บทที่ 33 โดนปล้น + บทที่ 34 ข้าผิดไปแล้วจริงๆ

ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน

บทที่ 33 โดนปล้น + บทที่ 34 ข้าผิดไปแล้วจริงๆ Ink Stone_Romance

บทที่ 33 โดนปล้น

สิ่งที่เกิดขึ้นถัดมาคือหยางเล่อเล่อเห็นหนิงเมิ่งเหยาที่ดูใจดีและอ่อนแอยื่นมือออกไป แล้วเหวี่ยงอันธพาลไปด้านข้าง

หยางเล่อเล่อมองภาพตรงหน้าพร้อมอ้าปากค้าง ตาเบิกกว้าง นางเผลอยกมือขยี้ตาตัวเอง สงสัยว่าตนตาฝาดไปหรือไม่ ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนั้น เหตุใดนางจึงเห็นหนิงเมิ่งเหยาที่ดูอ้อนแอ้นกลายเป็นคนละคน

หนิงเมิ่งเหยาไม่ทันมองสีหน้าของหยางเล่อเล่อ นางมัวแต่มองยังอันธพาลที่ยืนตัวสั่นไปทั้งตัว “เจ้าจะขโมยเงินพวกเรารึ อยากเสวยสุขกับพวกเรารึ ข้าจะให้เจ้าได้เสวยสุข”

หนิงเมิ่งเหยาพูดพร้อมยกเท้าขึ้นถีบท้องอันธพาลที่มองจ้องนางอย่างระแวง ร่างของอันธพาลลอยเหมือนว่าวที่สายป่านขาดสะบั้น

หนิงเมิ่งเหยาหันไปมองทางหยางเล่อเล่อ “เก็บของพวกนี้แล้วไปกันเถอะ”

หยางเล่อเล่ออ้ำอึ้งผงกศีรษะพลางหอบของเดินไป นางเดินไปจนถึงบริเวณที่มีคนเยอะจึงเพิ่งตระหนักว่าตนเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว นางทิ้งหนิงเมิ่งเหยาไว้เพียงลำพังได้อย่างไรกัน

ในขณะที่นางอยากจะย้อนกลับไป ก็มีเสียงร้องเรียกและกรีดร้องทั้งแหลมและต่ำดังขึ้น

“อ๊า พวกจรจัด!”

“ตีพวกจรจัดให้ตายไปเลย!”

หยางเล่อเล่องุนงง ทำไมถึงมีคนจรจัดอยู่แถวนี้เล่า เมื่อนางชะเง้อมองไป นางพลันนึกเกลียดที่ตนหาอะไรมาแทงตาตัวเองให้บอดเสียเลยมิได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน เหตุใดจึงมีคนล่อนจ้อนสองคนวิ่งอยู่บนถนน

“เจ้ามองอะไรรึ”

เสียงที่ดังไม่ให้ตั้งตัวทำหยางเล่อเล่อตกใจเกือบจะโยนของในมือทิ้ง นางหันไปมองอีกฝ่ายแล้วต้องเอามือทาบอก “เจ้าทำข้าตกใจหมด”

“เจ้าขวัญอ่อนปานนั้นเชียว ไปกันเถอะ เราควรกลับกันได้แล้ว” หนิงเมิ่งเหยากล่าวเย้า

หยางเล่อเล่อหันไปมองอีกด้านแล้วเห็นความวุ่นวายด้านหลัง จากนั้นก็มองหนิงเมิ่งเหยา แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้กล่าวอะไร

“เจ้าไม่อยากถามรึ”

“ข้าสนใจความจริงที่ว่าเจ้ารู้ศิลปะป้องกันตัวมากกว่า” หยางเล่อเล่อตอบเหนียมๆ

“ข้ารู้เพราะ…ข้าศึกษาไว้บ้างไม่กี่ปี เอาไว้ป้องกันตัว” หนิงเมิ่งเหยาเหม่อตอนตอบหยางเล่อเล่ออย่างไม่จริงจัง แววตานางดูอิดโรย

