บทที่ 8 ความน่ากลัวของความคม +1

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เช้าวันต่อมา เฉินชางมายังห้องปฏิบัติการในเวลาเจ็ดโมงกว่าเช่นเคย

[ติ๊ง! ภารกิจประจำวัน:

วันนี้ต้องเย็บแผลให้สำเร็จ 3 ครั้ง

รางวัลหลังจากภารกิจเสร็จสิ้น: ประสบการณ์การเย็บแผล +30 เงิน +50 หยวน]

เย็บแผล?

เมื่อคิดว่าเมื่อคืนหัวหน้าเฉินกล่าวว่าการเย็บแผลของตนค่อนข้างน่าเกลียด เฉินชางจึงรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง

เพราะเหตุนี้ เมื่อวานเขาจึงท่องอินเตอร์เน็ตดูวีดีโอเกี่ยวกับเวชศาสตร์ความงาม เมื่อเทียบกันแล้ว สายเวชศาสตร์ความงามต้องการความสามารถในการเย็บแผลระดับสูงกว่า โดยเฉพาะพวกหมอศัลยกรรมผิวหนังทั้งหลาย

แต่จะอย่างไรการดูวีดีโอก็ไม่สู้ลงมือทำเอง เนื่องจากดูมาแล้วทั้งคืน เขาจึงรู้สึกว่าประสบการณ์การเย็บแผลของตนพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ในขณะที่เฉินชางกำลังเหม่ออยู่นั้น พยาบาลคนหนึ่งก็เดินเข้ามา “คุณหมอเสี่ยวเฉิน คุณรีบไปทำงานเถอะค่ะ หมอฉินทะเลาะกับผู้ป่วยแล้ว!”

เฉินชางชะงัก รีบเดินตามพยาบาลคนนั้นไป

ยังไม่ถึงประตูห้องทำแผล เฉินชางก็ได้ยินเสียงเอะอะมาจากด้านใน

เมื่อผลักประตูเข้าไปก็เห็นฉินเยว่ที่สวมผ้าปิดปากกำลังหยิบด้ายเย็บแผลขึ้นมาสอด

ส่วนผู้ป่วยเป็นเด็กอายุสามขวบคนหนึ่ง บนมือมีแผลอยู่หนึ่งแผล คงจะถูกของมีคมบาดเอาตอนล้ม!

บาดแผลค่อนข้างลึก จำเป็นต้องฉีดยากันบาดทะยัก และการเย็บแผลก็ต้องทำอย่างรวดเร็ว

เด็กคนนี้ร้องไห้งอแง ส่วนผู้ปกครองของเด็กก็ปวดใจแทนลูกจนร้อนอกร้อนใจ “นี่คุณทำได้หรือเปล่า? ทำไม่ได้ก็เปลี่ยนหมอมาซะ แค่เย็บแผลยังใช้เวลานานขนาดนี้ เด็กจะทรมานขนาดไหน!”

ฉินเยว่ได้ฟังก็รู้สึกไม่พอใจ “คุณพูดดีๆ ได้หรือเปล่าคะ คิดว่าฉันไม่ร้อนใจหรือไง? แต่เด็กเจ็บขนาดนี้ จะฉีดยาชาคุณก็ไม่ยอม สิ่งที่เข็มเย็บแผลจะแทงเข้าไปคือเนื้อนะคะ คุณคิดว่าเป็นผ้าหรือไง? จะให้จิ้มไปหลายรูในคราวเดียวหรือไงคะ? นี่มันเนื้อคนนะคะ คุณผู้หญิง จะไม่เจ็บได้หรือ?”

“พอเด็กดิ้นขึ้นมาฉันก็ลงมือไม่ได้ คุณจะให้ฉันเย็บยังไงล่ะ? คุณเป็นผู้ปกครองนะคะ จริงๆ เลย เด็กเจ็บจนร้องไห้งอแงแต่คุณยังไม่ยอมให้ฉีดยาชา! แล้วยังมาโทษหมออีก?”

ผู้หญิงวัยกลางคนหน้าแดง “ยาชามันจะดีได้ยังไงล่ะคะ? ในทีวีก็บอกแล้วว่ายาชาจะทำให้เส้นประสาทของเด็กเกิดอาการชา เด็กเพิ่งจะอายุไม่กี่ขวบ ฉันไม่ให้ฉีดยาชาหรอก ถ้าในอนาคตส่งผลไม่ดีต่อเด็กจะทำยังไง? ผู้อำนวยการของพวกคุณล่ะ? ฉันต้องการให้ผู้อำนวยการของพวกคุณมาเย็บแผล! หมอเล็กๆ อย่างคุณความสามารถไม่พอยังมาถามหาเหตุผลกับลูกค้าอีก!”

ฉินเยว่โกรธจนหัวเราะออกมา

มีตรรกะอย่างหนึ่งที่เรียกว่าตรรกะคนไข้เทวดา!

