของร้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ฮ่า…”! นี่ข้าหูฝาดไปหรือ…เจ้าจะมาซื้อของ? อย่าล้อเล่นน่า! เจ้ามีเงินรึ? ไป ๆ ออกไปจากที่นี่ซะ! อย่ามารบกวนงานของข้า วันนี้ข้ายุ่งมาก ๆ “เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเว่ย เจ้าของร้านขายของชำก็หัวเราะออกมา และโบกมืออีกครั้ง เพื่อขับไล่หลินเว่ย ออกไปจากร้านของเขา

เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าของร้าน หลินเว่ยก็เบนสายตาออก อย่างช่วยไม่ได้และหยิบถุงผ้าออกจากแขน วางถุงเงินไว้บนโต๊ะ พูดอย่างหนักแน่นว่า: “ข้าบอกว่า…ข้าอยากจะซื้อของ”

เมื่อเห็นว่าหลินเว่ยหยิบเหรียญทองแดงออกมากองหนึ่ง เจ้าของร้านขายของชำก็เชื่อทันทีว่า ครั้งนี้หลินเว่ยมาซื้อของจริง ๆ เขาจึงถามอย่างสงสัยว่า “เจ้าต้องการซื้ออะไรจากข้า ถึงได้เก็บเงินมาจำนวนมากขนาดนี้

“นี่คือหนึ่งร้อยเหรียญทองแดง ข้าอยากจะซื้อแก่นคริสตัลที่ถูกที่สุด” หลินเว่ยตอบคำถามของเจ้าของร้าน

เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเว่ย เจ้าของร้านขายของชำก็ขมวดคิ้วและถามด้วยความสงสัยว่า: ” แก่นคริสตัลคุณภาพ 1 ระดับ 0 เจ้าจะเอาไปทำอะไร?” ในความคิดของเขาสิ่งที่สำคัญที่สุดของหลินเว่ยในตอนนี้ก็คือ อาหาร

เมื่อได้ยินคำถามของอีกฝ่าย หลินเว่ยก็ยักไหล่และพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้ามาซื้อของให้ผู้อื่น ของตอบแทนที่จะได้คือ ขนมปังไรย์”

เมื่อได้ยินคำอธิบายของหลินเว่ย เจ้าของร้านขายของชำก็แสดงสีหน้าแบบเดิมและพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าคิดเอาไว้แล้ว!”

จากนั้นเขาหยิบกล่องบุที่ห่อด้วยหนังสัตว์ออกมาจากชั้นวางของที่ด้านหลัง เขาเลือกแก่นคริสตัลสีเหลืองอ่อน หยิบออกมาจากกล่องและส่งให้หลินเว่ย เขากล่าวว่า “นี่คือชุด แก่นปฐพีมายาที่เจ้าต้องการ ข้าจะคิดเงินแค่ 99 เหรียญทองแดง

ในภายภาคหน้าหากเจ้าได้รับงานแบบนี้มาอีก….อย่าลืมมาหาข้า และข้าจะลดราคาให้เจ้า.”

“จริงหรือ? ขอบคุณมาก ท่านไม่ต้องห่วงสำหรับความเอื้ออาทรของท่าน ข้าจะพยายาม ตอนนี้ข้าขอตัวก่อน นายท่านยังรออยู่!” เขาเอื้อมมือไปหยิบเหรียญทองแดงกลับคืนมาหนึ่งเหรียญ แม้ว่าหัวใจของหลินเว่ยจะเจ็บปวดแทบตาย

แต่ใบหน้าของเขาก็ยังแสดงสีหน้าประหลาดใจและจากนั้นเขาก็รีบเดินออกจากร้านค้า

หลินเว่ยจับแก่นคริสตัลไว้แน่นและเดินกลับที่บ้านอย่างเร่งรีบโดยไม่ได้หยุดพัก หลังจากเดินออกมาจากร้านขายของชำ เขาก็รีบวิ่งตรงกลับไปที่บ้าน หลังจากปิดประตูลงเขาก็นั่งภายในบ้าน

หลังจากนั่งลง หลินเว่ยพบปัญหาใหญ่ นั่นคือแก่นคริสตัลนี้เขาจะใช้งานมันได้อย่างไรกัน?

หลินเว่ยยกมือขึ้นพร้อมกับถือแก่นคริสตัลชูขึ้นเหนือหัวของเขา และร้องออกมาว่า: “นี่ข้าซื้อแก่นคริสตัลมาแล้ว ได้โปรดสอนศิลปะการคืนชีพนักรบโครงกระดูกให้ข้า

หนึ่งนาที….สองนาที…และสามนาทีผ่านไป … หลินเว่ย ถือแก่นคริสตัลชูเหนือหัวอยู่หลายนาที จนแขนของเขาเริ่มชาและมีเหงื่อผุดออกมาจากหน้าผากของเขา จนในที่สุดหลินเว่ยนั้นทนไม่ไหว เขาจึงวางแก่นคริสตัลลงไป เพื่อคลายความเจ็บปวด

“บัดซบ!ข้าไม่ยอม! หากเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่ว่า… ข้าสูญเสียเหรียญทองแดงไปโดยเปล่าประโยชน์หรอกหรือ และซื้อแก่นคริสตัลที่ไร้ประโยชน์มา “ เมื่อมองเห็นแล้วว่าแก่นคริสตัลในมือของตนนั้น ไร้ปรากฏการณ์ใด ๆ หลินเว่ยจึงนั่งขบคิดด้วยความเสียใจ

“เดี๋ยวก่อน! จู่ ๆ คำพูดเกี่ยวกับข้อความแปลกๆ นั้นอยู่ก็ผุดขึ้นมาในใจของข้า ไม่ใช่ว่าวิธีการใช้แก่นคริสตัล จะผุดขึ้นมาในใจของข้าด้วยเช่นกันหรือไม่?”

