บทที่ 22 บอสเผยเป็นคนเที่ยงธรรม!

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ไม่นานคนอื่นๆ ในห้องก็ถามคำถามคล้ายๆ กันออกมา

“ทำไมร้านในเกมมีของให้ซื้อแค่อย่างเดียว”

“เสียงเงินได้สูงสุดสามสิบหยวนเองเหรอ”

“ซื้อมาก็ได้สุ่มสิบครั้งเพิ่มแค่รอบเดียวต่อวันไม่ใช่เหรอ ไม่เห็นคุ้มเลย!”

“ไม่มีระบบ VIP เหรอ เกมสามก๊กสุดคิวต์มีตั้งแปดขั้นเลยนะ!”

 ทุกคนหันไปมองหร่วนกวางเจี่ยน

แต่เขาเองก็ไม่รู้อะไรเลยเหมือนกัน

เขาตอบหลังครุ่นคิดสักพัก “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเป็นแบบนี้ เดี๋ยวลองถามบอสเผยดู เขาอาจจะมีแนวความคิดบางอย่างหรือไม่มันก็อาจไม่ใช่เวอร์ชันสมบูรณ์ก็ได้”

หร่วนกวางเจี่ยนก็แปลกใจไม่ต่างกันขณะส่งข้อความไปหาเผยเชียนผ่านระบบติดต่อสื่อสารของเว็บไซต์รวมทรัพยากร

“บอสเผย ผมไม่เห็นระบบเสียเงินหรือไอเทมอื่นๆ ให้ซื้อในเกมเลย หรือเกมจะยังเป็นเวอร์ชันทดสอบอยู่ เดี๋ยวมันจะมีระบบเพิ่มเติมใส่มาในเวอร์ชันสมบูรณ์ใช่ไหม”

ไม่นานเผยเชียนก็ตอบกลับ

“นี่เป็นเวอร์ชันสมบูรณ์แล้ว”

หร่วนกวางเจี่ยนอึ้งไป “แล้ว…ไอเทมที่ให้ซื้อในเกมล่ะ”

เผยเชียน: “ไอเทมให้ซื้อในเกมมีแค่บัตรสมาชิกถาวร เราไม่ได้คิดจะใส่ไอเทมอะไรลงไปเพิ่มอีก”

หร่วนกวางเจี่ยน: “ทำไมล่ะ!”

เผยเชียน: “ทำไมเหรอ ก็ไม่ทำไม! กลยุทธ์การวางราคาของเกมเราคือตั้งราคาคงที่ไว้ราคาเดียว ผู้เล่นเสียเงินตั้งสิบหยวนซื้อเกมเราไปแล้ว แล้วจะใส่ไอเทมในเกมให้ซื้อเพิ่มอีกได้ยังไงกัน”

“จริงๆ แล้วแผนเดิมไม่ได้จะใส่บัตรสมาชิกถาวรราคาสามสิบหยวนลงไปด้วยซ้ำ! แต่สุดท้ายก็ใส่ไปเพื่อเอาใจผู้เล่นบางกลุ่ม”

หร่วนกวางเจี่ยนงงไปหมด ไม่รู้จะตอบอะไรไปพักใหญ่

บอสเผยคิดถึงผู้เล่นมาก!

เพดานค่าใช้จ่ายเกมสามก๊กสุดคิวต์อยู่ที่ประมาณหนึ่งพันหยวน มีเพียงผู้เล่นสายวาฬที่มีโอกาสได้การ์ดสุดหายาก ส่วนผู้เล่นทั่วไปต้องลำบากลำบนอยู่นานกว่าจะได้การ์ดสีม่วงมาสักใบ

แต่ผู้เล่นทุกคนในเกมแม่ทัพผีนั้นไม่มีใครเหนือไปกว่าใคร! ข้อแตกต่างเดียวมีแค่บัตรสมาชิกถาวรราคาสามสิบหยวน!

ถ้าเป็นเกมสามก๊กสุดคิวต์ เงินแค่นี้ใช้สุ่มสิบครั้งยังไม่ได้เลย!

หร่วนกวางเจี่ยนรู้สึกผิดที่ใช้ความคิดของตัวเองไปตัดสินความใจกว้างของเผยเชียน

เขาคิดว่าที่เกมไม่มีเพดานค่าใช้จ่ายเป็นเพราะตัวเกมยังไม่สมบูรณ์หรือไม่ก็เพราะเหตุผลอื่นๆ

แต่พอได้ถามก็รู้ว่าเผยเชียนไม่ได้ตั้งใจจะตั้งเพดานค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรก! เขาอยากให้เกมนี้เป็นเกมการ์ดมือถือที่ผู้เล่นทุกคนเท่าเทียมกันที่สุด!

