บทที่ 21 คำขอโทษ

ไหปีศาจ

บทที่ 21 คำขอโทษ

ลั่วอู๋โมโหจนรู้สึกเหมือนอยากจะชกใครสักคนด้วยความโกรธ

เพราะสูตรดังกล่าวนี้มันน่าสมเพชเกินไป

“นี่ก็เพื่อสิ่งที่ข้าต้องการเช่นกัน”

ลั่วอู๋ทิ้งสมุนไพรเลือดปะทุและรองเท้าหนังลงไปในส่วนต่อประสานการสังเคราะห์

ซึ่งการทำแบบนี้ยังคงเป็นการทดลองปลายเปิดมั่ว ๆ นั่นคือแปลว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ลองโยน ๆ ของสุ่มๆ เข้าไปก่อนแล้วค่อยลองทำดูว่าจะได้ผลแบบไหน

บางทีเขาอาจจะได้อะไรประหลาด ๆ กลับมาก็เป็นได้

[ได้รับ ดาบเลือดเดือด (ระดับตำนาน), แต้มเซียน + 5]

ดาบเลือดเดือดนั้นมีความยาวกว่าสามฟุต ใบมีดสีแดงสดราวกับมันเปื้อนด้วยเลือดของมนุษย์ และมีร่องในด้ามซึ่งดูแปลกประหลาด

หญ้าวิญญาณผสมรองเท้าหนังออกมาได้เป็นดาบอย่างนั้นหรือ

ในเมื่อไหปีศาจสามารถปรับแต่งได้ทุกสิ่ง เขาก็จะรับมันไว้อย่างไม่เกรงใจ

อาวุธวิญญาณและชุดเกราะวิญญาณทุกชนิดเองก็แบ่งออกเป็นสี่ระดับ สวรรค์ ปฐพี ตำนาน และทอง

ดาบเลือดเดือดนั้นอยู่ในระดับตำนาน เป็นผลิตภัณฑ์ระดับกลางที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับได้ ไม่ได้ดีมากแต่ก็ถือว่าดี

ลั่วอู๋ออกจากมิติไห หลังจากอยู่ในนั้นมานานกว่า 7 วัน ตอนออกมาเขาค่อนข้างเหนื่อยเล็กน้อย

เนื่องจากความเร็วของช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ในมิติไหใช้เวลา 7 วัน ส่วนโลกภายนอกนั้นเวลาผ่านไปเพียง 2 วัน

เขาเดินออกจากห้องแล้วไปที่โถงของศาลาไป่หยู่

“นายน้อยกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ” หลี่หยินออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มสดใส

แมวผีในอ้อมแขนของนางดูเหมือนจะตัวใหญ่กว่าเดิมมาก ที่ผ่านมาหลี่หยินทำตามคำสั่งของลั่วอู๋ นางคอยป้อนยาวิญญาณให้มันทุก ๆ 2-3 วัน

คงเป็นเพราะเหตุนี้แมวผีจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว

ลั่วอู๋พยักหน้าให้เบาๆ “หลี่หยิน เจ้าช่วยออกไปซื้อรองเท้าหนังคู่หนึ่งใหม่ให้ข้าที ข้างนอกนั่นน่าจะมีของที่มีคุณภาพดีกว่านี้”

“นายน้อยต้องการรองเท้าหนังเหรอเจ้าคะ แต่การแต่งตัวแบบปกติของท่านไม่เข้ากับรองเท้าหนังวัวเลยนะเจ้าค่ะ” หลี่หยินถาม

“เจ้าซื้อมันมาเถอะ มันเป็นประโยชน์สำหรับข้า” ลั่วอู๋ตอบ

ได้ยินดังนั้นหลี่หยินพยักหน้า “เจ้าค่ะ”

