ตอนที่ 22 ต่อสู้กับกาดิหยุน

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

Chaotic Sword God ตอนที่ 22 ต่อสู้กับกาดิหยุน

ด้วยกระบี่ในมือของเขา เจียงหยางหู่เต็มไปด้วยความฮึกเหิม แม้จะรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาเป็นถึงระดับเซียน และมีอาวุธเซียนซึ่งทำให้เขามีพลังเพิ่มมากขึ้น

เจียงหยางหู่ เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าจะสู้กับข้าด้วยกระบี่เหล็กธรรมดาได้ ? เจ้าคิดอะไรอยู่ตอนนี้ ข้าจะแสดงให้เห็นถึงพลังของเซียน กาดิหยุนใช้เวลาเพียงไม่นานในการพุ่งตรงไปหาเจียงหยางหู่ หลังจากนั้นในขณะที่เขาถือกระบี่สองมือในมือของเขาราวกับว่ามันไม่หนัก เขาฟันกระบี่ลงมาที่เจียงหยางหู่อย่างฉับพลัน กระบี่ตัดผ่านอากาศไปอย่างรวดเร็ว

เจียงหยางหู่ให้ความสนใจกับอาวุธเซียนของกาดิหยุนและหลบการโจมตีนั้นได้อย่างฉิวเฉียด โดยกระบี่นั้นกรีดเสื้อผ้าของเจียงหยางหู่ขาดเป็นริ้ว ๆ

หลังจากกลายเป็นเซียน ความแข็งแกร่งของกาดิหยุนแข็งเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้มหาศาล และไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับความแข็งแกร่งของเจียงหยางหู่ที่ซึ่งอยู่ในระดับสิบของพลังเซียนได้ จากการกวัดแกว่งกระบี่เพียงครั้งเดียว เจียงหยางหู่ก็ได้ประจักษ์ถึงอันตรายที่เขากำลังเผชิญอยู่

ฮ่ะ! ผ่านไปอีกครึ่งกระบวนท่า กาดิหยุนไม่ลังเลที่จะฟันกระบี่มาอีกครั้ง ในขณะที่เขาก้าวเข้าระยะประชิดตัวเจียงหยางหู่ ทั้งร่างกายของเขาเริ่มที่จะปล่อยพลังปราณที่แข็งแกร่งมาก กาดิหยุนพยายามโจมตีเจียงหยางหู่ด้วยกระบี่สีทองอย่างรุนแรงอีกครั้ง

เห็นความแข็งแกร่งของกระบี่ที่ยอดเยี่ยมเล่มนั้น, เจียงหยางหู่ไม่สามารถหลบหลีกการปะทะนั้นได้ ขณะที่กระบี่เหล็กในมือของเขาก็ไม่สามารถที่จะทนต่อพลังที่แข็งแกร่งของอาวุธเซียนได้

กระบี่ใหญ่นั้นรวดเร็วมากและมันรวดเร็วเกินกว่าการคาดเดาของเจียงหยางหู่ เขารู้สึกราวกับกระบี่เล่มใหญ่อยู่เหนือศีรษะของเขา เจียงหยางหู่ไม่ลังเลที่จะกลิ้งหลบมัน ในเวลานี้เขาไม่สามารถรับการโจมตีเช่นนี้ได้

ปัง!

ช่วงเวลาที่เจียงหยางหู่กลิ้งตัวหลบ กระบี่ของกาดิหยุนก็ฝังลึกลงกับพื้นตรงจุดที่เจียงหยางหู่เคยยืนอยู่ ความแข็งแกร่งของพลังงานที่เข้มข้นซึ่งกระบี่สร้างขึ้นมา ทำให้เกิดรอยร้าวลึกลงไปภายในพื้นดินของแท่นประลอง ในขณะที่รอยแตกขนาดเล็กเริ่มต้นที่จะกระจายออกไปในทิศทั้งสี่อย่างน้อย 1 เมตรจากบริเวณที่เกิดผลกระทบ