เขาอยากให้ผู้เล่นทั่วไปได้สนุกไปกับการสุ่มได้การ์ดหายากเช่นกัน!

หร่วนกวางเจี่ยนน้ำตาปริ่มเมื่อตระหนักว่าตนช่างหน้าเลือดเก็บเงินเผยเชียนมาตั้งสามพันหยวนต่อเซ็ต

เขาควรจะลดราคาให้ผู้พัฒนาเกมแสนใจกว้างคนนี้!

ตอนนั้นเองหร่วนกวางเจี่ยนก็นึกคำถามออกอีกข้อจึงรีบถาม “บอสเผย มีอีกเรื่อง เกมยังไม่ค่อยมีคนโหลดไปเล่นเลย เพราะยังไม่ได้เริ่มโฆษณารึเปล่า”

เผยเชียน: “โฆษณาเหรอ เหอะ ไม่มีการโฆษณาหรอก”

หร่วนกวางเจี่ยนตะลึงงัน “ทำไมล่ะ”

จะสร้างเกมมาทำไมถ้าไม่โฆษณา!

ขนาดภัตตาคารดีๆ ยังไม่กล้าไปตั้งอยู่สุดซอยเลย แล้วเกมเมอร์จะรู้ได้อย่างไรว่ามีเกมนี้อยู่ถ้าไม่โฆษณา

เผยเชียน: “เพราะผมไม่มีเงินแล้ว! ผมหมดไปสามแสนเพื่อทำเกมนี้ ทั้งซื้อเทมเพลต งานภาพ เพลง เสียงเอฟเฟ็กต์ อุปกรณ์เช่าบริการเซอร์เวอร์คลาวด์…ไม่มีเงินเหลือสักแดง”

หร่วนกวางเจี่ยนซึ้งน้ำจนตาไหล

ชายผู้นี้จะจิตใจดีอะไรถึงเพียงนี้!

หร่วนกวางเจี่ยนนึกถึงตอนที่เผยเชียนใจกว้างกับเขาตอนคุยกันเรื่องราคางานภาพ

ตอนแรกหร่วนกวางเจี่ยนเสนอราคาไปที่สองพันหยวนต่อภาพหนึ่งเซ็ตสี่ภาพ แต่เผยเชียนกลับบอกว่าสองพันหยวนน้อยเกินไปไม่คุ้มแรงที่ต้องออกแบบจึงยืนกรานขึ้นราคาเป็นสามพันหยวนต่อเซ็ต

ตอนนั้นหร่วนกวางเจี่ยนคิดว่าบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีน่าจะเป็นบริษัทที่รวยสุดๆ จนไม่สนใจเรื่องเงินแม้แต่นิด

แต่หลังจากได้รู้อะไรหลายๆ อย่างก็ตระหนักแล้วว่ามันไม่ได้เป็นเหมือนที่เขาคิด!

บริษัทเถิงต๋าไม่ได้ร่ำรวยเลย! บริษัทมีเงินทุนรวมทั้งหมดแค่สามแสนหยวนซึ่งทุ่มไปทั้งหมดกับการทำเกมจนไม่เหลือเงินสำหรับโฆษณา!

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ถึงจะรู้สึกแปลกใจ แต่หร่วนกวางเจี่ยนก็เข้าใจเหตุผลได้

บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีปล่อยเกมออกมาก่อนหน้านี้หนึ่งเกม ซึ่งก็คือเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย ถึงจะมีกระแส แต่บริษัทจะได้กำไรอะไรมากจากเกมราคาแค่หนึ่งหยวนกันเล่า

เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะขาดแคลนเงินทุนสำหรับการทำเกมที่สอง

ถึงเงินทุนจะมีจำกัด แต่บอสเผยก็ไม่คิดเอาเปรียบพวกเขาและเสนอราคาที่ยอมรับได้อีกทั้งยังยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย…

เที่ยงธรรม! ชายผู้นี้เป็นคนเที่ยงธรรม!

