บทที่ 21 แท้งลูก

หมอผีแม่ลูกติด

บทที่ 21

แท้งลูก

ในชั่วขณะที่เฮอเหวินจางถูกจับโดยหน่อเขียวกับบัวแดงอยู่นั้นเอง ขาของเขาก็ขยับไม่ได้ทันที และเพราะเขากำลังรีบเดินจึงได้ล้มหน้าทิ่มพื้นทันที ทำให้ดูน่าอเนจอนาถมากอยู่พักหนึ่ง

เมื่อสภาพที่ต่างกันอย่างมากกับตอนแรกแล้ว ทำให้ผู้คนโดยรอบก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“อย่าหัวเราะนะ ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทุกคนที่หัวเราะ” เฮอเหวินจางรีบลุกขึ้นยืน แล้วตะโกนใส่ผู้คนที่มามุงดูอย่างเกรี้ยวกราด ผู้คนจึงได้ปิดปากเงียบด้วยความกลัว สายตาของ เฮอเหวินจางก็ได้จ้องไปที่ขาของเขาซึ่งในเวลานี้ขาของเขาไม่ยอมขยับแม้แต่น้อย

ในเวลานี้หลินซีเหยียนได้แสดงในบทบาทละครช่วยสาวงามเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีแค่นางกับซางกวนจิ่นที่ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าข้ารับใช้ที่นอนกองกับพื้น

“แม่นางหลินที่ช่วยชีวิตข้าโดยไม่หวังผลตอบแทนเช่นนี้ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงข้าผู้นี้จะต้องตอบแทนแม่นางอย่างแน่นอน” ซางกวนจิ่นกล่าวและเข้ามาขวางหญิงสาวที่กำลังจะเดินไปหาเฮอเหวินจาง ด้วยสายตาที่เป็นสีชมพูราวกับลูกท้อ

ถ้านางไม่รู้เรื่องราวรักๆใคร่ๆของเขามาบ้างแล้ว ก็เกรงว่าหลินซีเหยียนนั้นจะคิดว่าเขาเป็นพวกคนที่หลงอะไรง่ายๆ! แล้วหลินซีเหยียนก็ได้ยกมือขึ้นมา ท่ามกลางสายตาที่เป็นประกายของซางกวนจิ่นแล้วผลักเขาออกไป

เฮอเหวินจางก็มองดูหญิงสาวที่กำลังเดินมาหาเขาด้วยความกลัว ราวกับเป็นปีศาจที่จะมาเอาชีวิตเขาไปลงนรก “เจ้า…นังผู้หญิงใจโฉด อย่าเข้ามานะ!”

ราวกับเป็นการตอบรับกับคำพูดของเขา หลินซีเหยียนก็ได้ยิ้มขึ้นมา ทำให้เหล่าผู้ชายที่มายืนดูต่างก็มีใจสุภาพบุรุษขึ้นมาและต่อสู้กับการใช้กำลังข่มเหงและความไม่ยุติธรรม

“หญิงสาวคนนี้ปกป้องตัวเองตั้งแต่ต้นยันจบ ตรงไหนกันที่ว่านางใจโฉดน่ะ?” หลิวซานจากร้านตีเหล็กพูดขึ้นมาเสียงดัง

“จริงด้วย เกรงว่าตระกูลกว๋อกงจิ่งหยางคงจะถึงคราวตกต่ำแล้ว ที่ทายาทเพียงคนเดียวกลับเป็นคนที่มีนิสัยใจคอเช่นนี้”

“หุบปาก ไอ้พวกชนชั้นต่ำ” เฮ่อเหวินจางที่กำลังคิดที่จะด่าคนเหล่านี้ แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร ก็มีเสียงของผู้หญิงที่ฟังดูคุ้นหูดังขึ้นมาเสียก่อน

หลินซีเหยียนก็ได้ยิ้มขึ้นมาทำให้นางงดงามมากยิ่งขึ้นไปอีก และมองไปที่หลินหัวเยว่ที่กำลังลงมาจากรถม้าอย่างนุ่มนวล

