ตอนที่ 36 ช่วยเขาซ่อมเสื้อผ้า + ตอนที่ 37 เจ้าล้อข้าเล่นหรือ

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

ตอนที่ 36 ช่วยเขาซ่อมเสื้อผ้า

“อืม พอใจ!”

ขณะที่สมองยังไม่ทันได้คิด ประโยคนี้ก็ดังออกมาจากปากเล่อเหยาเหยาอย่างรวดเร็ว

หลังเอ่ยประโยคนั้นจบ เล่อเหยาเหยาจึงคล้ายนึกบางอย่างขึ้นได้ ทั่วร่างพลันได้สติ เงยดวงตาที่งดงามขึ้น สบเข้ากับดวงตาดำขลับลึกล้ำและเดียวดายคู่นั้นเข้าพอดี

จึงเห็นว่าสายตาของชายหนุ่มมองมาที่เธอไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด ดวงตาดำขลับที่เย็นชา พลันเต็มไปด้วยการขบคิดและหยอกล้อ

เมื่อเห็นดังนั้น เล่อเหยาเหยาเพียงรู้สึกโดนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ เสียง ‘ตูม’ ดังขึ้น ทั่วร่างเธอพลันแข็งทื่อ

สวรรค์ น่าอับอายยิ่งนัก!

เธอเสียสติไปแล้วใช่หรือไม่!?

ไฉนเมื่อเห็นคนที่หน้าตาหล่อเหลาแล้วตกตะลึง ตอนนี้ยังถูกเขาจับได้คาหนังคาเขา สวรรค์! ตอนนี้เธอเสียทั้งบ้านเสียทั้งบ้านมารดา[1]แล้วจริงๆ

ยิ่งคิด เล่อเหยาเหยายิ่งรู้สึกอับอายแทบไม่มีหน้าที่จะออกไปพบผู้ใด

ใบหน้าเล็กที่แดงก่ำจนแทบเลือดจะไหลออกมานั้น ดูคล้ายกับผลแอปเปิ้ลแดงที่สุกงอม มองยังสายตาเหลิ่งจวิ้นอวี๋ที่เย็นชาเปล่งประกายออกมา ทว่าสีหน้ายังคงนิ่งสงบเช่นเดิม

แต่ไอสังหารบนร่างกาย เห็นได้ชัดว่าลดลงไปไม่น้อย

ถ้ามองให้ละเอียด จะเห็นว่าเหลิ่งจวิ้นอวี๋ริมฝีปากที่เป็นกระจับนั้นมีรอยยิ้มบางๆ อยู่

รอยยิ้มนั้นงดงามยิ่งนัก

แต่กลับจางหายไปอย่างรวดเร็ว คล้ายดอกถานฮวาที่พอบาน หุบอย่างรวดเร็วจนทำให้ไม่มีผู้ใดได้ชื่นชมมัน

เห็นชัดว่าเล่อเหยาเหยากำลังอยู่ในสภาวะอับอายและลำบากใจ จึงไม่สังเกตเห็นจุดนี้

ไม่รู้เป็นเพราะรู้สึกลำบากใจเกินไปหรือไม่ จึงทำให้ร่างกายของเธอไม่ฟังคำสั่งของตนเอง

เสียง ‘แควก’ ดังขึ้น เมื่อใช้แรงมากจนเกินไป เสื้อชั้นในที่เบาบางบนตัวของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ตัวนั้น ได้เสียสละอย่างมีเกียรติอยู่บนมือของเล่อเหยาเหยา

“เออ”

เมื่อเห็นเช่นนั้น เล่อเหยาเหยาที่ตกตะลึงอยู่ พลันเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเห็นเพียงชายหนุ่มตอนนี้กำลังขมวดคิ้วมองมาที่เธอ ทำให้เธอหนังศีรษะชาวาบ ทำได้เพียงเอ่ยตะกุกตะกักออกมา

“ขอ ขออภัยขอรับ นี้ บ่าวจะรีบซ่อมเสื้อให้ตอนนี้เลยขอรับ!”

“ซ่อม?”

เมื่อได้ยินคำพูดของเล่อเหยาเหยา เหลิ่งจวิ้นอวี๋อดยิ้มที่มุมปากไม่ได้

นัยน์ตากระตุกขึ้น พร้อมเพ่งมองยังขันทีน้อยที่สูงเพียงหน้าอกของตนเอง

เมื่อครู่ที่ขันทีน้อยเดินเข้ามา เขาเห็นรายละเอียดการเคลื่อนไหวของตัวขันทีน้อยนี้ทั้งหมด

ขันทีน้อยผู้นี้หวาดกลัวตน จากใบหน้าของเขาแสดงอย่างชัดเจนปิดบังไม่ได้แม้สักนิดเดียว

อีกทั้งเขาช่างโง่มากจริงๆ กระทั่งช่วยตนเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ใช้เวลานานทีเดียว หากยังโง่จนทำเสื้อของตนฉีกขาดอีกด้วย

แค่นี้ยังไม่พอ สุดท้ายกลับยังเอ่ยว่าจะช่วยเขาซ่อมเสื้อผ้าอีก

คิดว่าเขาท่านอ๋องผู้สง่างามแห่งเทียนหยวน ที่อยู่ใต้คนผู้เดียว แต่อยู่เหนือคนนับหมื่น มีอำนาจมีเงินทอง จะสนใจเสื้อผ้าเพียงชุดเดียว!?