เฉินชางเดินเข้าไป “เอาละครับ เอาละ คุณผู้หญิงท่านนี้ใจเย็นก่อนนะครับ ตอนนี้เด็กร้องไห้ใหญ่แล้ว พวกเราเย็บแผลก่อนเถอะ จะปล่อยให้ตากแดดตากลมไม่ได้ใช่ไหมครับ? ผู้อำนวยการของพวกเรายังไม่เข้างาน แต่ก็ไม่ได้มีแค่วิธีเดียว ให้ผมเย็บแผลให้ลูกคุณเป็นยังไง?”

เมื่อพูดจบเฉินชางก็หันไปส่งสายตาเป็นสัญญาณให้พยาบาลดึงตัวฉินเยว่ออกไป

เมื่อเห็นว่าเฉินชางมีหน้าตาหล่อเหลา ที่สำคัญก็คือเป็นหมอผู้ชาย พี่สาวคนนี้จึงไม่ได้โกรธขนาดนั้นแล้ว

แต่เธอก็ยังทำปากจิ๊จ๊ะ มิวายบ่นออกมาอีกเล็กน้อย “คุณภาพอะไรกัน!”

เฉินชางทอดถอนใจ “คุณผู้หญิงครับ คุณจับเด็กไว้หน่อย ผมจะเย็บแผลให้เขา แต่ว่า…ถ้าไม่ฉีดยาชาจะเจ็บเล็กน้อย คุณต้องกดเด็กไว้อย่าให้เด็กขยับ”

พูดจบเฉินชางก็หยิบกล่องใส่อุปกรณ์เย็บแผลขึ้นมา

เข็มเย็บแผลในกล่องอุปกรณ์สอดด้ายไว้หมดแล้ว ดังนั้นจึงลดความยุ่งยากไปไม่น้อย

การเย็บแผลให้เด็กเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก!

บริเวณผิวหนังเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาทมากมายและเด็กก็มีสัมผัสเฉียบไว อีกทั้งบนมือก็มีเส้นเลือดอยู่มาก ดังนั้นจึงเกิดความผิดพลาดได้ง่าย!

แผลเล็กแค่นี้ต้องเย็บเพียงสองสามเข็ม แต่ต้องใส่ใจในความนิ่งและความแม่นยำ

อีกทั้งยังต้องเย็บอย่างรวดเร็วด้วย!

แต่หากต้องการแทงเข็มเย็บแผลเข้าไปในเนื้อ ไม่เพียงแต่ต้องใช้แรงมาก ทั้งยังต้องใช้เข็มที่คมมากอีกด้วย

ตอนนี้ปลายเข็มในอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ เช่นเข็มเย็บแผล เข็มฉีดยา เข็มเจาะเลือด ล้วนมีการทดสอบความสามารถในการเจาะของหัวเข็มโดยเฉพาะ

นี่เป็นอุปสรรคที่นานาชาติต้องเผชิญไม่หยุดหย่อนในปัจจุบันนี้!

สิ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยก็คือ ยิ่งความสามารถในการเจาะสูง ระดับความยากในการเย็บแผลก็ยิ่งต่ำ เมื่อเป็นเช่นนี้ความปลอดภัยในการเย็บแผล ความง่ายในการเย็บแผล และระดับการสมานแผลก็จะเพิ่มขึ้น

มิฉะนั้น เดิมทีเนื้อก็เป็นวัสดุที่เหนียวมากอยู่แล้ว หากคุณจะแทงเข็มเข้าไปก็เป็นเรื่องยาก จะใช้ความสามารถในการควบคุมอย่างเดียวยังไม่พอ

ดังนั้นระดับความยากในการเย็บแผลก็จะเพิ่มมากขึ้น!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเจอกับเด็กหรือคนแก่ที่มีความยืดหยุ่นของผิวหนังต่ำ หรือต้องเจอกับร่างกายที่มีความแข็งแกร่งของผิวหนังและกล้ามเนื้อสูง ยิ่งต้องการปลายเข็มที่มีพลังในการเจาะทะลวงสูง!

เฉินชางฆ่าเชื้อให้เด็กอีกครั้ง จากนั้นจึงหยิบเข็มขึ้นมา ครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นก็ลงมือ!

เขาออกแรงไปที่เข็มเล็กน้อย ไม่ทันไรก็ทะลุเข้าไปในหนัง!

ในตอนที่เข็มทะลุเข้าไปในหนัง เฉินชางรู้สึกราวกับเข็มทิ่มลงไปในเต้าหู้อย่างไรอย่างนั้น!

ว้าว?

ในใจของเขาเกิดความรู้สึกสั่นสะท้านขึ้นมาตามสัญชาตญาณ!

ผลจากความคม +1 เห็นได้ชัดขนาดนี้เชียวหรือ?

