บทที่ 21 บี้แมลง

“คุณ…คุณควรจะรีบไป คนคนนี้เป็นคนที่อาฆาตเป็นอย่างมาก หากคุณไม่รีบไปตอนนี้ฉันเกรงว่า…”

ครูสวีพยายามข่มความตื่นตระหนกของเธอเองอย่างสุดความสามารถ และรีบกล่าวเตือนอวี้ฮ่าวหราน

จากเหตุการณ์เมื่อครู่เธอรู้ว่าอวี้ฮ่าวหรานนั้นเป็นคนดี ดังนั้นเธอจึงไม่อยากให้คนดีอย่างเขาต้องมาเดือดร้อนเพราะเธอ

แต่แล้วยังไม่ทันที่อวี้ฮ่าวหรานจะได้ตอบอะไรกลับ หลี่จิงเทียนก็ค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บปวดและอาฆาตแค้น เขาตะโกนเสียงดังลั่นว่า “ฉันบอกเอาไว้เลย คนอย่างฉันหลี่จิงเทียนไม่เคยอยากได้อะไรแล้วไม่ได้!”

เมื่อพูดจบหลี่จิงเทียนก็เอาหลังพิงกำแพงเพื่อรักษาสมดุลของร่างกายที่เจ็บปวดจากแรงกระแทกเมื่อครู่ และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออก

“เฮ้ แกรีบมาที่โรงเรียนอนุบาลแอปเปิ้ลแดงเดี๋ยวนี้ และพาคนมาเยอะ ๆ ด้วย!”

“หลี่จิงเทียน คุณอย่าทำเกินไปนักนะ!” ครูสวีตะคอกดังลั่นด้วยความโมโห แต่ในใจของเธอรู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างมาก

ทำไมเธอต้องมามีชะตากรรมแบบนี้? การที่เธอหน้าตาดีทำไมมันกลับเหมือนเป็นคำสาปทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องร้าย ๆ เช่นการต้องไปเป็นของเล่นให้กับคนรวยที่ไร้ยางอายแบบนี้ด้วย?

“พ่อจ๋า…” เมื่อเห็นสีหน้าของครูสวีที่ทั้งโมโห และสิ้นหวังในเวลาเดียวกัน ถึงแม้ถวนถวนจะไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง แต่เธอก็พอจะรู้ว่าครูสวีนั้นกำลังไม่มีความสุข ซึ่งเธออยากจะช่วยเหลือครูของเธอพร้อมกับต้องการไล่หลี่จิงเทียนที่ดูเป็นคนเลวไปให้พ้น ๆ

“ลูกไม่ต้องกลัวไปหรอก ลูกจำไม่ได้หรือไงว่าฝั่งตรงข้ามเราเป็นแค่มดแมลงเท่านั้น ฮ่าฮ่า”

อวี้ฮ่าวหรานพูดขึ้นพลางลูบหัวปลอบถวนถวนอย่างเอ็นดู

ทางด้านของถวนถวนก็หัวเราะชอบใจไม่หลงเหลืออาการร้องไห้งอแงเมื่อครู่เลย เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตราบใดที่พ่อของเธออยู่ใกล้ ๆ เธอไม่จำเป็นต้องกลัวภัยอันตรายใด ๆ

“เอี๊ยด เอี๊ยด!”

ไม่นานหลังจากที่หลี่จิงเทียนโทรศัพท์ออกไป รถ SUV สีดำก็จอดที่ถนนห่างจากหลี่จิงเทียนไม่ไกลนัก และผู้ชายสิบกว่าคนก็ลงมาจากรถด้วยสีหน้าดุดัน

แน่นอนว่าแค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าคนที่มาถึงไม่ใช่พวกคนดี

คนที่ดูเหมือนเป็นผู้นำกลุ่มเดินเข้าไปหาหลี่จิงเทียนทันทีและทักทาย “คุณหลี่!”

