บทที่ 22 คุณแม่อยากอุ้มหลานแล้วเหรอ? Ink Stone_Fantasy
เย่เทียนเฉินใบหน้าไร้อารมณ์ ไม่ได้พูดอะไร ท่าทีกลายเป็นเย็นชา เดินไปหาเฉินหาวทีละก้าวๆ ลูกกะจ๊อกสามสิบกว่าคนกับห้าวจื่อที่มีฝีมือไม่ธรรมดา ล้วนถูกเย่เทียนเฉินซัดหมอบไปหมดแล้ว เขาไม่ได้ใช้พลังพิเศษเพราะว่าไม่จำเป็นต้องใช้ คนพวกนี้ยังไม่ถึงขั้นที่จำเป็นต้องใช้พลังพิเศษถึงจะเอาชนะได้
ความเหี้ยมหาญในตอนแรกของห้าวจื่อ กระโดดสูงเมตรกว่าและใช้พลังทั้งหมดซัดไปทางเย่เทียนเฉิน กลับถูกเย่เทียนเฉินเตะกระเด็นในครั้งเดียว ตกมากระแทกพื้นจนลุกไม่ขึ้นไปครึ่งวัน ทำให้เฉินหาวตกใจเจนเหงื่อเย็นๆ แตกท่วมตัว เขานึกไม่ถึงเลยว่าตัวตลกและเศษสวะแห่งเมืองหลวงอย่างเย่เทียนเฉิน จะมีฝีมือแข็งแกร่งเช่นนี้ ลูกสมุนสามสิบกว่าคนที่ที่ถือกระบองเหล็กและมีด ไม่สามารถหยุดยั้งฝีเท้าของเขาได้เลยแม้แต่น้อย
ถึงแม้ว่าเย่เทียนเฉินจะไม่ได้ใช้พลังพิเศษ ก็ยังสามารถทำให้เย่เชี่ยนเหวินผู้เป็นน้องปากอ้าตาค้าง ตั้งแต่เล็กจนโต เย่เชี่ยนเหวินรู้จักพี่ชายเป็นอย่างดี ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่ชายมีภาพลักษณ์ของคุณชายเสเพล ต่อให้ภายหลังไปเป็นทหาร เป็นทหารหน่วยรบพิเศษ และได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มาจนมีฝีมือแข็งแกร่งขึ้น แต่เรื่องการใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีจัดการพวกลูกสมุนทั้งสามสิบกว่าคน เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ อีกทั้งตอนนี้เย่เชี่ยนเหวินรู้สึกว่าเย่เทียนเฉินพี่ชายของตนได้เปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นไม่ว่าจะทำอะไรก็ล้วนปรากฏความแข็งกร้าว
“อย่าเข้ามานะ ถ้ากล้าเดินเข้ามาอีกก้าว ฉันจะยิงน้องสาวแกทิ้งซะ!” เฉินหาวตกใจกลัวจนใบหน้าซีดขาว กลัวจนแทบฉี่รดกางเกง ควักปืนพกออกมาจากอก กดลงไปตรงขมับของเย่เชี่ยนเหวิน
“ปล่อยน้องสาวฉันซะ แล้วจะเหลือศพสวยๆ ไว้ให้แก” เย่เทียนเฉินกล่าวพลางมองเฉินหาวอย่างเย็นชา ไม่ได้เดินไปข้างหน้าอีก
“เหอะ ตลกน่า ตอนนี้เป็นฉันกำลังขู่แก ไม่ใช่แกขู่ฉัน เข้าใจสถานการณ์ซะด้วย……” เฉินหาวเห็นว่าเย่เทียนเฉินหยุดลง ดูเหมือนว่าไม่กล้าเดินเข้ามาอีก ก็รู้สึกว่าตราบใดที่เย่เชี่ยนเหวินอยู่ในกำมือของตน เย่เทียนเฉินก็จะไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแน่
เย่เทียนเฉินมองเฉินหาวด้วยสายตาเย็นชา เจ้าหมอนี่เป็นเพียงคนที่ตายไปแล้วในสายตาของเขา กล้ามาลงมือกับน้องสาวเขา ต่อให้เป็นเทพเจ้าก็จะไม่ไว้ชีวิต การปกป้องคนสำคัญนั้นเป็นเรื่องที่ต้องทำ จะปล่อยให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายไม่ได้
“พี่ อย่าเข้ามา รีบไปซะ พี่…”เย่เชี่ยนเหวินน้ำตาคลอ พลางตะโกนพูดกับเย่เทียนเฉินอย่างกระวนกระวาย
“ไม่ต้องกลัวนะ มีพี่อยู่ เธอจะไม่เป็นอะไรแน่” เย่เทียนเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เย่เชี่ยนเหวินมองเย่เทียนเฉินผู้เป็นพี่ชายของตน น้ำตาไหลออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ ตั้งแต่เล็กจนโต พี่ชายก็ล้วนแต่รักเธอเช่นนี้ เพื่อเธอแล้วกระทั่งชีวิตตนเองก็ไม่สนใจ ต่อให้รู้ว่าเฉินหาวเป็นต่อเขาอยู่ เย่เทียนเฉินก็ยังคงรุดหน้าไปอย่างห้าวหาญโดยไม่ยอมหันหลังกลับ ในสายตาของเขาน้องสาวคือหนึ่งในคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา
“ฮ่าๆ ๆ ๆ แม่ง ช่างเป็นความสัมพันธ์พี่น้องที่ลึกซึ้งดีจริงๆ เย่เทียนเฉินแกมันก็แค่เศษสวะ คุกเข่าให้ฉันซะ คุกเข่า…” เฉินหาวหัวเราะอย่างหยิ่งผยอง ตะโกนลั่นใส่เย่เทียนเฉิน
“โชคชะตาของฉันเย่เทียนเฉินมีตัวเองเป็นคนควบคุมมาแต่ไหนแต่ไร แม้แต่ฟ้าดินฉันยังไม่คุกเข่าให้ มดปลวกอย่างแกไม่คู่ควรหรอก” เย่เทียนเฉินเอ่ยอย่างไม่แยแส
โลกแห่งความวินาศเป็นโลกที่โหดร้ายทารุณมาก ไม่มีใครช่วยเหลือคุณได้ นอกจากตัวคุณเองเท่านั้น ถ้าหากว่าความสามารถของตัวเองไม่แข็งแกร่งพอ ก็เป็นได้แค่เพียงเนื้อปลาให้ผู้อื่นมากัดกิน จะอ้อนวอนทวยเทพหรือกราบไหว้ขอพร ก็สู้การเพิ่มพลังความสามารถของตัวเองเพื่อคิดหาทางอยู่รอดต่อไปไม่ได้
“แม่งเอ้ย ปากดีนักนะ ไปตายซะ!”
เฉินหาวเดือดดาล ไม่นึกว่าเย่เทียนเฉินจะไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาทั้งๆ ที่ตัวเขาเองมีปืนอยู่ในมือและจ่อไปยังเย่เชี่ยนเหวิน หันปากกระบอกปืน แล้วลั่นไกออกไปในทันที
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้น เย่เชี่ยนเหวินนิ่งอึ้ง น้ำตาพลันไหลออกมา นี่มันไม่ใช่แค่กระบองเหล็กหรือมีดดาบธรรมดาๆ ปืนไม่มีตา หากยิงโดนอวัยวะภายใน โดยพื้นฐานแล้วต่างก็ไร้หนทางมีชีวิตอยู่ต่ออีก
วินาทีต่อมา เฉินหาวล้มลงไปนอนจมกองเลือด กลิ้งไปกลิ้งมาที่พื้นพลางส่งเสียงกรีดร้องโอดครวญ ลูกกระสุนนัดนั้นไม่ได้ยิงถูกเย่เทียนเฉิน แต่ดีดกลับไปถูกเขาสียเอง