ศิลปะป้องกันตัวที่นางฝึกนั้นได้หลิงหลัวสอนเพราะเขาบอกว่าเขาอยากให้นางปกป้องตัวเองได้ ตั้งแต่นั้นมา นางมักตามเขาไปฝึกวิชาป้องกันตัวด้วยกัน ตอนนี้นางปกป้องตัวเองได้แล้ว แต่ชายผู้นั้นกลับไม่ได้มาเห็น

เฉียวเทียนช่างมองสองดรุณีเดินจากไปด้วยรอยยิ้มเปี่ยมล้นในแววตา

ตอนเขาเห็นหนิงเมิ่งเหยากับหยางเล่อเล่อโดนขวางทาง เขาตั้งใจจะลงไปช่วย แต่เขาช้าไปก้าวหนึ่งและได้เห็นอีกด้านของหญิงสาวที่ไม่ได้สงบเสงี่ยมเรียบร้อย เขาอดยอมรับไม่ได้ว่าด้านนี้ของนางช่างน่าสนใจโดยแท้

“ท่านมองอะไรอยู่ขอรับ นายท่าน” คนข้างกายเฉียวเทียนช่างมองลงไปข้างหลัง ใบหน้าระบายยิ้ม เขามองพื้นข้างล่างอย่างประหลาดใจแต่กลับไม่เห็นอะไรเลย

เมื่อเหลือบมองไปยังคนข้างกาย สีหน้าเฉียวเทียนช่างไม่แสดงอารมณ์ เขาเหล่ชายอีกคน “เจ้าลงมาทำอะไรข้างล่าง”

“นายท่าน อย่าทำแบบนี้สิ ข้าตามหาท่านจนเหนื่อยไปทั้งตัวถึงจิตวิญญาณแล้วขอรับ” ชายคนนั้นมองเฉียวเทียนช่างอย่างสลดพลางพึมพำตัดพ้อ

สีหน้าเฉียวเทียนช่างแปรเป็นเย็นชา ดวงตาสีเข้มลุ่มลึกยามมองอีกฝ่าย “เหลยอัน เจ้าลืมไปแล้วรึว่าข้าบอกอะไรเจ้าไว้”

เหลยอันเกร็งแล้วโน้มตัวข้ามโต๊ะมาพูดอย่างอ่อนแรง “นายท่าน เราทุกคนจำได้ทั้งนั้นแต่เราอยากรู้ทำไมท่านเป็นแบบนี้ ไม่ใช่แค่พวกเรานะขอรับ คนผู้นั้นก็อยากรู้เช่นกัน”

“เหนื่อย อยากพัก ไม่ต้องมาตามหาข้าอีก” พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นแล้วจากไป

เหลยอันอยากจะร่ำไห้แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา เขามองเฉียวเทียนช่างที่กำลังเดินไป แววตาเขามีแววโกรธ ‘บัดซบ คนพวกนั้นต้องพูดอะไรกับนายท่านแน่’ นายท่านถึงหนีมาที่ซอมซ่อแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังห้ามไม่ให้พวกเขามาตามหา

เฉียวเทียนช่างไม่ได้คิดไว้สักนิดว่าเหลยอันจะวิ่งมาหาเขาที่นี่จริง ดูท่าคนพวกนั้นจะเริ่มหมดความอดทน เขาเอามือนวดระหว่างคิ้ว ดวงตาเขามีแววอ่อนล้า

บทที่ 34 ข้าผิดไปแล้วจริงๆ

ครั้นหนิงเมิ่งเหยาและหยางเล่อเล่อกลับไปบ้าน พวกนางเห็นหยางซิ่วเอ๋อร์ยืนทำหน้าดื้อดึงอยู่ข้างประตูบ้านโดยบังเอิญ