แต่แล้วเมื่อเขาเดินไปใกล้พอที่จะเห็นรอยแดงที่เป็นรูปมือบนหน้าของหลี่จิงเทียน เขาก็รู้สึกตกตะลึงอยู่ในใจ

ใครกันที่มันใจเด็ดขนาดนี้!

“ไปเล่นงานไอ้เวรนั่นให้ฉัน และอย่าลืมหักแขนขวาของมันให้ฉันด้วย!” หลี่จิงเทียนชี้นิ้วไปที่อวี้ฮ่าวหรานด้วยสายตาเคียดแค้น

“ได้เลยคุณหลี่!”

เมื่อได้ยินคำสั่งของหลี่จิงเทียน บรรดาพวกนักเลงก็ไม่รีรอใด ๆ พวกเขาวิ่งเข้าไปล้อมอวี้ฮ่าวหรานทันทีโดยไม่สนใจว่าอวี้ฮ่าวหรานกำลังอุ้มเด็กอยู่

“ครูสวี คุณช่วยอุ้มถวนถวนให้ผมสักครู่หนึ่งก่อน” อวี้ฮ่าวหรานพูดกับครูสวีด้วยสีหน้าสงบนิ่ง พร้อมกับส่งถวนถวนให้เธอไปอุ้ม

“ถวนถวน ลูกรออยู่กับครูสวีก่อนนะ พ่อขอบี้พวกมดแมลงพวกนี้ก่อน แล้วเดี๋ยวพ่อจะพาลูกกลับบ้าน” อวี้ฮ่าวหรานพูดขึ้นพร้อมกับลูบหัวถวนถวนที่อยู่ในอ้อมแขนของครูสวี จากนั้นเขาก็หันกลับไปกวาดสายตามองพวกนักเลงที่ล้อมอยู่ด้วยสายตาไม่แยแสราวกับมองมดมองแมลงจริง ๆ

บรรดาผู้คนที่มุงดูเรื่องนี้อยู่ต่างก็รู้สึกตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่าหลี่จิงเทียนเรียกนักเลงมาเป็นสิบ พวกเขารีบถอยออกไปทันทีเพราะกลัวว่าจะโดนลูกหลง

แน่นอนว่าพวกเขาไม่กล้าโทรเรียกตำรวจหรือกล้าออกไปให้ความช่วยเหลืออวี้ฮ่าวหราน เนื่องจากว่าพวกเขาทุกคนต่างรู้แล้วว่าฝั่งตรงข้ามคือหลี่จิงเทียน นายน้อยผู้มีอิทธิพลของตระกูลหลี่

“เฮ้ย ไอ้หนุ่ม จนป่านนี้แกยังกล้าปากดีอีกงั้นเหรอ?”

“ฉันคิดว่าแค่หักแขนแกอย่างเดียวมันคงไม่พอซะแล้ว อย่างน้อย ๆ ฉันจะตัดลิ้นแกด้วย!”

บรรดานักเลงที่เห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานยังคงปากดีอยู่ได้ พวกมันก็รู้สึกสนใจอยากรู้ว่าอวี้ฮ่าวหรานจะทำยังไงต่อ ดังนั้นพวกมันจึงไม่พุ่งเข้าไปหาอวี้ฮ่าวหรานสักที

“เฮ้ย ไอ้พวกชั้นต่ำ พวกแกยืนมองบ้าอะไรกันอยู่ รีบเข้าไปกระทืบมันเร็ว ๆ สักทีสิวะ!”

