“ดูสิ ดูสิว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังท่านประธานเป็นใคร เธอสวยและมีออร่ามากเลย!”
“ว้าว ว้าว ขาของเธอเรียวยาวมาก! พี่สาว ใช้ได้เลย!”
“นี่คงไม่ใช่คู่หมั้นของท่านประธานหรอกใช่ไหม!”
“เป็นไปได้อย่างไร? เป็นไม่ได้”
ทุกคนต่างคาดเดาเกี่ยวกับตัวตนของซูฉิง ตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันเป็นแค่หุ้นส่วน จนกระทั่งซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงแยกทางกันเพื่อไปรายงานตัวที่ฝ่ายเลขานุการ คนทั้งบริษัทก็แพร่กระจายข่าวนี้ออกไปเป็นวงกว้างในทันที
คนสวยๆที่เพิ่งมาทำงานพร้อมกับคุณฮ่อก็คือซูฉิง
ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าเหมือนโลกทั้งใบคือโลกแห่งจินตนาการ หรือว่าน้ำและดินที่บ้านนอกนั้นจะสามารถดูแลผิวพรรณได้ดีขนาดนี้?
ซูฉิงไปที่แผนกบุคคลเพื่อดำเนินการายงานตัว ในเวลานี้ คนสี่คนในแผนกเลขานุการก็กำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน
“ซูฉิงคนนั้นสวยเกินไปแล้วหรือเปล่า! เธอสวยกว่าสวีหว่านเอ๋อเสียอีก”
ร่องรอยของความรังเกียจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี่ยซิงซิงหัวหน้าแผนกเลขานุการ: “สวยแล้วจะมีประโยชน์อะไร เธอก็แค่สาวบ้านนอก คู่ควรกับประธานฮ่องั้นเหรอ”
เมื่อซูฉิงกลับมา เธอบังเอิญได้ยินเรื่องนี้พอดี ในดวงตาของเธอมีร่องรอยของการประชดประชันขึ้นมาทันที และเธอก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน “ถ้าฉันไม่คู่ควร งั้นเธอคู่ควรงั้นเหรอ?”
ใบหน้าของเซี่ยซิงซิงชะงักไปทันที และเมื่อเธอหันหลังกลับไป เธอก็ไม่กล้าที่จะลบล้างคำพูดของซูฉิงเช่นกัน เพราะยังไงซะซูฉิงก็มีสถานะเป็นคู่หมั้นของท่านประธาน
“ประธานฮ่อบอกแล้วว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของแผนกเลขานุการ เมื่อคุณมาอยู่ที่แผนกเลขานุการแล้วก็ต้องทำหน้าที่ตามนี้และยุติธรรมกับทุกคน นี่เป็นโฆษณาที่บริษัทตระกูลฮ่อกรุ๊ปจะถ่ายทำในวันนี้ คุณต้องรับผิดชอบมัน”
ซูฉิงยิ้ม จากนั้นก็รับเอกสารมาและจากไป
แล้วคนสองสามคนที่นั่นก็รวมตัวกันอีกครั้ง
“พี่ซิงซิง นั่นคือโฆษณาที่หลินหนานกำลังจะถ่ายทำไม่ใช่หรือ? ซูฉิงจะทำมันพังไหมคะ!”
ดวงตาของเซี่ยซิงซิงสว่างวาบ หลินหนานเป็นดาราชายยอดนิยม เขายังเด็กและมีอารมณ์รุนแรง ไม่มีใครทนได้ ก็ดี ถ้าซูฉิงทำการถ่ายทำโฆษณาพังในวันแรกที่เธอมาทำงาน
ซูฉิงเหลือบมองไปที่ขั้นตอนการถ่ายทำโฆษณา หลินหนาน เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะเคยได้ยินชื่อนี้มาจากไหน?
ในเวลานี้ ผู้ช่วยในห้องทำงานของฮ่อหยุนเฉิงกล่าวว่า “ท่านประธานคะ เลขาเซี่ยมอบตัวหลินหนานที่จะถ่ายทำวันนี้ให้คุณหนูซูค่ะ ท่านประธานต้องการเปลี่ยนคนดูแลไหมคะ?”