หลินเว่ยที่รู้สึกเสียใจ จู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัวของเขา เขานึกถึงฉากประหลาดก่อนหน้านี้และหลินเว่ยคิดว่าตนเองจะต้องเข้าไปที่นั่นอีกครั้ง อาจจะมีคำแนะนำดีก็เป็นได้ หลังจากที่หลินเว่ยครุ่นคิด เขาก็นั่งสมาธิและพยายามสงบสติอารมณ์

หลังจากนั้นไม่นานในความคิดของเขาก็มีคำพูดประหลาด ๆ ปรากฏขึ้นในใจ แต่เนื้อหาที่แสดงออกมานั้น แปรเปลี่ยนไปตามความต้องการของหลินเว่ย เนื่องจากหลินเว่ย ต้องการที่จะเรียนรู้วิธีการใช้งานแก่นคริสตัล เพื่อที่จะเรียนรู้วิธีการคืนชีพนักรบโครงกระดูก

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้หลินเว่ยรู้สึกราวกับว่าตนเองนั้นถูกจับจ้องจากสายตาใครบางคน หรือสิ่งลึกลับบางอย่าง มิฉะนั้นจะไม่มีใครรู้ว่าเขานั้นได้แก่นคริสตัลมาอยู่ในมือและคำแนะนำภายในใจที่เขาพบนั้นเป็นไปตามสิ่งที่หลินเว่ยคิด

หลินเว่ยจึงมองโลกในแง่ดีว่าไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามแต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้ต้องการทำร้ายเขา หลินเว่ยจึงไม่ได้คิดอะไรมากอีกต่อไป

“วางแก่นคริสตัลไว้ใกล้หน้าอก จากนั้นตั้งสมาธิกับมัน จากนั้นให้ตะโกนออกมาว่า (ดูดซับ) ภายในใจ” นี่คือคำแนะนำภายในใจของหลินเว่ยที่ปรากฏออกมา

แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องวางแก่นคริสตัลไว้ใกล้ ๆ หน้าอก แต่หลินเว่ยก็ไม่ได้คิดอะไรมากเกินไป เขานั้นทำตามคำแนะนำที่ได้รับมา

“นี่คืออะไรกัน?”

เมื่อหลินเว่ยกดแก่นคริสตัลวางใกล้หน้าอกของเขาและร้องคำว่า “ดูดซับ” ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงกระแสน้ำอุ่นแผ่ซ่านที่มาจากแก่นคริสตัลใต้หน้าอกและตรงไปยังสมองของเขา

หลินเว่ยนั้นตกใจและต้องการที่หยุดยั้งโดยไม่รู้ตัวด้วยความตกใจ แต่เขาพบว่าตนเองไม่สามารถทำอะไรได้เลย หลังจากนั้นพักหนึ่ง เมื่อหลินเว่ยแน่ใจว่าสิ่งนี้ไม่ได้มีอันตราย เขาจึงผ่อนคลายจิตใจและเฝ้าดูพัฒนาการของสถานการณ์ต่อไป

กระแสน้ำอุ่นไหลวนเร็วมากจนปรากฏคำพูดขึ้นในความคิดของเขา เมื่อหลินเว่ยอ่านคำพูดเหล่านั้นจนจบ จากนั้นข้อความก็กระจายตัว กระแสน้ำอุ่นที่เบาบางแบ่งออกเป็นสองสาย สายหนึ่งเข้าไปในส่วนลึกของจิตใจของเขาและหายไป

ในขณะที่อีกส่วนไหลที่ยังทะเลที่ลมปราณที่แตกสลายของเขา กลายเป็นเมฆหมอกเล็ก ๆ ลอยอยู่ตรงกลางของตำแหน่งนั้น

แม้ว่าจะมีหมอกมากมายในทะเลแห่งลมปราณ แต่ร่างกายของเขาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใด ๆ ราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของเขา จากนั้นหลินเว่ยก็มุ่งความสนใจไปที่จิตใจของเขาอีกครั้ง คำพูดที่หายไปก็ปรากฏขึ้น

และคราวนี้เปลี่ยนคำอธิบายเป็นวิธีการคืนชีพโครงกระดูก

“การคืนชีพโครงกระดูก ที่ขั้นศูนย์ต้องใช้พลังงานหนึ่งหน่วย สามารถเรียกนักรบโครงกระดูกขั้นศูนย์มาต่อสู้แทนได้ จำนวนหน่วยที่มีอยู่ในปัจจุบันของร่างที่มีอยู่คือศูนย์ การเพิ่มระดับจะต้องใช้พลังงานอย่างน้อย 100 หน่วย

สามารถเรียกนักรบโครงกระดูกระดับศูนย์ไปจนสิ่งมีชีวิตระดับหนึ่งเพื่อมาต่อสู้แทนได้ ระดับขีดความสามารถ

ในปัจจุบัน สามารถเรียกนักรบโครงกระดูก ได้จำนวน 2 ร่าง เพิ่มระดับความสามารถ: 100 หน่วยของพลังงาน และเพิ่มปริมาณการจัดเก็บ 2 ร่าง”