หนิงเมิ่งเหยามองหยางซิ่วเอ๋อร์อย่างไม่แยแส นางเพิกเฉยหญิงผู้นั้นแล้วหยิบกุญแจออกมาไขเปิดประตูแล้วพาหยางเล่อเล่อเข้าไปข้างใน

“ข้าบอกไปแล้วนะ ว่าอย่าเข้ามาในบ้านข้า” หนิงเมิ่งเหยาเปิดปากดักตอนหยางซิ่วเอ๋อร์อยากจะเข้ามา

หยางซิ่วเอ๋อร์ชักสีหน้ามองหนิงเมิ่งเหยาราวกับว่าโดนนางทำไม่ดีใส่ “เมิ่งเหยา ข้ารู้แล้วว่าข้าทำผิด ทำไมเจ้ายังไม่ยกโทษให้ข้าอีก ข้าจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว”

หลายวันที่ผ่านมา หยางซิ่วเอ๋อร์อยู่ไม่เป็นสุขเพราะนางทำให้เด็กหลายคนในหมู่บ้านไม่ได้เรียนกับหนิงเมิ่งเหยา

แม้ปัญหานี้จะเป็นความผิดของแม่ของเด็กพวกนั้น แต่พวกนางกลับโบ้ยความผิดทั้งหมดมาให้หยางซิ่วเอ๋อร์ จนนางโดนตราหน้าไม่ว่าจะไปไหน นางทนโดนกระทำเช่นนี้ไม่ไหวแล้ว

นางขบคิดและถึงแม้จะไม่เต็มใจ แต่นางก็จะขอโทษหนิงเมิ่งเหยา เพราะนางรู้ดีว่าต้องให้หนิงเมิ่งเหยายกโทษให้ก่อน ตนจึงจะได้เรียนรู้ทักษะความสามารถของหนิงเมิ่งเหยา และคนอื่นจะได้หยุดดูถูกนางเสียที

“เจ้าจะเป็นอย่างไรไม่เกี่ยวกับข้า ข้าให้โอกาสเจ้าไปแล้ว” ในครั้งแรกที่นางโดนหญิงคนนี้ทำลายชื่อเสียง หนิงเมิ่งเหยาไม่ได้พูดอะไรและแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

แต่หยางซิ่วเอ๋อร์กลับคิดแค่ว่านางเป็นคนที่เอาเปรียบง่ายแล้วทำซ้ำสอง หนิงเมิ่งเหยาไม่ใช่คนโง่ นางให้โอกาสคนเพียงสองครั้ง จะไม่มีครั้งที่สามหลังจากนั้น

หยางซิ่วเอ๋อร์สะดุ้ง นางอ้อนวอน “เมิ่งเหยา ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว ข้ามันโง่ ให้อภัยข้าเถอะนะ”

“เล่อเล่อ ไปบ้านของเจ้ากันเถอะ” หนิงเมิ่งเหยาไม่อยากได้ยินคำพูดของหยางซิ่วเอ๋อร์ไปมากกว่านี้ นางวางของแล้วหันไปพูดกับหยางเล่อเล่อ

หยางเล่อเล่อผงกศีรษะ หยิบเอาของที่ซื้อมาของตนก่อนจะมองหยางซิ่วเอ๋อร์ “หยางซิ่วเอ๋อร์ อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมด แล้วเจ้าฉลาดอยู่คนเดียว”

เหตุผลที่นางมาขอโทษวันนี้ไม่ต้องพิจารณาให้มากความก็เข้าใจได้ นางไม่ได้อยากขอโทษหนิงเมิ่งเหยาจากใจจริง แต่ตั้งใจจะพูดบางอย่างกับหนิงเมิ่งเหยา

“หยางเล่อเล่อ เจ้าอยากเป็นเพื่อนกับนางเพราะนางมีเงินล่ะสิ ใช่หรือไม่” หยางซิ่วเอ๋อร์อึดอัดทำอะไรไม่ถูกเพราะคำพูดของหยางเล่อเล่อ นางจึงปรายตาเยาะใส่หยางเล่อเล่อบ้าง

