บทที่ 12 ฟังให้ดี ๆ ก็พอแล้ว

บัญชามังกรเดือด

บทที่ 12 ฟังให้ดี ๆ ก็พอแล้ว

ซูเหวินเฉิงกัดฟันพูด“ไอ้หนู เรื่องนี้ไม่จบแน่!”
เขาชักปืนออกมาก็เพียงแค่ความโกรธขู่ให้ฉินเทียนตกใจ ให้เขายิงจริง ๆ ก็ไม่กล้า
หาทางลงไม่ให้อึดอัดจึงเอาปืนเก็บขึ้นมาด้วยความโกรธ
ซูเหวินปินรู้ว่าที่ซูเป่ยซานปกป้องฉินเทียนมาทั้งหมดก็แค่เพราะภาพแผ่นนั้นที่อยู่ในมือของฉินเทียน
เพราะภาพแผ่นหนึ่งทำให้ฉินเทียนมีหน้ามีตาแล้ว เขายากที่จะยอมได้
เวลานี้เพื่อเอาศักดิ์ศรีกลับมาแทนซูเหวินเฉิง เขายิ้มพูดว่า“พี่เหวินเฉิง เมื่อก่อนเวลานี้พี่เตรียมของขวัญให้คุณปู่ต่างก็เป็นของที่ดีที่สุด”
“ยังจำได้ปีที่แล้วหยกหรูอี้อันนั้น เต็มไปด้วยความสดใสจริง ๆ ”
“ปีนี้เตรียมอะไรแล้ว รีบหยิบออกมาให้พวกเราเปิดโลกกว้างหน่อย”
ถ้าหากของขวัญที่ซูเหวินเฉิงเตรียมมาบดทับฉินเทียนได้ อย่างนั้นเป็นไปตามที่คาดคิดซูเป่ยซานก็จะไม่ปกป้องฉินเทียนอย่างนี้แล้ว
“ใช่แล้วคุณชายเหวินเฉิง สรุปแล้วเตรียมของขวัญใหญ่อะไรแล้ว รีบให้พวกเราดูหน่อย”
“ของขวัญของคุณชายเหวินเฉิงจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน!” คนในตระกูลเริ่มประจบ
ซูเหวินเฉิงพูดอย่างภาคภูมิใจ“คุณปู่ ปีนี้ผมไม่ได้ซื้อของอะไรมาให้คุณแต่เอาข่าวดีที่สำคัญมาแล้ว”
“ผมเชื่อว่าข่าวนี้จะยิ่งมีมูลค่ามากกว่าของขวัญทั่วโลกใด ๆ แน่นอน”
“อ๊ะ?”
ซูเป่ยซานตาสว่างพูดอมยิ้ม“สรุปแล้วเป็นข่าวดีอะไร รีบพูดออกมาให้ฉันฟัง”
ซูเหวินเฉิงแกล้งทำเป็นลึกลับให้ฝ่ายตรงข้ามร้อนรน นี่ถึงพูดเสียงกดต่ำอย่างลึกลับว่า“เมื่อกี้ผมไปส่งของขวัญให้กับผู้อำนวยการสองสามคน พวกคุณทายซิได้ยินอะไรแล้ว?”
ทุกคนทั้งหมดต่างก็หูตั้งขึ้นมาแล้ว
“สมาคมการแพทย์ต้องการก่อตั้งสาขาที่หลงเจียงของพวกเราแล้ว!”
เสียงของเขาถึงแม้ต่ำ แต่เป็นลูกระเบิดที่มีพลังหนักหน่วงอย่างไม่น่าสงสัย!
ต้องรู้ว่าตระกูลซูไม่ได้เป็นเชื้อสายหมอและสมาคมการแพทย์ก็เป็นห้องโถงใหญ่ที่ศักดิ์สิทธิ์ในใจของพวกเขา
ความปรารถนาที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาก็คือสามารถหลอมรวมกลายเป็นส่วนหนึ่งในสมาคมการแพทย์ได้
ตอนนี้ตระกูลซูมีธุรกิจมากมายต่างก็มีความเกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล
ถ้าหากสามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมการแพทย์ได้ นั่นคือรับทั้งชื่อเสียงและผลกำไรแบบไหนเงินทองไหลมาไม่ขาด?
“เป็นความจริง?”
ซูเป่ยซานพูดอย่างตื่นเต้น“เท่าที่ฉันรู้ สำนักงานใหญ่ของสมาคมการแพทย์อยู่ที่เมืองหลวง หลายปีมานี้ ก็เปิดแค่เพียงสาขาที่เมืองขึ้นตรงต่อส่วนกลางสองสามเมือง”
“หลงเจียงก็แค่เมืองเล็กระดับสาม พวกเขาจะมาเปิดสาขาที่นี่ได้ยังไง?”
“เหวินเฉิง เกรงว่านายจะไม่ได้ฟังผิดแล้วใช่ไหม?”