หร่วนกวางเจี่ยนรู้สึกไม่ดีขึ้นมา บอสเผยน่าจะมีเงินเหลือสำหรับโฆษณาถ้าเขาลดราคางานให้

แต่เขาก็รู้ว่าเสนอเรื่องนี้ไปไม่ได้ เพราะดูจากนิสัยแล้วบอสเผยน่าจะไม่ยอมรับเงินเขาแน่ นอกจากนี้เขายังเป็นบอสของบริษัท จะทำอะไรก็คงอยากรักษาหน้าตาตัวเองไว้บ้าง

คิดได้แบบนั้น ในใจของหร่วนกวางเจี่ยนก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา

เกมที่คิดถึงผู้เล่นขนาดนี้จะต้องถูกฝังลืมเพราะไม่มีเงินสำหรับโฆษณา

ช่างบีบใจเสียจริง!

“พรรคพวก ฉันว่าเกมแม่ทัพผีต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราแน่ะ”

หร่วนกวางเจี่ยนเสนอความคิดให้เหล่ารูมเมตฟัง

หวงและคนอื่นๆ ก็ตะลึงงันไม่ต่างกัน

“เกมนี้จะดีเกินไปแล้ว! ไม่คิดหาเงินทำกำไรเลยเหรอ”

“ไม่มีบริษัทไหนที่ทำเกมออกมาแล้วไม่ต้องการเงินหรอก ฉันว่าบอสเผยเป็นคนมีคุณธรรม เขาไม่อยากขูดรีดเงินคนอื่นมากกว่า!”

“ใช่ ถ้าไม่อยากได้เงินคงปล่อยเป็นเกมฟรีไปแล้ว! ฉันว่าเขาน่าจะหวังพึ่งราคาซื้อเกมสิบหยวนนี่แหละ!”

“ดูยากแฮะ ถึงเกมจะดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่โฆษณาก็เกิดยาก!”

“งั้นเราโฆษณาให้ดีมั้ย”

“ก็ได้ แต่เรามีกันแค่นี้…จะไปทำอะไรได้ ถ้ามีแอคใหญ่ๆ หรืออัปโหลดมาสเตอร์ดังๆ มาช่วยก็คงจะพอสร้างกระแสได้ แต่เราไม่รู้จักใครเลยไง!”

ทุกคนตกอยู่ในภวังค์ความคิด

หวงและคนอื่นๆ เชื่อตามที่หร่วนกวางเจี่ยนบอก พวกเขาคิดว่าเกมดีๆ อย่างเกมแม่ทัพผีไม่ควรถูกมองข้าม ไม่อย่างนั้นตลาดเกมมือถือในประเทศจะต้องสูญเสียเกมดีๆ ไปแน่!

แต่พวกเขาก็ไม่สามารถคิดหาวิธีอะไรได้มากมายไม่ว่าจะระดมสมองกันหนักขนาดไหน

จะให้ไปโพสต์บนอินเทอร์เน็ตรัวๆ ว่า ‘เกมแม่ทัพผีเป็นเกมดี’ ก็ไม่ได้ เพราะเป็นวิธีที่ไม่มีประสิทธิภาพและอาจจะเหนื่อยฟรีเอาเปล่าๆ

ทันใดนั้นหร่วนกวางเจี่ยนก็ตบหน้าขาตัวเอง “คิดออกแล้ว! ฉันอยู่ในกลุ่มที่มีพวกนักวาดดังๆ น่าจะไปขอให้เขาช่วยอะไรได้บ้าง”

หวงอึ้งไป “แกอยู่ในกลุ่มแบบนั้นด้วยเหรอ ทำไมข้าไม่เห็นรู้เรื่อง”

“เฮ้อ เรื่องมันยาว”

หร่วนกวางเจี่ยนเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเริ่มอธิบาย “จำได้มั้ยว่าฉันเคยทำงานพาร์ตไทม์ในงานประกวดคอนเซ็ปต์อาร์ตปีก่อน ตอนนั้นฉันไปรู้จักกับอาจารย์เฉินฉีก็เลยเอางานให้อาจารย์ดู อาจารย์ชอบงานฉัน บอกให้ฉันพัฒนางานต่อเลยชวนฉันเข้ากลุ่ม”

เขาหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ในกลุ่มมีแต่นักวาดยักษ์ใหญ่ในวงการเรา ฉันอายไม่กล้าคุยอะไรเลยได้แต่สิงกลุ่มอยู่เงียบๆ มาตลอด”

……………………..