แท้จริงแล้ว เย่เทียนเฉินอยากจะยั่วโมโหให้เฉินหาวยิงปืนมาที่ตัวเอง ในวินาทีที่เฉินหาวลั่นไก เย่เทียนเฉินก็ยื่นมือขวาของตนเองออกไป รวบรวมพลังพิเศษทั้งหมดไว้ที่กลางฝ่ามือข้างขวา สร้างเป็นม่านแสงที่คนธรรมดามองไม่เห็น สะท้อนลูกกระสุนกลับไปโดนเข้าที่ไหล่ซ้ายของเฉินหาว
“น้องไม่เป็นไรใช่ไหม?” เย่เทียนเฉินเดินไปถึงข้างกายของเย่เชี่ยนเหวินผู้เป็นน้อง แก้เชือกที่มัดอยู่บนตัวของเธอออก ถามอยางเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร พี่ พี่…” เย่เชี่ยนเหวินมองเย่เทียนเฉินผู้เป็นพี่ชายราวกับมองมนุษย์ต่างดาว เดิมทีการที่เย่เทียนเฉินมีฝีมือแข็งแกร่งเช่นนี้ก็ทำให้เธอแปลกใจมากแล้ว คิดไม่ถึงว่าแม้แต่ปืนก็ทำร้ายพี่ชายไม่ได้ ทำให้เย่เชี่ยนเหวินรู้สึกยากจะเชื่อ
“ไปกันเถอะ พวกเราไปจากที่นี่กัน มันอันตรายเกินไป!”
เย่เทียนเฉินพูดขัดคำพูดของเย่เชี่ยนเหวิน แล้วจูงมือของน้องสาววิ่งออกไปจากโรงงานร้าง ส่วนเฉินหาวและเหล่าลูกสมุนต่างนอนร้องโอดครวญอยู่บนพื้น ก่อนที่จะออกมา เย่เทียนเฉินก็ได้ใช้มือตบลงไปที่ศีรษะของเฉินหาวครั้งหนึ่ง
ในนาทีที่เย่เทียนเฉินพาเย่เชี่ยนเหวินวิ่งออกไปจากโรงงานร้าง เฉินหาวก็ตายไปโดยที่มีเลือดไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด เมื่อสักครู่ตอนที่เย่เทียนเฉินตบศีรษะของเฉินหาว ก็อัดพลังพิเศษเข้าไปทำลายเซลล์สมองของเฉินหาว ตายอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
เดิมทีตอนที่เย่เทียนเฉินอยู่ระหว่างการเดินทางมาก็มีความคิดฆ่าฟันรุนแรงแล้ว เฉินหาวกล้าลักพาตัวน้องสาวของเขา สมควรต้องตาย เพียงแต่ว่าต่อหน้าเย่เชี่ยนเหวินของสาวของตน เย่เทียนเฉินไม่อยากฆ่าคน เพราะไม่ต้องการให้น้องสาวรู้สึกหวาดกลัว ดังนั้นจึงใช้วิธีเช่นนี้จบชีวิตของเฉินหาว กล้ามาลงมือกับคนสำคัญของเขาก็จำเป็นต้องตาย
“พี่…พี่ ทำไมพี่ถึงได้เก่งขนาดนี้กัน?” ขณะที่นั่งรถแท็กซี่ เย่เชี่ยนเหวินก็เอ่ยถามด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก
“ฮ่าๆ ได้เรียนมาจากในกองทัพน่ะ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ช่างมันเถอะ ถ้าหากว่าเธอชอบ พี่สามารถสอนศิลปะการต่อสู้ที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงให้เธอได้บางส่วนนะ” เย่เทียนเฉินกล่าวพร้อมกับหัวเราะ
“ไม่ใช่ล่ะมั้ง ขนาดลูกปืนก็หลบได้ จะเจ๋งเกินไปไหม?”