หลี่จิงเทียนเริ่มทนไม่ไหวกับการที่พวกนักเลงไม่ยอมลงมือสักที เขาตะโกนด่าใส่พวกนักเลงไม่ต่างกับที่เขาตะโกนดูถูกอวี้ฮ่าวหราน

แน่นอนว่าเมื่อโดนว่าแบบนี้พวกนักเลงต่างก็รู้สึกไม่พอใจ แต่พวกมันก็ทำอะไรไม่ได้เพราะฝั่งตรงข้ามคือนายน้อยของตระกูลหลี่ ดังนั้นพวกมันจึงทำได้แค่เอาอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเองไปลงที่อวี้ฮ่าวหรานแทน

และอีกอย่างพวกมันมาที่นี่เพราะเงิน ดังนั้นถ้าพวกมันทะเลาะกับนายจ้างตอนนี้พวกมันคงมาเสียเที่ยว

เมื่อเห็นเช่นนี้หัวหน้ากลุ่มนักเลงจึงตะโกนขึ้นทันที “เฮ้ย เลิกลีลาสักที ลงมือได้แล้ว!”

แต่แล้วหลังจากที่หัวหน้ากลุ่มนักเลงพูดจบ ร่างของอวี้ฮ่าวหรานกลับหายไป และจากนั้นต่อมาเสียงปะทะของหมัดและแข้งก็ดังขึ้นสนั่นรัว ๆ

“ผลั่ก ผลั่ก!!”

“อั่ก!!”

“อ้ากกก!!”

ร่างของพวกนักเลงเกือบโหลลอยละลิ่วกระเด็นไปคนละทิศละทาง รวมไปถึงหัวหน้ากลุ่มของนักเลงด้วย

“โอยยย…ขาฉัน..”

“ขะ…แขน แขนฉันหักสองข้าง!!”

“ทะ ท้อง…”

ครั้งนี้อวี้ฮ่าวหรานยั้งมือเอาไว้เหมือนเดิม แต่เขาก็ไม่ได้ใจดีอะไรนัก อาการบาดเจ็บของนักเลงพวกนี้แต่ละคนกว่าจะหายดีเหมือนเดิมก็คงต้องนอนโรงพยาบาลเป็นเดือน

เมื่ออัดพวกนักเลงเรียบร้อย อวี้ฮ่าวหรานก็เดินกลับไปหาถวนถวนที่อยู่ในอ้อมแขนของครูสวีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มให้กับเทพธิดาน้อยของเขาราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“พ่อจ๋า พ่อของหนูเก่งที่สุดเลย! ฮี่ฮี่ฮี่” ถวนถวนเขย่าตัวไปมาด้วยความสุข

“เห็นไหม พวกมดแมลงพวกนี้ทำอะไรพ่อไม่ได้หรอกจริงไหม?” อวี้ฮ่าวหรานพูดขึ้นพลางยื่นมือไปอุ้มถวนถวนออกมาจากอ้อมแขนของครูสวี

“ช่าย ช่าย มดแมลง ๆ ตูม ตูม!” ถวนถวนทวนคำพูดของอวี้ฮ่าวหรานพลางออกท่าทางออกหมัดในระหว่างที่มองไปที่พวกนักเลงที่นอนร้องโอดโอยที่พื้น

เมื่อเห็นถวนถวนร่าเริงได้แล้วอวี้ฮ่าวหรานก็ยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้น จนเขาอดไม่ได้ที่จะหอมเทพธิดาน้อยของเขาไปอีกฟอดใหญ่ แต่แน่นอนว่ารอบนี้เขาไม่หอมแรงนักเพราะกลัวว่าหนวดของเขาจะทำให้ถวนถวนเจ็บ

ทางด้านของผู้คนรอบ ๆ ที่เห็นภาพนี้ต่างก็พากันรู้สึกอิจฉาเด็กสาวในอ้อมแขนของอวี้ฮ่าวหราน เพราะมันคงจะดีจริง ๆ หากพวกเขามีพ่อที่แข็งแกร่งแบบนี้จริงไหม?

ในขณะเดียวกันหลี่จิงเทียนในตอนนี้ตกตะลึงจนกลายเป็นใบ้ไปซะแล้ว เขาไม่เข้าใจเลยว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง?