ความงามของนางนั้นเปรียบได้กับดอกบัวขาวที่แสนงดงาม ทำให้พูดคนรู้สึกอยากที่จะได้ใกล้ชิดกับนาง ถ้านางไม่ได้พูดคำเมื่อสักครู่ออกมา

แล้วเหล่าคนที่ถูกเรียกว่าชนชั้นต่ำนั้นก็ได้พากันมองไปที่หลินหัวเยว่เดินเข้าไปเฮอเหวินจางด้วยสีหน้าที่รังเกียจ “พี่เหวินจางไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าคะ?”

เมื่อเห็นหลินหัวเยว่มาหา ความตื่นตระหนกในดวงตาของเฮอเหวินจางก็ได้สงบลงมาบ้าง

อย่างที่คิด ช่างเป็นคู่ชายหญิงที่เหมาะสมราวกับผีเน่ากับโลงผุอะไรอย่างนี้ หลินซีเหยียนมองทั้งสองคนนี้ด้วยความรู้สึกอยากจะอาเจียนออกมา แต่การแสดงในครั้งนี้ยังไม่จบนางจึงจำต้องทนดูต่อไปก่อน

“ขอโทษที่ขัดนะ” น้ำเสียงที่เย็นชาของหลินซีเหยียนนั้นได้ดึงดูดสายตาของผู้คนให้หันมามอง “ในเวลานี้เป็นเวลาท้องฟ้าแจ่มใสแท้ๆ แต่พวกเจ้าคนหนึ่งยังไม่ออกเรือน ในขณะที่อีกคนก็ยังไม่ได้แต่งงาน มันจะไม่ดูน่าบัดสีบัดเถลิงไปหน่อยเหรอ?”

ทันทีที่หลินซีเหยียนพูดจบ ชายคนหนึ่งที่ไว้หนวดดูมี โหงวเฮ้งก็ได้พูดขึ้นมา “พวกเจ้าทุกคนได้ฟังเรื่องจดหมายขอถอนหมั้นของแม่นางหลินกันแล้วใช่ไหม?”

พอหลินซีเหยียนได้ยินก็จ้องไปที่เขาชัดๆ ก็พบว่านางรู้จักผู้ชายคนนี้เขาคือนักเล่าเรื่องในร้านน้ำชาเมื่อสักครู่นั่นเอง

เมื่อผู้คนรอบๆได้ยินเสียงของเขา พวกเขาต่างก็รู้สึกสงสารหลินซีเหยียนขึ้นมา ซึ่งกลายเป็นว่าเรื่องที่คุณชายของตระกูลกว๋อกงจิ่งหยางนั้นมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับพี่สาวของคู่หมั้นตัวเอง

“หลินซีเหยียน เจ้าจะพูดอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าออกมาไม่ได้นะ” เฮอเหวินจางนั้นแทบอยากจะกระอักเลือดออกมา และมองไปที่หญิงสาวที่มีท่าทีมาดมั่นที่อยู่ตรงหน้าเขา

“น้องข้า เจ้าจะมาพูดว่าร้ายความบริสุทธิ์ของพี่สาวตัวเองเช่นนี้ไม่ได้นะ” หลินหัวเยว่มองหลินซีเหยียนด้วยสีหน้าที่โศกเศร้า เพื่อเรียกร้องความเห็นใจจากคนอื่นๆ

แต่น่าเสียดายที่นางนั้นคาดการณ์ผิดไปหน่อย ในตอนที่นางกับหลินซีเหยียนนั้นได้ทะเลาะกันกลางถนนเมื่อคราวก่อน ชื่อเสียงของนางเรื่องของความสง่างามและบริสุทธิ์นั้นได้หมดไปแล้ว และในเวลานี้เรื่องของนางกับเฮอเหวินจางก็ได้ชัดเจนขึ้นมาอีก นางนั้นหาได้เป็นเทพธิดาในดวงใจของคุณชายในเมืองหลวงนี้อีกแล้ว

