บทที่ 43 เอะอะจริงๆ ออกไปให้หมด

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

ผู้ช่วย?

เฉินชางพยักหน้า แน่นอนว่าเขาต้องการผู้ช่วย แล้วต้องยังเป็นผู้ช่วยดีๆ สักหลายคนด้วย

การเย็บแผลที่ไม่เรียบตามมาตรฐานจะเย็บต่อเนื่องไม่ได้ จำเป็นต้องเปลี่ยนหัวเข็มและด้ายสำหรับเย็บอยู่ตลอด ยิ่งไปกว่านั้นบางแห่งก็ต้องให้คนช่วยผูกปม

เจิ้งกั๋วถานพยักหน้า หันไปมองผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย “ทุกคนมาด้วยกันเถอะครับ ไปช่วยหมอเฉินหน่อยนะครับ”

อืม เป็นประโยคที่ธรรมดามาก

แต่เมื่อทุกคนได้ยินเข้าหูกลับคิดไปแบบอื่น จะให้พวกเขาไปเป็นผู้ช่วยของหมอเล็กๆ นี่น่ะหรือ? อืม ต้องไม่พอใจแน่อยู่แล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นคนที่ในใจมีความหยิ่งยโสอยู่บางคนแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกเช่นนี้

แต่ที่นี่คือบ้านของเจิ้งกั๋วถาน ไม่ใช่เวลาที่พวกเขาจะมาทำตัวเรื่องมาก

ฉินเซียง หมอชราที่พูดขึ้นเมื่อครู่นี้ยิ้มออกมา “ได้ครับ ไม่มีปัญหา ทุกคนก็ไปดูด้วยกันเถอะ ถ้าต้องรักษาซ่อมภายหลังจะได้วางแผนไว้ในใจ”

ทุกคนเห็นฉินเซียงพูดจึงพยักหน้า เดินตามเข้าไป

……

……

ผู้เชี่ยวชาญคนละสายย่อมให้ความสำคัญในการเย็บแตกต่างกัน ถ้าเป็นหมอด้านความงาม การออกแบบคือสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าเป็นแพทย์ด้านการรักษา การฟื้นตัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ผู้หญิงสวมแว่นตาพูดขึ้นว่า “นี่คือแผนการเย็บที่พวกเราออกแบบไว้ คุณรับไปสิ”

เฉินชางพยักหน้ารับแผนงานมาแล้วพูดขึ้นว่า “ขอบคุณครับ!”

ผู้หญิงคนนั้นไม่สนใจเขา เดินตรงเข้าไปด้านในเลย

เฉินชางเห็นดังนั้นก็ยิ้มอย่างจนใจ ก้มหน้าลงมองแผนงานในมือ

อืม เชี่ยวชาญมาก แผนงานที่ออกแบบโดยการร่วมมือกันระหว่างแพทย์เฉพาะทางด้านการรักษาและแพทย์ด้านความงาม เป็นแผนการเย็บที่ค่อนข้างสมบูรณ์เลย

หลังจากดูคร่าวๆ แล้ว เฉินชางก็โยนแผนงานไว้บนโต๊ะแล้วยืดตัวขึ้นเดินเข้าไปในห้อง

เพราะว่าแผนการเย็บนี้ไม่เข้าตาเฉินชางเลย

แผนงานนี้จะเทียบกับ [ดวงตาแห่งความงาม] ได้หรือ?

ความแตกต่างมีไม่มากหรอก ก็แค่ต่างกันราวฟ้ากับเหวแค่นั้นเอง

หลังจากเตรียมงานเสร็จ เฉินชางก็พยักหน้าเป็นสัญญาณให้ทุกคน “ผมจะเริ่มแล้วนะครับ”

ฉินเซียงพยักหน้า “ครับ!”