หยางเล่อเล่อพูดจาดั่งว่าตัวเองสูงส่งผุดผ่อง แต่ไม่ใช่ว่านางเองก็มีเจตนาแอบแฝงเหมือนกันหรอกหรือ

“อย่าคิดว่าทุกคนจะสกปรกเหมือนเจ้าสิ” หยางเล่อเล่อฉุนเฉียวพอได้ยินเข้า แต่นางไม่คิดจะแสดงออกมา

หนิงเมิ่งเหยามองหยางเล่อเล่อ มีรอยยิ้มส่งผ่านไปที่ดวงตาของเธอ สำหรับหยางเล่อเล่อแล้ว นางไม่เคยรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้มีเจตนาแอบแฝง จริงอยู่หยางเล่อเล่อได้อะไรจากนางไปมาก แต่ตัวนางก็ได้รับกลับมาอย่างเท่าเทียม

อย่างตอนที่พวกนางเจอกับอันธพาลข้างถนน หยางเล่อเล่อไม่อยากจะหนีไปคนเดียวแล้วทิ้งหนิงเมิ่งเหยาไว้ นางมั่นใจว่าหยางซิ่วเอ๋อร์ไม่มีวันทำแบบเดียวกัน ถ้าเป็นหยางซิ่วเอ๋อร์คงจะผลักนางลงหลุม

หยางซิ่วเอ๋อร์ไม่ตอบไปครู่หนึ่งจนเพิ่งสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น หนิงเมิ่งเหยาลงกลอนประตูและเดินไปกับหยางเล่อเล่อแล้ว

นางมองแผ่นหลังของสองหญิงสาวที่เดินจากไปพลางกัดฟันกรอด หยางซิ่วเอ๋อร์เกลียดหยางเล่อเล่อสุดใจ ถ้ามีโอกาสเมื่อใด นางจะทำให้หยางเล่อเล่อเสียใจที่ทำกับนางเช่นนี้

หยางจู้และคนอื่นในบ้านขมวดคิ้วพอเห็นว่าหยางเล่อเล่อซื้อของมามากมาย พวกเขาดุนาง “เล่อเล่อ เจ้าทำตัวแบบนี้ได้อย่างไร เงินของหนิงเมิ่งเหยาไม่ได้พัดมากับสายลมนะ”

หยางจู้เข้าใจว่าหนิงเมิ่งเหยาซื้อของให้นาง เขาจึงไม่ชอบใจ

หยางเล่อเล่ออึ้งไปขณะมองบิดาของตน ก่อนจะกล่าวเสียงซึมกะทือ “ท่านพ่อ ของพวกนี้ข้าซื้อมาด้วยเงินที่ข้าหามาได้เอง”

“หืม”

นางหยางเห็นบุตรสาวท่าทางแปลกไป “งานเย็บปักเจ้าขายได้เท่าไร แล้วเจ้าไม่ได้คืนเงินให้เมิ่งเหยาหรือ” พอหยางจู้ดุด่าจบ นางหยางก็ตามมา

“จริงด้วย เล่อเล่อ” หยางอี้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มองน้องสาวตนพร้อมย่นหัวคิ้วไม่เห็นด้วย

หยางเล่อเล่อมองหนิงเมิ่งเหยาอย่างผู้ถูกกล่าวหาและกล่าวอย่างเศร้าสร้อย “เหยาเหยา เจ้าดูสิ พอเจ้ามาที่บ้านข้า ข้าก็ไม่มีที่ยืนอีกเลย ท่านพ่อท่านแม่ข้าเป็นของเจ้าไปแล้ว พี่ชายข้าก็กลายเป็นของเจ้า ทำไมข้าน่าสงสารเช่นนี้” หยางเล่อเล่อพูดพร้อมแสร้งปาดน้ำตาที่ไม่ได้อยู่บนหน้านาง