บทที่ 3 แสร้งทำเป็นน่าสงสาร ใครทำไม่เป็นกัน

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

นางพูดอย่างจริงจัง ดวงตาสดใสไร้เดียงสา แต่กลับทำให้กู้ชูหลันและอนุภรรยาห้าโกรธจนสั่นเทาไปทั้งตัว

“กู้ชูหน่วน เจ้าโกหก ตอนที่เจ้าบังคับให้ข้าดื่มยาเสน่ห์เชียนรื่อจุ้ย ก็ไม่ใช่ท่าทีเช่นนี้”

“น้องสาว ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้ากำลังพูดอะไร ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว ไม่ควรไปสาย น้องสาวอย่าโกรธเลยได้หรือไม่”

กู้ชูหลันคุมอารมณ์ไม่อยู่ ความบริสุทธิ์ทั้งชีวิตของนางถูกนางทำลายหมดแล้ว นางกลับยังทำเป็นไร้เดียงสาเหมือนกระต่ายน้อยที่บริสุทธิ์ตัวหนึ่งอีก กู้ชูหลันโกรธจนทนไม่ได้ ปีนขึ้นมาคิดจะบีบคอนางโดยตรง เหมือนจะบีบคอให้นางตายทั้งเป็น

“บังอาจ”

“ปัง”เสียงหนึ่ง กู้เฉิงเซี่ยงตบโต๊ะทันที เดือดดาลเป็นอย่างมาก

นอกจากกู้ชูหน่วนแล้ว ทุกคนล้วนตกใจ

อนุภรรยาห้าจึงดึงกู้ชูหลันคุกเข่าลงทันที “นายท่านระงับความโกรธเจ้าคะ หลันเอ๋อร์เพียงแค่เลอะเทอะไปชั่วขณะถึงได้ออกไปพร้อมกับคุณหนูสาม ยาเสน่ห์เชียนรื่อจุ้ยนั่น คิดว่าต้องมีคนจงใจวางไว้เจ้าค่ะ”

ฮูหยินใหญ่และอนุภรรยาสามคนอื่นๆหัวเราะเยาะทีหนึ่ง

มีคนจงใจวาง? แอบบ่งชี้ว่าเป็นพวกนางหรือ?

อนุภรรยาห้าใช้ความโปรดปรานที่ได้รับจากท่านเฉิงเซี่ยง ในวันปกติก็เบ่งอำนาจกับพวกนางไม่น้อย ตอนนี้กู้ชูหลันเสียบริสุทธิ์แล้ว พวกนางอยากดูซิว่าอนุภรรยาห้ายังจะสามารถก่อความวุ่นวายอะไรออกมาได้อีก

ที่โง่ที่สุดคือ กู้ชูหน่วนขี้ขลาดเหมือนดั่งหนู นิสัยอ่อนแอโดยธรรมชาติ นางนอกจากออกไปจุดธูปไหว้ท่านแม่ที่ตายไปแล้วของนางเป็นบางคราวก็ไม่เคยออกจากจวน และไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ใด จะรู้ได้ที่ไหนกันยาเสน่ห์เชียนรื่อจุ้ยคืออะไร? และจะไปซื้อยาเสน่ห์เชียนรื่อจุ้ยได้จากที่ไหนอีก

กู้ชูหลันต้องการจะใส่ร้าย ก็ไม่หาเหตุผลที่ดีสักหน่อย

เสียบริสุทธิ์แล้ว หรือว่าคนก็โง่ไปแล้วงั้นหรือ?

อนุภรรยาสามหัวเราะแต่ก็ไม่ได้หัวเราะ คำพูดแฝงด้วยการถากถาง “อ๋อ ก็ไม่รู้ว่าใครบอกท่านเฉิงเซี่ยงว่า คุณหนูสามหนีไปที่วัดล้างกับคนรับใช้ อย่าให้เป็นการคิดใส่ร้ายคนอื่นไม่สำเร็จ แต่กลับทำร้ายคนของตัวเองละกัน”

อนุภรรยาห้าหน้าเสีย

เพื่อคิดต้องการให้ลูกสาวของตัวเองได้เป็นพระชายาเจ๋อ จึงได้ลงมือกับกู้ชูหน่วนเช่นนี้ อย่างไรนางก็คิดไม่ถึงว่า คนที่นางอยากทำร้าย กลับกลายเป็นลูกสาวของตัวเอง

