บทที่ 7

ออกซิเจนในถ้ำเริ่มเบาบางลงไปพร้อม ๆ กับสติของชายหนุ่มที่ค่อย ๆ จางหาย เปลือกตาของถังหยินเริ่มหนักขึ้นและหนักขึ้น ชายหนุ่มรู้ดีว่าเมื่อเขาหลับ เขาจะไม่อาจตื่นขึ้นมาได้อีกต่อไป ควันหนาทึบอันแน่นอยู่เต็มถ้ำ หากเป็นคนธรรมดา ป่านี้คงจะหมดสติไปนานแล้ว เหตุผลที่ถังหยินยังคงมีสติอยู่ได้ก็เพราะสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดที่แข็งแกร่งของเขานั่นเอง

ชายหนุ่มไม่ได้สังเกตว่าเลือดที่ไหลออกมาจากแผลบนไหล่ของเขามันไม่ได้หายไปไหนหลังจากไหลลงมาตามพื้น หากแต่มันกลับเคลื่อนที่ไปยังทิศทางหนึ่งราวกับถูกดูดเข้าไป

เช่นเดียวกับที่ถังหยินไม่สามารถรักษาท่านั่งได้ ตอนนี้ร่างกายของเขากำลังจะฟุบลง ซึ่งมันก็เป็นจังหวะเดียวกันนี้ที่ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงพื้นดินที่สั่นสะเทือนอยู่ใต้ร่างเขา

ด้วยสติที่พร่ามัว ชายหนุ่มจึงไม่แน่ใจมากนักว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ บางทีนี่มันอาจเป็นแค่ภาพลวงตาก็เป็นได้

“ตู้ม ! ”

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังออกจากในถ้ำ ถังหยินตกใจ ชายหนุ่มพยายามที่จะเงยหน้าขึ้นมองหาต้นเสียง

หลังจากเหลือบตามอง 2-3 ครั้ง เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าตาของเขาคงจะเบลอเพราะควันไฟรอบตัวหรือไม่ ทำไมเขาถึงได้เห็นอะไรแปลก ๆ อยู่ในตอนนี้กัน ถังหยินอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาขยี้ตาอย่างแรง และเมื่อชายหนุ่มมองไปอีกครั้ง ดวงตาของเขาก็ต้องเบิกกว้าง เช่นเดียวกับปากของเขาที่อ้าออกมาอย่างช้า ๆ โดยไม่รู้ตัว

ไม่ไกลจากที่ชายหนุ่มนั่งอยู่ มีแขนยื่นออกมาจากใต้พื้นดิน แต่แทนที่จะเป็นแขนที่มีเนื้อหนัง มันกลับเป็นเหมือนกระดูกเปลือยเปล่า บางทีมันอาจเก่าเกินไปละมั้ง เพราะกระดูกมือได้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มแถมยังมีเศษเนื้อแห้ง ๆ ติดอยู่อีกต่างหาก

ในเบื้องลึกของหลุมที่ไร้ก้นบึ้ง แขนที่ปราศจากเนื้อหนังได้ผุดขึ้นมา นี่เป็นสิ่งที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง หัวของถังหยินชาและผมของเขาก็ลุกชูชัน

“แกร่ก แกร่ก ~ ~”

รอยแตกเริ่มปรากฏบนพื้นรอบ ๆ แขนข้างนั้น ก่อนที่จะรอยแตกจะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พื้นดินสั่นสะเทือนราวกับกำลังบอกเหตุร้าย

ถังหยินผู้ซึ่งอยู่ใกล้กับสิ่งที่กำลังขึ้นมา ชายหนุ่มมองดูมันด้วยสีหน้าตะลึง เขาอยากจะหนี หากแต่ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะไม่ตอบสนอง ตอนนี้เขานั้นเหนื่อยและเจ็บหนักเกินกว่าจะขยับเขยื้อนได้

“วุ้ย ! ”

“ฮู่ล่า ! ”

ทันใดนั้นก้อนหินบนพื้นดินก็เด้งออกมา พร้อม ๆ กับที่โครงกระดูกลุกขึ้นมาจากพื้น ถึงถ้ำจะเต็มไปด้วยควันไฟ หากแต่ชายหนุ่มก็ยังได้กลิ่นเหม็นเน่าจากร่างตรงหน้า

ผี…คือ…นี่มันผีงั้นเหรอ !

