บทที่ 37 ผมลำบากใจนะ!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

หลังจากหวังเชียนเจาะรูเรียบร้อย ก็พูดกับเฉินชางว่า “ชางเอ๋อร์ ถือกล้องให้ผมหน่อยครับ”

งานผ่าตัดเป็นงานใช้แรงจริงๆ ต้องยืนก้มตัวดูภาพที่ปรากฏในอุปกรณ์ มือก็ต้องทำงานไปด้วย กินแรงมากยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่ส่วนนี้ สิ่งที่ยากที่สุดก็คือคุณต้องใช้เครื่องมือทำงานในขณะที่สังเกตการณ์ผ่านภาพที่ปรากฏบนจอ

บางครั้งก็เหมือนการเล่นเกม

สิ่งที่แตกต่างจากการเล่นเกมก็คือคุณไม่มีโอกาสล้มเหลว

ถ้าเล่นเกมแพ้ยังเริ่มใหม่ได้ แต่ชีวิตคนเริ่มใหม่ไม่ได้

ดังนั้นนี่จึงต้องใช้ความพิถีพิถันและจิตวิญญาณในการทำงานเป็นอย่างมาก

การผ่าตัดผ่านกล้องนั้น อาจพูดได้ว่าทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องของความพิถีพิถันในด้านการรับรู้ของคุณ

ทุกวันนี้หากต้องการเป็นศัลยแพทย์ที่ยอดเยี่ยมและได้มาตรฐานคนหนึ่ง คุณจำเป็นต้องมีความสามารถรอบด้าน

เมื่อเห็นท่าทีระมัดระวังของหวังเชียน เฉินชางก็เริ่มจริงจัง ไม่กล้ารบกวนอีก

เรื่องนี้ต้องใช้จิตวิญญาณในการรับรู้อย่างสูงจริงๆ จะอย่างไรคุณก็ไม่ได้ผ่าเปิดท้อง หลายขั้นตอนต้องอาศัยการทำงานผ่านภาพบนหน้าจอ

ไส้ติ่งพองบวมอย่างเห็นได้ชัด ยาวประมาณห้าถึงหกมิลลิเมตร มีการสัมผัสกับอวัยวะรอบด้านค่อนข้างมาก ตรงกลางมีน้ำหนองไหลออกมาไม่น้อย

ขั้นต่อไปเป็นการแยกเนื้อเยื่อจากอวัยวะอื่น ขยับคีมเข้าไปใกล้ไส้ติ่ง ใช้มันพลิกส่วนโคนของไส้ติ่งออกแล้วจึงใช้คีมหนีบเส้นเลือดบริเวณไส้ติ่งและโคนผ่านรูนี้

……

การผ่าตัดดำเนินไปอย่างเป็นระบบระเบียบ เฉินชางเป็นคนคุมกล้องที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง

แต่เฉินชางกับพบบางอย่างที่ต่างออกไป

ถึงแม้กล้องจะใช้ง่าย สะดวก ทั้งยังสอดคล้องกับความต้องการของคนยุคปัจจุบัน แต่ในด้านการจัดการงานละเอียดหลายๆ อย่างยังเทียบการผ่าเปิดท้องไม่ได้การผ่าเปิดท้องไม่จำเป็นต้องผ่าใหญ่มาก ผ่าประมาณหกถึงเจ็ดมิลลิเมตรก็พอแล้ว แต่รายละเอียดหลายอย่างต้องพิจารณาถึงระดับของหมอด้วย

พูดให้ชัดเจนก็คือ เทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้ศัลยแพทย์มากมายกลายเป็นผู้ใช้อุปกรณ์ไปแล้ว เพียงใช้อุปกรณ์พวกนี้ พวกเขาก็พัฒนาตนเองไปถึงระดับมาตรฐานได้อย่างว่องไว แต่หากคิดจะพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้นยังต้องอาศัยทั้งเทคนิคการผ่าตัดและเทคโนโลยี

ก็เหมือนกับการแกะสลัก

เครื่องแกะสลักในปัจจุบันแกะสลักชิ้นงานออกมาได้ในเวลาไม่นาน แต่นักแกะสลักที่มีฝีมือยอดเยี่ยมยังต้องใช้เวลายาวนานเพื่อแกะสลักชิ้นงานออกมาชิ้นหนึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว เปรียบดั่งคำที่ว่าผู้ไร้ความเชี่ยวชาญมองความงดงาม ผู้เชี่ยวชาญดื่มดำรสนิยม

หลังจากผ่าตัดเสร็จ เฉินชางก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น

[ติ๊ง! ทักษะฉายามือใหม่แห่งห้องผ่าตัดทำงาน: โอกาสกระตุ้น 1% ทำงาน ยินดีด้วย คุณได้รับทักษะของอันเยี่ยนจวิน: รับรู้ผ่านกล้อง]

เฉินชางชะงักไป

[การรับรู้ผ่านกล้อง: ทักษะอัตโนมัติระดับกลาง สามารถเพิ่มระดับได้]

[การรับรู้ผ่านกล้อง: คำอธิบายทักษะ: หากสวมใส่ทักษะนี้ เมื่อพบการผ่าตัดที่ต้องใช้เครื่องมือช่วยเหลือ จะส่งผลให้ผู้สวมใส่รับรู้ได้ถึงระยะที่ชัดเจนและทำงานสะดวกขึ้น สามารถใช้ได้กับ: แลปปาโรสโคป[1]และไมโครสโคป[2]เป็นต้น…]

ดวงตาของเฉินชางเปล่งประกายทันที!

