“เธอ…” สายตานั้นทำเอาเจียงอีหมิงตกใจจนอึ้งงันในชั่วขณะ
เฝิงอานหวาที่อยู่ข้างๆ ถูกหางตากวาดผ่าน ยังรู้สึกเสียวสันหลัง
ในขณะเดียวกัน
เผยหนานซวี่พยุงชายหนุ่มบนโซฟาที่จู่ๆ หมดสติไปขึ้นมาอย่างลนลาน “พี่! พี่! พี่ตื่น!”
โชคดีที่เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกแล้ว ไม่นานเผยหนานซวี่ก็สงบสติอารมณ์ลงได้ พลันโทรหาผู้ช่วยของเผยอวี้เฉิง “เตรียมรถไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!”
……
บนโซฟาจำลองในห้องโถงคัดเลือกนักแสดง
หลินเยียนไม่ได้ลุกขึ้น แต่เปลี่ยนท่านั่งให้สบายขึ้น สายตามองไปยังเจียงอีหมิงและเฝิงอานหวาอย่างเกียจคร้านและไม่ใส่ใจ…
“ผู้กำกับเจียง ที่แท้ก็แบบนี้งั้นเหรอที่พี่เรียกว่า…ยุติธรรม?”
น้ำเสียงของหญิงสาวราบเรียบ แต่กลับชวนให้รู้สึกเหมือนเหงื่อที่ถูกผู้ล่าจับจ้อง หนังหัวชาวาบ อกสั่นขวัญแขวน
เจียงอีหมิงรู้สึกละอายใจขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ พลันพูดติดอ่างว่า “เธอ…เธอหมายความว่าไง?”
เฝิงอานหวายิ่งตกใจจนพูดไม่ออก
มุมปากของหญิงสาวกระตุกองศาอันเย็นเยียบขึ้น ก่อนจะพูดอย่างช้าๆ “ไม่ได้หมายความว่าไง แค่อยากให้ผู้กำกับเจียงและโปรดิวเซอร์เฝิงคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ”
เป็นเพียงแค่นักแสดงตัวน้อยๆ แท้ๆ การกระทำและคำพูดก็ดูสบายๆ แต่กลับแผ่ความน่าเกรงขามชั่วพริบตา ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
เจียงอีหมิงและเฝิงอานหวาสบตากันอย่างตกใจ เห็นความเห็นเดียวกันจากสายตาของอีกฝ่าย
แม่เจ้า! เพียงพริบตาเท่านั้น ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน?
พวกเขากลับถูกสายตาของเด็กผู้หญิงคนนี้ข่มไว้ได้!
ที่แย่กว่านั้นคือ สายตาของผู้หญิงคนนี้ เหมือนท่านประธานเผยมาก!
เมื่อครู่นี้พวกเขานึกว่าตนถูกท่านประธานเผยสอบสวนจริงๆ เสียอีก ตกใจจนฉี่แทบราด
ไม่เพียงแค่เจียงอีหมิงและเฝิงอานหวาเท่านั้น บรรดานักแสดงคนอื่นๆ ก็กลั้นหายใจตามสัญชาตญาณเพราะบรรยากาศอันตึงเครียดโดยไม่ทราบต้นสายปลายเหตุนี้
สุดท้ายเฝิงอานหวาทำลายความตึงเครียดนี้ โดยการยิ้มแห้งพูด “เหอะๆ ดี! ดีมาก! คิดไม่ถึงเลย คิดไม่ถึงเลยจริงๆ! ทักษะการแสดงของคุณผู้หญิงหมายเลข 33 เก่งกาจเพียงนี้เชียว! เหมือนถูกท่านประธานจอมเผด็จการเข้าสิงอย่างไม่มีผิดเพี้ยน!”
เจียงอีหมิงเองก็ตั้งสติได้ ความปีติแวบผ่านเข้ามานัยน์ตา “ไม่เลว! ความรู้สึกแบบนี้แหละที่ฉันต้องการ! สมบูรณ์แบบเหลือเกิน!”
ที่แท้ก็เป็นการแสดง แม้แต่ผู้กำกับอย่างเขายังแทบจะตอบสนองไม่ทันแล้ว
พลังการแสดงและพลังระเบิดที่แข็งแกร่งลูกนี้ น่าทึ่งเกินไปแล้ว!
การแสดงเมื่อครู่นี้ของหลินเยียนเป็นความยืดหยุ่นและความเข้าใจระดับสูง และตอนนี้เป็นความน่าเกรงขามที่แผ่กระจายออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเหนือกว่าไปอีกขั้น!
หวังเฉี่ยวฮุ่ยเองก็ฟังความนัยที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของหลินเยียนออก พลันตะเบ็งเสียงต่อว่าอย่างขึ้งโกรธ “หลินเยียน หล่อนมันใจดำอำมหิต มาซี้ซั้วอะไร บอกว่าทักษะการแสดงของซานซานลูกสาวฉันใช้ไม่ได้? หล่อนไม่เคยเข้ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ ซานซานเป็นถึงนักศึกษาคุณภาพของวิทยาลัยภาพยนตร์ปักกิ่งเชียวนะ หล่อนมีสิทธิ์อะไรมาเทียบกับเธอ คนหน้าด้าน!”
หลินเยียนคนนี้ดูถูกเธอมากจริงๆ จงใจอ้างการแสดงมาบอกว่าผู้กำกับไม่ยุติธรรม!
หลินเยียนยืนเงียบอยู่ข้างๆ ทำเหมือนไม่ได้ยิน กระเหม่นใส่สองแม่ลูกอย่างเฉยเมยปราดหนึ่ง สายตานั่นราวกับกำลังหยามแมลงเม่าที่ด้อยค่า