เจียงหยางหู่ฉวยโอกาสที่กาดิหยุนพยายามดึงกระบี่ของเขาขึ้นมา เขาฟาดกระบี่ของเขาไปที่กาดิหยุน

ฮึ่ม! กาดิยุนส่งเสียงขึ้นทางจมูกเป็นการดูถูก ในขณะที่เขาโบกมือ อาวุธเซียนในมือของเขาเริ่มที่จะเปล่งแสงอันงดงาม ในขณะที่มันกลับเข้ามาในมือของเขาและปะทะกับกระบี่เหล็กของเจียงหยางหู่

เสียงดังและชัดสะท้อนไปทั่วเวที เป็นกระบี่เหล็กที่ปะทะกระบี่สีทองก่อนที่มันจะถูกส่งบินไปข้างหลัง กระบี่หลุดจากมือของเจียงหยางหู่หลังจากการปะทะกัน เจียงหยางหู่ไม่อาจป้องกันตัวเองได้ ปากของเขาก็มีเลือดซึมออกมา แสดงให้เห็นว่ากระบี่นั้นก่อความเสียหายให้กับเขาอย่างไร

เท้าของกาดิหยุนเตะออกมาในทันทีและกระแทกเข้ากับหน้าอกของเจียงหยางหู่ ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับสูงพอที่จะสามารถส่งคนที่แข็งแกร่งอย่างเจียงหยางหู่ให้ลอยย้อนกลับไปและออกจากแท่นประลอง ในขณะที่เขาลอยออกไปในอากาศ เขากระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ใบหน้าของเขาขาวซีดด้วยความตกตะลึง

พี่ใหญ่! เจี้ยนเฉินร้องออกมา ท่าทางของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน เขาพุ่งตรงไปหาเจียงหยางหู่ที่ถูกส่งให้ลอยออกมาในอากาศทันที ขณะที่ทุกคนจ้องมองเจียงหยางหู่ที่ลอยค้างในอากาศด้วยท่าทีตกตะลึง เจี้ยนเฉินเคลื่อนกายอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเจียงหยางหู่ที่กำลังจะฟาดลงกับพื้น เจี้ยนเฉินเคลื่อนไหวอยู่ข้างตัวและจับเขาก่อนที่จะตกกระทบกับพื้น

แค่ก ! บนพื้นดิน เจียงหยางหู่เริ่มที่จะไออย่างรุนแรง มีเลือดกระเซ็นออกมาจากปากของเขา ความแข็งแกร่งของเซียนก็ยังห่างไกลจากคนที่ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน นี่คือความจริง แม้สำหรับเจียงหยางหู่จะอยู่ระดับสิบแล้วก็ตาม เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสภายใน

พี่ใหญ่ ท่านบาดเจ็บสาหัสหรือไม่? เจี้ยนเฉินพยายามที่จะระงับความโกรธภายในตัวเอง ในขณะที่เขาจ้องมองพี่ชายของเขาด้วยความกังวล

เจียงหยางหู่ส่ายหัวด้วยความโกรธ ในขณะที่เขาคงให้ความสนใจกาดิหยุนที่อยู่บนเวที ข้าสบายดี แต่ข้าไม่คิดว่าหลังจากกาดิหยุนบรรลุถึงระดับเซียนเขาจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ ด้วยอาวุธเซียน ณ ตอนนี้พี่ใหญ่ของเจ้าไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา เจียงหยางหู่คำราม ความโกรธของเขาไม่ได้สลายไปทั้งหมด

ข้าขอโทษพี่ใหญ่ ข้าดึงท่านเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้ มองไปที่ใบหน้าขาวซีดจากการบาดเจ็บของเจียงหยางหู่ เจี้ยนเฉินรู้สึกผิดจริง ๆ ภายในหัวใจของเขา

ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เจียงหยางหู่หันไปรอบ ๆ และมองไปที่เจี้ยนเฉิน เขาขมวดคิ้วด้วยความโกรธและตอบว่า น้องสี่ เหตุใดเจ้าถึงได้กล่าววาจาเช่นนั้น? เจ้าไม่คิดว่าข้าเป็นพี่ชายของเจ้า ? ใบหน้าของเขาเข้มขึ้น ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ มันโชคร้ายที่พี่ชายของเจ้าไร้ประโยชน์ จนกระทั่งตอนนี้ ข้ายังไม่สามารถที่จะไปถึงระดับเซียน มิฉะนั้น แน่นอนว่ากาดิหยุนไม่ใช่คู่มือของข้าแน่

คำพูดของเจียงหยางหู่กระทบใจของเจี้ยนเฉิน เขาเงยศีรษะของเขาขึ้นและมองไปที่กาดิหยุน ตาของเขาเริ่มที่จะทอประกายเย็นชาก่อนที่จะจางหายไปอย่างรวดเร็ว แต่ความรังเกียจในแววตาของเขาไม่ได้หายไป ก่อนจะกลับมามองเจียงหยางหู่ อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้นเขาได้พูดด้วยอารมณ์ที่ไม่สามารถอ่านออกได้ พี่ใหญ่ ท่านควรพักผ่อนเล็กน้อย ข้าจะแก้แค้นให้กับท่านอย่างแน่นอน. ด้วยคำกล่าวนั้น เจี้ยนเฉินจ้องมองและเดินไปยังแท่นประลอง

ใบหน้าของเจียงหยางหู่เปลี่ยนแปลงทันทีหลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น และเขาดึงเจี้ยนเฉิน ไม่มีทาง น้องสี่ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อกรของกาดิหยุน อย่าได้ขึ้นไป

เจี้ยนเฉินยิ้มออกมาอย่างลุแก่โทษและกล่าวว่า พี่ใหญ่ โปรดเชื่อมั่นในตัวข้า. ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นอย่างรุนแรงและเขาปัดมือของเจียงหยางหู่ออก เขากระโจนขึ้นไปบนเวที

สวรรค์ นั่น เขาวางแผนอะไรกัน …

มันดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะท้าทายกาดิหยุน พระเจ้า เขาต้องบ้าไปแล้ว!

เขาเป็นเพียงระดับแปดของพลังเซียน ความคิดที่จะท้าประลองกับเซียนเช่นกาดิหยุน นั่นไม่เท่ากับว่าเขารนหาที่หรือ …

ในขณะที่เจี้ยนเฉินกระโจนเข้าสู่เวที ผู้ชมโดยรอบร้องออกมาอย่างตกตะลึง ไม่มีใครเชื่อว่าเจี้ยนเฉินจะเหมาะสมกับการเป็นคู่ประลองของเซียนเช่นกาดิหยุน

เขา เขาช่างใจร้อนเสียจริง กาดิยุนเป็นเซียนที่เพิ่งชนะคนที่เป็นอยู่จุดสูงสุดของระดับสิบ เขาจะเอาชนะคนเช่นนั้นได้อย่างไรกัน? ภายใต้แท่นประลอง เด็กสาวซึ่งนั่งติดกับเจี้ยนเฉินในห้องสมุดพึมพำ ขณะที่นางเฝ้าดูเขาขึ้นไปบนแท่นประลอง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกังวล

กาดิหยุนมองดูเจี้ยนเฉินซึ่งกระโดดขึ้นมาอย่างนิ่งงัน แต่เขาได้สติกลับมาอย่างรวดเร็วและหัวเราะเยาะเย้ย คิดอะไรผิดไปหรือไม่? เจียงหยางเซียงเทียน เจ้าคิดหรือว่าจะต่อกรกับข้าได้ ?! กาดิหยุนไม่เคยคิดว่าเจี้ยนเฉินจะเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ; หลังจากที่เขากลายเป็นเซียนที่ทรงพลัง

เจี้ยนเฉินตอบอย่างเย็นชา ผิดหรือที่ข้าคิดว่าข้าสามารถ ?

