บทที่ 21 ฟันแทงไม่เข้า

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 21 ฟันแทงไม่เข้า EnjoyBook

บทที่ 21 ฟันแทงไม่เข้า

ซุนหยิงเองก็เลือดขึ้นหน้า เสื้อตัวที่ใส่อยู่เปื้อนไปด้วยเลือด แต่มันไม่ใช่เลือดของเขา เพราะตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้พี่น้องในกลุ่มเหยี่ยวมังกรคอยคุ้มกันเขาตลอด มันเป็นเลือดของพี่น้องเขานั้นเอง

“ฉึบ!” พี่น้องกลุ่มเหยี่ยวมังกรคนหนึ่งโดนชายชุดขาวฟันเข้าที่คอจนเลือดสาด

“ฆ่าพวกมัน!” ซุนหยิงตะโกนขึ้นพร้อมกับชี้ไปยังกลุ่มชายชุดขาวพวกนั้น ดาบยาวในมือของชายชุดขาวพุ่งเข้าหาซุนหยิงอย่างดุดัน

ซุนหยิงโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ไม่สนใจใด ๆ ดาบในมือซุนหยิงก็พุ่งเข้าหาหัวของชายชุดขาวนั้นอย่างรวดเร็ว

“พี่หยิง….” ไท้ถานตะโกนขึ้นมา อยากจะเข้าไปช่วยแต่ตัวเองก็ปลีกตัวออกไปไม่ได้ ชายชุดขาวมองซุนหยิงอย่างเย้ยหยันก่อนจะพุ่งเข้าแลกชีวิต เฉินฮั่นหลงและคนอื่น ๆ มองดูซุนหยิงด้วยความรีบร้อนและเป็นห่วง

ดาบของชายชุดขาวเร็วกว่าดาบของซุนหยิงมาก เขาคิดหลังจากนี้จะฟันลงบนตัวของซุนหยิงจนนอนเลือดอาบ แต่ไม่นานชายชุดขาวก็ยิ้มไม่ออก เพราะตอนที่ดาบของชายชุดขาวกำลังจะฟันลงไปนั้นเอง กลับมีระลอกคลื่นอะไรสักอย่างเกิดขึ้นมาระหว่างดาบของชายชุดขาวกับคอของซุนหยิง มันไม่เพียงแค่ทำให้ชายชุดขาวทำอะไรซุนหยิงไม่ได้ แต่แรงสะท้อนมาที่แขนของเขาจนตัวเองแขนเกือบหัก เขามองดูแขนตัวเองที่สั่นไหว

สายตาของชายชุดขาวบ่งบอกถึงความตกตะลึง แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีทางรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เพราะดาบของซุนหยิงได้ฟันลงบนหัวของเขาเสียแล้ว

“ปึก ฉึบ!” หัวของชายชุดขาวที่โดนซุนหยิงฟันลงไปแยกเป็นสองส่วน มันสมองและเลือดกระเด็นออกมากระจัดกระจาย เรื่องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้คนอื่น ๆ ตกตะลึงยืนนิ่งไปตาม ๆ กัน แม้แต่คนฟันอย่างซุนหยิงก็ไม่ต่างกัน

แต่เพียงแวบเดียวเขาก็รู้ว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี่เป็นเพราะหยกช่วยชีวิตที่ฉู่ชวิ๋นให้เขามา เฉินฮั่นหลงเองก็คิดขึ้นได้เหมือนกัน เฉินฮั่นหลงและซุนหยิงยิ้มหน้าบานด้วยความดีใจ

เพราะนอกจากจะมีปาฏิหาริย์แล้วไม่มีทางเลยที่ พวกเขาจะรอดชีวิตไปจากกลุ่มชายชุดขาวที่เก่งกาจพวกนี้ไปได้ พี่น้องทั้งสามร้อยชีวิตของกลุ่มเหยี่ยวมังกรจะต้องตายหมดแน่ ๆ

