ตอนที่ 38 การประชุมภายในระดับสูง

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ชั้นยี่สิบเอ็ด แผนกวิจัยพัฒนาและแผนกประชาสัมพันธ์ 

 

 

เฉินฝานซิงออกมาจากลิฟต์จัดการถอดเสื้อกันลมออกและนำมาพาดไว้ตรงข้อพับ 

 

 

เสื้อผ้าของเธอแม้จะขาดสีสันแต่ก็ดูสวยงาม 

 

 

ชุดทำงานสีดำทั้งตัว ชุดสูดเข้ารูปตัวเล็กปกคลุมช่วงเอวอันผอมบาง กางเกงขายาวสีดำถูกรีดจนเรียบรับกับรูปขาตรงเรียวยาว 

 

 

เครื่องหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ เส้นผมสีดำอ่อนนุ่มถูกเกล้าขึ้น ใบหน้าสวยแฝงความเย็นชามาตั้งแต่ไหนแต่ไร เครื่องแต่งกายเรียบง่ายดูภูมิฐาน 

 

 

ความงดงามของเฉินฝานซิงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธ 

 

 

แต่ว่ามักจะเป็นความสวยงามที่น่าเหนื่อยหน่าย 

 

 

ผมทรงเดิม เสื้อผ้าและการแต่งหน้าซ้ำๆ ซากๆ กันแบบนั้นตลอดกาล 

 

 

ปีแล้วปีเล่า เธอก็ไม่เคยเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวเลยแม้แต่น้อย 

 

 

ผู้หญิงคนหนึ่งต่อให้สวยแค่ไหนก็ไม่ควรเหนื่อยที่จะแต่งสวยให้ตัวเอง 

 

 

ถือเรื่องงานสำคัญเหนือสิ่งใด ทั้งแข็งทื่อทั้งน่าเบื่อ ใครๆ ก็พลอยลดความสนใจในตัวเธอเป็นธรรมดา 

 

 

แต่ไม่ว่าเธอจะน่าเบื่อยังไง ในพื้นที่ชั้นยี่สิบเอ็ดเธอกลับได้รับความยำเกรงจากทุกคน 

 

 

แผนกประชาสัมพันธ์และแผนกวิจัยพัฒนานั้นเป็นสองแผนกที่เหนื่อยที่สุดในบริษัทก็ว่าได้ เธอกลับเป็นคนแบกรับไว้ด้วยตัวคนเดียว 

 

 

เธอมีความสามารถและมีเสน่ห์ ในด้านการทำงานทำให้ทุกคนมั่นใจ 

 

 

– 

 

 

เมื่อรองเท้าส้นสูงของเธอกระทบกับพื้นเกิดเสียงดังขึ้นเป็นจังหวะนั้นโซนทำงานขนาดใหญ่ความวุ่นวายก็ได้บังเกิดขึ้น 

 

 

ในสายโทรศัพท์ภาษาต่างๆ จากหลายประเทศสลับกันดังขึ้นเป็นระลอก พนักงานต่างก็เฮโลกันเข้ามารายล้อมเพื่อรายงานผลการทำงาน 

 

 

ตั้งแต่พื้นฐานของการผลิตสินค้าอย่างการจัดซื้อ ไปจนถึงกระบวนการศึกษาค้นคว้าและการผลิต การดำเนินการผลิต แพ็กเกจผลิตภัณฑ์ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ การนัดเวลาเจรจาเพื่อทำสัญญาทุกประเภท จนถึงการวางตลาด… 

 

 

เฉินฝานซิงเดินด้วยท่าทางนิ่งสงบเข้าห้องทำงานไป หลังตรงคางเชิด เดินอย่างกระฉับกระเฉงว่องไว แต่ปากก็ยังสามารถตอบคำถามของทุกคนได้ 

 

 

นี่เป็นเรื่องปกติที่ต้องพบเจอทุกวันที่มาทำงาน ที่เธอนั้นชินไปตั้งนานแล้ว 

 

 

จนกระทั่งเธอเดินมาจนถึงห้องทำงานของตัวเอง ถึงได้รู้ว่าตนนั้นเดินรอบๆ โซนทำงานไปครบรอบหนึ่งแล้ว แถมในตอนนี้ก็ยังหอบเอกสารมาเต็มแขน 

 

 

เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอด ทิ้งเอกสารในอ้อมแขนลงบนโต๊ะทำงาน ยกมือกุมหน้าผากอย่างหน่ายใจ 

 

 

เป้าหมายที่มาวันนี้คือลาออกนะ ไม่ใช่ทำงาน! 

 

 

นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย 

 

 

พ่นลมหายใจทิ้งอีกครั้ง ลากเก้าอี้ออกมาแล้วเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นร่างหนังสือขอลาออกอย่างง่ายๆ แล้วสั่งปรินท์ออกมา 

 

 

ขั้นตอนยังคงต้องดำเนินต่อไป หากฝ่ายบุคคลอนุมัติให้ได้เลย เธอก็ไม่จำเป็นต้องไปเผชิญหน้ากับซูเหิงอีก 

 

 

เธอนำหนังสือลาออกที่เพิ่งปรินท์ออกมายัดใส่ซองจดหมาย ก่อนจะขึ้นไปชั้นบนเพื่อนยื่นหนังสือต่อฝ่ายบุคคล 

 

 

หลังเคาะประตูห้องฝ่ายบุคคล เสียงจากข้างในห้องของผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่อยู่หลังประตูแว่วดังขึ้นอย่างรีบร้อน จากนั้นประตูก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว