ขณะที่เหลิ่งจวิ้นอวี๋สับสนในใจ ทันใดนั้นร่างกายราวถูกช๊อตด้วยไฟฟ้า สั่นไหวอย่างรุนแรงไปทั้งตัว ก่อนกระแสไฟฟ้าอันวาบหวาม ทะลุผ่านจากด้านหลังของเขาไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกจากการสัมผัสอันวาบหวามนี้ ทำให้เหลิ่งจวิ้นอวี๋ลืมตาขึ้นมา ก่อนมองผ่านไปยังด้านหลัง
เห็นเพียงบนแผ่นหลังกว้างหนาสีน้ำตาลของเขา มีมือเล็กๆ ที่อ่อนนุ่มคู่หนึ่งที่อาลัยอาวรณ์อยู่บนนั้นอย่างไม่เกรงกลัว ราวคลี่คลายสถานการณ์ไม่ได้
อีกทั้งเหลิ่งจวิ้นอวี๋เวลานี้จึงเห็นว่าขันทีน้อยข้างกาย ไม่เพียงรูปร่างบอบบางงดงาม กระทั่งมือเล็กคู่นั้นยังอ่อนนุ่มไร้กระดูก ราวกับมือของผู้หญิงที่เล็กและคอดกิ่วอย่างหาที่เปรียบมิได้ พร้อมทั้งนุ่มลื่นยิ่งนัก
บริเวณที่ถูกมือเล็กลูบไล้ คล้ายถูกขนนกที่มีกระแสไฟฟ้าเรียบลื่นพัดผ่านไป ทั้งยังแฝงด้วยกระแสไฟฟ้าอันวาบหวาม ทำให้กระดูกทั่วร่างกายเขาแทบจะละลายไปกับความวาบหวามนั้น
นอกจากนี้ใจของเขายังคล้ายมีแมวตัวน้อยตัวหนึ่งกระโดดเข้ามา ทำให้คันไม่หยุด
และอันตรายที่สุดคือเขายังรู้สึกได้ถึงเลือดลมทั่วร่างกายเขา เวลานี้คล้ายเดือดพลุ่งพล่านขึ้นมา จนในที่สุดความร้อนทั้งหมดนั้นวิ่งเข้าไปตรงด้านล่างร่างกายจุดนั้นอย่างรวดเร็วทันที
แม้อีกครึ่งหนึ่งของร่างกายเขาจะอยู่ในบ่อน้ำพุร้อน แต่เหลิ่งจวิ้นอวี๋สังเกตเห็นว่าด้านล่างตนต้องตั้งตระหง่านอย่างแน่นอน
แม้จะเป็นบุรุษ โดยเฉพาะอายุเช่นเขานี้ บางครั้งเปี่ยมด้วยกำลังวังชา บางครั้งต้องมีความต้องการทางเพศอย่างแน่นอน เรื่องพวกนี้จึงถือเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่ง
ทว่าตอนนี้เขากลับเกิดความคิดต่อขันทีน้อยที่มีความเป็นชายเพียงครึ่งเดียว นี่…นี่มันคือสิ่งใดกันแน่!?
สำหรับเรื่องนี้เหลิ่งจวิ้นอวี๋ทั้งเสียใจและข้องใจ
หรือจะเป็นเพราะเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงมาก่อน จึงเกิดความคิดที่ไม่เหมาะสมกับขันทีน้อยที่หน้าตางดงามผู้นี้!?
หรือเขาควรจะฟังความเห็นของเสด็จพี่ ว่านี้เป็นเวลาที่ควรหาคู่ครองได้แล้ว!?
แต่พอนึกถึงสตรีที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าพวกนั้น ไม่รู้เพราะเหตุใดถึงทำให้เขารู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาทันที
เพราะเขาเกลียดที่สุดก็คือกลิ่นของสีชาดพวกนั้น น่าสำลักยิ่งนัก ไม่เหมือนกับขันทีน้อยตรงหน้าใบหน้าขาวนุ่มนวล ผิวขาวสะอาดราวเป่าดีดอาจแตกสลายได้ ยังมีบนร่างกายเขาไม่มีกลิ่นน้ำหอม แต่เมื่อดมกลับได้กลิ่นหอมจางๆ ราวกลิ่นหอมของกุหลาบ ทั้งยังคล้ายเป็นกลิ่นหอมที่ออกมาจากร่างกาย
ยิ่งคิดเหลิ่งจวิ้อวี๋คล้ายไม่รู้สึกตัวเลยว่าสายตาของตนที่มองยังเล่อเหยาเหยาค่อยๆ เพิ่มความหื่นกระหายยิ่งขึ้น
หากท่าทางเกียจคร้านเมื่อครู่ดูคล้ายสัตว์ร้ายที่กำลังตื่นนอน ใบหน้าเต็มไปด้วยความง่วง เช่นนั้นเวลานี้เขาคล้ายสัตว์ร้ายหิวโหยที่มีสายตาอันร้อนแรงและกลิ่นอายแห่งความหวัง รอคอยโอกาสเข้าโจมตีกระต่ายขาวตรงหน้า ก่อนที่จะถลกหนังเลาะกระดูกกินเข้าไปในท้องจนหมดสิ้น
ส่วนกระต่ายขาวตัวนั้น กลับไม่รู้ตัวเลยว่าตนกำลังจะมีอันตราย ยังคงใช้สายตาหื่นกระหายจ้องมองผิวนุ่มด้านล่าง จนน้ำลายแทบไหลออกมา
จนกระทั่งน้ำเสียงทุ้มต่ำแหบพร่าดังขึ้นมาข้างหูอย่างฉับพลัน เล่อเหยาเหยาจึงได้สติจากความงดงามนั้นกลับมา
“เจ้าลูบไล้พอหรือยัง!?”
