หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.338 – กำลังเสริม

 

คนตายถูกสังหาร จมลงสู่ห้วงหลับฝัน หลังจากฟื้นฟูจนสมบูรณ์แล้วก็จะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

 

เวียนวนเป็นวัฏจักรเช่นต่อไปไม่ทางแก้ปัญหาได้

 

แต่สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าก็คือ โครงกระดูกชุดคลุมดำนั้นได้มาอยู่ในโลกมนุษย์แล้ว

 

เมื่อมันตาย นั่นหมายความว่ามันย่อมต้องปรากฏกายขึ้นในน้ำแข็งที่ไหนสักแห่งบนโลก

 

แล้วถ้าปล่อยให้มันเป็นอิสระ เมือมันตื่นขึ้นมา มันก็จะเริ่มฆ่าสังหารและดูดกินจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะยกระดับพลังของตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

 

เพียงแค่คิดเรื่องนี้ ก็ชวนให้รู้สึกปวดหัวโดยแท้

 

ตอนนี้ นรกเยือกแข็งพึ่งจะเริ่มตึ้นขึ้นเท่านั้น

 

ต่อไป สิ่งที่ตามมาคือคนตายนับไม่ถ้วนปรากฏตัวขึ้นในโลก

 

ยิ่งไปกว่านั้นในอนาคตอันใกล้ สิ่งที่จะตามมาต่อก็คือมอนสเตอร์ในยุคยักษ์ ยุคปีศาจ และยุคโกลาหล

 

ถึงเวลานั้นไม่ว่ามนุษย์จะมีความแข็งแกร่งขนาดไหน พวกเขาก็ไม่สามารถรับมือกับมอนสเตอร์ที่ไม่มีวันตายจำนวนมากได้อย่างแน่นอน

 

กู่ฉิงซานส่ายหัว ผละมือที่จีบใช้กระบวนท่าออก

 

ดาบพิภพและเช่าหยินก็หายไป

 

พวกมันกลับไปซ่อนตัวอยู่ในความว่างเปล่าและจะสามารถโผล่ออกมาได้อีกครั้งเมื่อใดก็ตามที่กู่ฉิงซานต้องการมัน

 

กู่ฉิงซานกล่าว “เทพธิดากงเจิ้ง เมื่อกี้ไม่มีเวลามากพอที่จะถาม ช่วยบอกสถานการณ์ล่าสุดให้ฉันที”

 

“ท่านประธานาธิบดีปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหัน และบรรลุข้อตกลงทางวาจากับจักรพรรดินีเวโรนีแห่งสาธารณรัฐฟูซีแล้ว”

 

“ข้อตกลงอะไร?”

 

“พิจารณาจากการปรากฏขึ้นของนรกเยือกแข็ง มนุษยชาติอยู่ใกล้ชิดกับขอบเหวแห่งการล่มสลาย ทั้งสองประเทศจึงได้ตัดสินใจยุติสงครามลงในทันที”

 

กู่ฉิงซานพยักหน้าเล็กน้อยและเอ่ยถามว่า “แล้วสถานการณ์ความเสียหายล่ะ เป็นยังไงบ้าง”

 

“มีสองหุ่นรบที่ได้รับความเสียหาย”

 

“แค่นั้นเองหรอ?” กู่ฉิงซานทวนถามด้วยความประหลาดใจ

 

“ถูกต้องแล้วใต้เท้า”

 

แล้วเทพธิดากงเจิ้งก็เริ่มเล่าอธิบายถึงรายละเอียดแบบเฉพาะเจาะจงออกมา

 

กู่ฉิงซานหัวเราะ

 

“ไม่เลวนี่นา” เขากล่าว

 

ในเวลานี้ เสียงจากอุปกรณ์สื่อสารก็ดังขึ้นในทันใด

 

กู่ฉิงซานก้มลงมองมัน และเห็นว่าปลายสายคือจักรพรรดินีเวโรน่า

 