ซูเหวินเฉิงพูดอย่างตื่นเต้น“ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลที่สองพูดด้วยตัวเอง เขาได้รับคำสั่งช่วยเหลือเรียกจัดตั้งการประชุมใหญ่แล้ว!”
“คนที่ดูแลควบคุมก็คือหม่ายงผู้อำนวยการที่มีคุณงามความดีของโรงพยาบาลที่หนึ่ง”
“ก็หลังจากสิบวัน!”
“ไม่เพียงเท่านี้ คุณปู่คุณทายเป็นยังไงอีก? ถึงเวลานั้นหวางโป๋เหนียนเจ้าสมาคมของสมาคมจะออกงานด้วยตัวเอง !”
เป็นลูกระเบิดที่มีพลังหนักหน่วงอีกหนึ่ง!
เสียงของซูเป่ยซานต่างก็สั่นเทาเล็กน้อย“นายหมายถึง เจ้าสมาคมหวางโป๋เหนียนจะมา?”
“โอ้พระเจ้า! นี่เป็นข่าวดีที่ใหญ่มาก!”
“เหวินเฉิง นายดำเนินการจัดเตรียมทันที ไม่ว่ายังไงตระกูลซูของพวกเราต้องได้ใบรับรองเข้าร่วมกิจกรรมมาให้ได้ เพื่อเยี่ยมชมดูงานในสถานที่นั้น!”
“โอกาสที่หาได้ยากอย่างนี้ ถ้าหากสามารถคบค้ากับเจ้าสมาคมหวางได้งั้นก็เป็นเรื่องที่ดีมากต่อตระกูลซูของพวกเรา!”
“มอบให้ผม!”ซูเหวินเฉิงพูดอย่างตื่นเต้น“คุณปู่ ผมจะอาศัยโอกาสนี้เอาเจ้าสมาคมหวางมาให้ได้อย่างแน่นอน!”
“ถึงเวลานั้น ตระกูลซูของพวกเราก็จะสามารถก้าวเข้าสู่เป็นตระกูลอันดับสองได้”
“ในอานคต อาจก้าวเข้าสู่เป็นตระกูลอันดับหนึ่งก็ได้!”
ซูเป่ยซานหัวเราะเสียงดังฮ่า ๆ
“เป็นของขวัญที่ดีที่สุดอย่างที่คิดไว้จริง ๆ !”
“เหวินเฉิง เรื่องนี้ทำสำเร็จแล้วนายก็คือคนที่มีความดีความชอบของตระกูลซูพวกเรา!”
“มา ปู่มาดื่มให้นายแก้วหนึ่งด้วยตัวเอง!”
ภายใต้การนำของเขา ทุกคนในตระกูลทั้งหมดต่างก็ดื่มอวยพรอย่างกระตือรือร้นไปทางซูเหวินเฉิง
ในดวงตาของพวกเขาได้มองเห็นเงินที่ไหลมาแล้ว อีกทั้งความเจริญรุ่งเรืองแต่ละอย่าง!
ไม่มีใครสนใจฉินเทียนและหยางยู่หลันที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว
เวลานี้หยางยู่หลันรู้สึกอายมาก
เธอบ่นต่อว่าฉินเทียนเสียงต่ำ“นายสวมรอยใช้ชื่อเสียงของเจ้าสมาคมหวางมาทำให้หม่ายงกลัว นี่เป็นไงเจ้าสมาคมหวางจะมาที่หลงเจียงแล้วถึงเวลานั้นคำโกหกก็จะทำลายตัวเอง”
“ฉันก็ต้องขายหน้าตามนายไปด้วย!”
และได้ยินข่าวนี้ มุมปากของฉินเทียนก็เพยิดขึ้นในดวงตาปรากฏรอยยิ้มที่ประหลาด
หวางโป๋เหนียนจะมาจัดตั้งเปิดสาขาสมาคมที่หลงเจียงโดยไม่ผ่านการอนุญาตจากตัวเอง ตาเฒ่านี่เพื่อเข้าประจบตัวเอง คิดไม่ถึงว่าทำเรื่องอย่างนี้ออกมา
แต่คิดแล้ว เขายังหาข้อบกพร่องอะไรออกมาไม่ได้จริง ๆ
ถึงแม้หวางโป๋เหนียนเป็นหนึ่งในลูกน้องของเขา แต่ตอนแรกเขาก็เคยพูดแล้ว เรื่องของสมาคมการแพทย์เขาจะไม่ยุ่งทั้งหมด
ให้หวางโป๋เหนียนเป็นคนดูแล
มาแล้วก็ดี
มองฉากคนของตระกูลซูที่ดีใจมากอยู่ แผนการหนึ่งกลายเป็นรูปร่างขึ้นมาในใจของฉินเทียนแล้ว
หลังซูเป่ยซานตื่นเต้นแล้วมองเห็นในมือของฉินเทียนยังคงถือภาพต้นฉบับของแท้ภาพนั้นของถังโป๋หู่อยู่ เขาเปลี่ยนหัวข้อพูดว่า
“นายสามารถหาภาพที่มีชื่อเสียงและล้ำค่าภาพนี้มาให้ฉันได้จากแผงลอย ฉันดีใจมาก”
“ฉันก็จะไม่ปฏิบัติต่อนายไม่ดี อย่างนี้แล้วกันให้เหวินเฉิงจัดเตรียมตำแหน่งงานหนึ่งที่บริษัทให้นาย”
“นายทำงานให้ดีๆ หาเงินลดภาระเล็กน้อยแทนแม่ยายนาย”
เขาคิด ฉินเทียนไม่เอาภาพส่งให้ตัวเองในทันที ก็คืออยากที่จะเจรจาข้อตกลง
ซูเหวินก็เข้าใจความหมายของซูเป่ยซานในทันทีแล้ว
เพื่อภาพที่มีชื่อเสียง ฝืนทนชั่วคราวสักหน่อยแล้วจะเป็นอะไรไปล่ะ?
