หากว่าเป็นก่อนหน้านี้ พวกนางจะต้องตะคอกตำหนิเป็นแน่ แต่ตอนนี้อ๋องเจ๋ออยู่ พวกนางแทบอยากจะให้กู้ชูหน่วนทำให้ตัวเองตายไปซะ

กู้ชูหลันจงใจตำหนิเบาๆว่า “ท่านพี่ ทำไมท่านถึงแต่งตัวแบบนี้อีกแล้ว ต่อหน้าอ๋องเจ๋อ ท่านจะก่อความวุ่นวายไม่ได้ ท่านอ๋องเจ๋อเพคะ ท่านพี่เป็นเช่นนี้มาตลอด ยังหวังว่าท่านจะไม่ถือสาถึงจะได้เพคะ”

กู้ชูหน่วนกลอกตาขาว

อะไรที่เรียกว่าอีก?

ความบริสุทธิ์ไม่มีแล้ว นางยังจะเกาะแกะอ๋องเจ๋ออย่างไม่ละอายใจอีก ก็ไม่รู้ว่านางเอาความมั่นใจมาจากไหน

“น้องสาว เจ้าพูดเช่นนี้ ก็เพราะรู้ว่าอ๋องเจ๋อจะมา ดังนั้นข้าจึงได้ตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษ พวกเจ้าดูชุดของข้า ข้าแต่งตัวเป็นพิเศษ สวยหรือไม่?”

สวย?

“อ๋องเจ๋อเพคะ พวกเราถึงอายุที่จะต้องแต่งงานแล้ว เมื่อไหร่ท่านจะมาขอข้าแต่งงานอย่างเป็นทางการล่ะเพคะ”

กู้ชูหน่วนขยับไปทางอ๋องเจ๋อ ตั้งใจจะหกล้ม ผ้าคลุมหน้าบนใบหน้าถูกลมพัดร่วงตก เผยให้เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ที่น่ากลัวเป็นที่สุด ขยายใหญ่อยู่ต่อหน้าอ๋องเจ๋อ

อ๋องเจ๋อตกใจจนถอยหลังติดกันหลายก้าว จิตใจเต้นรัวสองสามครั้ง

นั่นเป็นใบหน้าที่อัปลักษณ์เพียงไร หลุมบ่อบนใบหน้า ตุ่มหนองเล็กใหญ่ทุกชนิดสลับกับทั่วทั้งใบหน้า แม้แต่จุดที่ดีโดยสมบูรณ์สักจุดหนึ่งก็ไม่มี

ที่น่าขยะแขยงที่สุดคือ นางทารองพื้นและเครื่องสำอางปัดหน้าสีแดงปริมาณมากบนตุ่มหนอง ดูแล้วเหมือนผีเช่นนั้น

เมื่อเห็นใบหน้านี้ อ๋องเจ๋อแทบจะอ้วกออกมา ความสุภาพสุขุมที่มีบนใบหน้าที่หล่อเหลามาโดยตลอดนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรังเกียจ

“กู้ชูหน่วน ข้าจะบอกเจ้า ข้าแต่งงานกับใครก็จะไม่แต่งงานกับเจ้า ข้าจะไปขอพระราชโองการกับฮ่องเต้เดี๋ยวนี้ เรื่องการแต่งงานของพวกเราสองคนก็ยกเลิกตอนนี้ หลังจากนี้เจ้าก็อย่าเกาะแกะข้าอีก”

“การแต่งงานของพวกเราเป็นการพระราชทานของอดีตฮ่องเต้ เกรงเพียงแต่ว่าฮ่องเต้จะไม่มีอำนาจในการยกเลิกการแต่งงานน่ะสิเพคะ อ๋องเจ๋อ ข้าว่าพวกเราทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตถูๆไถๆกันไปก่อนเถอะเพคะ เพื่อเลี่ยงที่จะหาความลำบากใส่ตัว”

โดยปกติแล้วนางขี้ขลาด พบเจอเขาแม้แต่ศีรษะก็ไม่กล้าเงย ตอนนี้กลับพูดวาจาที่หยิ่งยโสออกมา อ๋องเจ๋อสั่นไปทั้งตัวด้วยความโกรธ

ผู้หญิงอัปลักษณ์คนนี้ เพราะนางมั่นใจว่าเรื่องการแต่งงานนี้ไม่สามารถสั่นคลอนได้หรือ?