ชายหัวล้านอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ก็พยักหน้าด้วย “โอเคครับ”

ผู้หญิงสวมแว่นชื่ออันจิ้ง เธอเป็นประธานเครือข่ายแพทย์ศัลยกรรมพลาสติก มีชื่อเสียงในวงการศัลยกรรมความงามที่เมืองอันหยางมาก เพียงแต่ตอนนี้เธอยืนอยู่ด้านข้างราวกับไม่อยากเกี่ยวข้อง มือทั้งสองกอดอก ทำท่าทางเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน

เฉินชางหยิบเข็ม ET164 ขึ้นมา ทักษะ [ดวงตาแห่งความงาม] ถูกกระตุ้น เริ่มลงมือทำงานแล้ว เฉินชางตัดสินใจเริ่มเย็บจากตรงกลางก่อน จุดนี้เป็นจุดที่ยากที่สุด แต่เมื่อเย็บเสร็จแล้ว ความยากในการการเย็บอีกสองด้านจะลดลง ต้องการแค่เข็มหลายเล่มเท่านั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นอีก

พูดจบเฉินชางก็หยิบเข็มขึ้นมา แทงเข้าไปที่ผิวหนัง!

ตอนนี้ทุกคนเกร็งจนเหงื่อแตก!

เข็มกลมจะเข้าไปได้หรือ?

ยิ่งไปกว่านั้นยังเล็กขนาดนี้ด้วย…

ความยากยิ่งเพิ่มขึ้นอีก

ใช้เข็ม 164 เย็บแผลนี่นะ คุณบ้าไปแล้วหรือไง? เข็มโค้งไม่ถึงสองมิลลิเมตร คิดจะแทงเข้าไปในผิวหนังมันยากเกินไปแล้ว

อันจิ้งยืนอยู่ที่นั่น เตรียมดูเรื่องตลก

เนื่องจากเข็ม164 สั้นและเล็กเกินไป หากใช้แหนบจับบริเวณกลางเข็มจะแทงเข้าไปในผิวหนังไม่ได้ ดังนั้นเฉินชางจึงต้องใช้แหนบคีบบริเวณปลายเข็ม

เมื่อเป็นเช่นนี้ระดับความยากก็จะมากขึ้นอีก!

คิดจะแทงให้ทะลุผิวหนังก็จะยากขึ้นอีก!

ในขณะที่ทุกคนกำลังกังวลนั้นเอง ปลายเข็มของเฉินชางก็ทะลุเข้าไปในผิวหนังโดยพลัน ออกแรงที่แหนบเพียงเล็กน้อยปลายเข็มก็ปรากฏด้านตรงข้ามแล้ว!

การกระทำที่ดูง่ายแบบนี้ทำให้ทุกคนมองจนตาค้าง!

โอ้โห!

อะไรกันนี่?

ง่ายขนาดนี้เชียว?

ทุกคนชะงักไป หรือว่ามันจะง่ายขนาดนี้เลย?

หรือก่อนหน้านี้พวกเราเข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับเข็มกลมผิด?

หรือเพราะเป็นเข็มเบอร์สี่ทำให้ปลายเข็มคมยิ่งขึ้น?

ทุกคนเค้นสมอง เริ่มใคร่ครวญถึงสาเหตุ

หรือว่าบริษัท ET ผลิตเข็มเบอร์ 164 จนเชี่ยวชาญแล้ว?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ทุกคนก็ขมวดคิ้ว

ส่วนเฉินชางยังคงเย็บต่อไปไม่หยุด แทงลงแล้วแทงขึ้น…เย็บได้อย่างสะดวกราบรื่น

ตอนนี้เอง จู่ๆ อันจิ้งก็ขมวดคิ้ว เนื่องจากเธอพบว่าเฉินชางไม่ได้เย็บตามแผนงานของตัวเอง

“ทำไมคุณไม่เย็บตามแผนงานที่ฉันให้คุณล่ะ?!”

เสียงตำหนิทำให้เจิ้งกั๋วถานที่กำลังดูการเย็บแผลอย่างจริงจังตกใจ หัวใจเกือบจะกระดอนออกมา ให้ตายเถอะ คุณเงียบหน่อยได้หรือเปล่า!