ถ้าเขาสวมเสื้อผ้าที่ปะชุนตัวนี้ออกนอกจวนไป แล้วถูกคนรู้เข้า จะไม่โดนผู้อื่นหัวเราะเยาะหรือ!?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งจวิ้นอวี๋กำลังจะเอ่ยบางอย่าง กลับกลายเป็นว่าถูกเล่อเหยาหยาหยุดไว้เสียก่อน

เล่อเหยาเหยาที่กลัวเหลิ่งจวิ้นอวี๋ไม่เชื่อคำพูดของตน บนใบหน้าจึงปรากฏความแน่วแน่ขึ้นมา

“ท่านอ๋อง โปรดวางใจ บ่าวจะปะชุนเสื้อตัวนี้ให้เรียบร้อยแน่นอนขอรับ!”

ในมือเล่อเหยาเหยาหยิบเสื้อชั้นในที่ถูกตนฉีกขาดตัวนั้นเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

อันที่จริงเสื้อตัวนี้เพียงมองเห็นเนื้อผ้าก็รู้ว่าใช้เส้นไหมชั้นดีตัดเย็บขึ้นมา อีกทั้งเมื่อสัมผัสเนื้อผ้าที่อ่อนนุ่มเกลี้ยงเกลานั้นอีกครั้ง จะรู้ว่าราคาสูงยิ่งนัก

ตอนนี้เธอเป็นเพียงขันทียากจนไม่มีเงินติดตัวสักแดงเดียว ถ้าชายหนุ่มผู้นี้ต้องการให้เธอชดใช้เสื้อตัวนี้ด้วยเงิน แม้เธอจะขายเลือดตนเองล้วนชดใช้ไม่ได้!

ยิ่งคิด ในใจเล่อเหยาเหยายิ่งโศกเศร้า

คิดไม่ถึงว่าตนเองจะมีวันหนึ่งที่กระทั่งเสื้อตัวเดียวก็ชดใช้ไม่ไหว…

เมื่อเทียบกับเล่อเหยาเหยาที่กำลังโศกเศร้าในใจ ทางด้านเหลิ่งจวิ้นอวี๋เมื่อเห็นสีหน้าจริงของเล่อเหยาเหยา ในที่สุดจึงเผยอริมฝีปาก ทว่ากลับไม่พูดสิ่งใดออกมา คล้ายอนุญาตสิ่งที่เล่อเหยาเหยาได้เอ่ยออกมา

…………………………………………………………………..

ตอนที่ 37 เจ้าล้อข้าเล่นหรือ

ว่ากันจริงๆ แล้วใบหน้าที่จริงจังของขันทีน้อยตรงหน้า คล้ายสามารถทำให้ชายหนุ่มอนุญาตปะชุนเสื้อผ้าตัวนี้ ซึ่งสำหรับตัวเขาเป็นภารกิจอันหนักหน่วง เมื่อเห็นเช่นนั้นเหลิ่งจวิ้นอวี๋จึงไม่รู้จะเอ่ยสิ่งใดออกมาจริงๆ

ช่างเถอะ เอาที่เขาชื่นชอบแล้วกัน

เล่อเหยาเหยาเห็นเหลิ่งจวิ้นอวี๋ไม่เอ่ยอะไร แต่เมื่อมองสีหน้าของเขา การไม่พูดหมายถึงอนุญาตให้เธอทำ

เมื่อเห็นเช่นนั้น เธอจึงถอนหายใจออกมา จากนั้นวางชุดชั้นในที่ตนทำฉีกขาดตัวนั้นลง แล้วหยิบเสื้อชั้นในสีขาวหิมะอีกตัวมาสวมให้กับเหลิ่งจวิ้นอวี้อย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มตรงหน้านี้ สูงมากจริงๆ!

เขาที่สูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าเธอจึงทำให้รู้สึกเหมือนเขาไท่ซานที่สูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า

น่าสงสารที่เธอสูงเพียงหนึ่งร้อยห้าสิบกว่าเซนติเมตร ชัดเจนว่าเป็นเพราะยังเติบโตไม่สมบูรณ์ หรือไม่รู้ว่าอาหารที่นี่นั้นเลวร้ายเกินไป เมื่อวานหลังเธอลองลูบคลำบริเวณหน้าอกของตนเอง จนเกิดอารมณ์ชั่ววูบอยากตายขึ้นมา!

