เล่ม 1 ตอนที่ 27 ความผิดปกตินี้มาจากไหน

ราชินีพลิกสวรรค์

เพราะคำพูดประโยคสุดท้ายนี้ทำให้เท้าของลู่จ้านเกือบตกหลุมอากาศ อับอายต่อหน้าเจียงหลี 

 

 

มุมปากของเขากระตุกอย่างรุนแรง และทันใดนั้นเขาก็รู้ว่าจุดสนใจของหญิงสาวผู้นี้ดูเหมือนจะแตกต่างกันจากคนอื่นเล็กน้อย ในเวลานี้แทนที่จะกังวลเกี่ยวกับคำเตือนของเขาและนางเองก็ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการคัดเลือกในครั้งต่อไป แต่กลับกังวลว่าตนจะพักที่ไหนในค่ำคืนนี้ 

 

 

ใจกล้าเกินไปหรือไม่ 

 

 

“จะมีคนจัดเตรียมให้” ลู่จ้านตอบอย่างเย็นชาแล้วเดินออกไปต่อหน้าต่อตาเจียงหลี 

 

 

ในขณะที่ดินไปไกลแล้ว เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีกิ่งก้านปกบัง และหัวเราะอย่างเงียบๆ โชคดีที่ไม่มีใครเห็นรอยยิ้มของเขา ไม่อย่างนั้นเกรงว่าหลายคนที่รู้จักเขาคงจะตกใจน่าดู 

 

 

“น่าสนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบคนที่ไม่เกรงกลัวข้า” ลู่จ้านพูดเสียงเบา 

 

 

เขารู้ดีว่าตั้งแต่การพบกันครั้งแรกจนถึงตอนนี้ หญิงสาวที่ชื่อเจียงหลีไม่ได้แสดงออกถึงร่องรอยของความหวาดกลัวหรือความยำเกรงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขา 

 

 

ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสในตระกูลลู่อย่างเขาผู้ซึ่งเชี่ยวชาญพลังการต่อสู้ไม่ต่างจากคนธรรมดาต่อหน้านาง 

 

 

… 

 

 

ลู่จ้านไม่ได้หลอกลวงเจียงหลี 

 

 

ไม่นานหลังจากที่เขาจากไปก็มีคนเข้ามาและพานางไปพักผ่อนในกระท่อมหลังหนึ่ง 

 

 

ต่อมาเจียงหลีถึงได้รู้ว่าคนอย่างนาง ‘รอคนจัดการให้’ นั้น ก็สามารถอาศัยอยู่ในเพิงเท่านั้น 

 

 

การแข่งขันคัดเลือกจะจัดขึ้นทุกสามวัน ผู้คนที่เข้าร่วมในทุกครั้งมีทั้งคนเก่าและคนใหม่ 

 

 

หากพูดถึงความเป็นธรรม 

 

 

เป็นไปได้ไหมว่าหากประสบความสำเร็จในการฝึกฝนตนในอนาคตและเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีระดับสูงกว่าตนเอง เจ้าต้องบอกกับเขาว่า เดี๋ยวก่อน รอให้ข้าฝึกฝนจนมาถึงระดับเดียวกันกับเจ้า แล้วเรามาแข่งขันกันอย่างยุติธรรมเถอะ 

 

 

เป็นเวลาสามวันติดต่อกันที่เจียงหลีอยู่อย่างเงียบๆ ในกระท่อม เพื่อสัมผัสกับโลกอย่างละเอียดและฝึกฝนความรู้สึก 

 

 

เซียวเซียวไม่ได้มาพบนางและนางก็ไม่ได้ไปหาเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดอยู่ในถ้ำเก้าปีศาจ เขาไม่สามารถหนีไปได้ 

 

 

สามวันต่อมา นี่เป็นครั้งที่สองที่เจียงหลีเข้าร่วมการคัดเลือก คราวนี้นางไม่ได้ช่วยคนอื่นให้ผ่านระดับนี้ และนางเองก็ไม่ได้แย่งชิงเพื่อเอาที่หนึ่ง 

 

 

อย่างไรก็ตามความผิดปกติของนางยังคงทำให้ลู่จ้านพูดไม่ออก เห็นได้ชัดว่านางมีความสามารถในการต่อสู้เป็นที่หนึ่ง แต่นางปฏิเสธที่จะออกมาจากขบวนรบทุบพันครั้งฝึกร้อยครา 

 

 

ชอบถูกทำร้ายหรือ หลังจากการคัดเลือกสิ้นสุดลง ลู่จ้านมองดูร่างที่เปียกโชก อีกทั้งมีเลือดออกจากจมูกและปาก แต่เจียงหลีกลับยิ้มอย่างมีความสุขและเกิดคำถามในใจ 

 

 

“สามวันต่อจากนี้ เจ้ายังมีโอกาสครั้งสุดท้าย” เมื่อออกไปลู่จ้านตั้งใจหยุดข้างๆ เจียงหลีเพื่อเตือนนาง 

