เล่มที่ 1 บทที่ 14 ให้เงินไปซื้อไข่ไก่

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เซียวจื่อเซวียนเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในห้องผ่านร่องประตูที่ปิดไม่สนิท เห็นจื่อเมิ่งอยู่ในอ้อมกอดเซี่ยยวี่หลัว แย้มรอยยิ้มหวาน สตรีผู้นั้นโอบกอดจื่อเมิ่งไว้ กำลังยิ้มเหมือนกัน คิ้วโก่งโค้ง ดวงตาสดใส รอยยิ้มที่มุมปาก ช่างดูหวานหยาดเยิ้ม

เผยให้เห็นถึงความจริงใจไม่เสแสร้ง

เซียวจื่อเมิ่งพิงในอ้อมอกเซี่ยยวี่หลัว สูดดมกลิ่นหอมบนกายพี่สะใภ้ ร่างกายอ่อนนุ่ม รอยยิ้มอ่อนหวาน

ทำไมถึงมีคนที่ยิ้มได้น่าดูถึงเพียงนี้!

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากเซี่ยยวี่หลัวลุกขึ้นมาล้างหน้า ก็ชงน้ำผึ้งให้เด็กสองคนเหมือนเดิม คราวนี้เด็กสองคนไม่ได้ระวังตัวมากเหมือนก่อนหน้านี้ เซียวจื่อเมิ่งมารับที่ประตูด้วยตัวเอง ทั้งยังกล่าวขอบคุณพี่สะใภ้ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

เซี่ยยวี่หลัวเห็นนางไม่กลัวตัวเองแล้ว ภายในใจย่อมรู้สึกดีใจ ผูกผมทรงซาลาเปาสองข้างให้นาง ก่อนไปเตรียมอาหารที่ห้องครัว

เซียวจื่อเซวียนมองผมทรงซาลาเปาสองข้างบนศีรษะน้องสาว แววตาฉายประกายมืดหม่น

เข้าไปในครัว เห็นของที่เหลือ เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่เมื่อวานกินไข่สองฟองสุดท้ายจนหมด เช้านี้ได้แต่กินผักจี้ช่ายกับโจ๊ก แต่เด็กสองคนก็ไม่เลือกกิน ขอเพียงสามารถกินอิ่มท้อง ได้กินของร้อนๆ พวกเขาก็รู้สึกพึงพอใจแล้ว

หลังทานอาหารเช้า เซี่ยยวี่หลัวนำเงินยี่สิบอีแปะไปหาเซียวจื่อเซวียน

 “ในหมู่บ้านมีบ้านไหนขายไข่ไก่หรือ?” เซี่ยยวี่หลัวเอ่ยถาม

เซียวจื่อเซวียนเงยหน้ามองนางด้วยท่าทีฉงน เซี่ยยวี่หลัวเพิ่งตระหนักว่าไข่ไก่ที่มีย่อมต้องซื้อมา จะให้นางออกไข่เองคงไม่ได้

ทำไมนางถึงเอ่ยคำถามโง่ๆ เช่นนี้ ดังนั้นจึงรีบกล่าว “คือ ไข่ไก่ในบ้านหมดแล้ว ข้าไม่อยากออกไปซื้อ จื่อเซวียน ถ้าอย่างไรเจ้าไปซื้อไข่กลับมา นี่เป็นเงินยี่สิบอีแปะ ซื้อทั้งหมดเลย!”

ไข่ไก่ฟองละกี่อีแปะกัน?

ไม่รู้นี่นา!

เซียวจื่อเซวียนมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยสีหน้าฉงนอีกครั้ง ทว่า เซี่ยยวี่หลัวออกไปแล้ว นางให้เงินตัวเองเยอะขนาดนี้ ทั้งยังให้ตัวเองไปซื้อของ

เมื่อก่อนอย่าหวังจะได้เห็นนางเอาเงินออกมาแม้แต่อีแปะเดียว

เซียวจื่อเมิ่งเดินเข้ามา เห็นเงินในมือเซียวจื่อเซวียน จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “พี่รอง เอาเงินมาจากไหนเยอะขนาดนี้!” เมื่อเห็นแผ่นหลังของเซี่ยยวี่หลัวหายวับไปตรงประตู เซียวจื่อเมิ่งจึงเอ่ยถาม “เงินนี่พี่สะใภ้ให้มาอย่างนั้นหรือ?”

เซียวจื่อเซวียนเก็บเงินอย่างระมัดระวัง “จื่อเมิ่ง เราไปซื้อไข่ไก่ที่บ้านท่านป้าสี่กัน”

เซียวจื่อเซวียนจูงมือน้องสาวไปยังบ้านท่านป้าสี่ที่อยู่ไม่ห่างนัก

ท่านป้าสี่นำน้ำออกมาเทหลังจากเพิ่งล้างชามเสร็จ เห็นเซียวจื่อเซวียนมา จึงรีบเปิดประตูใหญ่ให้พวกเขาเข้ามา “จื่อเซวียน จื่อเมิ่ง เหตุใดวันนี้ถึงว่างมาบ้านป้าสี่เล่า?”