หลังจากที่สนทนากัน จักรพรรดินีก็ร้องขอคำแนะนำจากเขาเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง

 

กู่ฉิงซานไตร่ตรองอยู่สักพักหนึ่งจึงแสดงความคิดเห็นออกไป

 

หลังจากที่วางสาย เทพธิดากงเจิ้งก็กล่าวออกมาในทันที “ใต้เท้า ท่านประธานาธิบดีได้เฝ้าดูการต่อสู้ของคุณ และตอนนี้เขาต้องการที่จะพบกับคุณทันที”

 

“โอเค นี่มันก็สมควรแก่เวลาแล้วที่พวกเราจะได้พบกัน”

 

สิ้นเสียง กู่ฉิงซานก็บินมุ่งหน้าตรงไปยังคฤหาสน์ของประธานาธิบดี

 

คราวนี้ ในที่สุดเขาก็จะได้พบกับประธานาธิบดีตัวจริงซะที

 

ไม่กี่นาทีต่อมา

 

เขาก็มาถึงคฤหาสน์ที่ถูกตัดแยกออกเป็นสองซีก

 

หลังจากผ่านเหตุการณ์พลิกผันต่างๆนาๆมามากมาย กู่ฉิงซานและประธานาธิบดีก็ได้พบกันอีกครั้ง

 

“ฉันหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่นั่นแหละ แต่อันตรายจริงๆนะในตอนนั้น ถ้ามันพังทับฉันจริงๆ ก่อนจะออกไปสู้ เธอคงต้องรีบมาช่วยฉันเป็นอันดับแรกแล้วล่ะ” ประธานาธิบดีหัวเราะ

 

“คนดีน่ะ ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้หรอกครับ” กู่ฉิงซานตอบรับด้วยรอยยิ้ม

 

ประธานาธิบดีเชิญเขานั่งลงบนโซฟา

 

“ชาหรือกาแฟดีล่ะ?”

 

“ชาครับ”

 

“คราวนี้ ในที่สุดพวกเราก็จะได้คุยกันแบบดีๆซักทีเนอะ”

 

“ใช่ครับ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ใครจะไปคาดคิดว่าองค์จักรพรรดิฟูซีจะตัดสินใจเลือกแบบนั้น”

 

สีหน้าการแสดงออกของประธานาธิบดีกลายเป็นหนักอึ้ง เขาเอ่ยถาม “นรกเยือกแข็งไม่สามารถเอาชนะได้จริงๆน่ะหรอ?”

 

กู่ฉิงซานถอนหายใจและกล่าว “เป็นความจริง มันคือโลกของคนตาย หากอ้างอิงกันตามวัฏจักรชีวิต พวกเขาตายไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถตายได้อีก”

 

“ถึงอย่างนั้นพวกเราก็ไม่ควรนั่งนิ่งอยู่เฉยๆ” ประธานาธิบดีพูดอย่างรวดเร็ว “พวกเราจำเป็นต้องรวบรวมนานาประเทศทั้งหมด ทิ้งทุกข้อพิพาทที่เคยมีร่วมกันมา และต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติ”

 

กู่ฉิงซานกล่าว “ใช่แล้วครับ จักรพรรดินีเวโรน่าจะขึ้นครองบัลลังก์ในไม่ช้า เรื่องนี้ท่านสามารถสนทนากับเธอได้ก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อฟูซีกับรัฐบาลกลางบรรลุข้อตกลงร่วมกัน ขั้นต่อไปมันก็จะง่ายขึ้น”

 

ประธานาธิบดีพยักหน้าเห็นด้วย และกล่าวว่า “ตามการพิจารณาของรัฐบาลกลาง คาดว่าโอกาสที่เธอจะได้ขึ้นครองบัลลังก์นั้นมีสูงมาก ฉันจะต้องไปพบกับเธอทันที”

 

“แล้วท่านจะไปหารือเรื่องอะไรกับเธอ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

 