“เจ้าก็รอพระราชโองการถอนหมั้นเถอะ”

อ๋องเจ๋อโกรธจนหน้าเขียว สะบัดแขนเสื้อแล้วจากไป ทิ้งให้บรรดาผู้คนตกตะลึงปากอ้าตาค้าง

กู้ชูฉิงรีบไล่ตามไปทันที กล่าวเอาใจ “ท่านอ๋องเจ๋อเพคะ ข้าก็คิดว่าท่านพี่ไม่คู่ควรกับท่าน ข้าสนับสนุนให้ท่านยกเลิกการหมั้นเพคะ”

กู้ชูหลันกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างเสแสร้ง “ท่านพี่ แม้ว่าอ๋องเจ๋อจะไม่แต่งงานกับท่าน ท่านก็ไม่ต้องเสียใจ ด้วยอำนาจอิทธิพลครอบครัวของพวกเรา แม้ว่าท่านจะหน้าตาน่าเกลียดไปหน่อย ก็ยังมีคนอีกมากมายอยากแต่งงานกับท่าน”

กู้ชูหน่วนนั่งลงบนเก้าอี้ ฉวยหยิบองุ่นบนโต๊ะกินเหมือนได้เสพสุขเช่นนั้น ในปากก็พ่นประโยคหนึ่งออกมาอย่างไม่สนใจ

“นั่นก็ใช่ แม้ว่าท่านอ๋องเจ๋อจะไม่แต่งงานกับข้า เขาก็จะไม่แต่งงานกับเจ้าเด็ดขาด แน่นอน พวกขุนนางชั้นสูงตระกูลสูงศักดิ์เหล่านั้นก็จะไม่แต่งงานเอาหญิงที่สูญเสียความบริสุทธิ์ไปเป็นภรรยา”

“เจ้า……..”

กู้ชูหลันโมโหและอับอายเป็นอย่างยิ่ง

ท่านพ่อก็พูดแล้ว เรื่องที่นางถูกทำลายความบริสุทธิ์จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ แต่นางกลับพูดออกมาต่อหน้าคุณชายตระกูลเซียวโดยตรง อนาคตจะให้นางทำอย่างไร?

กู้ชูหน่วนตระหนักได้อย่างฉับพลัน พูดด้วยเสียงดังว่า “อ๋อ ข้าเกือบลืมไปแล้ว ท่านพ่อเคยบอกว่า ไม่สามารถเอาเรื่องที่เจ้ามั่วโลกีย์กับคนรับใช้พูดออกมาได้ เลี่ยงไม่ให้เจ้าแต่งงานไม่ได้ในอนาคต วางใจได้วางใจได้ ข้าจะไม่พูด ยิ่งจะไม่พูดว่าเจ้ามั่วโลกีย์กับคนรับใช้หลายคนในครั้งเดียว”

เซียวหยู่เซวียนกล่าวด้วยความตกตะลึง “อะไร มั่วโลกีย์กับคนหลายคนในครั้งเดียว? จริงหรือเท็จ? ช่างดุดันเกินไปแล้วล่ะ”

กู้ชูหลันตัวสั่นด้วยความโกรธ นางไม่กล้ามองดูใบหน้าที่เยาะเย้ยและตกตะลึงของเซียวหยู่เซวียนแล้ว

“กู้ชูหน่วน บัญชีระหว่างพวกเรา ต้องมีสักวันที่ข้าจะเอาทุนคืนจากเจ้าพร้อมทั้งกำไร”

“วางใจได้ ข้าจดไว้อยู่น่ะ เจ้าก็จำไว้ว่าความบริสุทธิ์ของตัวเองไม่มีแล้ว ก็อย่าคิดปีนขึ้นไปบนยอดไม้กลายเป็นหงส์เลย เพื่อเลี่ยงไม่ให้สักวันหนึ่งจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้”