 

 

… 

 

 

สามวันผ่านไปอีกครั้ง และเป็นเก้าวันแล้วที่เจียงหลีมาที่ถ้ำเก้าปีศาจ  

 

 

นางเปลี่ยนจากคนที่มาใหม่ เป็นคนที่อยู่มาก่อนแล้วในการคัดเลือก 

 

 

กฎการคัดเลือกยังคงไม่เปลี่ยนแปลง พวกเขายังคงเข้าสู่วงกลมสีแดงและออกจากวงกลมสีแดง รางวัลยังไม่เปลี่ยนแปลงยังเป็นศิลาวิญญาณ 

 

 

ครั้งนี้เจียงหลีเดินออกจากสนามรบเช่นเดียวกับสองครั้งก่อนหน้านี้ เดินออกจากสนามขบวนรบทุบพันครั้งฝึกร้อยคราโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง เพื่อรอคนอื่นๆ เข้าสู่ขบวนด้วยกัน 

 

 

“ผู้ที่ดำเนินการต่อเข้าสู่การต่อสู้ ผู้ที่ยอมแพ้จะถอยออกไปห้าก้าวโดยสมัครใจ” ลู่จ้านยังยืนอยู่ที่ทางออกตะโกนบอกฝูงชนที่รอการคัดเลือกผ่านการต่อสู้ 

 

 

ทันทีที่เสียงของเขาลดลง ผู้คนหลายคนที่เคยมีประสบการณ์แล้วครั้งหนึ่งก็ถอยออกไป 

 

 

ที่เหลืออยู่คือคนที่ผ่านมาสองครั้งแล้วและไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ในครั้งสุดท้ายนี้กับพวกคนหน้าใหม่ที่ไม่รู้อะไร ในไม่ช้า ผู้เข้าคัดเลือกหลายสิบคนในสนามก็ได้แบ่งออกเป็นสองฝ่าย 

 

 

เจียงหลีก็ยืนอยู่ในสนามเช่นกัน 

 

 

“ผู้ที่เข้าร่วมการต่อสู้ จะต้องไม่ช่วยเหลือผู้อื่นในการออกจากการต่อสู้ อย่าใช้วิธีใดๆ ในการฉ้อโกงและอย่า…” ลู่จ้านวางกฎไว้มากมาย 

 

 

รายการเหล่านี้ถูกเพิ่มหลังจากที่เจียงหลีมา ยิ่งไปกว่านั้นมันจะสมบูรณ์ขึ้นในทุกครั้ง 

 

 

หลังจากฟัง เจียงหลีพูด เหอะๆ สองครั้งในใจ ที่นางดูหมิ่นความตระหนี่ของลู่จ้าน 

 

 

เขาใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือในการหาช่องโหว่ของกฎเกณฑ์ 

 

 

“ได้ยินชัดเจนหรือไม่” ลู่จ้านถามอย่างเสียงดัง 

 

 

“ได้ยินชัดเจนแล้ว” 

 

 

ชายหนุ่มและหญิงสาวกลุ่มหนึ่งตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 

 

 

“เริ่ม” ลู่จ้านโบกมือและเสียงกลองก็ดังขึ้น 

 

 

ตึง ตึง ตึง ตึง 

 

 

ในตอนแรกเสียงกลองนั้นนุ่มนวลมาก เพื่อว่าผู้คนในขบวนจะปรับตัวให้เข้ากับผลของการเข้าสู่ขบวนรบทุบพันครั้งฝึกร้อยครา 

 

 

หลังจากนั้นจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นแรงและเร็วขึ้น 

 

 

แน่นอนว่าแม้จะอยู่ในระดับนี้แต่ก็ยังมีผู้มาใหม่ที่กระอักเลือดออกมาเต็มปากเมื่อเสียงกลองดังขึ้นและมีคนเป็นลมล้มตายไป 

 

 

เมื่อเห็นคนที่เป็นลมล้มตายไป ลู่จ้านก็ส่ายหัวช้าๆ ทางด้านซ้ายและขวามีคนเข้ามาในขบวนอย่างรวดเร็วและลากคนตายออกไป 

 

 

มิฉะนั้นถ้าปล่อยให้พวกเขาอยู่ในขบวนต่อไป และเมื่อการรบจบลงด้วยกำลังที่พวกเขาสามารถทนได้ ไม่ล้มตายก็จะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ 

 

 

ตึง ตึง 

 

 

ตึง ตึง 

 

 

เสียงกลองรัวเร็วขึ้น ทุกคนในการต่อสู้ดูเหมือนจะรู้สึกถึงค้อนหนักที่มาจากทุกทิศทาง และเหมือนมันกำลังกระแทกเข้าใส่บนตัวเอง พลังนี้ไม่เพียงแต่แทรกซึมเข้าไปในผิวหนัง แต่ยังทะลุเข้าไปในร่างกายกระดูกเลือดและกล้ามเนื้อ… 

 

 

ขบวนรบทุบพันครั้งฝึกร้อยครา เสมือนพลังของวัวเป็นพันตัวทำให้เคลื่อนไหวได้ยากมาก 

 

 

ไม่! 