พี่ชายของหลินหนานและฮ่อหยุนเฉิงเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ทุกคนรู้นิสัยของหลินหนานดี ด้วยนิสัยที่ไม่ค่อยดีมากนัก ซูฉิงอาจถูกเขาเล่นงานเอาได้
ฮ่อหยุนเฉิงหยุดคิดชั่วคราว แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดเมื่อเช้านี้ เขาจึงกล่าวตอบกลับไปว่า “ไม่ต้อง”
เขากลับดีใจมากกว่าที่จะได้เห็นซูฉิงถูกทรมาน
การถ่ายทำโฆษณาจัดขึ้นที่ตระกูลฮ่อกรุ๊ปและซูฉิงกับผู้รับผิดชอบบางคนก็ลงไปรับหลินหนานที่ชั้นล่างในเวลานี้
รถแบล็กเบนท์ลีย์ มาถึงบริษัท แล้วหลินหนานก็เดินลงมาพร้อมกับใส่แว่นกันแดด ตอนนี้เขาอายุ 19 ปี ออร่าความเกเรของเขาแผ่ไปทั่วร่างกาย
ซูฉิงก้าวไปข้างหน้าเพื่อทักทายเขา “สวัสดี คุณหลิน ฉันชื่อซูฉิง ผู้รับผิดชอบการถ่ายทำโฆษณาในวันนี้”
หลินหนานไม่ได้ฟังสิ่งที่ซูฉิงพูดเลย แต่เพียงแค่เปิดปากของเขาและพูดว่า: “อากาศมันร้อนมากเลย คุณไม่คิดจะกางร่มให้ฉันหรืออย่างไร! คุณพร้อมสำหรับการถ่ายทำแล้วหรือยัง? เอ่อ ไปซื้อกาแฟให้ฉันก่อนเถอะ เอาร้านที่อยู่ตรงใจกลางเมือง…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบหลินหนานก็ตกใจเมื่อเขาเหลือบมองไปที่ใบหน้าของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่ตั้งใจ
“บ้าเอ๊ย พี่ชิง! ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเนี้ย!”
หลินหนานถอดแว่นกันแดดออก และยังคงมองอย่างเหลือเชื่อ
เขากอดเธออย่างตื่นเต้น
“พี่ฉิง? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่? ผู้รับผิดชอบ? ไม่ใช่ว่าพี่ต้องเดินทางไปทั่วโลกหรือว่านอนบนเตียงยาวห้าเมตรหรอกเหรอ?”
ซูฉิงลูบหัวของเขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “จ๋ายจาย ไม่เจอกันนานเลย อ่อ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ เธอยากดื่มอะไรนะ?”
“เปล่า ฉันไม่ได้พูดอะไรเลย พี่สาวอยากดื่มอะไรไหม? ฉันจะไปซื้อให้”
ทุกคนตกใจกับฉากนี้มาก
หลินหนานกอดซูฉิงและซูฉิงก็ลูบหัวหลินหนาน หลินหนานจะซื้อเครื่องดื่มให้ซูฉิงงั้นเหรอ? นี่ใช่หลินหนานผู้บ้าอำนาจที่พวกเขารู้จักอยู่หรือเปล่า?
หรือว่าเพราะซูฉิงเป็นคู่หมั้นของฮ่อหยุนเฉิง จึงทำให้หลินหนานเป็นแบบนี้ ไม่ถูกสิ หลินหนานเองก็หยิ่งมากขณะที่อยู่ต่อหน้าฮ่อหยุนเฉิง
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ จริงๆแล้วซูฉิงและหลินหนานรู้จักกันมาสองปีแล้ว
ในเวลานั้นหลินหนานอายุเพียง 17 ปี เขากำลังถ่ายหนังในชนบทใกล้กับบ้านของซูฉิง
หลินหนานถูกลักพาตัว แต่ซูฉิงช่วยชีวิตเขาไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ
ในเวลานั้น เมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อัดพวกที่ลักพาตัวเขาไปจนนอนกองกับพื้น หลินหนานคิดว่าเธอเทห์มาก
ซูฉิงพาเขากลับบ้าน และหลินหนานก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นคฤหาสน์ที่ใหญ่กว่าพระราชวังต้องห้าม
โดยรวมแล้ว ในสายตาของหลินหนาน ซูฉิงเป็นคนที่มีอำนาจ และเยี่ยมยอดมากที่สุด!
ทั้งสองเดินเข้าไปในบริษัทตระกูลฮ่อกรุ๊ป ไม่ต้องพูดถึงว่าการถ่ายทำโฆษณาวันนี่ว่าราบรื่นเพียงใดเลย
หลินหนานไม่ชอบเสื้อผ้าที่น่าเกลียด แต่พอชูฉิงบอกว่าดูดี เขาก็ไม่บ่นอะไรอีกเลย
หลินหนานจะทำผิดอะไร แต่พอซูฉิงมองแค่แวบเดียวเขาก็ไม่กล้าทำอะไรผิดแล้ว
ที่จ๋ายจายขี้ขลาดขนาดนี้ เพราะว่าเขากลัวว่าซูฉิงจะทำร้ายคน!