เซียวจื่อเซวียนเรียกท่านป้าสี่ ก่อนเอ่ยถาม “ท่านป้าสี่ ท่านยังมีไข่ไก่หรือไม่? ข้าอยากซื้อขอรับ!”

ท่านป้าสี่รีบเช็ดมือจนสะอาด “มีสิมี ข้าเก็บไข่ไก่ไว้ไม่น้อย เจ้าจะเอากี่ฟอง?”

เซียวจื่อเซวียนนำเงินออกมายี่สิบอีแปะ ก่อนกล่าว “ข้าจะซื้อยี่สิบฟองขอรับ!”

เมื่อได้ยินว่าเขาจะซื้อยี่สิบฟอง ท่านป้าสี่ก็กล่าวเป็นเชิงเกลี้ยกล่อม “ถ้าอย่างไรซื้อไปนิดหน่อยพอ กินหมดแล้ว เจ้าค่อยมาซื้อใหม่ อย่างไรเสียข้าก็มีขายให้ หากซื้อเยอะเกินไปจนคนผู้นั้นรู้เข้า อาละวาดขึ้นมาจะเป็นเรื่องอีก!”

เซียวจื่อเมิ่งยิ้มหวานพร้อมกล่าว “ท่านป้าสี่ พี่สะใภ้ใหญ่เป็นคนให้ข้ามาซื้อไข่เอง!”

ท่านป้าสี่มองเซียวจื่อเมิ่งด้วยท่าทีสงสัย รู้สึกตกใจเล็กน้อย “นางให้พวกเจ้ามาซื้อไข่? แล้วเงินนี่ล่ะ?”

 “พี่สะใภ้ใหญ่ให้มาขอรับ!” เซียวจื่อเมิ่งอธิบาย

ท่านป้าสี่มองเซียวจื่อเซวียนด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “ที่จื่อเมิ่งพูดเป็นความจริงหรือ?”

เซียวจื่อเซวียนพยักหน้า “ขอรับ!”

เมื่อท่านป้าสี่เห็นเซียวจื่อเซวียนพยักหน้า ก็กล่าววาจาเหน็บแนม “ไอ๊โย พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกเป็นแน่! นางจะใจดีถึงเพียงนี้เชียว? ให้เงินพวกเจ้ามาซื้อไข่ไก่ด้วย?”

เดิมทีท่านป้าสี่ยังอยากกล่าวอะไรอีก คิดอยากด่าเซี่ยยวี่หลัวผู้นี้ให้สาแก่ใจ ว่ารูปโฉมงดงามเสียเปล่า เหตุใดถึงใจร้ายใจดำนัก

เซียวจื่อเมิ่งดึงชายเสื้อท่านป้าสี่ กล่าวด้วยท่าทางหวั่นๆ “ท่านป้าสี่ ตอนนี้พี่สะใภ้ใหญ่ดีกับพวกเรามาก ทำอาหารอร่อยให้เรากินทุกวัน ท่านดูสิ เสื้อใหม่ของข้า พี่สะใภ้ใหญ่เป็นคนทำให้เอง!”

ท่านป้าสี่เพิ่งพบว่าเซียวจื่อเมิ่งเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่แล้ว เป็นเสื้อนวมสีชมพูลายดอกไม้สีฟ้า ทั้งหนาทั้งพอดีตัว มือคู่เล็กก็อบอุ่น

เห็นเด็กน้อยบอกว่าพี่สะใภ้ของนางเป็นคนดี วาจาที่เกือบจะหลุดออกจากปากท่านป้าสี่จึงได้แต่กลืนกลับไป

ช่างเถอะ เป็นเรื่องครอบครัวคนอื่น นางอยากยื่นมือเข้าไปยุ่ง ก็ยุ่งไม่ได้ อย่าด่าเลย หากเซี่ยยวี่หลัวรู้เข้า ไม่รู้ว่าจะรังแกเด็กสองคนนี้อย่างไรอีก!

ท่านป้าสี่หยิบไข่ไก่มายี่สิบฟอง เมื่อคิดๆ ดู ก็หยิบเพิ่มมาสองฟอง ส่งให้เซียวจื่อเซวียน กล่าวกำชับด้วยความเอ็นดู “เด็กดี ข้าไม่รู้ว่าพี่สะใภ้ของเจ้าตอนนี้เป็นอย่างไร แต่หากนางทำดีต่อพวกเจ้า ป้าก็วางใจ ไข่สองฟองนี้ เจ้าแอบเก็บไว้ หากนางอาละวาดไม่ยอมให้พวกเจ้ากินอาหาร เจ้าก็มาหาป้าสี่ ป้าสี่จะช่วยทวงความยุติธรรมให้พวกเจ้าเอง เข้าใจหรือไม่?”