น้ำเสียงอ่อนไหวแฝงพร่าเล็กน้อย คล้ายกำลังอดกลั้นบางสิ่ง ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้นกลับน่าหลงใหลยิ่งนัก!
แต่หลังได้ยินประโยคนี้ของชายหนุ่ม เล่อเหยาเหยากลับมีใบหน้าสดใส มือเล็กที่ลูบไล้อยู่บนหลังของชายหนุ่ม คล้ายโดนไฟช๊อตพลันยกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
สายตาที่มองยังชายหนุ่มเป็นประกาย มองซ้ายแลขวา ดวงตาลุกลี้ลุกลนแฝงความขลาดกลัว ราวเด็กน้อยที่ทำผิดแล้วถูกผู้ใหญ่พบเข้า แฝงด้วยความลังเลและกังวลใจ
แต่ใครบางคนกลับไม่รู้ตัวว่าท่าทางขลาดกลัวของตน ในสายตาของชายหนุ่มบางคนช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก!
พลันน้ำเสียงรีบร้อนแฝงสั่นเทา เอ่ยขึ้นเบาๆ อย่างขลาดกลัว
“เอ้อ คือว่า ท่านอ๋อง บ่า…บ่าว…”
เล่อเหยาเหยากำลังพยายามที่จะอธิบายบางอย่าง แต่เมื่อไตร่ตรองดูแล้วเธอไม่รู้ควรจะพูดเช่นไรดี
เพราะถึงอย่างไรเขาเป็นคนเรียกเธอให้มาถูหลัง แต่เธอกลับลวนลามเขา และตอนนี้เธอยังเป็นขันทีอีกด้วย!
ไม่รู้ว่าเขาเห็นแล้วจะคิดเช่นไรกันแน่ จะคิดว่าเธอเสียสติและไม่มีเหตุผลหรือไม่
อันที่จริงครั้งก่อนเสี่ยวมู่จื่อพูดไว้ว่ามีขันทีบางส่วนหลังตัดเจ้านั้นของตนไป จะค่อยๆ ชื่นชอบในตัวผู้ชาย
และคนเช่นนี้ ในสายตาของผู้อื่นคือคนเสียสติ ทำให้โดนดูถูก!
ไม่รู้ว่าท่าทางหื่นกามของเธอเมื่อครู่นั้น ในสายตาของจิ่งหยางเลี่ยจะว่าเธอเป็นพวกเสียสติไปแล้วหรือไม่!?
