ประธานเชี่ยนเล่นซน

 

 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพูดความต้องการของเธอในฐานะหมอ 

 

 

อวี๋หมิงหลางหลังจากฟังเสี่ยวเชี่ยนจบก็ไม่ได้ตอบว่าโอเคหรือไม่โอเค แค่จ้องเสี่ยวเชี่ยนด้วยสายตาจริงจังอยู่อย่างนั้น 

 

 

จ้องเสียจนเสี่ยวเชี่ยนแอบหวั่นใจ ภาพลักษณ์ของอวี๋หมิงหลางในความทรงจำของเธอส่วนใหญ่จะเป็นความทะเล้นหน้าด้านในแบบต่างๆ ลูกไม้แพรวพราว คล้ายกับเด็กที่ไม่รู้จักโต 

 

 

แต่อวี๋หมิงหลางในเวลานี้ให้ความรู้สึกที่ยากจะคาดเดากับเธอ 

 

 

บุคลิกการเป็นทหารของเขาดูน่ายำเกรงอย่างไม่ต้องสงสัย ฉลาด เด็ดเดี่ยว มีความคิดแบบคนเป็นผู้ใหญ่ มีเสน่ห์ดึงดูดมาก 

 

 

การมาเยี่ยมในค่ายครั้งนี้เธอมาได้ถูกเวลามาก 

 

 

ได้มาสัมผัสกับอีกด้านของอวี๋หมิงหลาง เสี่ยวเชี่ยนจดจำภาพของอวี๋หมิงหลางในตอนนี้ไว้ในใจ ชาติที่แล้วเธอชอบเขาก็เพราะเขาดูจริงจัง แสดงความโกรธได้โดยไม่เสียบุคลิก ที่แท้เขาก็ไม่เคยเปลี่ยน ได้มาลองสัมผัสบ้างแบบนี้ก็รู้สึกดีไม่เบา 

 

 

“ผมรับปากคุณก็ได้” อวี๋หมิงหลางยอมตกลงในสิ่งที่เสี่ยวเชี่ยนขอ 

 

 

“ไม่ต้องขออนุญาตเบื้องบนก่อนเหรอ?” 

 

 

“เรื่องในหน่วยคำพูดของผมเด็ดขาดสุด ผมยอมทำตามที่คุณขอได้ สิ่งสำคัญคือ อาการของเขาจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่องานของเขาในวันหน้า อีกทั้งสภาพจิตใจของเขาก็ต้องแข็งแกร่งด้วย” 

 

 

เวลานี้อวี๋หมิงหลางไม่ได้พูดกับเสี่ยวเชี่ยนในฐานะคนเป็นแฟน เขาพูดในฐานะหัวหน้าทหารที่คำนึงถึงปัญหาทุกด้าน 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้า เข้าใจสิ่งที่อวี๋หมิงหลางต้องการ 

 

 

“โรคภาวะผิดปกติทางใจอย่างรุนแรงไม่ใช่โรคใหญ่อะไร ฉันมีความมั่นใจที่จะพาเขาก้าวผ่านไปได้ ส่วนเรื่องที่ว่าคนที่ชื่อหวางย่าเฟยนี้จะสามารถรักษาสภาพจิตใจให้เป็นปกติในอนาคตหนึ่งปีข้างหน้าได้หรือเปล่านั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเขา ถ้ามีอะไรผิดพลาดนายก็ว่าไปตามระเบียบ สิ่งที่ฉันขอเมื่อกี้เป็นเพียงคำแนะนำเล็กๆในมุมของหมอที่ไม่อยากให้ประเทศเราสูญเสียคนเก่งๆ” 

 

 

“ได้” 

 

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ถึงอวี๋หมิงหลางจะเสียดายในความเก่ง แต่ก็ไม่มีทางปล่อยปละละเลย 

 

 

“คุณทำเพื่อเขามากขนาดนี้ อยากให้ผมบอกเขาเพื่อที่เขาจะได้มาขอบคุณคุณไหม? ยังไงช่วงเวลาหลังจากนี้เขาคงจะเกลียดคุณ เพราะการปรากฏตัวของคุณทำให้เขาเสียโอกาสเข้าร่วม011ไปชั่วคราว” 

 

 

อวี๋หมิงหลางเป็นห่วงผู้หญิงของตัวเองมาก เรื่องนี้เธอจัดการได้ดีไม่มีช่องโหว่ แต่คนเดียวที่อาจต้องถูกเกลียดก็คงเป็นเธอ 

 

 

หวางย่าเฟยจะต้องเกลียดเสี่ยวเชี่ยนมากแน่นอน 

 

 