เซียวจื่อเซวียนพยักหน้าด้วยความตื้นตัน “ขอรับ ขอบคุณท่านป้าสี่!”

 “เด็กโง่ เจ้าจะขอบคุณข้าไปไย ท่านพ่อท่านแม่เจ้าจากไปเร็ว พี่ชายเจ้าแต่งกับสตรีเช่นนางอีก นางแต่งตัวดูดี แต่เจ้าดูสิ บ้านเจ้าทั้งสกปรกและรกรุงรังเสียยิ่งกว่าอะไร! เฮ้อ บาปกรรมจริงๆ!”

เซียวจื่อเมิ่งคิดอยากกล่าวอะไร เซียวจื่อเซวียนกลับจูงมือนางเดินออกจากบ้านท่านป้าสี่

ระหว่างทาง เซียวจื่อเมิ่งเงยหน้าขึ้นเอ่ยถามพี่รอง “พี่รอง ท่านป้าสี่ว่าพี่สะใภ้ใหญ่แบบนั้น เหตุใดถึงไม่พูดความจริงล่ะเจ้าคะ! ตอนนี้พี่สะใภ้ใหญ่ทำอาหารให้เรากินทุกวัน นางยิ้มให้พวกเราตลอดด้วย!”

เซียวจื่อเซวียนลูบศีรษะเซียวจื่อเมิ่ง ผมทรงซาลาเปาที่ผูกไว้ดูน่ารักเสียจริง เพียงแต่ ทรงผมที่ผูกไว้อย่างประณีต วันนี้ช่วยผูก พรุ่งนี้ก็ยุ่งเหยิงอยู่ดี

บางที อาจไม่มีคนช่วยผูกอีกก็เป็นได้

 “เด็กโง่ กลับบ้านกัน!”

เซียวจื่อเซวียนไม่รู้ว่าควรอธิบายกับน้องสาวอย่างไร ความอบอุ่นที่หาได้ยาก ถึงจะทำให้เจ็บปวดมากที่สุด หากเคยได้รับ แล้วต่อไปไม่ได้รับอีก จะทำอย่างไร?

เซียวจื่อเซวียนถือตะกร้าไข่ไก่ไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งจูงน้องสาว กลับบ้านด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง

เพิ่งถึงประตูบ้าน ก็ต้องตกใจจนหยุดชะงักเพราะข้าวของที่กองอยู่ภายในลานบ้าน

วันนี้แดดกำลังดี เซี่ยยวี่หลัวนำของภายในห้องของสองพี่น้องออกมาตากแดด ปุยฝ้ายที่รื้อออกมาก็ตากแดดอยู่ เสื้อผ้าถูกแขวนไว้ด้านนอก โบกพลิ้วตามสายลมที่พัดผ่าน

เซียวจื่อเซวียนวางไข่ไก่ลงก่อนเข้าไปในห้อง เห็นเซี่ยยวี่หลัวถกแขนเสื้อขึ้น กำลังง่วนอยู่กับการเช็ดโต๊ะ เตียง และเก้าอี้ภายในห้องของพวกเขาอย่างทะมัดทะแมง แม้แต่ขาเก้าอี้ก็ไม่เว้น เช็ดแล้วเช็ดอีก

ส่วนใต้เตียง เซี่ยยวี่หลัวหมอบบนพื้น ใช้ไม้กวาดกวาดฝุ่นออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า จนมั่นใจว่าด้านในสะอาดแล้วจึงเลิกกวาด

 “พี่รอง…” เซียวจื่อเมิ่งเห็นเซี่ยยวี่หลัวที่กำลังทำความสะอาดอยู่ในห้อง หันมองเซียวจื่อเซวียน กัดริมฝีปาก ก่อนดิ้นหลุดจากมือเซียวจื่อเซวียน เข้าไปภายในห้อง “พี่สะใภ้ใหญ่”

 “จื่อเมิ่งกลับมาแล้วหรือ?” หยาดเหงื่อผุดซึมบนหน้าผากเซี่ยยวี่หลัว ง่วนกับงานมาตลอดช่วงเช้า นางเหนื่อยแทบแย่ แต่อย่างน้อยก็ทำความสะอาดห้องนี้เสร็จแล้ว เห็นเซียวจื่อเมิ่งกลับมา ภายในใจก็รู้สึกดีใจนัก “เจ้ากลับมาพอดี ข้ามีเรื่องจะหารือกับพวกเจ้า!”