ได้ของล้ำค่ามาแล้ว

[การรับรู้ผ่านกล้อง]

ทักษะนี้ดูถูกไม่ได้เลย และยังเป็นทักษะอัตโนมัติใช้งานได้หลากหลายอีกด้วย

ต้องทราบว่าปัจจุบันมีกล้องหลายประเภท แกสโตสโคป[3] โคโลโนสโคป[4] กล้องตรวจกล่องเสียง แลปปาโรสโคป เอ็นโดสโคป[5] ไมโครสโคป……

เยอะมาก

ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีไม่หยุดหย่อนทำให้ปัญญาประดิษฐ์มีความสามารถมากขึ้น หมอเริ่มกลายเป็นผู้ควบคุมอุปกรณ์คล้ายเป็นตัวละครในเกม RPG[6] ดังนั้นพอจะจินตนาการได้เลยว่าการรับรู้ผ่านกล้องเป็นทักษะแบบไหน!

เพิ่มระดับ จะต้องเพิ่มระดับให้เต็ม!

เมื่อคิดดังนั้น เฉินชางก็มองไปยังอันเยี่ยนจวินด้วยสายตาร้อนแรง

คุณชายสะอาดสะอ้านอย่างอันเยี่ยนจวินมีทักษะซ่อนอยู่มากแค่ไหนกันแน่

เห็นได้ชัดว่าอันเยี่ยนจวินและเหล่าเฉินเป็นพวกคนละขั้ว

ถ้าเฉินชางจ้องเหล่าเฉิน

หากเหล่าเฉินรู้ตัว จะต้องใช้วิธีจัดการประมาณว่า “ไม่สบายรึไงครับ? กวนจริงๆ!”

ส่วนอันเยี่ยนจวินดูเป็นผู้ดีกว่ามาก แค่กระแอมออกมาแล้วเบือนหนี ไม่รู้ว่ามองอะไร แต่รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายไม่สบายไปทั้งตัว จากนั้นจึงหมุนตัวไป

เฉินชางทอดถอนใจ

[ค่าความรู้สึกดีของอันเยี่ยนจวิน: -1]

เฉินชางชะงักไป อันเยี่ยนจวิน คุณต้องเข้าใจผมผิดแน่ๆ

เหนื่อยใจจริงๆ

แต่ว่า…ได้ทักษะเปิดใช้อัตโนมัติมาทักษะหนึ่ง ทำให้เฉินชางดีใจมาก หลังจากเปลี่ยนชุดแล้วก็เดินออกไป

ส่วนค่าความรู้สึกดีหนึ่งแต้มนั้น วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล เขาไม่รีบ

เฉินชางจากไปแล้ว

เหลือแค่อันเยี่ยนจวินและหวังเชียนที่ยืนสบตากัน

เมื่อเดินออกมาจากห้องผ่าตัด ขณะที่ทั้งสองกำลังล้างมือ อันเยี่ยนจวินคิดอยู่นาน สุดท้ายยังคงทนไม่ไหวจนต้องพูดกับหวังเชียนว่า “เสี่ยวหวัง ผมขอถามอะไรคุณหน่อยสิครับ”

หวังเชียนพยักหน้า คิดว่าอาจารย์มีคำถามเกี่ยวกับการผ่าตัดเมื่อครู่นี้จึงรีบรวมสมาธิ “ได้เลยครับ อาจารย์อัน เชิญถามได้เลยครับ”

อันเยี่ยนจวินสูดหายใจลึก “ซี้ด…”

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงถามอย่างอยากรู้อยากเห็น “คุณสนิทกับเสี่ยวเฉินคนนี้หรือครับ? เขาไม่มีแฟนใช่ไหมครับ?”

หวังเชียนพยักหน้า “ครับ เหมือนจะไม่มีนะครับ! ผมไม่เห็นเขาสนิทกับผู้หญิงคนไหนมาสองปีกว่าแล้ว”

หัวใจอันเยี่ยนจวินเต้นตุบตับ ซวยแล้ว!

ไม่ผิดไปจากที่คิดจริงๆ!