“ถ้าเขาควบคุมสัตว์ร้ายที่อยู่ในใจไม่ได้ ฉันทำแบบนั้นไปก็เท่ากับช่วยให้พวกนายได้เห็นธาตุแท้ของคน ถ้าเขาควบคุมอารมณ์ที่อยู่ในใจได้ วันหน้านายก็จะได้ผู้ช่วยเก่งๆเพิ่มเข้ามา ส่วนเขาจะคิดยังไงกับฉันก็ช่าง ฉันถูกคนอื่นเรียกว่าผู้หญิงเลวไม่ใช่แค่เรื่องวันสองวัน” 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนทำแบบนั้นก็เพราะหน่วยที่หวางย่าเฟยต้องการเข้าเป็นหน่วยของผู้ชายของเธอ เธอไม่มีทางปล่อยให้เกิดอะไรที่เป็นภัยต่อผู้ชายของเธอภายใต้ความสามารถที่เธอควบคุมได้ 

 

 

อวี๋หมิงหลางรู้สึกเลือดร้อนขึ้นมากับคำพูดของเธอ คนอื่นไม่เข้าใจเธอ แต่เขาเข้าใจ 

 

 

“คุณเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในใจผม ไม่มีหนึ่งใน” คำพูดจากใจจริงของเขาทำให้ใบหน้าเสี่ยวเชี่ยนจากเดิมที่เรียบเฉยกลายเป็นแดงระเรื่อขึ้นมา 

 

 

เสียวเหม่ยเปลี่ยนไปไม่น้อยจริงๆเพื่อเขา 

 

 

เธอใช้วิธีในแบบของตัวเองแสดงความรู้สึกที่มีต่อเขาอีกแล้ว 

 

 

อวี๋หมิงหลางอดทนต่อความรู้สึกที่เอ่อล้นในใจไม่ไหว เขาเดินเข้าไปกอดเธอแล้วพูด “ขอบคุณนะ ขอโทษด้วย” 

 

 

“หืม?” สองคำนี้ทำไมเอามาพูดด้วยกัน? 

 

 

“ขอบคุณในสิ่งที่คุณทำให้ผมทุกอย่าง ขอโทษที่ก่อนหน้านี้ผมพูดว่าคุณไม่แคร์ผม เพราะตอนคุณเขียนจดหมายหาผม ไม่ได้ใช้คำพูดสวยๆอะไรมากมาย ผมผิดไปแล้ว ขอโทษนะเสียวเหม่ย ผมมีความสุขมากที่ตัวเองได้ครอบครองผู้หญิงที่เก่งแบบนี้” 

 

 

เสียวเหม่ยของเขาเข้าใจทุกอย่างดีจนทำให้เขาเป็นห่วง 

 

 

เธอไม่ค่อยใช้คำพูดบรรยายความรู้สึกตัวเองเท่าไร แต่สิ่งที่เธอทำล้วนทำเพื่อเขา 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนถูกเขากอดจนรู้สึกอบอุ่นใจ สิ่งที่เสียสละไปได้รับการตอบแทน นี่คือความสุขอย่างหนึ่ง เธอไม่ต้องการให้ใครมาเข้าใจ ทุกคนจะบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงเลวก็ไม่เป็นไร 

 

 

ขอแค่เขาเข้าใจเป็นพอ 

 

 

ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น แค่กอดแน่นๆก็พอ 

 

 

ถ้าไม่ติดว่าสถานที่ไม่เหมาะ อวี๋หมิงหลางอยากจะทำเรื่องที่ตอนอยู่โรงแรมทำไม่สำเร็จปิดจ๊อบมันเสียที่นี่ ตอนนี้บรรยากาศดีมาก ผู้หญิงของเขาอยู่ในอ้อมอกอย่างว่าง่าย ถ้ามีชุดเครื่องแบบยั่วยวนอะไรแนวๆนั้น ก็จะจัดการทำสงครามอันเร้าใจท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้ข้างผังจำลองสนามรบนี่แหละ คงจะดีไม่น้อย 

 

 

เสียงรถติดอาวุธของทหารดังมาอยู่ไม่ไกล ได้ฉุดให้หนุ่มสาวที่กำลังอยู่ในภวังค์แห่งรักกลับมาสู่โลกความจริง 

 

 

อวี๋หมิงหลางปล่อยเธออย่างอิดออดแล้วบ่นกับผังจำลองสนามรบ 

 

 

“รอถึงตอนทำบ้านก่อนเถอะ จะสร้างโต๊ะกับผังจำลองสนามรบแบบนี้เป๊ะๆเลยคอยดู จะต้องสานฝัน ‘ท่องเที่ยวในแดนมหัศจรรย์’ ชดเชยวันนี้ให้ได้” 