ประธานาธิบดี “ฉันต้องการที่จะเป็นผู้นำการประชุมนานาชาติให้เริ่มต้นขึ้นทันที เพื่อให้น้ำยาผสานยีนสามารถแพร่กระจายไปทั่วโลก ให้เพื่อมนุษย์ทุกคนมีโอกาสปลุกความแข็งแกร่ง และแรงบันดาลใจและความหวังให้แด่พวกเขา”

 

กู่ฉิงซานมองไปยังประธานาธิบดีและกล่าวด้วยรอยยิ้มในทันใด “ผมเชื่อ 100 เปอร์เซ็นเลยว่าท่านนี่แหละ ประธานาธิบดีตัวจริงเสียงจริงแน่ๆ”

 

“ท่านประธานาธิบดี จริงๆแล้วผมมีแนวคิดบางอย่างเกี่ยวกับการฝึกยุทธของมนุษย์ และอยากจะพูดคุยกับท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้มาสักพักแล้ว”

 

ประธานาธิบดีเผยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง “ว่ามาสิ”

 

………..

 

ครึ่งวันต่อมา

 

ณ วิลล่าบนภูเขา

 

เชฟ7-8คนเดินเรียงรายกันออกมา

 

กู่ฉิงซาน ซางหยิงฮ่าว เย่เฟย์หยู และเหลียวฮังนั่งล้อมวงกันรอบโต๊ะ

 

มันเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะหาโอกาสนั่งกินข้าวเย็นกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้

 

แม้ว่าซางหยิงฮ่าวจะมีรอยช้ำและปูดบวมบนใบหน้า แต่รอยยิ้มของเขากลับไม่ยอมหุบลงเลย

 

“ยังเจ็บอยู่รึเปล่า” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

 

“เจ็บแล้วมันยังไง แค่ได้รับเงินมามันก็ช่วยปัดเป่าเยียวยาความเจ็บปวดให้ฉันแล้ว” ซางหยิงฮ่าวกล่าว

 

จักรพรรดินีเวโรน่าช่างใจกว้างอย่างแท้จริง

 

เวลานี้ ภารกิจของซางหยิงฮ่าวนับว่าเกือบจะสมบูรณ์แบบ

 

และสิ่งเดียวที่ทำให้มันไม่สมบูรณ์แบบก็คือการถูกทุบตีโดยเทพนักสู้

 

ใกล้กับซางหยิงฮ่าว เหลียวฮังที่อยู่ด้านขวาไม่ได้ขยับมือของเขา แต่ตะเกียบที่อยู่ตรงหน้ากลับบินออกไปโดยอัตโนมัติ คีบอาหารบนจานแล้วป้อนมันเข้าปากของเขา

 

เหลียวฮังกำลังเคี้ยวอาหารในจานอย่างตะกละตะกลาม และทันใดนั้นเขาก็ดีดนิ้วทันที

 

ป๊อก!

 

ขวดแชมเปญเปิดออกอย่างกระทันหัน

 

ขวดแชมเปญบินมายังเบื้องหน้าเขา และเติมมันลงในแก้วอัตโนมัติ

 

“ไม่เลวนี่นา” ซางหยิงฮ่าวเอ่ยยกย่องคำหนึ่ง

 

“แน่นอนอยู่แล้ว ด้วยสมองของฉันคนนี้ การฝึกยุทธน่ะมันเป็นแค่เรื่องง่ายดาย” เหลียวฮังกล่าว ขณะที่ยังคงบังคับตะเกียบให้ป้อนอาหารเข้าปากเขาอย่างต่อเนื่อง

 

กู่ฉิงซานมองไปทางเย่เฟย์หยู

 

“แล้วทำไมนายถึงไม่เรียกแฟนให้ออกมานั่งด้วยล่ะ?”เขาเอ่ยถาม

 

“ฉันไม่ยอมปล่อยให้เธอออกมาเองแหละ”

 

“ทำไมล่ะ หรือว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

 

“ก็การที่ผู้ชายหลายคนที่ดูน่าหวาดกลัวกำลังนั่งดื่มกินกันอย่างเต็มที่ จะให้เธอมาผสมโรงได้ยังไง” เย่เฟย์หยูยืดอกขึ้นและกล่าว

 

ติ๊ง-ต่อง!