ตอนแรกคาดไว้ว่าห้าชั่วโมงจะสิ้นสุดการถ่ายทำ แต่เพราะความร่วมมือจากหลินหนานจึงถ่ายทำเสร็จภายในสองชั่วโมง
หลังจากถ่ายทำโฆษณาเสร็จ หลินหนานก็ได้ดึงซูฉิงมาและพูดว่า “พี่ฉิงไปกันเถอะ ฉันเลี้ยงข้าวพี่เอง!”
“ไม่กิน พี่ยังไม่เลิกงาน!” ซูฉิงปฏิเสธเขาอย่างเย็นชา
มีบางคนจากบริษัทอยู่ข้างๆ และกลุ่มคนในบริษัทก็พูดถึงเรื่องนี้อยู่ในขณะนี้
“น่าแปลกใจ! คุณหลินเชิญซูฉิงไปทานข้าวแต่ถูกปฏิเสธ!”
“บ้าจริง ซูฉิงคนนี้มันยังไงกันแน่นะ? เป็นคนบ้านนอกแต่ไม่เพียงแค่หน้าตาดีเท่านั้นนะ แต่ยังยอดเยี่ยมมากขนาดนี้เลยเหรอ?”
“จ๋ายจายเลี้ยงข้าวฉัน! ถ้าฉันไม่มีงานเดี๋ยวจะไปกินข้าวกับเธอแล้วกันนะ!นะ นะ นะ!”
หลินหนานผู้ถูกปฏิเสธก็แทบอยากจะร้องไห้ “ไม่ใช่สิ พี่ฉิง พี่ต้องอยู่ในคฤหาสน์และท่องเที่ยวรอบโลกไม่ใช่หรอ? แล้วพี่จะมาทำงานที่ตระกูลฮั่วทำไม หรือว่าตระกูลซูกำลังจะล้มละลาย? เดี๋ยวผมเลี้ยงพี่เอง!”
ซูฉิงกลอกตาใส่เขา: “โลกของพี่ เธอไม่เข้าใจหรอก!”
จากนั้นซูฉิงก็กลับไปที่แผนกเลขานุการและทำงานต่อ
ทุกคนคิดว่าหลินหนานน่าจะโกรธและจากไป แต่ฉากที่แปลกประหลาดยิ่งขึ้นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง นายน้อยที่ไม่ชอบรอคนอื่น แต่เขากลับรอซูฉิงเลิกงานอยู่ในห้องรับรอง
เมื่อถึงเวลาเลิกงานแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงก็ออกมาจากห้องทำงานและพูดกับซูฉิงที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ว่า “คุณปู่จองร้านอาหารไว้แล้ว ไปทานอาหารเย็นด้วยกัน ไปกันเถอะ”
ฮ่อหยุนเฉิงไม่ต้องการไป แต่ชายชรามีอาการหัวใจวาย และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อไม่นานมานี้ ระหว่างการสนทนาทางวิดีโอ ชายชราขู่ว่า: “ถ้าแกไม่ไป ฉันจะดึงเข็มออก”
ฮ่อหยุนเฉิงที่ถูกบังคับก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตกลง
ในขณะนี้ หลินหนานก็เดินเข้ามาพอดี
“พี่ฉิง พี่ฉิง เลิกงานแล้ว ไปทานข้าวเย็นกันนะ?”
หลังจากเข้ามา หลินหนานก็ตระหนักว่าฮ่อหยุนเฉิงก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน
“พี่ฮ่อ?”
พี่ฉิง? ฮ่อหยุนเฉิงมองไปที่ทั้งสองคนด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
ซูฉิงชะงักไปครู่หนึ่ง “งั้นก็ไปด้วยกันไหม?”
และในที่สุด ทั้งสามคนก็มาถึงร้านอาหารตามคำสั่งของคุณปู่ฮ่อ
ระหว่างทาง หลินหนานก็ยังคงพูดมากไม่หยุด และซูฉิงก็ตอบเขาเป็นครั้งคราว
หลังจากมาถึงร้านอาหารแล้ว หลินหนานก็ใส่ใจมากขึ้น โดยดึงเก้าอี้ให้ซูฉิงและตักอาหารต่างๆให้เธอ
ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกเหมือนเป็นเขาเป็นแค่คนนอกเท่านั้น
“ว่าแต่ พี่ฉิง ทำไมคุณถึงมาทำงานในบริษัทตระกูลฮ่อกรุ๊ปล่ะ? และพี่กับพี่ฮ่อมีความสัมพันธ์อะไรกันเหรอ?”
หลินหนานมีสัญชาตญาณเสมอว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองไม่ใช่เรื่องธรรมดา
ซูฉิงเหลือบมองฮ่อหยุนเฉิง “คุณปู่สั่งให้ฉันมา เขากับฉัน เป็นคู่หมั่นกัน”
หลินหนานถึงกับพ้นน้ำในปากออกมา