 

 

ทิวเขาที่อยู่บนผังจำลอง ทรวดทรงอันสวยงามของเธอ หากมาอยู่ด้วยกันได้ ขอโต๊ะพับที่ใช้ในสนามอีกตัว ไม่ต้องหรอกเตียง ใช้โต๊ะก็ได้ รับรองแจ่ม 

 

 

อวี๋หมิงหลางขับรถอย่างเงียบๆอยู่ในสมองของตัวเอง 

 

 

ถึงแม้เสี่ยวเชี่ยนจะไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาคิดอะไร แต่จากแววตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์ของเขานั้น ดูเหมือนเธอจะได้สัมผัสกับความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง 

 

 

เธอรู้สึกว่าตัวเองน่าจะกำไรแล้ว ตอนนี้เขามีทั้งความสุขุมในแบบชาติที่แล้ว ทั้งความซุกซนของเด็กผู้ชาย สองนิสัยในตัวคนๆเดียวที่ขัดแย้งกันนี้กลับดึงดูดความสนใจของเธอ 

 

 

อันที่จริงเสี่ยวเชี่ยนอยากอยู่ต่อ ฮอร์โมนเสน่ห์ของอวี๋หมิงหลางยามอยู่ในค่ายแทบจะทะลุปรอท ดึงดูดสายตามาก แต่เธอรู้ว่าอวี๋หมิงหลางยังมีงานอีกมากต้องทำ หลังจากที่ตกลงทุกอย่างเสร็จแล้วเธอกับศาสตราจารย์หลิวก็กลับ นัดกันไว้ว่าหลังจากการทดสอบเสร็จสิ้นจะมาจัดการเรื่องที่เหลือ 

 

 

อวี๋หมิงหลางอยากไปส่งเสี่ยวเชี่ยน แต่เขายังมีงานอีกมาก จึงทำได้แค่ให้คนไปส่งแทน 

 

 

คนๆนั้นก็คือหัวหน้าหวาง 

 

 

ไปส่งเสี่ยวเชี่ยนกับศาสตราจารย์หลิวขึ้นรถ อยู่ๆหัวหน้าหวางก็เรียกเสี่ยวเชี่ยน 

 

 

“เสี่ยวเฉิน หนูมีแฟนหรือยัง?” 

 

 

“หา?” 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนอึ้ง 

 

 

“คืออย่างนี้นะ ลูกชายลุงอายุพอๆกับหนูเลย เรียนอยู่ที่เดียวกันด้วย หนุ่มๆสาวๆเป็นเพื่อนกันไว้ก็ดี หนูคิดว่างั้นไหม?” 

 

 

หัวหน้าหวางยิ่งมองเสี่ยวเชี่ยนก็ยิ่งพอใจ อายุยังน้อยแต่อนาคตไหล หน้าตาบุคลิกก็ดี เลยอยากถามให้ลูกชาย 

 

 

ศาสตราจารย์หลิวขึ้นรถไปแล้ว จึงไม่ได้ยินบทสนทนานี้ เดิมเสี่ยวเชี่ยนอยากบอกว่าไม่มีแฟนแต่มีคู่หมั้น แต่หัวหน้าหวางก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน 

 

 

“ลุงถามศาสตราจารย์หลิวแล้วนะ ดูเหมือนครอบครัวหนูจะฐานะปานกลาง แต่ครอบครัวเราไม่ได้มองเรื่องฐานะ ถ้าหนูโอเคลุงจะไปบอกลูกลุง แล้วจะได้นัดเจอกัน” 

 

 

“……” คำพูดที่ทำเหมือนเห็นใจแบบนี้น่าโมโหจริงๆ 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าหัวหน้าหวางคนนี้เป็นทหารมานานถึงได้พูดจาตรงไปตรงมาไม่ต้องคิดหลายตลบ คงไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่เธอฟังแล้วรู้สึกไม่ค่อยโอเค 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนตัดสินใจลองแกล้งเล่นดู “เรื่องนี้ถามหนูไม่ได้ค่ะต้องไปถามหัวหน้าอวี๋ ถ้าเขาโอเคหนูก็สะดวกหมดค่ะ” 

 

 

พูดจบก็ไม่สนท่าทีของหัวหน้าหวางเดินขึ้นรถทันที 

 

 

ไปถามสิ แค่ผู้ชายวัยกลางคนตัวแค่นี้ส่งไปให้เสี่ยวเฉียงจัดการซะ ฉายาราชาจอมหึงของเสี่ยวเฉียงไม่ใช่เรียกกันเล่นๆนะ 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนคิดแบบร้ายๆ