เฉิ่นฮั่นหลงหวนคิด เมื่อตอนบ่ายพอส่งฉู่ชวิ๋นกลับไปแล้วเขาก็ย้อนกลับมาที่สำนักงานใหญ่ของกลุ่มเหยี่ยวมังกรเลย นึกไม่ถึงว่าในตอนค่ำคืนดึกดื่นแบบนี้จะโดนลอบโจมตี แรก ๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอนึกไปนึกมาก็นึกถึงปัญหาที่ใหญ่โต

เพราะในเวลาคับขันแบบนั้นเขาพยายามโทรหาฉู่ชวิ๋นเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่บริเวณรอบ ๆ กลับไม่มีสัญญาณ

หลังจากนั้นแต่ละคนก็ต่อสู้อย่างยากลำบาก จนลืมคิดเรื่องหยกช่วยชีวิตไปเลย เดิมทีคิดว่าจะต้องตายแน่ ๆ แล้วไม่คิดว่าสุดท้ายก็มีปาฏิหาริย์

“พี่หลง ไท้ถาน พาคนอื่น ๆ ถอยไปก่อน ตรงนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ผมเอง” ซุนหยิงตะโกนขึ้นมา มีหยกช่วยชีวิตอยู่แบบนี้ ขนาดกระสุนยังไม่กลัว จะให้มากลัวดาบเก่า ๆ แค่ไม่กี่เล่มเนี่ยนะ?

ซุนหยิงตอนนี้มีความมั่นใจมากขึ้นเป็นสองเท่า ราวกับกำลังมีเทพคอยช่วยเหลืออยู่ วันนี้คงต้องยอมผิดศีลที่ห้ามฆ่าสัตว์เพื่อล้างแค้นให้เหล่าพี่น้องที่ตายไปแล้ว!!

สีหน้าของเฉินฮั่นหลงเปลี่ยนไป เพราะเขารู้ว่าหยกช่วยชีวิตนั้น ใช่ว่าจะใช้ได้ตลอดไป แต่ในตอนที่เขาจะตะโกนบอกนั้น ซุนหยิงก็พุ่งออกไปแล้ว

“ฆ่าพวกมัน!” ซุนหยิงพุ่งเข้าหากลุ่มชายชุดขาวราวกับตัวเองเป็นลิโป้กลับชาติมาเกิด ลักษณะที่เหมือนเทพนักสู้ ราวกับตัวเองไร้เทียมทานแบบนี้ ซุนหยิง จะเหิมเกริมเกินไปแล้ว

การที่ซุนหยิงใช้ดาบฟันหัวของชายชุดขาวแยกเป็นสองท่อนเมื่อครู่นั้น ทำให้ชายชุดขาวอื่น ๆ นิ่งไปพักหนึ่ง แต่พอเห็นซุนหยิงพุ่งเข้ามา ชายชุดขาวอื่น ๆ แววตาก็บ่งบอกถึงความโกรธแค้น

ชายชุดขาวสามถึงสี่คนพุ่งเข้าใส่ซุนหยิง แต่เหตุการณ์เหมือนเมื่อครู่ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะมีระลอกคลื่นเล็ก ๆ ป้องกันดาบของชายชุดขาวไว้ไม่ให้ทำอันตรายใด ๆ แก่ซุนหยิง ชายชุดขาวที่ใช้แรงฟันลงมาเมื่อครู่ก็โดนแรงกระแทกกลับจนข้อมือเกือบหัก ซุนหยิงยกดาบขึ้นฟันไปตรง ๆ

“ฉึบ ฉึบ!” มีชายชุดขาวสองคนที่ประมาทเกินไปจนไม่สามารถหลบได้ทันทำให้โดนดาบของซุนหยิงฟันเข้าที่ท้องจนไส้ไหลทะลักออกมา บรรยากาศรอบ ๆ คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

สองคนที่โดนฟันยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น สายตาบ่งบอกถึงความไม่ยอมแพ้พวกเขามองไปที่ยังไส้ของตัวเองที่กองบนพื้นก่อนจะล้มลง ร่างไร้วิญญาณพอล้มลงกับพื้นก็ยิ่งทำให้คนอื่น ๆ สั่นไปด้วยความกลัว พวกเขาเห็นคนตายมานักต่อนักแล้ว แต่ซุนหยิงที่ฟันแทงไม่เข้าเขาไม่เคยเห็นมาก่อน คนอื่น ๆ พอเห็นแบบนี้ก็ถอยออกห่างซุนหยิงไป สองถึงสามก้าว