กาดิหยุนตกตะลึง ก่อนที่จะเริ่มหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย ขณะที่เขายิ้มให้เจี้ยนเฉิน แน่นอน ย่อมได้อย่างแน่นอน ตอนนี้กาดิหยุนคิดหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะฉีกหน้าของเจี้ยนเฉิน ในเมื่อเจี้ยนเฉินได้สร้างความอับอายให้กับน้องสาวของเขา กาดิซิ่วหลีในช่วงที่แข่งขันนักเรียนใหม่ สิ่งนี้ได้สร้างความเกลียดชังให้กับกาดิหยุนและกาดิเหลียงซึ่งรักน้องสาวของพวกเขาเป็นอย่างมาก

เจี้ยนเฉินไม่ได้โจมตีในทันที ในขณะที่เขาเดินไปที่กระบี่ของเจียงหยางหู่ ในขณะที่เขาชั่งน้ำหนักกระบี่ในมือของเขา เจี้ยนเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย กระบี่นี้ไม่ได้มีน้ำหนัก 100 ปอนด์ แต่มันก็ใกล้เคียงมากทีเดียว ถ้ามันไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเจี้ยนเฉินอยู่ที่ระดับแปดของพลังเซียนแล้วล่ะก็ เขาจะไม่สามารถที่จะยกกระบี่นี้ขึ้นมาและใช้มันได้.

ในชีวิตของเขาก่อนหน้านี้ ปกติแล้วเจี้ยนเฉินจะใช้กระบี่ที่มีใบกระบี่กว้างสองนิ้ว ด้วยกระบี่นั้น เขาสร้างชื่อเสียงในฐานะนักกระบี่ของเขาขึ้นมาได้ ด้วยกระบี่สองมือนี้ แต่เจี้ยนเฉินรู้สึกเหมือนแขนข้างหนึ่งของเขาถูกผูกไว้ด้านหลังของเขา มันหนักมาทีเดียว เขาจะไม่สามารถที่จะใช้พลังได้อย่างเต็มที่และเพียงแค่แกว่งกระบี่ก็กินพลังงานของเขาไปอย่างมาก มันเป็นความน่าอับอายของกระบี่เล่มนี้ เมื่อเทียบกับกระบี่เล่มอื่น

ด้วยความลังเลเล็กน้อย เจี้ยนเฉินตัดสินใจที่จะทิ้งกระบี่ยักษ์และต่อสู้กับกาดิหยุนด้วยมือเปล่า ด้วยวิธีนี้ อย่างน้อยที่สุดเขาจะมีความได้เปรียบในเรื่องความเร็วและความฉลาด

เดินทางมาถึงที่ศูนย์กลางของเวที เจี้ยนเฉินมองไปที่กาดิหยุนด้วยใบหน้าไม่ยินดียินร้าย ในขณะที่เขายืดหมัดของเขา เจ้าลงมือได้เลย ข้าจะสู้กับเจ้าด้วยมือเปล่า

ดวงตาของกาดิหยุนหรี่แคบลงอย่างชัดเจน เจี้ยนเฉินดูถูกเขาโดยการต่อสู้มือเปล่า สำหรับพลังเซียนในระดับแปดต่อสู้กับระดับเซียนโดยปราศจากอาวุธ ในขณะที่เซียนมีอาวุธเซียน มันช่างเป็นความน่าอัปยศสำหรับเซียนมากทีเดียว

ดวงตาของกาดิหยุนทอประกายเย็นชา ขณะที่เขาส่งเสียงขึ้นจมูก เจียงหยางเซียงเทียน เจ้าหยิ่งยโสมากทีเดียว กระบี่สีทองในมือของเขาเริ่มเลือนหายไปอย่างช้า ๆ ในอากาศ มาสิ ข้าจะสู้กับเจ้าโดยปราศจากอาวุธเช่นกัน เจ้าจะได้พูดว่าข้ารังแกเจ้าไม่ได้