 

เสียงระฆังของนาฬิกาบนผนังดังขึ้น

 

“พวกนายกินกันต่อเลย ฉันอิ่มแล้ว” เย่เฟย์หยูกล่าว

 

เขาผุดลุกขึ้น และจากไปอย่างรวดเร็ว

 

“ปัง!” ตามด้วยเสียงประตูห้องของเย่เฟย์หยูที่ดังตามมาอย่างแรง

 

“เขายังไม่ได้กินอะไรเลย แล้วจะไปอิ่มได้ยังไง?” กู่ฉิงซานสงสัย

 

“ไม่ใช่ว่ามันถึงเวลาแล้วหรอกเหรอ ฮี่ฮี่” เหลียวฮัง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ชั่วโมงนี้ เป็นเวลาเดียวที่มันจะได้คุยกับผู้หญิงคนนั้นยังไงล่ะ”

 

ซางหยิงฮ่าวเปิดขวดเหล้า และเทมันลงบนแก้วของกู่ฉิงซาน ถอนหายใจด้วยอารมณ์ “อย่าพูดถึงเขาเลย เอาเป็นว่าเวลานี้ฉันคงต้องขอกล่าวขอบคุณนายสำหรับเรื่องธุรกิจนะ”

 

กู่ฉิงซานยกแก้วเหล้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอก นายก็ช่วยฉันไว้เยอะเหมือนกันตอนกำลังวุ่นๆ”

 

ทั้งสองหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาชน และยกดื่มรวดเดียวหมด

 

ทันใดนั้นสมองควอนตัมของกู่ฉิงซานก็ส่องสว่างขึ้น

 

“ใต้เท้า ลองดูข่าวนี้สิ” เทพธิดากล่าว

 

กู่ฉิงซานเปิดจอม่านแสง

 

บนหน้าจอ คือพระราชวังโอเอซิสกลางทะเลทรายของอาณาจักรฟูซี

 

ผู้บรรยายกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ในวันนี้ จักรพรรดินีเวโรน่าได้พบกับท่านประธานาธิบดีแห่งรัฐบาลกลาง ณ พระราชวังทะเลทราย ท่านประธานาธิบดีได้แสดงการสนับสนุนสำหรับการตัดสินใจของจักรพรรดินีเวโรน่าที่จะขึ้นครองราชบัลลังก์ และหวังว่าทั้งสองประเทศจะขยายความสัมพันธ์  … ”

 

นรกเยือกแข็งได้มาถึงและค่อยๆแพร่กระจายออกไปทั่วโลกโดยที่ไม่อาจต้านทานได้

 

อย่างไรก็ตาม แผนการขององค์จักรพรรดิได้ถูกหยุดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และอัตราการแพร่กระจายของนรกเยือกแข็งจากทั่วทุกมุมโลกสมควรที่จะลุกลามช้าลงเป็นอย่างมาก

 

นอกจากนี้ ทุกประเทศยังได้ยกเลิกการใช้โทษประหาร

 

โรงพยาบาลทั้งหมดเปิดให้ใช้บริการฟรี และทุกคนที่ป่วยจะสามารถได้รับการรักษาทันที

 

หลายประเทศเล็กๆที่ขัดแย้งกัน ก็ต้องผ่อนความระแวดระวังลง และร่างข้อตกลงสันติภาพ

 

ช่วงเวลานี้ มนุษยชาติได้จับมือสามัคคีกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

 

พันธมิตรร่วมกันโจมตีและปกป้องโลกได้รับการจัดตั้งขึ้น

 

ทุกประเทศระดับสูงทั้งหมดได้รับแจ้งถึงข้อเท็จจริงของการรุกรานจากนรกเยือกแข็ง

 

