หนานกงเยี่ยที่นั่งอยู่ตรงหน้าจอคอมและสามารถมองเห็นทุกอย่าง ใบหน้าอันหล่อเหลาที่ดูเลือดเย็นเหมือนดั่งน้ำแข็งค่อยๆ เผยรอยยิ้มออกมา “มีความหมาย”
เขามองออกตั้งนานแล้วว่าเธอเป็นนางแมวที่มีกรงเล็บอันแหลมคม ทว่ากลับนึกไม่ถึงว่าเธอจะเป็นนางแมวที่มีความโหดร้ายทารุณ วิธีที่เธอใช้ในการทำร้ายผู้อื่นเมื่อกี้นี้ เธอลงมืออย่างเคยชินมากๆ และเด็ดขาดจริงๆ ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำเรื่องแบบนี้ ร่างกายของเธอยังมีอะไรที่เขายังไม่รู้อีกมากมาย?
ก่วนอวี้ก็ถลึงตามอง ถึงแม้เขาเองก็คือเจ้านายที่โหดเหี้ยมทารุณ ทว่ากลับไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่โหดเหี้ยมถึงขั้นนี้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีรูปลักษณ์หน้าตาที่สะสวยและสง่างามแบบนี้ ผู้หญิงแบบนี้ไม่ใช่ว่าควรถูกเลี้ยงดูอย่างเอาใส่ใจและมาจากครอบครัวที่มีฐานะดีหรือไง
เวลานี้ มือถือของก่วนอวี้ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ตรงหน้าจอปรากฎเบอร์โทรจากออฟฟิศของเหริ่งรั่วปิง
ก่วนอวี้ปรายตามองหนานกงเยี่ยเพียงแวบเดียว จากนั้นก็รับสายโดยทันที หนานกงเยี่ยจับจ้องหน้าจอคอมไว้อย่างไม่คลาดสายตา เขากลับอยากรอดูว่าเธอจะทำยังไงต่อ
ได้ยินเพียงเสียงอันน่าอัศจรรย์ของกระดิ่งเงินที่แขวนอยู่ตรงคอกวางเรนเดียร์ของซานต้าคลอสดังขึ้น “เลขาก่อน ผู้ช่วยของดิฉันชอบทะเลาะตบตีกันในออฟฟิศ ตอนนี้ทั้งสองมีเรื่องกันจนบาดเจ็บทั้งคู่ ฉันไม่ชอบให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เลยอยากขอให้เปลี่ยนผู้ช่วยทั้งสองคนของฉันหน่อยค่ะ”
“…” ก่วนอวี้อ้าปากด้วยความตกตลึง ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขานึกไม่ถึงว่าคำพูดโกหกของเหริ่งรั่วปิงนั้นจะเสนาะหูขนาดนี้ ทว่าไม่รอให้เขาตอบกลับใดๆ เธอก็วางสายไปแล้ว แล้วดูกล้องวงจรอีกที เธอก็นั่งลงบนเก้าอี้แล้ว จากนั้นก็ตั้งใจร่างโครงสร้างในการออกแบบต่อ และไม่ได้สนใจผู้หญิงสองคนที่กำลังกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างทรมาน
“เหอะๆๆ…” หนานกงเยี่ยหัวเราะอ่อนๆ จากนั้นก็พิงลงตรงเบาะเก้าอี้ด้านหลัง แล้วเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่ขี้เกียจ “ทำตามที่เธอบอก”
ความโหดเหี้ยมของเธอทำให้เขาสนใจ
“?” ก่วนอวี้ยังคงสติหลุดไป คุณชายเยี่ยกลับหัวเราะ นานมากที่เขาไม่เห็นรอยยิ้มแบบนี้ของเจ้านายตัวเอง คุณเหริ่งคนนี้วิเศษ…จริงๆ!
