เมื่อเห็นว่าในที่สุดป๋อจิ่งชวนก็เคลื่อนสายตามาหยุดที่เธอเสียที เธอจึงได้ปริปาก 

 

 

“คุณชายไปพักก่อนเถอะค่ะ ไม่งั้นนายหญิงท่านจะเสียใจเอานะคะ” 

 

 

เสียใจที่ความพยายามทั้งหมดของท่านสูญเปล่า 

 

 

ป๋อจิ่งชวนยกมือขึ้นดูเวลา กว่าจะถึงมือค้ำก็อีกสักพักใหญ่ 

 

 

“เข้าใจแล้ว” 

 

 

เขาพยักหน้าแล้วตบเท้าขึ้นบันไดไป 

 

 

ไหลหรงค่อยๆ มองคนที่เดินขึ้นบันไดไปจนสุดสายตา เธอยกยิ้มขึ้นก่อนจะตรงไปยังห้องของนายหญิงสกุลป๋อ 

 

 

เขาใช้มือลดเนกไทที่คลายไว้แล้วครึ่งหนึ่งลงมาแล้วเปิดประตูเข้าห้องตัวเองอย่างเคยชิน 

 

 

สำหรับคนที่ไม่ชอบให้ใครเข้ามารุกล้ำในอาณาเขตส่วนตัวตั้งแต่ไหนแต่ไร แม้ว่าเขาจะไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก แต่เขารับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงในห้องได้แทบทันที 

 

 

มือที่จับลูกบิดอยู่ชะงักค้าง สายตาเลื่อนไปหยุดอยู่ที่เตียงหลังใหญ่ใจกลางห้องโดยอัตโนมัติ 

 

 

นัยน์ตาลึกล้ำไม่อาจหยั่งรู้ฉายแววความเย็นเยียบวนเวียนไปมา สายตาดุจคมมีดไม่ละวางจากร่างที่ปรากฏอยู่บนเตียง สองขาค่อยๆ ยางกรายเข้าไปจุดนั้นอย่างช้าๆ 

 

 

ฝ่าเท้าเหยียบย้ำลงบนผืนพรมอย่างเงียบเชียบ 

 

 

สีหน้าเรียบเฉยของผู้ที่ถูกล่วงล้ำอาณาเขตฉายความดุดันและเยือกเย็น 

 

 

ทันทีที่เขาก้าวเข้าใกล้กับเตียงกว้าง เมื่อเห็นอีกคนที่กำลังหลับใหลอยู่บนนั้นนัยน์ตาเรียบนิ่งเริ่มทอประกาย ความเย็นชาเมื่อครู่ค่อยๆ มลายหายไป 

 

 

กลุ่มผมดำนุ่มราวปุยหมอกแผ่สยายบนหมอน ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือระเรื่อสีแดงจากการหลับสนิท เรียวคิ้วสวยวางตัวอย่างอ่อนโยน 

 

 

สายตาเหลือบไปเห็นแพขนตาราวกับผีเสื้อที่กำลังพักผ่อน ใบหน้าที่ปราศจากเครื่องสำอาง กลีบปากบางราวดอกไห่ถาง จมูกสวยเนียนใสได้รูป ความสงบเสงี่ยมอย่างน่าเหลือเชื่อ 

 

 

นางฟ้าบนดิน 

 

 

ในหัวของเขามีเพียงแค่สี่คำนี้ 

 

 

เขาไม่ได้ละสายตาทันทีหลังจากนั้น 

 

 

เสื้อคลุมอาบน้ำของเขาที่เธอสวมอยู่ดูเหมือนจะใหญ่เกินไป ยามได้หลับสบายแบบนี้ถึงได้ร่นลงมาอยู่ตรงบ่า ไหล่สวยโผล่พ้นเนื้อผ้าออกมาอย่างไม่ตั้งใจพร้อมกับเนื้อหนังสีขาวนวล กระดูกไหปลาร้าขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ 

 

 

ป๋อจิ่งชวนหายใจถี่ ความมืดครึ้มและความประหลาดใจก่อตัวขึ้นในดวงตาสีนิล 

 

 

เขารู้เพียงว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้น่ารังเกียจอะไร แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะถูกผู้หญิงคนนี้ปลุกปั่นได้โดยง่าย 

 

 

เขาหมุนตัวถอดเสื้อสูทตัวนอกโยนทิ้งไปยังโซฟาอีกด้านหนึ่ง ต่อด้วยยกข้อมือขึ้นปลดคัฟลิงค์ยี่ห้อแพงออกจากเสื้อเชิ้ต โน้มตัวลงเก็บมันไว้อีกด้าน 

 

 

จากนั้นสายตาก็เลื่อนกลับมามองใบหน้าที่กำลังหลับใหล แววตาจางๆ เปลี่ยนสีเข้มขึ้นในทันใด ความอบอุ่นค่อยๆ ฉายชัดในแววตา 

 

 

จะถือสาไปทำไม การที่เธอมีผลกับตัวเขาง่ายดายเช่นนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร 

 

 

เพราะถึงยังไง… 

 

 

จะช้าหรือเร็วก็ต้องเป็นเธออยู่ดี 

 

 

หย่อนตัวลงนั่งข้างเตียง ผินหน้ามองหญิงสาวที่กำลังฝันหวาน 

 

 

ข้อนิ้วเกลี่ยลงบนเส้นผมนุ่มตรงขมับของเธอ 

 

 

คนที่ตกอยู่ในห้วงนิทรารับรู้ได้ถึงกลิ่นกายอันหอมเย็นของคนที่ทั้งไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยอย่างเลือนราง ราวกับกลิ่นอายที่เย็นและสะอาดของเตียงเคล้ากับกลิ่นหอมอย่างอื่น 

 

 

คิ้วเรียวขมวดเบาๆ ได้ชื่อว่าเป็นนักปรุงน้ำหอมการแยกแยะกลิ่นจึงคล้ายจะกลายเป็นสัญชาตญาณของเธอไปแล้ว 

 

 

กลิ่นนี้มัน… 

 

 

น่าจะเป็นกลิ่นของเครื่องหอมติดรถสักชนิด 

 

 

เมื่อพบคำตอบของปัญหา คิ้วสวยช่างสงสัยจึงค่อยๆ คลายออกจากกัน 

 

 

ถูใบหน้าเข้ากับหมอนอย่างสบายใจ เส้นผมบางส่วนหล่นลงไปบนหน้าอกที่อยู่ใต้สาบเสื้อปกปิดทัศนียภาพที่ปรากฏออกมา 

 

 

ท่าทางราวกับเด็กน้อยทำให้ป๋อจิ่งชวนหลุดขำ เสียงแผ่วเบาค่อยๆ แผ่ขยายในห้องอันเงียบสนิท 

 

 

กลิ่นหอมที่ห่างกันเพียงคืบ ความรู้สึกจากพรสวรรค์ที่ไม่อาจเมินเฉย บวกกับแว่วเสียงหัวเราะของผู้ชายทำให้เฉินฝานซิงค่อยๆ ลืมตาตื่น…