อันเยี่ยนจวินอดถามต่อไม่ได้ “เขาคงไม่…คงไม่ได้ไม่ชอบผู้หญิงหรอกนะครับ?!”

เมื่อได้ยินดังนั้น!

หวังเชียนก็นิ่งค้างไป…

สมองหยุดทำงาน…

ให้ตายเถอะ?

เป็นไปไม่ได้มั้ง?

หวังเชียนหันมา คิ้วขมวดจนยับย่น มองไปยังอันเยี่ยนจวินด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

อันเยี่ยนจวินหันมา ขมวดคิ้วแน่นจนปรากฏรอยย่น มองไปยังหวังเชียนด้วยดวงตาจริงจัง นัยน์ตาเต็มไปด้วยเครื่องหมายตกใจ

จู่ๆ ก็เข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดอะไร!

พริบตานั้น นอกห้องผ่าตัดพลันจมลงสู่ความเงียบสงัด…

มีเพียงเสียงน้ำไหลจากก๊อกน้ำในอ่างล้างมือดังซ่าๆๆ ที่พอจะปกปิดความกระอักกระอ่วนในยามนี้ได้ ส่วนในสมองของศัลยแพทย์ทั้งสองคนนั้น เบลอไปเรียบร้อยแล้ว

อันเยี่ยนจวินถอนใจแล้วหมุนตัวเดินจากไป

ส่วนหวังเชียนมองมือทั้งสองของตน พึมพำออกมาคำหนึ่งแย่จริง!

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้บางอย่างเกี่ยวกับเฉินชาง คิดไปถึงเช้านี้ที่ตน…เขา…ก็รู้สึกมวนท้องขึ้นมาทันที

รีบหยิบแปรงขึ้นมาขัดมือ!

ขัดไปพลางคิดไปพลาง คุณภรรยาครับ มือคู่นี้ของผมแปดเปื้อนแล้ว แต่ผมไม่ได้ตั้งใจ!

ฉินเล่อเล่อเพิ่งจะเดินออกมาจากห้องผ่าตัด เห็นหวังเชียนกำลังขัดมืออย่างแรงจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย “พี่เชียน? นี่…พี่…ภรรยาน้อยหาเรื่องพี่เหรอคะ?”

หวังเชียนทอดถอนใจ มองไปยังมือทั้งสองที่ถูกขัดจนเกิดรอยแดง พูดออกมาด้วยความรู้สึกอยุติธรรมที่อัดแน่นเต็มท้อง “เล่อเล่อ พี่เชียนถามอะไรหน่อยสิ คือว่า ถ้าตอนแรกเธอแกล้งหยอกคนคนหนึ่งมาสองปี ตอนหลังกลับมารู้ความจริงว่าคนที่เธอแกล้งมาสองปีเป็นฝ่ายได้เปรียบ เธอจะรู้สึกยังไง?”

ฉินเล่อเล่อขมวดคิ้วคิดจริงจัง จากนั้นจึงพูดออกมาประโยคหนึ่ง “ถูกคนอื่นลวนลามแล้วไม่ให้เงิน ยังคิดว่าตัวเองได้เงินอีก!”

หวังเชียนได้ยินก็ตื่นตะลึงไปทันที!

เขารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า

หัวสมองขาวโพลน!

หวังเชียนวิ่งออกไปจากที่ล้างมือบริเวณห้องผ่าตัดทันที

ฤดูวสันต์ของผม ความบริสุทธิ์ของผม

หวังเชียนยืนอยู่หน้าห้องผ่าตัด แทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ รู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรมยิ่ง

…………….

[1] แลปปาโรสโคป (Laparoscope) เป็นกล้องที่นิยมใช้ในการผ่าตัดซึ่งมีลักษณะเป็นท่อเล็กๆ ที่มีแสงในตัวเอง

[2] ไมโครสโคป (Microscopes) หรือกล้องจุลทรรศน์ เป็นอุปกรณ์สำหรับมองดูวัตถุที่มีขนาดเล็กเกินกว่าที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

[3] แกสโตสโคป (Gastroscope) คือกล้องสำหรับใช้ตรวจทางเดินอาหาร

[4] โคโลโนสโคป (Colonoscope) คือกล้องชนิดพิเศษสำหรับส่องลำไส้ใหญ่

[5] เอ็นโดสโค (Endoscope) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัด มีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็ก มีเลนส์ติดอยู่ที่ปลาย มีใยแก้วนำแสงเพื่อช่วยในการมองเห็น ทำให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นความผิดปกติได้อย่างชัดเจน แม่นยำ เลือกตัดออกเฉพาะส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาโดยไม่ต้องตัดเลาะ

[6] RPG (Role-Playing Game) คือแนวเกมที่เราจะได้สวมบทบาทเป็นตัวละครตัวหนึ่ง เรามีหน้าที่ในการควบคุมการกระทำทุกอย่างของตัวละครและดำเนินเนื้อเรื่อง