เขาจึงหาผู้ช่วยสองคนให้เหริ่งรั่วปิงทันที และก็เป็นหญิงสาวสองคนเหมือนเดิม เพราะได้เห็นถึงประสบการณ์ของคนก่อน ทำให้ผู้หญิงสองคนนี้ทำงานอย่างตั้งใจและเชื่อฟัง ทำให้เหริ่งรั่วปิงคลายความกังวลไปไม่น้อย
ในบริษัทหนานกงก็มีข่าวลือออกมาอีกหนึ่งเรื่อง เหริ่งรั่วปิงเป็นแค่นักสถาปนิกที่พึ่งได้รับตำแหน่งใหม่ เพราะว่าผู้ป่วยของเธอทะเลาะวิวาทกันและบกพร่องต่อหน้าที่การงาน คุณชายเยี่ยโมโหจนไล่ผู้ช่วยสองคนนั้นออกทันที และหาคนใหม่ให้เธอทันที เห็นได้ชัดว่าคุณชายเยี่ยนั้นให้ความสำคัญกับเธอขนาดนี้
ทันใดนั้น ข่าวลือก่อนหน้านี้จู่ๆ ก็หายไปทันที ใครจะกล้าพูดถึงข่าวลือของคุณชายเยี่ยอีก เขาเสมือนปีศาจร้าย ใครที่ผิดใจกับเขาต้องไม่มีจุดจบที่ดีแน่นอน ตอนนี้ไม่เพียงแต่ว่าข่าวลือหายไปแล้ว แม้แต่พนักงานบริษัทหนานกงที่เจอหน้าเหริ่งรั่วปิงก็ยังทำท่าทางที่เคารพเธอขึ้นเยอะ จนกระทั่งบางคนยังแสร้งประจบสอพลอเพื่อที่จะเอาใจเธอ
เหริ่งรั่วปิงรู้สึกเอือมระอา จึงไม่ตอบกลับใดๆ เธอไปกินข้าวที่โรงอาหารคนเดียว และขึ้นลิฟต์ตามลำพัง ส่วนเวลาที่เหลือกก็ก้มหน้าก้มตาตั้งใจทำงาน และตอนเวลาเลิกงานก็หอบเอกสารกลับบ้านด้วย เพื่อที่จะเตรียมตัวทำงานตอนกลางดึก
ตามกฎระเบียบของบริษัทแล้ว ข้อมูลของบริษัทจะไม่อนุญาตให้พนักงานนำกลับบ้านไป แต่เหริ่งรั่วปิงมีสิทธิพิเศษ ก่วนอวี้จึงไปถามหนานกงเยี่ย พอหนานกงเยี่ยรู้ ก็ไม่คิดจะขัดขวางเธอ จากนั้นก่วนอวี้จึงไม่ถามขึ้นอีก
ตอนกลางคืน หนานกงเยี่ยจะไปร่วมงานเลี้ยงหนึ่ง เขาไม่ได้กลับวิลล่าหย่าเก๋อ
เหริ่งรั่วปิงก็ไม่เคยมีความเคยชินที่จะรอใคร เธอจึงกินมื้อค่ำตามลำพัง จากนั้นก็กลับห้องไปทำงานออกแบบต่อ และไม่ได้ถามถึงหนานกงเยี่ยว่าเขาไปไหน และจะกลับมาไหม เธอที่เป็นแค่เมียเก็บ ไม่มีสิทธิ์ไปถามเรื่องของเสี่ยเลี้ยงดูหรอก ตอนที่เสี่ยเลี้ยงดูต้องการเธอ เธอก็มีหน้าที่แค่สนอง ตอนที่เสี่ยเลี้ยงดูไม่มา เธอก็แค่อยู่อย่างสงบสุขก็พอ
ตอนที่อยู่บนรถ ก่วนอวี้ฟังเรื่องที่พ่อบ้านหย่าเก๋อรายงานจนจบ จากนั้นก็ได้รายงานเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับเหริ่งรั่วปิงให้กับหนานกงเยี่ยโดยที่ไม่หลุดแม้แต่คำเดียว
สีหน้าอันเลือดเย็นชาของหนานกงเยี่ยไม่สบอารมณ์ใดๆ เขาพิงอยู่บนเบาะที่นั่งแล้วหลับตาพักผ่อนสายตา ดูท่าทางของเขาก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร ทว่าคนที่เข้าใจหนานกงเยี่ยดีอย่างก่วนอวี้ เขารู้สึกได้ถึงอุณหภูมิในรถยนต์ที่ต่ำลงเรื่อยๆ
คุณชายเยี่ยโมโหแล้ว!