“ตึกตัก ตึกตัก” เสียงหัวใจเต้นระรัว หลินเมิ้งหยาไร้ซึ่งความสงบนิ่งเหมือนแต่ก่อน
ไม่ว่าจะเป็นชาติก่อนหรือชาตินี้ นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกของนาง
แน่นอนว่าการส่งตัวเข้าหอเองก็เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน
มือเล็กคว้าเข้าที่ปกเสื้อด้านหน้าแน่น หากพูดถึงเรื่องส่งตัวเข้าหอแล้วละก็ หรือว่าจะต้อง…
พระเจ้าช่วย ขอถอนตัวตอนนี้ทันหรือไม่?
หลงเทียนอวี้เดินกลับมาที่ห้องใหม่ของตนเองพร้อมทั้งสีหน้าเย็นชา
ห้องใหม่นี้ถูกประดับตกแต่งเป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคำว่าฝู1ขนาดใหญ่ปิดเอาไว้เต็มไปหมด เขาล้วนไล่พวกนางในหรือแม่สื่อแม่ชักออกไปจนหมดแล้ว
อย่าว่าแต่งานแต่งที่ถูกบีบบังคับนี้เลย แม้ในอนาคตเขาจะเลือกพระชายาที่จะแต่งงานด้วยตามความสมัครใจ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีทางปล่อยให้คนเหล่านั้นมาชี้นิ้วสั่งให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ในค่ำคืนแรกของการเข้าห้องหอหรอก
บนโต๊ะนั้น เทียนสีแดงลายมังกรส่องแสงสว่างไปถ้วนทั่วทั้งห้อง
หากมองตามแสงสีแดงนั้นไปจะได้เห็นเข้ากับเจ้าสาวซึ่งกำลังเหยียดกายนั่งตัวตรงอยู่บนเตียง
หากฟังจากเสียงเล่าขานที่ได้เคยได้ยินมา คุณหนูแห่งบ้านสกุลหลินไม่เพียงเป็นบ้า แต่รูปลักษณ์ยังน่าเกลียดน่าชังจนไม่อาจทนมองได้อีกด้วย
ดูท่าแล้วฮองเฮาคงเอ็นดูตนเองมากสินะถึงได้ส่งพระชายาเช่นนี้มา
ทว่า เมื่อหวนนึกถึงความรู้สึกแรกตอนที่พานางข้ามธรณีประตูเข้ามา เขากลับรู้สึกสนใจมากเสียเหลือเกิน
มุมปากกระตุกยิ้มเย็นยะเยือก ดูเหมือนว่าหญิงสาวคนนี้จะปิดบังความลับอะไรหลายๆ อย่างไว้ไม่มากก็น้อย
เสียงฝีเท้าเริ่มดังใกล้กับตำแหน่งที่ตนเองนั่งอยู่มากขึ้น หัวใจของหลินเมิ้งหยาพลันกระตุกระรัว
ศีรษะหมุนติ้วอย่างบ้าคลั่ง สิ่งที่กำลังปรากฏอยู่ในสมองตอนนี้คือภาพฉากต่างๆ ในละครทีวี
เคยได้ยินมาว่า หลังจากที่เชื้อพระวงศ์อันสืบศักดิ์จากฮ่องเต้ได้ดื่มด่ำกับค่ำคืนแรกแห่งการเข้าห้องหอแล้วจะมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ
นี่หรือว่าเพียงเพราะเรื่องนี้ นางจะต้องเสียสละตนเองเพื่อทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนอย่างนั้นหรือ? เมื่อความคิดฟุ้งซ่านเช่นนี้ปรากฏขึ้นมา หลินเมิ้งหยาไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป แต่นางกลับจับจ้องไปที่เท้าของตัวเอง
แม้จะพูดว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของตนเอง แต่ว่า…
ขณะที่กำลังคิดฟุ้งซ่าน เจ้าของท่อนขากำยำซึ่งกำลังสวมใส่รองเท้าปักดิ้นทองลายมังกรได้เข้ามายืนอยู่ต่อหน้านางแล้ว
เมื่อมองลอดผ่านผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว สิ่งที่หลินเมิงหยาได้เห็นคือปลายเท้าของเขา
ถึงเวลาเปิดผ้าคลุมหน้าแล้วอย่างนั้นหรือ? มือของหลินเมิ้งหยาจับเสื้อคลุมสีแดงฉานของตนเองเอาไว้แน่น นางจะต้องทำอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุดกันนะ
ตอนนี้นางรู้สึกว่าเรื่องนี้ยากเสียยิ่งกว่าตอนสัมภาษณ์บัณฑิตเป็นร้อยเป็นพันเท่า
“ข้ามีเรื่องอยากจะถามเจ้า เจ้าจะต้องตอบข้าด้วยความสัตย์จริง” ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัด ตอนนี้สิ่งที่ได้ยินมีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งคู่เพียงเท่านั้น
แม้น้ำเสียงที่ดูสูงส่งขององค์ชายท่านนี้จะทำให้หลินเมิ้งหยารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เพราะภพชาตินี้มีการแบ่งชนชั้นวรรณะกันอย่างชั่วร้าย ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงอดทนเท่านั้น
นางพยักหน้าลง เห็นได้ชัดว่าการกระทำเช่นนี้สร้างความพึงพอใจให้กับหลงเทียนอวี้ ดังนั้นน้ำเสียงสูงส่งที่เอ่ยออกมาจึงอ่อนโยนลงเล็กน้อย
“พุทราเหล่านั้น…ก่อนที่เจ้าจะได้กินมัน เจ้าได้กินสิ่งอื่นใดเข้าไปหรือไม่?” คิ้วของหลงเทียนอวี้เลิกขึ้น ขณะเดียวกัน พุทราจำนวนหนึ่งถูกถือไว้ในมือของเขา
ทั้งที่บอกว่าเป็นพุทราอวยพรทำให้กำเนิดทายาท แต่ในผลพุทรากลับอาบยาพิษที่มีพิษสงร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิตเอาไว้ อย่าว่าแต่กินเข้าไปหนึ่งผลเลย แค่คนปกติได้ดอมดมยังถึงกับเวียนหัว
คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะโชคดีเอาชีวิตรอดมาได้
หากเอ่ยว่านี่เป็นเรื่องปกติ ถ้าเช่นนั้นคงไม่มีใครเชื่อเรื่องผีสางกันแล้ว
“ไม่เพคะ” เป็นคำตอบที่มีชั้นเชิง ใสซื่อจนทำให้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเอ็นดู
คิ้วของเขาเลิกสูงขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงของผู้หญิงคนนี้แฝงไว้ซึ่งความเย่อหยิ่งเล็กน้อย ทว่ากลับไร้ซึ่งการประจบเอาใจหรือวางอำนาจบาตรใหญ่ ช่างแตกต่างจากข่าวที่ได้ยินมาว่านางมักจะหดหัวอยู่ในกระดองเสมอ
“ข้าจะพูดอย่างตรงไปตรงมาเลยแล้วกัน ข้าว่าเจ้ารู้ดีเสียยิ่งกว่าข้าว่าพุทราเหล่านี้ผิดปกติเช่นไร ข้าอยากจะถามเจ้าว่าเพราะเหตุใด…”
“เพราะเหตุใดข้าจึงยังอยู่รอดปลอดภัยหลังจากกินพุทราเหล่านั้นไปแล้วหรือเพคะ?” หลินเมิ้งหยายกมือขึ้นเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออก
**********************
1 ฝู เป็นอักษรจีนแปลว่ามีความสุข