ในใจเล่อเหยาเหยาจึงสับสนและหงุดหงิดเล็กน้อย
กลับไม่รู้เลยว่าความคิดของตนในตอนนี้ ได้เปิดเผยออกมาทางใบหน้าที่งดงามของตนเองจนหมด
เมื่อเห็นขันทีน้อยตรงหน้ากัดริมฝีปากแดงสดอย่างหงุดหงิดพลางขมวดคิ้วมุ่น ท่าทางเช่นนั้นทั้งมีชีวิตชีวาและน่ารัก
เขาจึงอดใจอ่อนเมื่อเห็นไม่ได้ ทว่าพลันเกิดความคิดหยอกล้อขันทีน้อยผู้นี้ขึ้นมาทันที
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งจวิ้นอวี๋พลันกระโดดจากบ่อน้ำพุร้อนขึ้นมาบนฝั่งอย่างรวดเร็ว
เพราะการเคลื่อนไหวที่รุนแรงของเขา จึงทำให้บ่อน้ำพุร้อนที่เป็นประกายระยิบระยับ เกิดระลอกคลื่นขนาดใหญ่ขึ้น ตามติดมาด้วยละอองน้ำที่แตกกระจายและไอร้อนที่ลอยกรุ่นขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อน
เล่อเหยาเหยาที่สับสนและหงุดหงิด ย่อมไม่รู้เลยว่าเหลิ่งจวิ้นอวี๋จะกระโดดขึ้นมาบนฝั่งอย่างฉับพลันเช่นนี้ จึงตกใจตัวสั่น ขาสองข้างอ่อนแรงล้มลงบนพื้น
นัยน์ตางดงามที่ตกใจจนเบิกกว้างคู่นั้น มองไปยังชายหนุ่มรูปงามตรงหน้า พร้อมสีหน้าตกตะลึงและปากเล็กอ้าค้างกับพฤติกรรมต่ำทรามที่ไม่ละอายของชายหนุ่ม
เพราะจู่ๆ พญายมก็กระโดดขึ้นมาบนฝั่งตรงหน้าเธออย่างอัปยศอดสู นอกจากนี้ร่างกายท่อนล่างของเขายังเปลือยกายอีกด้วย
นกขนาดใหญ่นั้น ขยับอยู่ตรงหน้าเธออย่างเปิดเผย
เล่อเหยาเหยาที่เห็นจึงรู้สึกเพียงคอแห้งขึ้นมาทันที ความร้อนพรึ่บออกมาจากยอดศีรษะ จนศีรษะแทบจะพ่นควันสีน้ำเงินออกมา
สวรรค์ ขา…เขาคิดจะทำอะไรกันแน่!?
หรือเขาไม่คิดว่าน่าอายใช่หรือไม่!?
ถึงกล้าเปิดเผยมันต่อห้าขันทีผู้หนึ่งเช่นนี้! หรือเขาไม่รู้ว่าหากเธอเห็นเข้าอาจจะวู่วามเป็นได้?
ขณะที่เล่อเหยาเหยาตื่นเต้นตกใจ เหลิ่งจวิ้นอวี๋กลับมีสีหน้าเรียบเฉยอย่างมาก ไม่รู้ภาคภูมิใจกับรูปร่างของตนอย่างมากหรือไม่ เขาจึงไม่คิดที่จะใช้สิ่งใดปิดบังนกน้อยของตนเลย เพราะถึงอย่างไรเขาทั้งสองคนล้วนเป็นผู้ชายมิใช่หรือ!?
แม้ขันทีน้อยตรงหน้าเวลานี้จะเป็นชายเพียงครึ่งเดียว แต่อย่างน้อยถือว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ดังนั้นเหลิ่งจวิ้นอวี๋จึงไม่รู้สึกอะไรเลย ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าของขันทีน้อยตรงหน้านั้นแดงก่ำ ราวกุ้งที่เพิ่งต้มสุก เขาจึงรู้สึกว่าน่าขันและยังน่าสนใจ!
จึงเกิดความคิดหยอกล้อเขาขึ้นมา!
ดังนั้นเหลิ่งจวิ้นอวี๋หลังกระโดดขึ้นมาจากบ่อน้ำพุร้อน มองยังขันทีน้อยที่ล้มลงอยู่บนพื้น พร้อมเงยหน้ามองตนอยู่อย่างตกใจ ก่อนจะเผยอริมฝีปากแดงสดขึ้น แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าแฝงเกียจคร้าน
“ช่วยนวดขาให้ข้าที!”
เอ่ยจบ เห็นชายหนุ่มนอนลงบนพื้น มือรองหลังศีรษะ ปิดตาสองข้างลง ท่าทางและใบหน้าที่สบายอกสบายใจนั้น ดูคล้ายสัตว์ร้ายที่เกียจคร้านตัวหนึ่ง
ศีรษะที่เปียกไปด้วยหยดน้ำนั้น งดงามราวน้ำตกติดแน่นอยู่ข้างใบหน้าของเขา ด้านหลังตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อน กระเพื่อมอยู่ใต้น้ำ
ภาพชายหนุ่มรูปงามหลับตาพักผ่อนนี้ งดงามราวอยู่ในบทกวีภาพวาด ชวนให้ผู้คนตกตะลึง!
ทว่าหากไม่สนใจสิ่งที่เปิดเปลือยตรงระหว่างขาทั้งสองของเขา
ดูแล้วชายหนุ่มคงภาคภูมิใจกับรูปร่างของตนมากจริงๆ เพราะตอนนี้เขานอนอยู่บนพื้นด้วยท่าทางตามอำเภอใจเช่นนี้ แต่น่าดึงดูดอย่างชัดเจน
ยังมีสิ่งนั้นตรงกลางขาของเขาที่ไม่มีสิ่งใดปกปิดเลย จึงเปิดเปลือยออกมาต่อหน้าเล่อเหยาเหยาเช่นนี้
ระยะห่างนั้นทำให้เล่อเหยาเหยาแทบจะสามารถนับเส้นขนที่หงิกงอบนนั้นได้