เขายิ้มพูดอย่างเย็นชา“คุณปู่พูดถูก”
“ฉินเทียน รีบเอาภาพมอบให้คุณปู่ เรื่องที่นายทำผิดกับสุนัขของฉัน สามารถไม่ตำหนิโทษที่เคยทำไว้ได้”
“เห็นนายยังถือว่ามีพละกำลังเล็กน้อย ไม่งั้นไปเป็นรปภ.ที่บริษัทของฉันแล้วกัน”
“รปภ.คนอื่น ๆ เดือนหนึ่งสามพัน ฉันเพิ่มให้นายห้าร้อย เป็นเดือนละสามพันห้า”
“ทำได้ดียังสามารถให้นายเป็นหัวหน้า ซื้อประกันห้าชนิดและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้นายได้”
“รอตอนที่บริษัทของฉันเข้าตลาด ไม่แน่ว่ายังสามารถแบ่งผลกำไรให้นายเล็กน้อย”
ฟังคำพูดนี้แล้วคนมากมายที่อยู่ในงานต่างก็หัวเราะขึ้นมา นี่เห็นได้ชัดว่าคือกำลังทำให้ฉินเทียนย่อยยับ
“คนแซ่ฉิน เรื่องที่ดีอย่างนี้นายยังลังเลอะไร? ยังไม่รีบขอบคุณคุณชายเหวินเฉิง!”
“บริษัทของคุณชายเหวินเฉิงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คบค้ากับเจ้าสมาคมหวางของสมาคมการแพทย์อีก ยิ่งพุ่งทะยานขึ้นฟ้า!”
“สามารถทำงานเป็นลูกน้องของคุณชายเหวินเฉิงได้ เป็นความโชคดีที่นายทำมาในชาติก่อนจริง ๆ !”
มีผู้หญิงพูดว่า“คุณชายเหวินเฉิง บริษัทของคุณยังขาดคนกวาดพื้นไหม? ไม่งั้นก็จัดเตรียมตำแหน่งงานหนึ่งให้คุณป้าของคุณ”
หยางยู่หลันโมโหแสดงออกบนใบหน้า บริษัทของเขาที่ออกจากปากของซูเหวินเฉิงเดิมทีก็คือของเธอ
“พวกเราไปเถอะ!”เธอดึงฉินเทียนอยู่เตรียมที่จะออกไป
รับไม่ไหวกับการเยาะเย้ยชนิดนี้จริง ๆ !
ฉินเทียนยิ้มพูด“แม่ ไม่รีบ”
“มีสองสามประโยคพูดแล้วค่อยไป”
เขามองซูเหวินเฉิงพูด“คุณมาแล้วก็พอดีเลย ตอนนี้ฟังคำพูดของผมที่จะพูดต่อไปนี้ให้ดี ๆ ชัด ๆ ”
“เพราะนี่ตัดสินว่าคุณยังสามารถมีชีวิตได้นานเท่าไหร่”
ซูเหวินเฉิงถูกฉินเทียนกวาดตามองแวบหนึ่ง ร่างกายอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาเล็กน้อย
เป็นไปได้ยังไง? แววตาของคนไร้ค่าคนนี้ทำไมน่ากลัวอย่างนี้?
เป็นไปไม่ได้!
เป็นความเข้าใจผิดของเราอย่างแน่นอน
เราเป็นถึงคุณชายของตระกูลซูนะ!
งานเลี้ยงรวมตัวของตระกูลวันนี้ กูก็คือจุดเด่นยังกลัวแกลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านเล็ก ๆ คนหนึ่งเหรอ?
เขาพูดอย่างโมโห“นายหมายความว่ายังไง?”
ฉินเทียนยิ้มอย่างเย็นชา“คุณฟังให้ดี ๆ ก็พอแล้ว”