คราวนี้ แม้กระทั่งเก้าตระกูลใหญ่ก็ไม่อาจหยุดยั้งมันได้

 

แม้กระทั่งทางคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ที่มีทัศนคติแยกตัวออกไปโดดเดี่ยว ก็ยังแสดงความประสงค์ที่จะเข้าร่วมสนธิสัญญาพันธมิตรในครั้งนี้ด้วย

 

พอซางหยิงฮ่าวได้อ่านข่าว เขาก็หัวเราะออกมาและกล่าวว่า “ต่อจากนี้ไปฉันคงเรียกเธอห้วนๆไม่ได้อีกแล้ว ทุกครั้งที่เจอคงต้องตะโกนว่า องค์สมเด็จพระจักรพรรดินีทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน”

 

ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในอารมณ์ที่ดีมากทีเดียว

 

เนื่องจากผลงานอันยอดเยี่ยมจากภารกิจคุ้มครอง ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากทางจักรพรรดินีเวโรน่า และทั้งสองก็ได้ทำข้อตกลงร่วมกันว่า คงจะมีโอกาสร่วมมือกันอีกมากในอนาคต

 

สมาคมนักล่าได้สร้างชื่อเสียงกระฉ่อนให้กับตัวเองในโลกใต้ดินจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

 

หลังจากอ่านข่าวอย่างรอบคอบ กู่ฉิงซานก็พยักหน้าพลางครุ่นคิด

 

เขากล่าว “หยิงฮ่าว ฉันต้องการคนของนายไปปกป้องท่านประธานาธิบดี เพราะว่าเขาไม่มีร่างโคลนมาแทนที่แล้ว”

 

“มีรางวัลรึเปล่าล่ะ?”

 

“ไม่ให้เป็นเงินนะ” กู่ฉิงซานกล่าว

 

ใบหน้าเปื้อนยิ้มของซางหยิงฮ่าวพังครืนลงในทันที เขาก้มหน้าลงและกล่าว “สงสัยคงได้กินแห้วอีกแล้ว”

 

“เพราะนั่นมันไม่เพียงพอที่จะใช้เป็นรางวัลหรอก แต่ใครก็ตามที่ยินดีจะรับหน้าที่นี้ ฉันจะคัดเลือกเทคนิคฝึกยุทธให้แก่พวกเขาด้วยตัวเอง” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“งั้นตกลง!”

 

ซางหยิงฮ่าวรีบตอบรับทันที

 

เพราะนับตั้งแต่ที่เขาได้เรียนรู้และฝึกซ้อมเทคนิคฝึกยุทธของกู่ฉิงซาน เขาก็มีความตระหนักรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับโลกทั้งใบมากขึ้น

 

แม้กระทั่งเทคนิคเทียนซวนที่มาถึงคอขวด ก็เริ่มที่จะเผยสัญญาณคลายตัวลงแล้ว

 

นี่ขนาดเขาใช้เวลาฝึกฝนเพียงไม่กี่วันเท่านั้นนะ แต่มันกลับส่งผลลัพธ์ได้มากถึงขนาดนี้

 

ถ้าเขายังคงฝึกฝนมันต่อไปแล้วล่ะก็ …

 

สำหรับเรื่องเกี่ยวกับการฝึกฝน เกี่ยวกับเทคนิคฝึกยุทธ ซางหยิงฮ่าวย่อมให้ความสนใจกับมันอย่างเต็มที่

 

กู่ฉิงซานหันหัวไปอีกทางและเอ่ยถามว่า “เหลียวฮัง แล้วการจัดเรียงเทคนิคฝึกยุทธทั้งหมดเป็นยังไงบ้าง?”