กู้ชูหลันกระทืบเท้า จากไปด้วยความแค้น

เซียวหยู่เซวียนมุมปากยกขึ้นอมยิ้มเป็นเส้นโค้ง หัวเราะเยาะเย้ยแล้วกล่าว “ผู้หญิงอย่างเจ้านี้หน้าตาไม่เท่าไหร่ แต่ปากกลับเฉียบคมมาก

กู้ชูหน่วนไม่แม้แต่จะมองเขาสักแวบ สนใจเพียงกินชาและขนมของตัวเอง

เซียวหยู่เซวียนคิดว่านางถูกถอนหมั้นต่อหน้าผู้คน ในใจจะเป็นทุกข์ แล้วก็คิดได้ว่าผู้หญิงในวัยสาวสดใสมีชีวิตชีวาผู้หนึ่งหน้าตาอัปลักษณ์เช่นนี้ เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกผู้คนหัวเราะเยาะเย้ยไปทุกที่

น้ำเสียงของเขาก็อ่อนลง กล่าวปลอบโยนว่า “อันที่จริงเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเสียใจ ในโลกหล้าก็ไม่ได้เพียงอ๋องเจ๋อที่เป็นผู้ชายคนเดียว ผู้ชายดีๆมีมากมาย เช่นข้า”

กู้ชูหน่วนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ท่านอยากแต่งงานกับข้า?”

“ฟู่ว……”

เซียวหยู่เซวียนแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง “ข้าไม่ได้มีความหมายเช่นนี้ ความหมายของข้าคือในโลกนี้ยังมีผู้ชายดีๆอีกมากมาย เจ้าไม่ต้องจ้องมองเพียงแค่ข้ากับอ๋องเจ๋อ”

กู้ชูหน่วนคล้องไหล่ของเขา เอาใบหน้าอัปลักษณ์ของตัวเองใบนั้นโยกไปเบื้องหน้า “เจ้าหนุ่ม ข้ายิ่งมองก็ยิ่งถูกชะตาเจ้า เราสองคนแต่งงานกันซะเลย”

เซียวหยู่เซวียนตกใจจนโซเซ ล้มลุกคลุกคลานหนีออกไปจากจวนเฉิงเซี่ยง ในปากร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัว “คุณหนูสามสวยนอกฉลาดใน อ่อนโยนกตัญญู แต่ข้าเป็นเพียงแค่ลูกผู้ดีที่คนไม่เอาไหน พวกเราดูยังไงก็ไม่คู่ควรกัน เจ้าไปหาคนอื่นเถอะ”

“ฮ่าๆ”

กู้ชูหน่วนอารมณ์ดีมาก หยิบขนมชิ้นหนึ่งขึ้นมาแล้วโยนขึ้นไป แล้วใช้ปากของตัวเองรับไว้ กินไปพลางผิวปากไปพลาง

ชิวเอ๋อร์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “คุณหนู ท่านไม่ได้ชอบอ๋องเจ๋อเป็นอย่างมากหรือเจ้าคะ? ทำไมถึงได้ทำให้เขาตกใจจนจากไป? หากว่าอ๋องเจ๋อถอนหมั้นจริงแล้วจะทำอย่างไรเจ้าคะ?”

“รสนิยมของคนเปลี่ยนไปได้ และรสนิยมของข้าก็เปลี่ยนไปแล้ว”

“คุณหนู ไม่เสียใจเลยงั้นหรือเจ้าคะ”

“เจ้าเห็นว่าข้ามีท่าทางเหมือนกำลังเสียใจหรือ?”