ถังหยินไม่เชื่อว่าโลกนี้มีผี ชายหนุ่มได้ฆ่าผู้คนจำนวนมากด้วยดาบของเขา แต่เขาก็ไม่เคยเห็นผีเลยสักครั้ง แล้วงั้นสิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้ล่ะ ? ถ้ามันไม่ใช่ผีแล้ว เขาก็คงบอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันคืออะไร

ฮู่ฮ่า !

โครงกระดูกไร้เนื้อหนังลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ จากพื้นดิน เฉกเช่นเดียวกับที่หัวใจเต้นของถังหยินเต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ชายหนุ่มได้ยินเสียงโครงกระดูกเคลื่อนไหว ก่อนที่หัวกะโหลกจะหันมามองเขาอย่างช้า ๆ

เมื่อแสงสีแดงจ้องมองมาที่ถังหยิน ชายหนุ่มก็แทบลืมหายใจ ทันใดนั้นความกดดันก็ได้เข้าโจมตีใส่ตัวเขาราวกับว่ามันกำลังจะฉีกทึ้งร่างของเขาออกเป็นชิ้น ๆ

โครงกระดูกไร้ชีวิต ในตอนนี้มันกลับเดินเข้ามาหาถังหยินทีละก้าว ถังหยินไม่สามารถขยับร่างกายได้ เขามองกระดูกที่เข้ามาใกล้ มันก้มตัวลง กะโหลกไร้เนื้อหนังเข้ามาหาเขาดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก

โดยไม่มีการเตือนใด ๆ แสงที่ไม่สามารถมองเห็นก็ได้ถูกยิงออกมาจากระหว่างคิ้วของโครงกระดูกตรงไปยังใจกลางหน้าผากของถังหยิน หลังจากได้ยินเสียงหึ่งในหัว สายตาของเขาก็ดับลงไปโดยที่ไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น

เขารักผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนที่ชื่อคริสตัล

เขาสามารถทำทุกอย่างเพื่อนางแม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิตของเขาเอง เพื่อนางแล้ว เขายอมต่อสู้กับผู้ฝึกยุทธ์แห่งแสงระดับสูงสุด 5 คน ในหุบเขาเฉียนหยิน

การต่อสู้นั้นถือได้ว่าเป็นจุดสุดยอดของการต่อสู้ระหว่างแสงสว่างและความมืด ในท้ายที่สุดทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็พ่ายแพ้และได้รับบาดเจ็บหนักมาก

เขาไม่ได้ต้องการให้นางตอบแทนเขา แต่กลับกลายเป็นว่าคริสตัลหักหลังเขา หญิงสาวทรยศคำสัญญาต่อพันธมิตรแห่งท้องทะเล หลังจากที่เขาทำทุกอย่างให้นาง หญิงสาวกลับไปร่วมมือกับซวนโจวที่กำลังบาดเจ็บหนักและจัดการเขา

เขาจะไม่มีวันลืมเสียงหัวเราะของซวนโจวต่อหน้าเขา รวมไปถึงความรู้สึกดี ๆ ที่เขามีให้กับนาง

ในความฝัน ถังหยินรู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างชัดเจนก่อนที่หยานหลี่จะตาย มันไม่ใช่ความเจ็บปวดในร่างกายของเขา หากแต่เป็นความเจ็บปวดในใจของเขาเอง มันคือความเจ็บปวดอย่างรวดร้าวในดวงวิญญาณของเขา

ถังหยินลืมตาขึ้น ชายหนุ่มพึมพำชื่อที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยไปมา

หยานหลี่อาจจะตาย แต่ก่อนที่จะตาย คนผู้นั้นได้ทำการบูชายัญแห่งความตายอันแสนมืดมิด มันคือศาสตร์มืดลึกลับที่สามารถโอนถ่ายความทรงจำกับความสามารถทั้งหมดไปต่อได้

นานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ต่อมาการสู้รบอย่างดุเดือดในหุบเขาได้ทำให้ทหารกว่า 3,000 นายแห่งแคว้นเฟิงต้องแตกพ่าย เลือดของทหารรายล้อมไปรอบ ๆ หยานหลี่ และมีเพียงถังหยินคนเดียวเท่านั้นที่รอดกลับจนมาถึงตอนนี้ มันคือการฟื้นคืนชีพ โชคร้ายที่พลังปราณของเขาหายไป และถังหยินเองก็ไม่ค่อยมีพลังมากเท่าที่ควร

เมื่อถังหยินลืมตาตื่นขึ้น โครงกระดูกของหยานหลี่ก็หายไปหมดแล้ว มันเปลี่ยนเป็นพลังปราณและถูกดูดกลืนตอนที่เขาหมดสติ

แต่แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ได้รับพลังปราณมากนัก ทว่าความทรงจำของหยานหลี่ก็ได้ให้ประโยชน์กับชายหนุ่มอย่างมาก อย่างน้อยที่สุดตอนนี้ถังหยินก็เข้าใจถึงโลกที่เขาอยู่ในตอนนี้มากขึ้นแล้ว

จักรวรรดิที่ชายหนุ่มอยู่ในตอนนี้คือ ‘เฮาเทียน’ ซึ่งมีเมืองหลวงชื่อ ‘ฉางจิง’ ในอาณาเขตของเฮาเทียนนั้นแบ่งการปกครองเป็น 9 แคว้น ซึ่งได้แก่ เจิ้นเจิ้น ยู่โม เฟิง หนิง อัน ฉวน ฮวน และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทว่าหลังจากที่จักรวรรดิแห่งนี้ได้ก่อตั้งมานานกว่า 200 ปี อำนาจของจักรพรรดิก็ได้ตกต่ำลง และพวกผู้ครองแคว้นเองก็ทรงอำนาจมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริเวณนี้ของภูเขาเองก็ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเขตเฟิงอีกต่อไป

ตอนนี้ความทรงจำของคน 2 คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน มันได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้ทำให้ถังหยินรู้สึกผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย หากแต่มันกลับทำให้หัวใจของเขารู้สึกหนักอึ้ง

ประการแรกเลย ชายหนุ่มพอเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงโผล่มาที่นี่ และเพราะว่าด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาจึงมาที่โลกอันแสนแปลกประหลาด และเต็มไปด้วยปริศนาแห่งนี้ ซึ่งมันแตกต่างจากโลกของเขา ซ้ำร้ายคือชายหนุ่มไม่อาจหาทางกลับไปได้เลย

ทันใดนั้น ! จู่ ๆ ความเกลียดชังจากการทรยศของคริสตัลก็พวยพุ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก เพราะถึงแม้จะเป็นแบบนั้น อีกใจของเขาก็ยังคงรักนางอยู่ ถึงแม้ว่านางจะไม่เหลือเยื่อใยกับเขาแล้วก็ตาม

เขาต้องหาคริสตัล !

ทันใดนั้นถังหยินก็ลุกขึ้นนั่งบนพื้น สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มคิดได้ตอนนี้คือผู้หญิงที่ชื่อ ‘คริสตัล’ แต่เหมือนเขาจะคิดอะไรได้ ชายหนุ่มชะงัก ก่อนจะโยนความคิดที่ว่าออกไป ยังไงเสียคริสตัลก็คือปัญหาของหยานหลี่ เพราะงั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาที่เขาจะต้องมาเสียแรงด้วยสักหน่อย

ในที่สุดถังหยินก็ยอมแพ้ ตอนนี้ชายหนุ่มเข้าใจสิ่งหนึ่งแล้ว ดวงจิตของหยานหลี่ได้หลอมรวมเข้ากับจิตใจของเขา เพราะฉะนั้นคนที่หยานหลี่เป็นกังวลก็คือสิ่งที่เขาต้องกังวลด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ เขาคือถังหยินและหยานหลี่พร้อม ๆ กัน