จากนั้นลั่วอู๋ก็นำดอกไม้ฟีนิกซ์เก้ากลีบออกมา “เอาดอกไม้ฟีนิกซ์เก้ากลีบนี้ไปวางไว้ที่หน้าร้าน ตั้งราคามันไว้ที่ 7000 หินวิญญาณ”

ดอกไม้ฟีนิกซ์เก้ากลีบนั้นเต็มไปด้วยเปลวไฟและมีรากที่เรียวยาว ราวกับว่าเก้านกฟีนิกซ์กำลังโลดแล่นอยู่ในเปลวเพลิงและบินวนอยู่รอบ ๆ กลีบดอกไม้

“ดอกไม้ฟีนิกซ์เก้ากลีบ!” มู่เถากลืนน้ำลายของเขา “เจ้าของร้านท่านไปหาหญ้าวิญญาณขั้นสูงชนิดนี้จากที่ไหนกัน เจ้านี่มันของดีมากเลยนะขอรับ”

“โอ้ ใช่”

“……”

“เอาดาบเล่มนี้ไปห้อยเอาไว้ด้วย เผื่อมีใครอยากจะซื้อตั้งราคาอยู่ไว้ที่ 500 หินวิญญาณ ถ้าใครต้องการซื้อโปรดเรียกข้าด้วย ข้าจะดูว่ามีโอกาสขึ้นราคารึเปล่า”

“นี่คือ…”

“ข้าก็เก็บมันมาได้เช่นกัน”

มู่เถาแอบคิดในใจว่าเขานั่งอยู่แต่ในห้องตลอดสองวัน จะเอาเวลาไปที่ไหนได้ อีกอย่างต่อให้มีเวลาไปข้างนอกเขาก็ดวงดีเกินไปรึเปล่า เขาเก็บหญ้าวิญญาณระดับสูงได้ตามใจสั่งรึไง

ถึงจะยังสับสนแต่มู่เถาก็ทำตามคำสั่งของลั่วอู๋ เขาวางดอกไม้ฟีนิกซ์และดาบเลือดเดือดไว้บนหน้าร้าน

แม้ว่าที่นี่จะเป็นโลกแห่งสัตว์วิญญาณ แต่ดาบจิตวิญญาณเองก็ยังมีตลาดของตัวเอง

ในอดีต ก่อนที่จะเป็นยุคทองของสัตว์วิญญาณ พลังวิญญาณนั้นค่อนข้างบอบบาง ผู้คนจำนวนมากจึงต้องเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้เพื่อป้องกันตัวเอง อาวุธอย่างมีดและดาบจึงยังคงเป็นที่นิยม

เนื่องจากเหตุการณ์แมงป่องทรายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ชื่อเสียงของศาลาไป่หยู่ได้ถูกเปิดตัวอย่างโด่งดังและธุรกิจที่ผ่านมาก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่

ขนาดร้านค้านั้นเล็กเกินไปและปริมาณสินค้าก็น้อยเกินไป

บางคนถึงกลับไปที่หอคอยหวงชาหรือศาลาไป่เปาโดยตรง หลังจากเข้าไปในร้านเพียงแค่รอบเดียวเพราะพวกเขาไม่สามารถซื้อสิ่งที่ต้องการได้

“อาจถึงเวลาที่ร้านต้องขยายขนาดของร้านค้าและรับสมัครคนเพิ่มแล้วสินะ” ลั่วอู๋คิดพลางจับคางของเขา

เขายังไม่รู้ว่าการทดสอบครั้งที่สามของเจ้าของร้านคนเก่าคืออะไร

ความเข้าใจในธุรกิจของเขายังไม่ดีเท่าเจ้าของร้านคนเก่า ถ้าเจ้าของร้านคนเก่ามาช่วยเขาบ้างอะไร ๆ ก็คงจะง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้มีคนที่คุ้นเคยบางคนปรากฏตัวขึ้นมาบ้าง