 

 

นี่เป็นก้าวที่ยาก! 

 

 

พวกเขาถูกกดลงบนพื้นโดยตรงด้วยแรงนี้ แม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะขยับไปข้างหน้าเพียงเล็กน้อย ก็ต้องใช้พละกำลังอย่างมาก 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลาเดียวกันนี้ พวกเขายังต้องทนกับความเจ็บปวดจากขบวนรบทุบพันครั้งฝึกร้อยครา 

 

 

อ้ากกก 

 

 

“อ้าก ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว” 

 

 

คนที่ทนไม่ไหวก็เริ่มส่งเสียงกรีดร้อง นอกจากนี้ยังมีเสียงตะโกนจากผู้คนอย่างต่อเนื่องว่า ถ้าหากต้องการจะล้มเลิก 

 

 

และแล้วในขณะนี้ก็มีร่างเพรียวบางลอยผ่านพวกเขาไปอย่างใจเย็น… 

 

 

ไป…ไป 

 

 

ผู้คนที่นอนอยู่บนพื้น ต่างมองไปที่ร่างนั้นด้วยความตกตะลึง 

 

 

นางดูผ่อนคลายและเป็นอิสระมากเหมือนเดินอยู่สวนดอกไม้ในบ้านของตนเอง 

 

 

แม่เจ้า! นี่มันอยู่ในสนามฝึกด้วยกันกับพวกเขาจริงๆ หรือ ให้ตายเถอะ ขบวนฝึกนี้ คงจะไม่เลือกคนที่จะโจมตีหรอกมั้ง พวกเขาถูกทารุณกรรมเหมือนอย่างสุนัข แต่นางกลับไม่เป็นอะไรเลย 

 

 

ผิดปกติ! 

 

 

ผิดปกติเกินไป 

 

 

ในขณะนี้ ผู้คนภายนอกและภายในขบวน ตราบเท่าที่พวกเขายังตื่นอยู่ต่างก็จะมุ่งความสนใจไปที่เจียงหลี 

 

 

มันน่าแปลกใจมาก มันน่าตกใจมาก 

 

 

ในบรรดาคนที่ตีกลอง บางคนถึงกับลืมตีกลองเพราะตกใจจนเกินไปและเพราะลืมตีกลองจึงทำให้เกิดความวุ่นวายในขบวน 

 

 

เจียงหลีมองไปข้างหน้าอย่างมั่นคงเดินตรงออกจากสนามขบวนรบทุบพันครั้งฝึกร้อยครา ยืนตรงอยู่ตรงหน้าลู่จ้านและยิ้มให้เขา “ข้าไม่ได้ทำผิดกฎใช่ไหม” 

 

 

“…” ลู่จ้านพูดไม่ออก 

 

 

ความตกใจในใจของเขายังไม่หายไป เขารู้ดีว่าขบวนรบทุบพันครั้งฝึกร้อยคราเป็นการก่อตัวของอารมณ์ในร่างกายเป็นรูปแบบวิธีการหนึ่งในขบวนที่ง่าย หลังจากได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ร่างกายจะแข็งแกร่งขึ้นและเอื้อต่อการฝึกมากขึ้น หลังจากได้รับฝึกฝนหลายครั้ง เมื่อร่างกายถึงขีดจำกัดของการฝึกฝนก็จะไม่ได้รับผลกระทบจากการฝึกฝนอีกต่อไป 

 

 

ในตอนนั้น หลังจากที่เขาเข้าสู่หน่วยพิทักษ์ความมืด และฝึกฝนในขบวนอยู่เป็นสิบครั้งถึงจะได้รับอิทธิพลเช่นนี้ 

 

 

แล้วเจียงหลีล่ะ หลังจากผ่านไปเพียงสองครั้ง ยังอยู่ในช่วงการประเมินนางก็ไม่ได้รับผลกระทบจากการฝึกฝนของขบวนอีกต่อไป และสามารถผ่านครั้งที่สามได้อย่างง่ายดาย 

 

 

ทันใดนั้นลู่จ้านก็เข้าใจว่าทำไมเจียงหลีถึงยอมทิ้งโอกาสสองครั้งแรก อาจเป็นเพราะนางมองเห็นความลับของขบวนฝึกฝนตั้งแต่แรกแล้ว ต่างจากคนอื่น ๆ พวกเขาคิดเสมอว่ารูปแบบนี้มีขึ้นเพื่อทรมานพวกเขา 

 

 

“ยินดีด้วย” หลังจากเข้าใจทุกอย่างแล้ว ลู่จ้านยังคงรู้สึกประหลาดใจกับจิตใจของเจียงหลี แต่ก็พูดอย่างใจเย็น