“หลินหัวเยว่ ให้ข้าได้เตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายนะ เจ้าอย่าได้เรียกตัวเองว่าเป็นพี่สาวของข้าอีกเลย เจ้าไม่มีค่าคู่ควรพอหรอก แล้วอีกอย่างอย่าหาว่าข้าพูดว่าร้ายเจ้าเลย แต่เจ้ากลับเล่นกอดกันท่ามกลางผู้คนเองนะ” ริมฝีปากบางๆสีชมพูของนางขยับขึ้นลง และพูดคำที่ทำให้เจ็บปวดใจออกมา

ในเวลานั้นเองก็มีอาการเจ็บปวดแปลบขึ้นมาที่หัวเข่าทั้งสองข้างของเฮอเหวินจาง จนทำให้เขาต้องงอตัวและร้องออกมา แล้วที่คลุมหน้าของเขาก็พลันหลุดออก

“ที่คลุมหน้าข้า รีบเก็บให้ข้าที” เฮอเหวินจางตะโกน แล้วเอามือบังหน้าของตัวเองเอาไว้

หลินหัวเยว่ก็ได้มองไปที่เขาอย่างสงสัย แล้วก็ต้องผงะเมื่อเห็นใบหน้าที่น่าสยดสยองของเขา และถอยห่างออกจาก เฮอเหวินจาง ซึ่งใบหน้าของเขาน่ากลัวมากและเต็มไปด้วยรอยแผลจนหาผิวหนังส่วนที่ดีๆไม่ได้เลย

“เจ้ากล้ารังเกียจข้าอย่างนั้นเหรอ?” เฮ่อเหวินจางก็ได้จ้องไปที่หลินหัวเยว่ด้วยสีหน้าที่มืดดำ ราวกับว่าถ้านางผงกหัวเมื่อไรเขาจะฆ่าหลินหัวเยว่ทิ้งทันที

หลินหัวเยว่ก็ได้มองไปที่เขาด้วยสีหน้าที่ซีดเผือด นางนั้นอยากที่จะออกไป แต่ทว่าผู้คนต่างก็ล้อมจนไม่มีช่องว่างให้นางได้หนีไปได้เลย

หลินซีเหยียนก็ได้ยักคิ้วขึ้นมาเมื่อนางเห็นเช่นนั้น ดูเหมือนหมาจะกัดกันเองเสียแล้ว? น่าสนใจดีแล้วจากนั้นนางก็ได้แอบพูดในใจ: บัวแดงกับหน่อเขียว พวกเจ้ากลับมาได้แล้ว!

แล้วขาที่หนักอึ้งเมื่อสักครู่ของเฮ่อเหวินจางก็ได้กลับมามีเรี่ยวแรงในทันที แล้วเขาก็ได้รีบเดินเข้าไปหาหลินหัวเยว่ แล้วยกมือขึ้นมาตบหน้านาง “อีนังนี่ ทั้งๆที่ข้ารักเจ้ามากขนาดนี้ แต่เจ้ากลับกล้ารังเกียจข้าเรอะ?”

“ปล่อยข้าไปเถอะ ข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับท่าน”

หลินซีเหยียนมองไปที่หลินหัวเยว่ที่อยากจะตัดความสัมพันธ์กับเขา และรู้ว่านางนั้นไม่อยากที่จะแต่งเข้าบ้านกว๋อกงอีกแล้ว แต่เฮอเหวินจางนั้นมีหรือที่จะยอมปล่อยไปง่ายๆ

อย่างที่มีคนเคยพูดเอาไว้ว่า การเป็นโจรนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การจะเลิกเป็นโจรนั้นเป็นเรื่องยาก

“เจ้าเป็นของข้าไปแล้วแท้ๆ ยังจะมาทำเป็นไม่รู้จักข้าอย่างนั้นเหรอ?” คำพูดของเฮอเหวินจางนั้นได้เปิดเผยความสัมพันธ์ของทั้งคู่เสียแล้ว และหลินหัวเยว่ก็ได้มีท่าทีกระวนกระวายขึ้นมา