คิดได้ว่าลูกสาวของตัวเองเสียบริสุทธิ์ไปแล้ว อนุภรรยาห้าแค้นเคืองใจจนกัดฟันกรอด แต่บนใบหน้าทั้งใบกลับเหมือนอยากจะร้องไห้น้อยใจ

“นายท่าน หากข้าคิดจะทำร้ายคุณหนูสามแล้วจะโง่จนกลับกลายเป็นทำร้ายลูกสาวของตัวเองได้อย่างไรเจ้าคะ นี่เห็นได้ชัดว่ามีคนตั้งใจใส่ร้ายพวกเรานะเจ้าคะ”

“ก็คือกู้ชูหน่วนคนสารเลวนี่ที่ทำร้าย ท่านพ่อ ท่านจะต้องตัดสินแทนข้านะเจ้าคะ”

อนุภรรยาห้าดึงชายเสื้อของกู้ชูหลัน ใช้สายตาบอกใบ้ให้นางว่าอย่าพูดมั่วซั่วแล้ว

แต่กู้ชูหลันที่กำลังโมโหอย่างหนักอยู่นั้นยังจะสามารถรักษาความสงบนิ่งเงียบเหมือนวันปกติได้อย่างไร

“ท่านพ่อ ท่านจะต้องสั่งสอนคนสารเลวคนนี้ นางปากไม่ตรงกับใจ”

จนถึงตอนนี้ ร่างกายส่วนล่างของนางยังคงเจ็บปวดแทบจะขาดใจ ทั้งหมดทุกอย่างนี้ก็ต้องโทษกู้ชูหน่วน

“พอแล้ว ชูหน่วน เจ้าพูดมา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เป็นเจ้าที่กรอกยาเสน่ห์เชียนรื่อจุ้ยให้น้องสาวใช่หรือไม่?”

กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างเย็นชา

คำหนึ่งก็คนสารเลว ถ้านางเป็นคนสารเลว เช่นนั้นตาแก่กู้นับว่าเป็นอะไร?

พ่อสารเลวรึ?

แม้ว่าจะรู้สึกดูหมิ่น กู้ชูหน่วนก็ยังกล่าวด้วยความน้อยใจ “น้องสาวบอกว่าใช่ เช่นนั้น……เช่นนั้นก็เป็นข้ากรอกเถอะเจ้าค่ะ”

กู้ชูหลันเดือดดาลขึ้นมาเป็นอย่างมาก โมโหจนกล้ามเนื้อหัวใจแทบจะขาดเลือดตาย หากไม่ใช่อนุภรรยาห้าดึงนางไว้แน่น กลัวเพียงแต่นางคงจะระเบิดตายไปนานแล้ว

“แม้ว่าจะเป็นวันครบรอบวันตายท่านแม่ของเจ้า เจ้าก็พาคนไปรับใช้ไปสองสามคนได้ กลางค่ำกลางคืน เด็กผู้หญิงคนเดียวอยู่ข้างนอกทำอะไร?”

“ลูกก็อยากพาคนไปสองสามคนเจ้าค่ะ แต่………แต่น้องห้าบอกว่า นางพาคนไปมากมายแล้ว ข้าก็ไม่ต้องพาไปแล้ว ตอนนั้นขณะที่น้องห้าพูดเช่นนี้ มีหลายคนอยู่ในเหตุการณ์ ไม่เชื่อท่านก็ถามพวกเขาได้เจ้าค่ะ”

อนุภรรยาสามกำลังเล่นเล็บของตัวเองอย่างเกียจคร้าน ยิ้มแล้วกล่าว “คุณหนูห้าพูดเช่นนี้จริง ยังให้คนขวางชิวเอ๋อไว้อีกเจ้าค่ะ”

คุณหนูเจ็ดกู้ชูฉิงยังไม่เข้าใจเรื่องราวความเป็นมา ก็รีบสนับสนุน “ข้าก็เห็นแล้วเจ้าค่ะ”

อนุภรรยาห้ากระวนกระวายใจแล้ว กลัวเพียงแค่เรื่องราววันนี้จะไม่ดีแล้ว

กู้เฉิงเซี่ยงตวาดด้วยความโกรธ “ค่ำคืนดึกดื่นเจ้าออกไปทำอะไร”

“นายท่าน……”

อนุภรรยาห้ายังคิดจะอธิบาย กู้เฉิงเซี่ยงโกรธมากอย่างฉับพลัน “เจ้าหุบปากให้ข้า หากว่าไม่ใช่เพราะปกติเจ้าให้ท้ายนางจนไม่รู้จักยำเกรงต่อสิ่งใด แล้วจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร ชูหลัน เจ้าพูดเอง ทำไมต้องไปที่วัดล้าง?”

หลังจากโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไปแล้ว กู้ชูหลันก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง หากว่าจากนี้ท่านพ่อไม่รักและเอ็นดูนางแล้ว เช่นนั้นทั้งชีวิตนี้ของนางก็จบแล้ว

กู้ชูหลันปาดน้ำตา ร้องไห้ฟ้องด้วยความเสียใจ “ลูกได้ยินว่าเมื่อวานเป็นวันครบรอบวันตายท่านแม่ของท่านพี่ เดิมทีข้าอยากจะไปเซ่นไหว้เป็นเพื่อนท่านพี่ แต่ก็เป็นห่วงว่าท่านพี่จะไม่ชอบให้คนไปรบกวนท่านแม่ของนาง ดังนั้นจึงนัดนางที่วัดล้าง ถึงเวลาก็กลับบ้านพร้อมกัน ไหนเลยจะคิดว่า……”

พูดเช่นนี้เดิมทีก็ไม่มีคนเชื่อ

กู้ชูหน่วนอยู่ในจวนก็ไม่ได้ใช้ชีวิตดีๆ หากว่านางสนใจกู้ชูหน่วนจริง ในวันปกติก็จะไม่กลั่นแกล้งนางบ่อยๆ

แล้วกู้เฉิงเซี่ยงจะไม่รู้ได้อย่างไรว่านางโกหก เพียงแค่เขาไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้แล้ว ดังนั้นจึงเอาความผิดทั้งหมดผลักไปบนตัวของกู้ชูหน่วน

“ทั้งหมดโทษเจ้า หากว่าไม่ใช่เจ้าดื้อรั้นต้องการจะไปวัดหยุนชิงเซ่นไหว้ท่านแม่ของเจ้า ก็จะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ หลังจากนี้ต้องการเซ่นไหว้ก็อยู่ในบ้าน”

กู้ชูหน่วนหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างเย็นชา สันหลังตรง ในปากอมการเย้ยหยันเบาๆที่แทบจะฟังไม่ได้ยิน

“ท่านแม่ของข้าบอกว่า นางอยู่ด้านล่างเหงามาก ตอนนั้นก็เสียชีวิตอย่างน่าเวทนา นางอยากขึ้นมาพบท่านพ่อเป็นอย่างมาก ทั้งจะมาเยี่ยมอนุแม่และพี่สาวน้องสาวทุกคน”

“มองพวกข้าทําอะไร?” อนุภรรยาห้าสันหลังเย็นยะเยือก

“ท่านพ่อแต่งงานกับท่านแม่ก่อน หลังจากนั้นก็แต่งงานมีอนุภรรยาอย่างโจ่งแจ้ง แน่นอนว่าจะต้องมาดูว่าพวกท่านใช้ชีวิตอยู่ดีหรือไม่ ยังรักใคร่กันหรือไม่เจ้าค่ะ”

สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

นึกถึงดวงตาที่โกรธแค้นทั้งคู่ก่อนที่มารดาของกู้ชูหน่วนจะเสียชีวิตในปีนั้น ในใจก็ขนลุกขนชันขึ้นมาเป็นระยะ

ดวงตาที่เฉียบคนทั้งคู่ของฮูหยินใหญ่ฉาบไปด้วยความสงสัยเล็กน้อย ดวงตาเมื่อครู่ของกู้ชูหน่วนไม่ได้เหมือนก่อนหน้านี้ที่อ่อนแอเช่นนั้น กลับแฝงไปด้วยความเย็นยะเยือก หยิ่งผยอง หรือว่านางมองผิดไป?