ภาพที่เฉินหาวยิงปืนใส่เย่เทียนเฉินเมื่อสักครู่นี้ ยังฉายซ้ำๆ อยู่ในสมองของเย่เชี่ยนเหวินตั้งแต่ต้นจนจบ เดิมทีเธอคิดว่าเย่เทียนเฉินผู้เป็นพี่หากว่าไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส จึงเสียใจจนน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย ใครจะรู้ว่าในช่วงเวลาที่รอเธอมีปฏิกิริยา คนที่ล้มลงไปนอนจมกองเลือดกลับเป็นเฉินหาว เขาถูกลูกกระสุนยิงโดนไหล่ซ้าย นอนโอดครวญอย่างเจ็บปวดอยู่บนพื้น
เฉินหาวยิงปืนใส่พี่ชายของตนชัดๆ แถมในมือของเย่เทียนเฉินก็ไม่ได้มีปืนอยู่ แล้วทำไมเฉินหาวถึงถูกลูกกระสุนยิงได้ล่ะ? เย่เชี่ยนเหวินรู้สึกคิดไม่ออกจริงๆ
“งงอะไร เมื่อกี้เธอไม่ได้มองปืนของเฉินหาวให้ละเอียดๆ เหรอ? มันเป็นปืนเลียนแบบ ตอนที่มันยิงปืนก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น กลายเป็นว่ายิงตัวเองไป เธอคิดว่าพี่หลบลูกปืนได้จริงๆ เหรอไง?” เย่เทียนเฉินแสร้งทำเป็นอับจนคำพูด กล่าวพลางมองน้องสาวแล้วสั่นศีรษะ
“เอ๋? เป็นแบบนี้นี่เอง พี่ นี่มันอันตรายมากเลยนะ ทำไมพี่โง่อย่างนี้ รู้ทั้งรู้ว่าอันตรายก็ยังจะมาอีก!” เย่เชี่ยนเหวินทำปากจู๋ พูดพร้อมกับมองไปยังพี่ชายอย่างรู้สึกซาบซึ้ง
“พี่เป็นพี่ของเธอนะ เธอมีอันตรายพี่จะไม่ไปช่วยได้ไง? ไม่ต้องคิดมากแล้ว สรุปว่าถ้ามีพี่อยู่ จะไม่มีใครมาทำร้ายเธอได้!” เย่เทียนเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เย่เชี่ยนเหวินกอดแขนเย่เทียนเฉินพี่ชายของตนอย่างรู้สึกซาบซึ้ง รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก หากมีพี่ชายที่รักและคอยปกป้องตนเองเช่นนี้ เด็กผู้หญิงที่ไหนจะไม่มีความสุขอีก?
แต่เย่เชี่ยนเหวินไม่รู้เลยว่าเฉินหาวตายไปแล้ว หลังจากที่เย่เทียนเฉินนั่งลงแล้วตบศีรษะของเฉินหาว ก็ได้อัดพลังพิเศษของตนเข้าไปด้วย ทำให้เลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดจนตาย นี่เป็นจุดจบที่เฉินหาวสมควรได้รับ สำหรับคนที่กล้ามารบกวนชีวิตอันสงบสุขของตน กล้ามาลงมือกับครอบครัวของตน เย่เทียนเฉินจะไม่เกรงใจเด็ดขาด ครอบครัวของฉัน ใครกล้ามาสร้างความอัปยศให้ ต้องชดใช้ด้วยชีวิต!
“จริงสิพี่ ตอนนี้พี่กับตระกูลฉีก็ถอนหมั้นกันแล้ว มีใครในใจอยู่รึเปล่า?” เย่เชี่ยนเหวินถามยิ้มๆ อย่างแก่แดด
“ยัยเด็กคนนี้นี่ วันๆ ไม่ตั้งใจเรียน สนใจเรื่องนี้ทำไมกัน? หรือว่าเธอรีบกว่าพี่ อยากจะหาคู่ชีวิตเร็วๆ ?” เย่เทียนเฉินกล่าวพลางยิ้มล้อเลียน
“ใคร ใครเขารีบกันล่ะ หนูไม่รีบหรอก แม่ต่างหากที่รีบ อยากจะอุ้มหลานเร็วๆ” เย่เชี่ยนเหวินหน้าแดง ถลึงตามองเย่เทียนเฉิน
เมื่อเย่เทียนเฉินได้ยินคำพูดของน้องสาว ก็อดไม่ได้ที่จะชะงักไปครู่หนึ่ง ความอกตัญญูมีอยู่หลายข้อ แต่ที่สาหัสที่สุดคือการไม่มีทายาท ตัวเองอายุยี่สิบปีแล้ว เดิมทีเย่หงสองสามีภรรยากว่าจะคลอดเย่เทียนเฉินก็ค่อนข้างช้า รวมกับหลัวเยี่ยนเป็นแม่เป็นแม่บ้านเต็มเวลา ย่อมอยากจะเห็นลูกชายแต่งงาน มีหลานให้อุ้มไวๆ นี่เป็นเรื่องที่ปกติธรรมดามาก
เพียงแต่ว่าเย่เทียนเฉินยังไม่มีใครอยู่ในใจจริงๆ แม้จะกล่าวว่าผู้หญิงที่เขาพบเจอมีจำนวนไม่น้อย แต่กลับไม่มีสักคนเดียวที่มีความรู้สึกดีๆ กับเขา อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่มี
“เรื่องของพรหมลิขิตมันบังคับกันไม่ได้หรอก ไว้ค่อยว่ากันเถอะ!”