ตอนนี้ทุกคนจึงค่อยพบว่าเฉินชางเริ่มเย็บจากตรงกลาง ไม่ได้ดำเนินการตามแผนงานพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

ส่วนฉินเซียงกลับมองไปที่ผิวหนัง คล้ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง

ทางเลือกของเฉินชางนับว่ามีเหตุผลจริงๆ บางทีการเริ่มเย็บจากตรงกลางอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขาก็ได้ เพราะว่าคนที่มีฝีมือสูงมักใจกล้า!

แต่คำถามของอันจิ้งกลับทำให้ในห้องจมลงสู่สถานการณ์กระอักกระอ่วน

เฉินชางรู้สึกรำคาญเล็กน้อย ต้องทราบว่าการเย็บแผลละเอียดเช่นนี้เป็นงานที่ละเอียดอ่อนมากคุณมารบกวนแบบนี้อาจส่งผลกระทบต่องานได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้เฉินชางก็ไม่สนใจอันจิ้งอีก หันไปพูดกับเจิ้งกั๋วถานว่า “คุณเจิ้งครับ ให้คนว่างงานออกไปเถอะ พวกผมสามคนก็พอแล้ว ถ้ายังมีคนรบกวนอีก…ผมไม่กล้ารับประกันว่าตัวเองจะผิดพลาดหรือเปล่า”

เจิ้งกั๋วถานได้ฟังดังนั้นก็เข้าใจได้ รีบพยักหน้าทันที “ได้ครับ ถ้างั้น…เชิญทุกคนออกไปเถอะ ไปพักผ่อนจิบชาที่ห้องโถงก่อนนะครับ”

พูดจบก็เชิญให้ทุกคนเดินไปด้านนอก

แต่อันจิ้งยังยืนอยู่ที่นั่น!

“คุณเจิ้งคะ ฉันไม่เห็นด้วยกับแผนการเย็บของเขา ฉันว่าทำตามแผนการเย็บที่พวกเราออกแบบเมื่อครู่นี้จะดีที่สุด”

เจิ้งกั๋วถานเขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณอันครับ เชิญออกไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

อันจิ้งเห็นท่าทีของเจิ้งกั๋วถานพลันสีหน้าเปลี่ยนไป พยักหน้าเล็กน้อยแล้วจึงเดินออกไปด้านนอก

อดคิดในใจไม่ได้ว่า อีกเดี๋ยวคุณเกิดปัญหาก็อย่ามาหาฉันแล้วกัน! อาศัยไอ้หนูนั่นน่ะเหรอ? ฮ่าๆ…เป็นไปไม่ได้ ก็แค่พวกรู้แต่ทฤษฎีเท่านั้นแหละ

เจิ้งกั๋วถานเห็นทุกคนออกไปหมดแล้วจึงรีบเดินเข้ามา คิดจะดูสักหน่อย

แต่สวีรั่วหยุนกลับพูดว่า “คุณออกไปเถอะค่ะ!”

เจิ้งกั๋วถานชะงักไป ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “คือว่า…หมอเฉินครับ ผมจะอยู่เฝ้าประตูให้คุณด้านใน ไม่ให้คนอื่นเข้ามา ได้ไหมครับ?”

สวีรั่วหยุนหน้าคล้ำ “คุณไปเฝ้าประตูอยู่ด้านนอกก็พอแล้ว”

เจิ้งกั๋วถานรีบพยักหน้า “ได้ครับได้ เสี่ยวสวีอย่าโกรธเลย”

หลังจากออกไป เจิ้งกั๋วถานก็ยืนอยู่หน้าประตู เดินไปเดินมา รู้สึกกระสับกระส่าย

ขณะเดียวกัน ภายในห้อง การเย็บของเฉินชางเป็นไปอย่างพิถีพิถัน ตอนนี้เขาพบว่าความเปลี่ยนแปลงที่คุณลักษณะ [ความคม +1] นำมาให้น่ากลัวมากจริงๆ แค่เข็มก็มีให้เฉินชางเลือกหลายประเภทแล้ว ความเสียหายที่เกิดจากการใช้เข็มกลมเย็บแผลน้อยกว่าการใช้เข็มเหลี่ยมเย็บมากจริงๆ

เมื่อรวมเข้ากับ [ดวงตาแห่งความงาม] การเย็บของเฉินชางก็เป็นไปด้วยดี ยิ่งเย็บก็ยิ่งราบรื่น!