กู้ชูหน่วนกะพริบตาให้นาง ฉวยหยิบขนมจานหนึ่งขึ้น เดินไปทางบ้านของตัวเอง

“คุณหนู หรือว่าท่านชอบพอคุณชายเซียวแล้ว? อย่าเด็ดขาดเชียวนะเจ้าคะ แม้ว่าคุณชายเซียวจะเป็นลูกคนสุดท้องของแม่ทัพใหญ่เซียว คนก็หน้าตาหล่อเหลาเล็กน้อย แต่เขาเป็นลูกคนในตระกูลผู้ดีที่เที่ยวเล่นไปวันๆ เป็นชายเจ้าชู้ที่มีชื่อในเมืองหลวง อีกทั้งความรู้และวิทยายุทธ์ล้วนไม่ได้ช่ำชอง เป็นแค่คนไม่เอาไหนผู้หนึ่งเจ้าค่ะ”

“เจ้ากลับมีความขุ่นเคืองต่อเขาหนักหนามากงั้นหรือ”

“เขามัวเมากับความสวยงามของผู้หญิงทุกคืน ผู้หญิงข้างกายเปลี่ยนไปคนแล้วคนเล่า ก็ไม่ยอมแต่งงานกับคนอื่นเขา ทำร้ายผู้หญิงมากมาย คุณหนูท่านอย่าได้ถูกเขาหลอกเด็ดขาดนะเจ้าคะ”

“เจ้าจะรู้อะไร”

คำร่ำลือโดยปกติจะไม่เป็นจริง อย่างน้อยจากที่นางเห็น พ่อหนุ่มแซ่เซียวนั่นก็เพียงพอที่จะสลัดอ๋องเจ๋อออกไปได้ไกลอย่างไร้ร่องรอยแล้ว

นึกถึงการปลอบโยนของเซียวหยู่เซวียนเมื่อครู่ รวมถึงในตาของเขาที่ปรากฏความเห็นใจแวบหนึ่ง กู้ชูหน่วนหัวเราะเบาๆ

นอกจากชิวเอ๋อร์ เซียวหยู่เซวียนก็เป็นคนแรกที่ไม่ได้มองนางด้วยสายตารังเกียจเดียดฉันท์

ตลอดทางที่ผ่าน สาวรับใช้คนใช้ล้วนพากันวิพากษ์วิจารณ์

“พวกเจ้าว่า หลังจากที่คุณหนูสามออกไปรอบหนึ่งแล้วกลับมาก็ยิ่งโง่ไปแล้วหรือไม่ คิดไม่ถึงว่าจะแต่งตัวเป็นนกยูง ทั้งยังทำให้อ๋องเจ๋อตกใจจนหนีไปอีก”

“จะไม่ได้อย่างไร แม้ว่าตลอดมาอ๋องเจ๋อจะไม่ชอบคุณหนูสาม แต่เรื่องการแต่งงานเป็นอดีตฮ่องเต้กำหนดออกมา ไม่ว่าอ๋องเจ๋อจะไม่เต็มใจยังไง ก็ต้องกัดฟันแต่งกับนาง ได้ยินว่าครั้งนี้อ๋องเจ๋อก็มาเพื่อขอแต่งงานล่ะ”

“ถุยถุยถุย ชีวิตนี้ของคุณหนูสามนับว่าพังทลายแล้ว อ๋องเจ๋อไม่ยอมแต่งงานกับนาง หลังจากนี้ยังจะมีใครแต่งกับนางอีก”

ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็รอจนได้รับพระราชโองการถอนหมั้น

จวนเฉิงเซี่ยงที่ใหญ่โตล้วนใช้สายตาที่เห็นใจมองดูนาง มีเพียงนางที่จิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความปีติยินดี

แต่ไม่ช้า ในวังก็ส่งพระราชโองการอีกฉบับมา

“คุณหนูสามแห่งจวนเฉิงเซี่ยงอ่อนโยนละเอียดอ่อน ภายนอกงดงามภายในฉลาด พระราชทานการแต่งงานกับอ๋องหานเป็นการพิเศษ การแต่งงานที่ยิ่งใหญ่จะจัดขึ้นในวันที่หนึ่งของเดือนหน้า

ตื๊ด ได้ยินข่าวสารนี้ ทั้งจวนเฉิงเซี่ยงอันใหญ่โตล้วนตกตะลึงแล้ว

แต่งกับอ๋อง……อ๋องหาน?

อ๋องหานก็ไม่ใช่ว่าคืออ๋องเทพสงครามเหรอ