ได้ยินอย่างนี้แล้วเจี้ยนเฉินเผยให้เห็นรอยยิ้มแปลก ๆ โดยไม่พูดอะไร เขาพุ่งเข้าไปปะทะกับกาดิหยุนและรวบรวมพลังเซียนของเขาไว้ที่หมัดและโจมตีไปที่หัวของกาดิหยุน ได้ยินเสียงตัดผ่านอากาศด้วยความเฉียบคม

กาดิหยุนจ้องมองครั้งแรกอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะชกหมัดออกมา หมัดทั้งสองปะทะกันเป็นแสงสีทองไหลออกจากกำปั้นกาดิหยุน เพียงผู้ที่เป็นถึงระดับเซียน จึงจะสามารถใช้พลังเซียนเช่นนี้ได้

ขณะที่ทั้งสองหมัดกำลังจะปะทะกัน กำปั้นเจี้ยนเฉินจู่ ๆ ก็กลายเป็นฝ่ามือหลังจากที่ปะทะกัน มือของเขาดูดซับแรงกระแทกและเปลี่ยนแรงกระแทกให้เบาลงราวกับฟองน้ำ ในขณะที่เขาใช้มวยไทเก็กเพื่อรับหมัดของกาดิหยุนไม่ให้เป็นอันตรายต่อตัวเขา แขนของกาดิหยุนถูกบังคับให้ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่แปลก เป็นเจี้ยนเฉินที่บิดมันในทันที ความแข็งแกร่งที่อยู่เบื้องหลังหมัดของกาดิหยุนเหือดหายไป เป็นเจี้ยนเฉินที่ใช้มือของเขาสับลงที่ข้อต่อแขนของกาดิเหลียง

กัซชา!!

เสียงกระดูกหักดังขึ้นมาให้ได้ยิน ขณะที่เจี้ยนเฉินบิดแขนกาดิหยุนแล้วสับมือลงไป กาดิหยุนร้องอู้อี้และเจ็บปวด ความรู้สึกปวดที่แขนพุ่งขึ้นไปยังสมอง ทำให้ใบหน้าของเขาซีดขาวราวกับคนตาย

หลังจากที่มือของเจี้ยนเฉินบิดแขนข้างหนึ่งของกาดิหยุน เจี้ยนเฉินไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหว ทั้งสองแขนของเขาคว้าลงบนแขนข้างนั้นของกาดิหยุนและบิดมันอย่างแรง

อ๊า!

ในจุดนี้ กาดิหยุนไม่อาจกลั้นเสียงร้องได้อีกต่อไป เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดราวกับหมูถูกเชือด เขารู้สึกราวกับว่าแขนของเขาได้หักเป็นสองท่อน นับตั้งแต่เขายังเล็ก เขาไม่เคยรับความเจ็บปวดในระดับนี้และดังนั้นในระยะเวลาสั้น ๆ ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่ถูกระบายออกมา

ได้ยินเสียงกรีดร้องดังกล่าว ผู้คนที่จ้องมองอยู่ถึงกับเงียบกริบราวกับคนตาย ทุกคนมองดูเจี้ยนเฉินด้วยความประหลาดใจกับสิ่งที่เหลือเชื่อที่ไม่น่าเกิดขึ้น สถานการณ์นี้เป็นสิ่งตรงข้ามกับที่ทุกคนคาดคิดว่าจะได้เห็น

เมื่อไหร่กันที่น้องสี่มีฝีมือที่น่าตกตะลึงถึงเพียงนี้ ? เพียงแค่มอง มันแน่ชัดว่ากาดิหยุนจะต้องทรมานอย่างมากด้วยมือของเจียงหยางเซียงเทียน อย่างไรก็ตามแม้ว่ากาดิหยุนไม่ได้ใช้อาวุธเซียนแต่เขายังคงเป็นเซียน ความแข็งแกร่งของเขาย่อมมากกว่าตัวข้าอย่างแน่นอน เจียงหยางหู่พึมพำกับตัวเอง ในขณะที่เขาเฝ้าดูการประลองด้วยใบหน้าตกตะลึง