“พี่ จริงๆ แม่ก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรพี่หรอกนะ แม่แค่กลัวว่าพี่ถูกทำร้ายกลายเป็นปมในใจ จนสูญเสียความมั่นใจกับผู้หญิงดีๆ ถ้าหากว่าไม่ได้แต่งงานไปชั่วชีวิต หรือว่ากลายเป็นคนจิตใจอ่อนแอไป ตระกูลเย่ของพวกเราก็คง…” เย่เชี่ยนเหวินทำปากจู๋พลางกล่าว
ในที่สุดเย่เทียนเฉียนก็เข้าใจสักที เป็นเพราะแม่กลัวว่าเรื่องของตระกูลหลิ่วและเรื่องการถอนหมั้นของตระกูลฉี จะทำให้ตนไม่สนใจหรืออาจกีดกันผู้หญิง ดังนั้นจึงอยากจะเร่งรัดให้ตนเองรีบแต่งงาน
“ไม่ได้ร้ายแรงแบบที่เธอกับแม่คิดขนาดนั้นหรอก พี่ยังเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง ก็แค่ยังไม่เจอผู้หญิงที่ทำให้หัวใจของพี่เต้นแรงก็เท่านั้น อีกอย่าง ต่อไปนี้เธอก็เรียนหนังสืออย่างสบายใจไปซะ วันๆ อย่าเอาแต่ผสมโรงกับแม่เรื่องนี้อีก เข้าใจไหม?” เย่เทียนเฉินแสร้งทำเป็นมองน้องสาวด้วยความโกรธ หากแม่และน้องสาวยืนอยู่บนเส้นทางสายเดียวกันล่ะก็ จากนี้ไปเขากลับถึงบ้านก็เป็นไปได้ว่าต้องพบกับสถานการณ์ อันน่าสังเวชที่วันๆ ถูกบีบบังคับให้แต่งงานแน่
“หนูไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย แม่บอกว่าให้หนูจับตาดูผู้หญิงที่อยู่รอบๆ ตัวพี่ตลอดเวลา ถ้ามีคนที่เหมาะสม ก็ให้ไปรายงานแม่ ถึงตอนนั้นแม่กับหนูจะเป็นคนตรวจสอบกันเองอีกครั้ง จะไม่ปล่อยให้พี่ไปหามามั่วๆ มาจากข้างนอกหรอก” เย่เชี่ยนเหวินพูดด้วยรอยยิ้มแปลกประหลาด
เย่เทียนเฉินรู้สึกหมดคำพูด ตนเองเพิ่งจะอายุยี่สิบ กระนั้นแม่ก็แทบรอไม่ไหวที่จะแต่งลูกสะใภ้เข้าบ้านและอุ้มหลาน จึงทำให้เย่เทียนเฉินอธิษฐานในใจอย่างอดไม่ได้ว่า ‘ผู้หญิงในฝัน ขอเธออย่ามาปรากฏตัวในเร็วๆ นี้เลย พี่เพิ่งจะอายุยี่สิบ ชีวิตคนโสดเพิ่งจะเริ่มต้นเอง……’
……………………………………………………….