ในเวลาเพียงชั่วพริบตา นักเลงสิบกว่าคนโดนอัดร่วงจนหมดโดยคนที่เคยเป็นเหมือนขยะในสายตาของเขา?

ในหัวของหลี่จิงเทียนตอนนี้มีแต่คำถามมากมายที่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบกับเขาได้

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้สติเขาก็มองไปที่อวี้ฮ่าวหรานด้วยสายตาชิงชัง และจากนั้นเขาก็หันหลังและค่อย ๆ เดินเป๋ออกไป

“เดี๋ยวก่อน!”

หลี่จิงเทียนสะดุ้งทันทีเมื่อได้ยินคำนี้ เพราะคนพูดคืออวี้ฮ่าวหราน

“ฉันขอเตือนนายเอาไว้ ถ้าหากนายยังกล้าสร้างความรำคาญให้กับฉันอีกรอบ ฉันจะไม่สนแล้วว่านายเป็นน้องชายของภรรยาฉัน ดังนั้น อย่า รน หา ที่ ตาย!” อวี้ฮ่าวหรานย้ำคำพูดปิดท้ายอย่างชัดถ้อยชัดคำก่อนจะไม่สนใจอะไรกับหลี่จิงเทียนอีก

หลี่จิงเทียนเมื่อได้ยินเช่นนี้เขากัดฟันกรอด แต่เขาก็ทำได้แค่เดินจากไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่กล้าตอบโต้อะไร

หลังจากที่เห็นว่าหลี่จิงเทียนจากไปแล้ว อวี้ฮ่าวหรานก็อุ้มถวนถวนจะเดินกลับไปที่รถเหมือนกัน แต่ก่อนที่เขาจะทันได้เดินไปครูสวีก็รีบวิ่งมารั้งเขาไว้ก่อน

“คะ..คุณอวี้รอก่อนค่ะ! คะ คือว่าเพื่อเป็นการขอบคุณที่คุณช่วยฉันเอาไว้ ฉันขอเลี้ยงข้าวตอบแทนจะได้ไหม? มะ ไม่ใช่สิ เลี้ยงถวนถวนด้วย!” เธอรีบเอ่ยชื่อถวนถวนขึ้นเสริมทันทีเมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของอวี้ฮ่าวหราน

“พ่อจ๋าไปกัน! ในโรงเรียนคุณครูสวีดีกับหนูมากเลยล่ะ ฮี่ฮี่”

ถึงแม้ว่าครูสวีจะไม่มีประสบการณ์การสอนอะไรมากนัก แต่เธอก็รู้ได้ทันทีว่าอวี้ฮ่าวหรานรักลูกสาวของเขามากขนาดไหน ดังนั้นหากถวนถวนตอบรับมันก็หมายความว่าอวี้ฮ่าวหรานจะไม่มีทางปฏิเสธเธอได้

“อืม งั้นเอาไว้คราวหลังก็แล้วกัน วันนี้ผมขอพาถวนถวนกลับบ้านก่อน” อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าพลางตอบกลับ

ครูสวีพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเช่นกัน แต่แล้วเมื่อเธอหันกลับไปมองที่มอเตอร์ไซค์ของเธอที่จอดเอาไว้ไม่ไกลนัก สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที

อวี้ฮ่าวหรานสังเกตเห็นสีหน้าที่แปรเปลี่ยนของเธอเช่นกัน เขาหันไปมองตามสายตาของเธอ ซึ่งก็พบว่ามอเตอร์ไซค์ที่ครูสวีมองอยู่ล้อมันหลุดหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

“นั่นมอเตอร์ไซค์ของคุณหรือเปล่า?” อวี้ฮ่าวหรานถามขึ้น

“อืม…ใช่ มันคือมอเตอร์ไซค์ของฉันเอง…หลี่จิงเทียนพังมันทิ้งเพราะว่าเขาอยากให้ฉันนั่งรถไปกับเขา…”

ครูสวีพยักหน้าอย่างหดหู่…