กู้เฉิงเซี่ยงกล่าวด้วยความโมโห “พอแล้ว เรื่องนี้ก็หยุดลงตรงนี้ เรื่องที่หลันเอ๋อร์เสียบริสุทธิ์ ผู้ใดก็ห้ามเปิดเผย ไม่เช่นนั้น ดูสิว่าข้าจะสั่งสอนนางอย่างไร”

“เจ้าค่ะ” อนุภรรยาสามและคนอื่นๆกล่าว

กู้เฉิงเซี่ยงชี้ไปที่กู้ชูหลันด้วยความโกรธ “ช่วงนี้เจ้าก็อยู่แต่ในบ้าน ที่ไหนก็ห้ามออกไป”

“เจ้าค่ะ”

กู้ชูหลันรู้สึกน้อยใจจริงๆ

อยู่ดีๆความบริสุทธิ์ของนางก็สูญเสียไป ยังถูกสั่งสอนด้วยความโมโหอีกรอบหนึ่ง และตัวการที่ทำเรื่องกลับยังคงลอยนวลอยู่นอกกฎ จะให้นางเต็มใจได้อย่างไร

“ยังมีอีก ประพฤติตัวดีๆให้ข้าสักหน่อยด้วย หากว่าให้ข้ารู้ว่าเรื่องของหลันเอ๋อร์เกี่ยวข้องกับเจ้า จะไม่ปล่อยเจ้าไว้เด็ดขาด”

กู้ชูหน่วนหัวเราะอย่างเย็นชา

ใครจะปล่อยใครไปก็ยังไม่รู้เลยน่ะ

กู้เฉิงเซี่ยงออกไปแล้ว อนุภรรยาห้ากลัวว่าจะสูญเสียความโปรดปรานที่กู้เฉิงเซี่ยงมีต่อกู้ชูหลัน ไม่ทันได้สนใจลูกสาวของตัวเอง ก็รีบตามไปแล้ว

ฮูหยินใหญ่ อนุภรรยาสาม รวมถึงกู้ชูฉิงและคนอื่นๆล้วนทิ้งรอยยิ้มดูถูกอีกทั้งเหยียดหยามให้กู้ชูหลัน

ในเหตุการณ์เหลือเพียงกู้ชูหน่วนและกู้ชูหลันสองคน

ใบหน้าของกู้ชูหน่วนเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส ราวกับว่าอยู่ในตำแหน่งที่สูงส่ง มองดูนางจากบนลงล่าง ยังจะมีท่าทางอ่อนแอสักนิดอยู่อีกที่ไหนกัน

“เจ้าถูกคัดออกแล้ว”

กู้ชูหลันตะลึง “หมายความว่าอะไร?”

“ก็คือ เจ้าถูกคัดออกแล้ว” ความบริสุทธิ์ของผู้หญิงในสมัยโบราณสำคัญมากกว่าชีวิต ไม่มีความบริสุทธิ์แล้วก็ไม่ใช่ว่าถูกเตะให้ตกรอบแล้วเหรอ?

ขณะที่กู้ชูหลันยังเข้าใจไม่กระจ่างว่าหมายความว่าอะไร กู้ชูหน่วนก็ผิวปาก เดินโยกไปมาออกไปด้วยความเย่อหยิ่งแล้ว

โมโห

โมโหจนปอดของนางจะระเบิดแล้ว

กู้ชูหลันทุบแจกันดอกไม้ทั้งหมดที่จัดวางไว้บนโต๊ะ คำรามอย่างบ้าคลั่ง “กู้ชูหน่วน สักวันไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้ อ้า……”

สมควรตาย เมื่อครู่อยู่ต่อหน้าของกู้ชูหน่วน นางกลับรู้สึกว่าตัวเองเหมือนมดที่ไร้ค่าตัวหนึ่ง และนางเป็นผู้ที่กุมอำนาจใหญ่ในการมีชีวิตและสังหาร เป็นบุคคลที่มีความสามารถคุ้นชินในการใช้กลยุทธ์ลูกไม้สับเปลี่ยนไปมาได้

นางเป็นเพียงแค่คนอัปลักษณ์เป็นคุณหนูที่เกิดจากภรรยาหลวงที่ถูกแขวนไว้ริมถนนลอยๆเท่านั้น และเป็นคนที่นางดูแคลนเป็นที่สุด นางจะรู้สึกเป็นภาพลวงตาชนิดนี้ได้อย่างไร