คนเหล่านี้ดูเหนื่อยเล็กน้อย แต่สายตาของพวกเขาค่อนข้างแน่วแน่และยืนยืดอกหลังตรง

“ทีมเขี้ยวหมาป่างั้นหรือ” ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาที่ศาลาไป่หยู่

แน่นอนว่าไม่นานหน้านี้ ทีมเขี้ยวหมาป่ามาที่ประตูของ ศาลาไป่หยู่ ซึ่งลั่วอู๋ก็เห็นกรงเหล็กขนาดใหญ่หลายหลัง

กรงพวกนั้นถูกบังด้วยม่านบังแดดสีดำขนาดใหญ่

“เจ้าของร้านลั่ว” เพิงหงเทียน ประสานมือคำนับและกล่าวคำทักทาย

ลั่วอู๋ มองดูอย่างสงบ “ท่านเพิง ดูเหมือนว่าเพิ่งกลับมาจากการล่าสัตว์สินะ ถือว่าเร็วมาก ข้าจำได้ว่าเมื่อสองวันก่อนท่านยังอยู่ในเมืองแห่งความพินาศอยู่เลย”

“ฮะ ฮ่า” เพิงหงเทียน ยิ้ม “ก็ข้ากลัวว่าข้าจะมาไม่ทันนะสิ”

อะไรไม่ทัน

ลั่วอู๋งงงวย

จากนั้นเพิงหงเทียน ก็กระซิบว่า “ข้ามาที่นี่เพื่อทำธุรกิจกับ ศาลาไป่หยู่”

“ข้าคิดว่าคนของข้า ควรจะทำให้ชัดเจน ข้าไม่ต้องการทำธุรกิจกับทีมเขี้ยวหมาป่าของท่านอีกต่อไปแล้ว” ลั่วอู๋ขมวดคิ้ว

เพิงหงเทียน พูดไม่ออกได้แต่โบกมือให้ เพื่อนพ้องหลายคนที่อยู่ข้างหลังเขา เปิดผ้าม่านบังแดดบนกรงเหล็กออกเพื่อให้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน

ลั่วอู๋ รู้สึกประหลาดใจ

กรงเหล็กขนาดใหญ่นั้นเต็มไปด้วยแมงป่องทราย

พวกมันมีจำนวนเยอะมากเพียงแค่คลานไปมาก็ทำให้เกิดเสียงกระทบโลหะเล็กน้อย

“พวกเราจับแมงป่องทรายเหลืองกลุ่มเล็ก ๆ ได้ มีแมงป่องทรายโตเต็มวัย 53 ตัวและลูกแมงป่องทราย 23 ตัว และข้าได้ไปซื้อจากทีมล่าสัตว์มา 7ตัวและเก็บอีก 30 ตัว ให้ส่งไปที่บ้านของข้า”

เพิงหงเทียนกล่าว

ลั่วอู๋จะต้องตกใจ

เขาออกจากเมืองไปเพียงแค่สองวัน แต่ก็จับแมงป่องทรายกลับมาได้มากขนาดนี้ มันดูมีประสิทธิภาพเกินไป

รู้ไหมตามปกติแล้ว พวกเขาต้องใช้เวลาสองเดือนกว่า ทีมเขี้ยวหมาป่าถึงจะสามารถฆ่ากลุ่มของแมงป่องทรายที่อยู่รวมกันได้

ลั่วอู๋มองไปที่สมาชิกของทีมเขี้ยวหมาป่าและพบว่าใบหน้าของพวกเขาดูซีดเซียวและทุกคนต่างก็ได้รับบาดเจ็บ

ที่น่าสังเวชที่สุดคือผ้าพันแผลของพวกเขา ซึ่งมีกลิ่นคาวเห็นได้ชัดว่าเขาถูกตะขอพิษของแมงป่องทรายโจมตี หากไม่จัดการกับมันทันเวลารีบรักษาเขาคนนั้นจะต้องตาย