ฟันครั้งเดียวฆ่าได้ถึงสองคนแบบนี้ไม่ใช่แค่ชายชุดขาวที่ตะลึง ซุนหยิงเองก็ไม่ต่างกันบรรยากาศรอบ ๆ แปลกไป

เพราะซุนหยิงฟันแทงไม่เข้า ชายชุดขาวก็ไม่กล้าก้าวออกมา ต่างคนต่างก็นิ่งไม่ขยับ เฉินฮั่นหลงถอนหายใจยาว ๆ โชคดีที่ได้หยกช่วยชีวิตของฉู่ชวิ๋น ไม่งั้นคงโดนคนมีฝีมืออย่างพวกชุดขาวเล่นงานจนกันตายหมดแน่ ๆ

“พวกแกเป็นใครวะ?” เฉินฮั่นหลงตะโกนขึ้นถาม ชายชุดขาวเข้ามาโจมตีอย่างกะทันหัน พวกเฉินฮั่นหลงออกมาสู้โต้ตอบอย่างรวดเร็วจนตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอีกฝั่งเป็นใครด้วยซ้ำ

“พวกแกไม่มีสิทธิ์รู้” ชายรูปร่างสูงใหญ่ก้าวออกมาแล้วพูดขึ้น ดูจากที่คอมีวงแหวนสีทองคาดว่าน่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่ม

“บ้าเอ๊ย! ยังจะปากดี” ซุนหยิงมั่นใจในตัวเองจนเหิมเกริม ไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น พอได้ยินคำตอบแบบนี้แล้วก็โมโหแล้วตะโกนขึ้นอีกครั้ง

“ฆ่าพวกมัน!” ซุนหยิงราวกับหมาป่าที่กระหายเลือดเลือกที่จะพุ่งเข้าหาหัวหน้าคนนั้นก่อนเป็นอันดับแรก ซุนหยิงยกดาบขึ้นหมายจะฟัน หัวหน้าชายชุดขาวก็ไม่ต่างกันเพียงแต่หัวหน้าชายชุดขาวนั้นตั้งใจจะเล่นงานส่วนล่างของลำตัวซุนหยิงแทน “ไอ้บัดซบ!”

ซุนหยิงตะโกนด่า โชคดีที่มีหยกช่วยชีวิตอยู่เขาเลยไม่ได้กังวลก่อนจะฟันลงไป ดาบของหัวหน้าชายชุดขาวฟันลงมาแต่มีระลอกคลื่นนั้นบังเอาไว้ สายตาหัวหน้าของชายชุดขาวเปลี่ยนไปก่อนจะรีบถอยออกห่างเพื่อหลบดาบของซุนหยิง

ดาบของซุนหยิงไม่ได้ฟันลงไปบนร่างของหัวหน้าชายชุดขาวอย่างที่คิด เขาเลยตกใจกับฝีมือของคนตรงหน้า นี่ถ้าไม่ได้หยกช่วยชีวิตเขาก็คงจะตายไปแล้วแน่ ๆ ซุนหยิงไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่าตัวเองสู้หัวหน้าของชายชุดขาวไม่ได้ เขาก็ไม่ดันทุรังแต่มองไปยังคนตรงหน้าอย่างยั่วยุแทน

สายตาของหัวหน้าชายชุดขาวบ่งบอกถึงความไม่ชอบใจ ถึงแม้จะประหลาดใจที่ซุนหยิงฟันแทงไม่เข้า แต่เขาก็มองซุนหยิงอย่างเย้ยหยัน เพราะซุนหยิงช้าเกินไปทั้งสองตกอยู่ในสภาวะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน

“จุ๊ดจุ๊กจุ๊ก…คนของตระกูลไป๋ก็ยังคงใช้ไม่ได้เหมือนเดิม” อยู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นกลางอากาศ พอเสียงนั้นจบลง อยู่ ๆ ก็มีเงาดำปรากฏขึ้นก่อนจะทำให้มองเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างซุนหยิงกับหัวหน้าชายชุดขาว

