บทที่ 14 ก่อเรื่อง(2)

แดนนิรมิตเทพ

บทที่ 14 ก่อเรื่อง(2)
เหมือนคิดอะไรได้ หลี่เยว่สะกดกลั้นความโกรธ มือที่กำแน่นค่อยๆ คลายออก พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่เถียงกับนาย เดี๋ยวเราได้เห็นดีกัน!”
หลี่เยว่จ้องเฉินโม่เขม็ง ความร้ายกาจฉายขึ้นมาในแววตา โยนกุญแจห้องเก็บของลงบนพื้น และเดินออกไป
เฉินโม่ยืนอยู่ที่เดิม เมื่อหลี่เยว่เดินออกไปไกลแล้ว เขาชี้ไปที่พวงกุญแจบนพื้น กุญแจนั้นลอยขึ้นมา และลอยเข้ามาอยู่ในมือเฉินโม่
เฉินโม่ยิ้มบางๆ เปิดประตูห้องเก็บของ และเดินเข้าไป
ถึงยังไม่ได้เข้าสู่ชั้นแรกแดนรวมพลัง แต่ผ่านการฝึกฝนมาหนึ่งคืน เฉินโม่สะสมพลังทิพย์ในร่างกายได้ไม่น้อย การ ‘ควบคุมสิ่งต่างๆ’ คล้ายวิธีพื้นฐานของโลกบำเพ็ญเซียน เฉินโม่จึงสามารถใช้ได้
แน่นอนว่าถ้าสิ่งของขนาดใหญ่เกินไป เฉินโม่ก็ไม่สามารถทำได้แล้ว เพราะความสามารถของเขาในตอนนี้ ยังไม่ถึงชั้นแรกแดนรวมพลัง
ความมืดค่อยๆ ใกล้เข้ามา เฉินโม่กินข้าวเย็นกับแม่ เห็นเฉินโม่ไม่ได้เป็นอะไร หลี่ซู่เฟินจึงผ่อนคลายความหวาดระแวงลง ส่วนเฉินโม่ไม่ได้พูดอะไร หลังแยกกับแม่ ก็กลับมาที่ห้องเก็บของ รอเรื่องสนุกเริ่มขึ้นอย่างเงียบๆ
เวลาสี่ทุ่ม คนตระกูลหลี่ส่วนใหญ่ที่ยุ่งมาทั้งวัน เตรียมตัวพักผ่อน พวกคนอายุน้อยของตระกูลหลี่ กลับแอบรวมตัวกันเงียบๆ หลังปรึกษากัน จึงพากันมาที่ห้องเก็บของที่เฉินโม่พักอยู่อย่างรวดเร็ว
พวกผู้อาวุโสที่เห็นพวกเขายิ้มบางๆ ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
กลุ่มวัยรุ่น 7-8 คน นำโดยหลี่เยว่ ยืนอยู่หน้าประตูห้องเก็บของ หลี่เยว่เอากุญแจห้องเก็บของออกมาอีกดอกหนึ่ง ส่งให้วัยรุ่นคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่สายเลือดโดยตรง “เปิดประตู”
วัยรุ่นคนนั้นรับกุญแจมา และรีบเข้าไปเปิดประตูอย่างไม่เกรงกลัว แต่เขากลับพบว่า ประตูไม่ได้ล็อก เขาแค่ผลักเบาๆ ประตูก็เปิดออกแล้ว
ภายในห้องเก็บของ มีเสียงเฉินโม่ดังขึ้นอย่างราบเรียบ “ในเมื่อมาแล้ว ก็เข้ามาให้หมดเถอะ”
หลี่เยว่กับพวกวัยรุ่นตกใจเล็กน้อย แต่พวกเขาสืบเบื้องลึกของเฉินโม่มาตั้งนานแล้ว แค่ลูกคนรวยที่ไม่เอาไหน พวกเขาไม่เชื่อว่าเฉินโม่จะทำอะไรได้
หลี่เยว่ส่งสายตาให้พวกนั้น “เข้าไป!”
วัยรุ่นพวกนั้นเอากระบองไม้ออกมาจากเอว เดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง
เห็นพวกที่เข้าไปปลอดภัย หลี่เยว่จึงพาวัยรุ่นที่เหลือ เดินเข้าไปในห้องเก็บของทั้งหมด
ตรงกลางห้องเก็บของที่ไม่กว้างมาก มีหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์สีขาวแขวนอยู่หนึ่งดวง เฉินโม่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้โบราณเก่าๆ มองคนที่มา ด้วยสีหน้าราบเรียบ
“พวกนายจะทำอะไร” เฉินโม่ยิ้มอย่างยียวน
วัยรุ่นพวกนั้นหลีกทาง หลี่เยว่เดินเข้ามา มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม “ลูกสำส่อนที่เกิดจากผู้หญิงหน้าไม่อายกับผู้ชายไร้หัวนอนปลายเท้า กล้าว่าฉันอย่างนั้นเหรอ ตอนนี้ฉันจะทำให้รู้ว่า ผลที่ดูหมิ่นฉันมันเป็นยังไง!”
“เข้าไป ไม่ต้องทำให้ตายก็พอ!” หลี่เยว่พูดอย่างสบายๆ
วัยรุ่นพวกนั้นถือกระบองไม้ ยิ้มร้ายกาจ เดินเข้าไปหาเฉินโม่ ถ่มน้ำลายออกมา แล้วก่นด่าว่า “ถุย ลูกสำส่อน!”
สีหน้าเฉินโม่เปลี่ยนไปทันที สายตาที่มองหลี่เยว่ ฉายแววอาฆาต ไม่ใช่เพราะคำว่าลูกสำส่อน และไม่ใช่เพราะคนที่มาเยอะมาก แต่เพราะในคำพูดของหลี่เยว่ ไม่เพียงแต่จะดูหมิ่นเขา แต่รวมพ่อแม่เขาไปด้วย
“ในเมื่อมาแล้ว งั้นก็อยู่ที่นี่ให้หมด!”
เฉินโม่ลุกขึ้นช้าๆ เผชิญหน้ากับคนที่มา ซัดเข้าไปคนละหมัด วัยรุ่น 5-6 คนที่พุ่งเข้ามาหาเขา โดนเขาต่อยจนล้มลงกับพื้น ร้องโอดครวญไม่หยุด
หลี่เยว่ตกใจเล็กน้อย การกระทำของเฉินโม่ช้ามาก คนพวกนั้นหลบได้แท้ๆ แต่กลับไม่มีใครหลบได้สักคน
วัยรุ่นที่เหลือสองคน พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พี่เยว่ ข้อมูลที่สืบมามีข้อผิดพลาด ไอ้หมอนี่ฝีมือไม่เลวนะ!”
หลี่เยว่ไม่สนใจ ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “มีความสามารถนี่เอง มิน่าถึงไม่กลัว ยังดีที่คนพวกนั้นเตรียมตัวไว้แล้ว ให้ฉันตามมาด้วย แค่คนพวกนี้ ทำอะไรนายไม่ได้จริงๆ”
“แต่ต่อไปฉันจะทำให้นายได้เห็น ว่าอะไรคือพละกำลังที่แท้จริง!”
หลี่เยว่พูดจบ มีลมปราณแข็งแกร่งพุ่งออกมาจากตัว เฉินโม่อึ้งไปเล็กน้อย อุทานในใจว่า “พลังทิพย์งั้นเหรอ”
บทที่ 13 ก่อเรื่อง(1)

บทที่ 15 ทำลาย(1)