หลินซีเหยียนนั้นพอจะเข้าใจอารมณ์ของนางได้ ต้องมาอยู่กับคนที่เสียรูปโฉมแบบนั้นแล้วยังนิสัยไม่ดีอีกต่างหาก มันคงทำให้นางรู้สึกอึดอัดใจแย่

แต่ในเวลานี้ผู้คนต่างก็ได้รู้ในเรื่องที่พวกเขาควรจะรู้และรู้ในเรื่องที่ไม่ควรจะรู้แล้วด้วย เกรงว่านางคงจะไม่สามารถที่จะแต่งงานกับคนอื่นนอกจากเฮอเหวินจางได้อีกแล้ว

“เจ้าอย่ามาพูดจาไร้สาระ ข้ายังบริสุทธิ์อยู่” หลินหัวเยว่พูดโต้แย้งเสียงดัง ราวกับจะฉีกทั้งคู่ออกจากกัน

แล้วจู่ๆหลินหัวเยว่ก็เอามือกุมท้องและลูบไปมาอยู่สักพัก แล้วจากนั้นก็ได้มีเลือดไหลออกมาอย่างช้าๆที่ขาของนาง หลินซีเหยียนก็คิ้วขมวดขึ้นมาทันที นี่มันสัญญาณของการแท้งลูก

“นางท้องอย่างนั้นเหรอ?”

“ตั้งท้องโดยที่ยังไม่ได้แต่งงานงั้นเหรอ?”

“หรือว่าพ่อของเด็กจะเป็นคุณชายเฮอจริงๆ แถมเขาไม่ปฏิเสธด้วย”

เกรงว่าเฮอเหวินจางนั้นถ้าไม่สติแตกก็คงเป็นคนเลือดเย็นอย่างมากที่มองดูเด็กในท้องของหลินหัวเยว่ด้วยสายตาที่เย็นชาเช่นนั้น…….

ผู้คนเองต่างก็มองดูด้วยสายตาที่เย็นชา แต่ไม่มีใครเลยที่อยากจะช่วยเหลือนาง หลินหัวเยว่นั้นเหมือนจะเสียเลือดมากเกินไปจึงเริ่มมีอาการวิงเวียน หลินซีเหยียนก็คิ้วขมวดขึ้นมาเมื่อเห็นหลินหัวเยว่มองมาที่นางราวกับขอให้ช่วย

ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะบาดหมางต่อกัน แต่เด็กก็บริสุทธิ์อยู่ดี นางจึงได้ตัดสินใจช่วย แล้วนางก็เอามือมาวางที่ท้องของหลินหัวเยว่ แล้วจากนั้นก็เอาเหรียญเงินให้กับหลิวซานผู้ที่พูดอย่างเที่ยงธรรมเมื่อสักครู่ “คุณชาย ได้โปรดช่วยพานางไปหาหมอทีนะเจ้าคะ”

ผู้คนต่างก็รู้สึกประทับใจหลินซีเหยียนขึ้นมาทันที มีคุณธรรมต่อแม้แต่ผู้ที่มีความแค้นต่อกันนั่นคือทัศนคติของเหล่านายหญิงที่ควรจะมี

หลิวซานนั้นอยากที่จะปฏิเสธ อย่างไรเสียชื่อเสียงของหลินหัวเยว่นั้นแย่เกินไป แต่เมื่อเห็นหน้าของหลินซีเหยียนแล้วเขาก็ไม่อยากที่จะปฏิเสธจึงได้ผงกหัวอย่างเขินๆ

เมื่อจัดการทุกสิ่งเรียบร้อยแล้ว หลินซีเหยียนก็ได้มองดูท้องฟ้าท่าดูสายมากแล้วจึงได้คิดที่จะกลับจวนของมหาเสนาบดี ซึ่งในขณะที่นางกำลังหันหลังกลับไปนั้นนางก็คิดว่ามีเสียงของใครบางคนไล่หลังนางมา “หลินซีเหยียนข้าจะทำให้เจ้าตายเสียดีกว่าอยู่เลย”