ซุนหยิงกับหัวหน้าชายชุดขาวตกใจจนถอยออกห่าง เฉินฮั่นหลงพอได้ยินก็เพิ่งจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วชายชุดขาวพวกนี้เป็นคนของตระกูลไป๋ ที่มาก็คงเพราะอยากจะช่วยไป๋เซ่า

“แกเป็นใครว่ะ?” ใครนี้เป็นคนของตระกูลไป๋ที่พูดขึ้นมาแทน สายตาบ่งบอกถึงการตักเตือนเพราะคนตรงหน้าดันไปบอกตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาออกมา

“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญก็คือ…ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว แต่คนคุ้มกันของตระกูลไป๋ก็ยังไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม สวะ!” น้ำเสียงนั้นบ่งบอกได้ว่าคนพูดน่าจะมีอายุพอสมควร ชุดดำปกปิดร่างกายไว้เหลือเพียงดวงตาสองดวง การแต่งตัวแบบนี้มันคล้ายคนตระกูลไป๋มาก เพียงแค่สีต่างกัน

หัวหน้าชายชุดขาวนั้นส่งเสียง หึ ออกมา ก่อนจะพูดขึ้น  “อย่ามาพูดมากไปหน่อยเลย พวกเราจะเป็นยังไงแกก็ไม่มีสิทธิ์มาตัดสิน”

“พวกแกก็ไม่มีสิทธิมาตัดสินฉันจริง ๆ นั่นแหละ แต่เพียงฉันเคยสัญญากับตัวเองไว้เมื่อสิบปีก่อน ว่าจะฆ่าคนของตระกูลไป๋ให้หมด” สายตาของชายชุดดำบ่งบอกถึงความร้ายกาจ

“อย่ามาปากเก่งหน่อยเลย” หัวหน้าชายชุดขาวพูดขึ้น

“จะปากเก่งรึเปล่า เดี๋ยวก็รู้กันเอง” พอเสียงนั้นจบลง ร่างของชายชุดดำก็วูบไหวพุ่งตรงไปยังหัวหน้าชายชุดขาว

“หวูบบบบ” หัวหน้าชายชุดขาวยกดาบขึ้นมาสะบัดแกว่งไปมา ชายชุดดำส่งสายตาที่เย้ยหยันออกมาก่อนจะใช้มือฟาดลงบนดาบนั้น

“ตึง ตึง…….!” เสียงนั้นดังขึ้นอยู่หลายครั้ง และดาบในมือของหัวหน้าชายชุดขาวก็ค่อย ๆ ร้าวเกิดรอยแยกมากมายก่อนจะตกลงแตกละเอียดท่ามกลางสายตาของคนอื่น

คนที่มองอยู่หายใจไม่ทั่วท้อง คิดไม่ถึงว่าคนตรงหน้าจะใช้มือเปล่าฟันลงบนดาบมีคมนั้น

“ปั้ง”

พอจัดการกับดาบเสร็จ เขาก็หันมาเล่นงานหัวหน้าชายชุดขาวอย่างไม่ปรานี

“ตุ้บบบ….”

หน้าอกของคนหัวหน้าชายชุดขาวยุบเป็นหลุม ร่างไร้วิญญาณของเขาก็ลอยไปไกลสิบกว่าเมตร หมัดเดียวปลิดชีวิต!! คนที่มองอยู่ตัวสั่นเทา

ชายชุดดำที่จัดการกับหัวหน้าชายชุดขาวเรียบร้อยแล้ว ก็ใช้สายตาที่ดุดันอย่างเดิมหันไปมองชายชุดขาว คนอื่น ๆ พอหัวหน้ายังตายคนพวกนี้ก็รู้ทันทีว่าพวกเขาสู้ชายชุดดำไม่ได้แน่ ๆ มือของชายชุดดำราวกับเคียวของยมทูต ชายชุดขาวคนอื่น ๆ สู้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

เสียงร้องอย่างน่าเวทนานั้น ดังขึ้นหลายต่อหลายครั้งและตามด้วยร่างไร้วิญญาณที่ล้มลงบนพื้น เพียงชั่วพริบตาเดียว คนที่เหลืออยู่ก็ล้มลงกองระเนระนาดอยู่บนพื้น นอกจากที่โดนซุนหยิงจัดการแล้ว ที่เหลือก็ตายด้วยเงื้อมมือของชายชุดดำ