เพราะก่อนหน้านี้เธอภาคภูมิใจในคัพซี ทว่าหลังมาถึงที่นี่กลับอกลายเป็นคัพเออย่างน่าเศร้า!

เธอลูบคลำล้วนไม่รู้สึกอะไร เมื่อคิดแล้วเล่อเหยาเหยารู้สึกอยากร้องไห้ออกมาทว่าไม่มีน้ำตา!

ดูแล้วต่อไปถ้ามีโอกาส คงต้องซื้อมะละกอกลับมาบำรุงถึงจะดี!

ขณะที่กำลังคิดในใจ เธอก็ได้สวมเสื้อผ้าทั้งสามตัวให้กับชายหนุ่มตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายเหลือเพียงกลัดสายคาดเอวก็เสร็จภารกิจ!

แต่ทว่าขณะที่เล่อเหยาเหยาหยิบเข็มขัดทับทิบสีแดงปักเลี่ยมรูปนกกระทาขึ้นมา ใบหน้าเล็กนั้นปกคลุมด้วยเหงื่อ

ทว่ากลับดูยุ่งเหยิง

เพราะเข็มขัดเส้นนี้ แตกต่างกับยุคปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง

เข็มขัดเส้นนี้ทำออกมาได้ประณีตงดงามอย่างมาก อัญมณีที่อยู่ด้านบนพวกนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่มีค่าสูงส่ง

ทว่าตอนนี้ที่เธอสับสนก็คือ เข็มขัดเส้นนี้กลัดเช่นไรกันแน่! เพราะด้านบนเข็มขัดเส้นนี้ กระทั่งกระดุมเม็ดเดียวล้วนไม่มี หรือว่าขมวดเป็นปมก็เสร็จแล้ว?

เล่อเหยาเหยาลองพลิกดูเข็มขัดนี้อย่างละเอียด ก่อนจะได้ข้อสรุปออกมา

อืม งั้นขมวดปมแล้วกัน!

ขณะที่คิดในใจ เล่อเหยาเหยาพลันหยิบเข็มขัดเส้นนั้นขึ้นมา แล้วขมวดเป็นปมหลวมบนเอวของชายหนุ่ม

ยิ่งไม่ต้องพูดว่าเธอนั้นขมวดปมเป็นรูปผีเสื้อที่สวยอย่างยิ่ง

ขณะที่เล่อเหยาเหยากำลังชื่นชมผลงานของตนตลอดทั้งเช้าและในใจเกิดความภูมิใจอยู่นั้น จึงไม่เห็นว่าชายหนุ่มที่มองเห็นปมรูปผีเสื้อพวกหัวมงกุฎท้ายมังกรบนเอวของตน สีหน้าราวภูเขาน้ำแข็งนั้น ค่อยๆ ปรากฏร่องรอยความไม่พอใจขึ้นมา

มือใหญ่กระชากอย่างรุนแรงพลันทำให้ปมรูปผีเสื้อที่เล่อเหยาเหยาทำขึ้นอย่างยากเย็นนั้นคลายออก

“ไฉนท่านถึง เออ”

เล่อเหยาเหยาเห็นผลงานของตนถูกทำลายอย่างไร้เย็นชา จึงร้อนใจอุทานบางอย่างขึ้นมา ทว่าเมื่อเธอเห็นสายตาเย็นชาราวไอสังหารของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าตนอย่างใกล้ชิด พลันเงียบเสียงลงทันที

ทว่าเล่อเหยาเหยาไม่มีสิ่งใดจะพูดออกมา ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่มีสิ่งใดที่ต้องการจะเอ่ยออกมา

“เจ้ากำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่!?”

“เออ ไม่ ไม่ขอรับ บ่าวจะกล้าล้อเล่นกับท่านอ๋องได้อย่างไร”

อีกทั้ง เธอเองก็ไม่ได้มีความกล้า!

เล่อเหยาเหยาเอ่ยราวกระซิบออกมาเสียงเบา ดวงตาที่งดงามนั้นเต็มไปด้วยความขลาดกลัว ก่อนที่จะแอบมองใบหน้าหล่อเหลาที่เคร่งขรึมที่อยู่ด้านบน

เห็นเพียงเหลิ่งจวิ้นอวี๋กำลังหยิบเข็มขัดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม ราวเมฆที่ดำทะมึนเคลื่อนเข้ามาปกคลุมเมืองเอาไว้ มองจนหนังศีรษะเธอเริ่มชาวาบขึ้น

“ไม่มีอะไร งั้นเจ้าโง่ใช่หรือไม่?!เข็มขัดกลัดเช่นนี้หรือ!?”

“เออ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เล่อเหยาเหยาจึงรู้ว่าที่พญายมโมโห เป็นเพราะเธอกลัดเข็มขัดผิด

…………………………………………………………………..

[1] เสียทั้งบ้านเสียทั้งบ้านมารดา หมายถึง สูญเสียทั้งเกียรติและศักดิ์ศรีที่เคยสะสมมา