 

“ทำการจัดหมวดหมู่เสร็จสมบูรณ์แล้ว” เหลียวฮังตอบ

 

“ถ้างั้น ในเมื่อกำไลข้อมือของพวกเราพร้อมสำหรับทุกอย่างแล้ว ก็เหลือแค่น้ำยาธาตุทั้งห้าของฟูซีเท่านั้น” กู่ฉิงซานกล่าว

 

น้ำยาปลุกเทคนิคเทียนซวน กับน้ำยาเสริมศักยภาพนักสู้หวูเต๋าก็ได้รับมาแล้ว ที่เหลืออยู่ก็แค่เพียงน้ำยากระตุ้นธาตุทั้งห้าเท่านั้น

 

ด้วยน้ำยาสามชนิดนี้ ความสามารถของมนุษย์ทุกคนก็จะตื่นขึ้นได้ทันที

 

โลกนี้จะก้าวเข้าสู่ยุคที่ผู้คนกลายเป็นมืออาชีพ

 

แน่นอนว่าย่อมต้องมีบางคนที่ไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ แต่สิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบใดๆต่ออนาคตของพวกเขา

 

เพราะกู่ฉิงซานได้เตรียมการฝึกฝนด้วยเทคนิคฝึกยุทธไว้นับร้อยนับพันเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับกรณีนี้!

 

ถ้าเราสามารถเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติเยือกแข็งในครั้งนี้ไปได้ โลกก็จะนำไปสู่เติบโตและพัฒนาอย่างก้าวกระโดด!

 

“เทพธิดากงเจิ้ง พิธีบรมราชาภิเษกของจักรพรรดิจะเริ่มขึ้นเมื่อไหร่นะ”

 

“พรุ่งนี้เวลา 9 โมงเช้า”

 

กู่ฉิงซานหันไปมองดูเวลา

 

เหลืออีก 11 ชั่วโมง

 

นับว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมทีเดียว

 

เขาหยิบขวดเหล้าขึ้นมา และรินมันให้ซางหยิงฮ่าว ปากเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “คืนนี้นายพอจะว่างไหม?”

 

“ทำไม?”

 

“ออกไปฆ่ากัน”

 

“ด้วยความแข็งแกร่งของนายในตอนนี้ ยังต้องการให้ฉันช่วยอีกหรอ?” ซางหยิงฮ่าวเอ่ยถามแปลกๆ

 

“ก็ฉันดันปล่อยให้องค์จักรพรรดิผู้ก่อตั้งฟูซีหนีไปได้น่ะสิ แถมตอนนี้เทพธิดากงเจิ้งก็ยังหาตัวมันไม่เจอเลย ”

 

“งั้นก็ตกลง พวกเราไปหาอะไรทำให้อาหารมันย่อยกันดีกว่า” ซางหยิงฮ่าวตอบรับอย่างมีความสุข

 

ทั้งสองยกแก้วขึ้นมาชน

 

เมื่อได้ข้อสรุปในเรื่องนี้แล้ว กู่ฉิงซานโล่งใจ

 

เขามองไปยังหน้าต่างระบบเทพสงคราม

 

บนหน้าต่าง สามบรรทัดตัวอักษรลอยเด่นอยู่ตรงใจกลางมัน

 

“กำลังเสริมจากปรภพได้รับทราบถึงความสำเร็จอันงดงามของคุณแล้ว และตอนนี้พวกเขากำลังเร่งมือให้ไวขึ้น เพื่อที่จะได้รีบมาถึงโลกใบนี้อย่างรวดเร็ว ร่วมต่อสู้กับนรกเยือกแข็งไปพร้อมกับคุณ”

 

“เมื่อกำลังเสริมจากปรภพมาถึงโลก พวกเขาจะทำการติดต่อกับคุณก่อนเป็นอันดับแรก”

 

“ทำการนับเวลาถอยหลัง : 24.00 น.”

 

อีก 24 ชั่วโมง กำลังเสริมจะมาถึง

 

กู่ฉิงซานเบนสายตาของเขากลับมา และยกแก้วขึ้นดื่มต่อ

 

เขาวางแก้วลงบนโต๊ะและยืนขึ้น

 

แล้วเตรียมพร้อมเริ่มทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้น ก่อนที่กำลังเสริมจะมาถึง