มันทำให้เขาเดาได้ว่า พวกเขาไม่ได้เลือกที่จะวางกับดัก หรือใช้การโจมตีแบบกองโจรและวิธีการล่าสัตว์ที่มีเสถียรภาพอื่น ๆ แต่พวกเขาเลือกที่จะสู้ตรง ๆ อย่างยากลำบาก เพื่อให้พวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายได้ในเวลาอันสั้น

“ทำแบบนี้ทำไมกัน” ลั่วอู๋ถามทันที

คนอื่นเองก็ไม่รู้ แต่เพิงหงเทียนเข้าใจในสิ่งที่ลั่วอู๋ถาม

เพิงหงเทียน ยิ้มกว้าง “ครั้งก่อนข้าได้ใช้ประโยชน์จากเจ้าของร้านลั่ว มันทำให้ข้าไม่สบายใจ ครั้งนี้ข้าจึงนำแมงป่องทรายจำนวนมากมา เพื่อแก้ไขและขายให้คุณในราคาครึ่งหนึ่งของราคาตลาด”

ลั่วอู๋นิ่งเงียบไป “ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนไปหรอกนะ” เขาถอนหายใจเบาๆ

“มันเป็นเรื่องเร่งด่วน” เพิงหงเทียน พูดด้วยเสียงเบา “ถ้ามีทีมอื่นส่งแมงป่องทรายให้เจ้าของร้านลั่วไปแล้ว การขอโทษครั้งนี้ของข้าก็จะดูไม่มีน้ำหนัก”

ลั่วอู๋พูดอะไรไม่ถูกเมื่อเจอคำตอบแบบนี้ เพื่อที่จะชดใช้ในสิ่งที่ตนเองทำลงไปพวกเขายอมทำทุกอย่าง ดังนั้นการกระทำของพวกเขาเองก็ไม่มีเหตุผลให้โกรธ

“มู่เถารีบไปหายาแก้พิษให้สมาชิกทีมเขี้ยวหมาป่า” ลั่วอู๋กล่าว จากนั้นก็เสริมว่า “ข้าจะรับแมงป่องทรายพวกนี้เอาไว้ในศาลาไป่หยู่ ข้าจะซื้อในราคาปกติ ข้าไม่สามารถปล่อยให้ท่านเพิงขาดทุนได้หรอก”

สีหน้าของเพิงหงเทียนเต็มไปด้วยความสุข

เขารู้ว่าลั่วอู๋รักษาคำพูดเสมอ

ลั่วอู๋คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าเจ้าต้องการ หลังจากนี้สัตว์วิญญาณทั้งหมดที่เจ้าจับได้ในอนาคต ศาลาไป่หยู่จะรับซื้อไว้เอง โดยให้เพิ่มจากราคาตลาด 30%”

“ไม่ใช่ 20% งั้นเหรอ” เพิงหงเทียนรู้สึกดีใจมาก

ลั่วอู๋ยิ้มให้อีกฝ่าย “ทีมเขี้ยวหมาป่าได้ให้ความร่วมมือกับศาลาไป่หยู่ของเราหลายครั้ง ดังนั้นมิตรเก่าแก่จึงน่าจะให้ประโยชน์มากกว่า”

“ขอบคุณมากเจ้าของร้านลั่ว”

“นี่คือยารวบรวมวิญญาณ ซึ่งสามารถช่วยให้การฝึกฝนก้าวหน้าขึ้น ข้าได้ยินว่าท่านติดอยู่ในระดับทองแดงมาเป็นเวลานานยาเม็ดนี้อาจจะช่วยได้บ้าง”

นอกจากนี้ลั่วอู๋ยังให้ยาแก้โรคทุกชนิดเพื่อขอบคุณพวกเขาเป็นระยะเวลาหนึ่ง

ลั่วอู๋นั้นเป็นคนใจกว้างต่อผู้คนที่เป็นมิตรของเขาและมีน้ำใจต่อเขา