คนทั้งสองที่เป็นผู้ช่วยให้เฉินชางถูกแผนการเย็บของเฉินชางทำเอาตื่นตะลึงไปแล้ว!

เฉินชางยังคงเป็นลูกพี่ใหญ่คอยนำ!

“เปลี่ยนเข็ม!”

“ตัดด้าย!”

“ล้างน้ำเกลือ!”

เมื่อออกคำสั่งแต่ละอย่างไปแล้ว เฉินชางก็ค้นพบเรื่องบางอย่าง นั่นก็คือคนกลุ่มนี้ใช้งานได้ดีกว่าพยาบาลช่วยผ่าตัดเสียอีก อืม อย่างน้อยก็เข้าใจคุณ!

ตอนนี้ตัวประกอบไม่ได้ถือแค่เครื่องมือ แต่ยังเป็นผู้ช่วยได้อีกด้วย!

ใช้จนชินเสียแล้วสิ

ดูท่า หลังจากนี้จะต้องพัฒนาบุคคลผู้มีความสามารถเป็นของตัวเองสักหน่อย เลี้ยงลูกน้องไว้เป็นผู้ช่วยเสียบ้าง!

เฉินปิ่งเซิงก็ไม่เลว เป็นผู้ช่วยได้ ส่วนหัวหน้าอันก็ไม่เลว เป็นผู้ช่วยหมายเลขสองได้ แต่ว่า…ช่างมันเถอะ ผู้อำนวยการหลี่เป่าซานเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด น่าเสียดายที่แก่เกินไป ส่วนฉินเยว่ก็ดูสบายตา ทั้งยังประจบประแจงเก่ง นอกจากเป็นสาววายอย่างอื่นก็ไม่เลว เมื่อนึกถึงตอนที่พวกเขาพูดข้างหูตนเองว่า “เฉินชางสุดยอด!” เขาก็รู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาแล้ว

เมื่อผูกปมสุดท้ายเสร็จ เฉินชางก็มองไปยังฉินเซียงและชายหัวล้านอย่างพึงพอใจ แววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม

จากนั้นเขาจึงพยักหน้าอย่างพอใจ คล้ายกำลังชมว่า ไม่เลว ไม่เลว!

ทั้งสองเห็นสายตาพึงพอใจของเฉินชาง เมื่อสงบความระทึกจากการเย็บแผลมาได้ก็รู้สึกยินดียิ่งขึ้น!

เหมือนพวกเขาได้ย้อนกลับไปตอนยังเป็นแพทย์ดูแลไข้ ได้ไปเป็นผู้ช่วยให้แพทย์อาวุโสแล้วถูกแพทย์อาวุโสชมเชย ในใจถึงกับเกิดความรู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่ได้พบมานาน!เฉินชางยิ้ม “เอาน้ำเกลือมาล้างแผลหน่อยนะครับ แล้วมาดูผลกัน!”

ชายหัวล้านรอไม่ไหวแล้ว รีบหยิบสลิงขึ้นมาและล้างแผลด้วยความเชี่ยวชาญ

เฉินชางอดชื่นชมไม่ได้ “วิธีการล้างแผลแบบนี้ดีมากเลยนะครับ”

ชายคนนั้นได้ยินก็รู้สึกยินดียิ่ง “ขอบคุณที่ชมครับ!”

หลังจากล้างแผลเสร็จ ผลปรากฏเบื้องหน้าทุกคน!