ผ่านไปอีกประมาณสิบห้านาที
“ขอโทษที่มาสาย”
ในที่สุดเฮ่อซานซาน ก็เดินเข้ากองมาอย่างเกรียงไกร
เพื่อการคัดเลือก วันนี้เฮ่อซานซานแต่งหน้าทำผมมาอย่างพิถีพิถัน ทั้งยังสวมชุดมืออาชีพแบรนด์เนมที่มีราคาไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสน ดูเหมือนจะทุ่มทุนมาไม่น้อย
แม้แต่ป้าสะใภ้หวังเฉี่ยวฮุ่ยยังแต่งตัวมาราวกับหญิงชนชั้นสูง
“มาแคสงานก็ต้องพาผู้ปกครองมาด้วยเหรอ?” นักแสดงหญิงคนหนึ่งที่มาเข้ารับการคัดเลือกมองเฮ่อซานซานกับหวังเฉี่ยวฮุ่ยแล้วมุ่นคิ้วเล็กน้อย
“หืม เกี่ยวอะไรกับเธอ?” หวังเฉี่ยวฮุ่ยจ้องเขม็งอย่างไม่พอใจ
คนพวกนี้จะเหมือนพวกเธอได้อย่างไร?
ซานซานลูกสาวเธอมีซูหย่าคอยหนุนหลัง ที่จัดคัดเลือกนักแสดงในครั้งนี้ ก็เป็นงานที่หลินซูหย่าจัดขึ้นด้วยตัวเองได้ยินมาว่าใช้เส้นสายของทางตานเฟิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ย่อมมั่นใจในผลลัพธ์อยู่แล้ว
“ฮ่าๆ และท่านนี้ก็คือคุณเฮ่อ ไม่เป็นไร เชิญนั่ง” เห็นเฮ่อซานซาน เฝิงอานหวาพลันลุกขึ้นพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณ”
เห็นว่าโปรดิวเซอร์มีท่าทีเหมือนจะเอาใจตน ในที่สุดความตื่นเต้นของเฮ่อซานซานก็หายเป็นปริทิ้ง บนใบหน้าเผยความย่ามใจเต็มประดา
พี่ซูหย่าสุดยอดจริงๆ ใช้เส้นทีก็เป็นเส้นของคนใหญ่คนโตในตานเฟิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์แล้ว แม้แต่โปรดิวเซอร์ยังต้องก้มหัวให้เธอ
คราวนี้หวังเฉี่ยวฮุ่ยยิ่งมั่นใจกว่าเดิม
เหล่านักแสดงหญิงบริเวณรอบๆ ที่มาคัดเลือก เริ่มพินิจสองแม่ลูกใหญ่
สองแม่ลูกนี้มีเบื้องหลังอย่างไร แม้แต่โปรดิวเซอร์อย่างเฝิงอานหวายังทำทีเหมือนจะเอาใจ
งั้น…วันนี้พวกเธอยังมีหวังอยู่ไหม?
ทว่าเจียงอีหมิงเป็นคนที่ขึ้นชื่อเรื่องหวงคนมีฝีมือ ให้ความสำคัญกับทักษะการแสดงอย่างมาก คงไม่ทำผิดกฎเพราะเบื้องหลังของสองแม่ลูกนี้หรอกมั้ง
ตอนนี้หลินเยียนนั่งอยู่ทางขวาสุด ซึ่งห่างจากป้าสะใภ้หวังเฉี่ยวฮุ่ยและน้องสาวลูกพี่ลูกน้องเฮ่อซานซาน สองแม่ลูกจึงไม่สังเกตเห็นหลินเยียน
หลินเยียนเห็นท่าทางอย่างจิ้งจอกแอบใช้บารมีเสือของเฮ่อซานซานแล้ว อดรู้สึกขำไม่ได้
มิน่าล่ะ หลินซูหย่าถนัดเรื่องการสร้างไมตรีมาก เบื้องหลังก็แข็งแกร่ง มีเส้นสายกว้างขวางไปทั่วทั้งวงการบันเทิง การจะใช้เส้นสายของตานเฟิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
เดิมทีวันนี้เธอก็ไม่ได้ตั้งความหวังอะไร ก็แค่มาเก็บเกี่ยวประสบการณ์เท่านั้น
……
ไม่นานการคัดเลือกนักแสดงก็เริ่มขึ้น
ภายในห้องโถงคัดเลือกนักแสดงมีโต๊ะวางอยู่ตัวหนึ่ง บนเตียงมีหุ่นจำลองเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากที่ใช้แทนพระเอก
ฉากนี้ง่ายมาก เป็นฉากที่พระเอกถูกโจมตีจนลุกไม่ขึ้น นางรองหมายเลขสี่เป็นศัตรูคู่อาฆาตของพระเอก ไปเจรจากับเขาที่โรงพยาบาล
การแข่งขันของภาพยนตร์เรื่องนี้ดุเดือดมากจริงๆ นักแสดงหญิงที่มาเข้ารับการคัดเลือกต่างมากความสามารถ
คนแรกที่เข้าไปแคสเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่โด่งดังมากในช่วงนี้
หุ่นจำลองที่เป็นอุปกรณ์ประกอบฉากนอนนิ่งอยู่บนเตียง
นักแสดงหน้าใหม่คนนั้นดูตื่นเต้นมาก สูดหายใจเข้าลึกๆ “ฉันทำได้!”
“เริ่มเลย!” เจียงอีหมิงพูด!
นักแสดงพยักหน้า สูดหายใจเข้าลึกๆ เดินเข้าไปนั่งลงข้างเตียง
นักแสดงหญิงทำท่าจัดผ้าห่มให้หุ่นจำลอง เห็นใบหน้าที่ดูตลกของหุ่นจำลองแล้ว นักแสดงหญิงพยายามสกัดกั้นความรู้สึกของตน แต่กับหุ่นที่ดูตลกแบบนี้ จะให้เธอแสดงอย่างไรเล่า?
จนกระทั่งผู้กำกับแค่นเสียงไอที นักแสดงหญิงคนนั้นจึงได้สติ ในที่สุดก็พูดบทออกมา…
“เธอ…เป็นอะไรมากหรือเปล่า?”
“คู่แสดงไม่ใช่คนจริงๆ ก็แสดงไม่เป็นแล้วเหรอ?! พร็อบตลกมากหรือไง? ฝีมือการแสดงแค่นี้ยังกล้ามาท้าทายบทนี้?”
เจียงอีหมิงเป็นคนปากร้ายอยู่แล้ว จึงไม่ไว้หน้าเลยสักนิด
พูดจบนักแสดงหญิงคนนั้นก็หน้าซีด นักแสดงคนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ต่างก็อดรู้สึกหวั่นใจไม่ได้