ถึงแม้ในใจจะรู้สึกแปลกใจ แต่เฉินชางยังคงเย็บแผลอย่างรวดเร็วไร้เสียงต่อไป พลิกขึ้นมาจากในเนื้อ แทงลงไปอีกครั้ง ไม่มีอุปสรรคแม้แต่น้อย!

ง่ายดายจริงๆ!

ความจริงเด็กยังร้องไห้อยู่ แต่ไม่ได้ดิ้นแรงขนาดนั้นแล้ว

เฉินชางใช้เวลาไปไม่ถึงสามสิบวินาทีก็เย็บเสร็จไปสามเข็ม

เขาผูกปมแบบศัลยแพทย์อย่างราบรื่น ทำให้การเย็บแผลครั้งนี้สิ้นสุดลง!

เฉินชางมองแม่เด็ก “ภายในสามวันนี้พยายามอย่าโดนน้ำนะครับ หลังจากหนึ่งอาทิตย์ให้มาเปลี่ยนยา ผมจะดูว่าเอาด้ายออกได้หรือเปล่า แล้วก็ เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ผมแนะนำให้ฉีดยากันบาดทะยักไว้จะดีกว่า ถึงอย่างไรแผลก็ลึกมาก ผมกลัวแผลติดเชื้อ!”

เมื่อแม่เด็กเห็นเฉินชางเย็บแผลก็ตัดสินใจเชื่อฟังคำพูดของเขา!

เพราะการเย็บแผลของเขาคล่องแคล่วและน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก!

หมอหญิงเมื่อครู่นี้หยิบเข็มแค่ขึ้นมา คิดจะเย็บแผลยังยากเลย!

“คุณหมอคนดี ฉันจะเชื่อฟังคุณค่ะ ใช่แล้ว…ตอนเปลี่ยนยาฉันขอพบคุณได้หรือเปล่า?” ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความคาดหวัง

เฉินชางยิ้มพลางผงกหัว “ได้เลยครับ!”

ความจริงผู้ปกครองก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ล้วนคิดเพื่อลูกทั้งนั้น รักเด็กจนปวดใจจึงยากจะหลีกเลี่ยงความตึงเครียด

เด็กน้อยพองแก้ม ยังรู้สึกเจ็บอยู่ ถึงอย่างไรหากไม่ฉีดยาชาอย่าว่าแต่เด็กเลย แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ยังรับไม่ไหว ไม่รู้จริงๆ ว่าผู้ปกครองคิดอย่างไร ในดวงตากลมโตของเด็กน้อยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ยกแขนค้างอยู่กลางอากาศไม่รู้จะทำอย่างไรกับมัน “ขอบคุณครับคุณอา”

เฉินชางยิ้มขึ้นโดยพลัน เด็กคนนี้มีมารยาทมากจริงๆ

[ติ๊ง! เย็บแผลสำเร็จ ได้รับประสบการณ์การเย็บแผล +10 เงิน +10 หยวน ประสบการณ์ +10 แต้ม]

เมื่อเห็นทั้งสองเดินจากไป เฉินชางก็จมลงสู่ภวังค์

[ความคม +1!]

คุณสมบัตินี้จะโหดเกินไปหรือเปล่า?

ปกติเขาก็เย็บแผลอยู่บ่อยๆ แต่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เขารู้สึกว่าวันนี้ตอนปลายเข็มทะลุเข้าไปในเนื้อและหนัง พบว่าแรงต้านลดน้อยลงมากจริงๆ

เหมือนไร้สิ่งกีดขวาง?

เป็นการเย็บแผลที่ไม่มีใครทำได้จริงๆ!

เนื่องจากคุณจะต้องฝึกฝนการควบคุมเข็มที่มีคุณภาพแตกต่างกันในแรงต้านของเนื้อที่แตกต่างกัน จากนั้นจึงเลือกจุดเย็บแผลที่ดีที่สุด สุดท้ายจึงค่อยเย็บให้สำเร็จ

ความรู้สึกแบบนี้ ถ้าไม่มีการฝึกฝนมายี่สิบสองปีก็คงทำไม่ได้

อีกทั้งการเย็บแผลยังมีหลายประเภท เช่นการเย็บผิวหนัง การเย็บกล้ามเนื้อ การเย็บเอ็น การเย็บชีพจร การเย็บเส้นเลือด…

ทุกครั้งที่จะทำให้การเย็บแผลประสบความสำเร็จล้วนต้องการความมั่นใจในเงื่อนไขที่แตกต่างกันนับไม่ถ้วน

ถ้าหากง่ายเหมือนในนิยายจริงๆ ก็ดีน่ะสิ!

แต่ว่า…

ตอนนี้ขณะนี้!

เฉินชางคิดว่าระดับความยากในการเย็บแผลง่ายดายขึ้นมาก!