“ฉันจะให้โอกาสพวกนาย นับหนึ่งถึงสามวิ่งออกไปยังประตูบานใหญ่นั้นวิ่งออกไปได้ถือว่ารอด” ชายชุดดำแสยะยิ้มแล้วพูดขึ้น

“หนึ่ง” ชายชุดดำเพิ่งจะอ้าปาก ที่เหลืออีกเจ็ดถึงแปดคนก็รีบวิ่งตรงไปยังหน้าประตูบานใหญ่ที่ผุพังนั้น

ระยะห่างจากตรงนี้ถึงประตูประมาณสามสิบเมตร ชายเจ็ดถึงแปดคนที่เหลือก็ร่างกายแข็งแรงดียิ่งตอนที่วิ่งหนีเอาชีวิตรอดยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพียงแวบเดียวก็วิ่งไปไกลถึงสิบเมตร

“สอง”

ชายชุดดำมองดูคนพวกนั้นราวกับแมวที่กำลังมองดูหนูวิ่งหนี

“สาม”

พอเลขสาม ดังขึ้น ร่างของชายชุดดำก็กลายเป็นเงาแล้วพุ่งไปหาชายชุดขาวพวกนั้นอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ไปไกลถึง สิบเมตร ลมโชยเบา ๆ ทุกที่ที่เขาผ่านไปบ่งบอกว่าความเร็วอันน่ากลัว เสียงร้องที่น่าเวทนาดังขึ้นอีกครั้ง

ความเร็วของคนตระกูลไป๋ก็ใช่ว่าจะช้า แต่สำหรับชายชุดดำแล้วมันไม่เร็วเลยแม้แต่น้อย ชายชุดขาวที่วิ่งออกไป ล้มลงกองบนพื้น คนที่วิ่งไปเร็วที่สุดอีกหนึ่งก้าวขาข้างหนึ่งออกไปนอกประตู ใบหน้าก็ยิ้มขึ้นมาเพราะคิดว่าตัวเองรอดตายแล้ว

“ฉึบ”

ชายชุดขาวยืนแข็งทื่อ เมื่อมีมือหนึ่งแทงทะลุหน้าอกตัวเอง

“ฉันให้โอกาสไปแล้ว แต่น่าเสียดายที่นายคว้ามันเอาไว้ไม่ได้” ชายชุดดำดึงมือกลับ ร่างของชายชุดขาวก็ล้มลงบนพื้น เฉินฮั่นหลงและคนอื่น ๆ มองด้วยความหวาดกลัว เพราะตอนที่ชายชุดดำดึงมือกลับ ในมือก็มีหัวใจของชายชุดขาวติดออกมาด้วย

เฉินฮั่นหลงเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ช่วยชีวิต บุญคุณครั้งนี้กลุ่มเหยี่ยวมังกรจะต้องตอบแทนอย่างแน่นอน” ชายชุดดำหมุนตัวกลับมา แต่ยังคงมองด้วยสายตาที่ดุดันและโหดร้ายนั้นเหมือนเดิมทำให้คนที่มองอยู่ตัวสั่นไปตาม ๆ กัน

“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก เพราะเดี๋ยวพวกนายก็จะเกลียดฉันเอง” ชายชุดดำพูดขึ้นอย่างมีเลศนัย เฉินฮั่นหลงไม่รู้เป็นเพราะอะไรถึงอดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้ ถึงแม้จะไม่สามารถมองเห็นหน้าของชายชุดดำ แต่ราวกับว่าคนตรงหน้ากำลังยืนแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวให้หลังผ้าปิดปากสีดำ

“ผู้อาวุโสช่างมีอารมณ์ขันซะจริง ท่านช่วยพวกเราไว้ พวกเราจะเกลียดท่านได้ยังไงกัน?”

“เพราะพวกนายจะต้องตายในเงื้อมมือของฉันยังไงล่ะ” ชายชุดดำพูดจบก็มองมาที่ซุนหยิง “เริ่มจากแกก่อนก็แล้วกัน!!”