‘ดูเหมือนว่าฉัน ไม่ซิ… ดูเหมือนว่าข้าจะต้องหาคริสตัลและจัดการเรื่องนี้ให้จบ ๆ ไป’ ถังหยินพึมพำ

สำหรับวิธีการที่ชายหนุ่มจะแก้ปัญหาของเขาหลังจากพบคริสตัล ตอนนี้ถังหยินเองก็ไม่รู้เหมือนกัน อย่างน้อยที่สุด หยานหลี่ก็รักและเกลียดคริสตัลมากจนเขาทนไม่ได้ที่จะทำร้ายเธอเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงที่ถังหยินไม่เคยมีมาก่อน ความรู้สึกพวกนี้ถือเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับเขาเช่นกัน

หลังจากถอนหายใจ ชายหนุ่มก็เริ่มตั้งสติได้ ตอนนี้ถังหยินรู้แล้วว่าไฟในหุบเขาดับไปแล้ว ซึ่งก็เช่นเดียวกับกลุ่มควันหนาทึบในถ้ำที่ได้หายไปแล้วเช่นกัน ชายหนุ่มยืนขึ้นอย่างช้า ๆ ร่างกายของเขารู้สึกเบาและว่องไวเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่เขาจะไม่รู้สึกบาดเจ็บเท่านั้น หากแต่ถังหยินกลับรู้สึกแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย แม้แต่บาดแผลบนร่างกายของเขาก็หายเป็นปกติ ตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ในสภาพสมบูรณ์อีกครั้ง !

นี่คงจะเป็นผลลัพธ์ของการดูดซับพลังปราณ ถังหยินยืนนิ่งและกลั้นลมหายใจ ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงพลังทั้งหลายที่กำลังไหลผ่านร่างกายของเขา แม้ว่ามันจะไม่มากเท่ากับ 1 ใน 10 ส่วนของพลังปราณดั้งเดิมของหยานหลี่ แต่อย่างน้อยเขาก็ได้วางรากฐาน ซึ่งนี่ถือเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการฝึกฝนศาสตร์มืด ถ้าหากไม่มีพื้นฐานความรู้มาก่อน เขาก็ไม่อาจเข้าใจมันได้โดยง่ายเช่นนี้ และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครหลายคนไม่อยากจะฝึกฝนศาสตร์มืดเสียเท่าไหร่

ร่างกายของถังหยินมีพลังไม่มากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายก้อนหินขนาดใหญ่ที่ทางเข้าถ้ำได้ อย่างไรก็ตามมันยังคงเป็นไปได้ที่จะขยายขนาดของรูที่เข้ามา ชายหนุ่มปีนออกมาจากถ้ำและมองไปรอบ ๆ ในหุบเขาที่กว้างใหญ่ ร่างที่ไหม้เกรียมและบิดตัวอยู่ทุกหนทุกแห่งที่เขามองไป กลิ่นของเนื้อที่ถูกไฟไหม้ทำให้อากาศดูร้อนระอุขึ้น

ซากศพเหล่านี้ล้วนเป็นนักรบของเขตเฟิงที่เสียชีวิตในต่างแดน เขาค่อย ๆ กำหมัดแล้วกัดริมฝีปาก ความเศร้าโศกและความขุ่นเคืองในใจของเขาไม่ได้มาจากถังหยิน แต่มาจากหยานหลี่

ใบไม้ที่ร่วงหล่นต้องกลับคืนสู่ถิ่นของพวกเขา แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีความสามารถมากพอที่จะนำศพเหล่านี้กลับสู่เขตเฟิง

เฮ้อ! เขาถอนหายใจยาวเหยียดจากก้นบึ้งหัวใจของเขาและวิ่งออกจากหุบเขาไป เขารู้สึกว่าถ้าเขาอยู่ที่นี่ต่อรับรองว่าต้องได้บ้าแน่ ๆ