ตอนที่ 117 ป้อนข้าว จู่ๆ ก็สวีทหวาน / ตอนที่ 118 สืบทอดรุ่นสู่รุ่น ไม่มีวันสาบสูญ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 117 ป้อนข้าว จู่ๆ ก็สวีทหวาน

 

 

หลินจยาอวี่สีหน้าเรียบนิ่ง ไร้คลื่นอารมณ์ แต่มือที่วางอยู่ข้างลำตัวกลับกำแน่น

 

 

ฟังจือหันแต่งงานกับอวี๋กานกานแล้ว แต่กลับไม่บอกอวี๋กานกานว่าเขาเป็นใคร?

 

 

หรือว่าเขาแค่คิดเล่นๆ กับอวี๋กานกาน ไม่ได้จริงจัง?

 

 

หากเป็นแบบนี้จริงๆ หลินจยาอวี่ไม่สามารถทนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ เธอต้องบอกอวี๋กานกานให้รู้ จะได้ไม่โดนผู้ชายเลวๆ หลอกทั้งกายและใจ

 

 

หลินจยาอวี่อ้าปากกำลังจะพูด ทันใดนั้นก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น “จยาอวี่” น้ำเสียงอันคุ้นเคยทำให้เธอหันศีรษะไปตามสัญชาตญาณ มองผู้มาเยือนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

 

 

ผู้มาเยือนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวนำสมัย เครื่องสำอางบนใบหน้างดงามหมดจด ในตอนที่เธอเห็นหลินจยาอวี่เธอดีใจเป็นอย่างมาก “เป็นเธอจริงๆ ด้วย จยาอวี่” จากนั้นมองไปยังอวี๋กานกาน ฟังจือหันและลู่เสวี่ยเฉินที่นั้งโต๊ะเดียวกันกับหลินจยาอวี่ ในตอนที่มองไปยังสุภาพบุรุษทั้งสอง นัยน์ตาของเธอตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้ม “เพื่อนของเธอเหรอ”

 

 

หลินจยาอวี่ลุกขึ้นยืน แนะนำอวี๋กานกานโดยที่ข้ามลู่เสวี่ยเฉินและฟังจือหันไปโดยอัตโนมัติ จากนั้นแนะนำเพื่อนของเธอให้อวี๋กานกาน “เฉียวพั่นเอ๋อร์”

 

 

ฟังจือหันมองออกไปนอกหน้าต่าง ราวกับเฉียวพั่นเอ๋อร์เป็นเพียงอากาศธาตุ แม้แต่หางตาก็ไม่ปรายมามอง

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินนั่งเท้าคาง เหลือบสายตาขึ้นมามองพั่นเอ๋อร์ครู่หนึ่งอย่างเฉื่อยชา ไม่ใช่สไตล์ที่เขาชอบ จากนั้นก้มหน้าเล่นมือถืออย่างไม่สนใจไยดี

 

 

อวี๋กานกานเห็นว่าเป็นเพื่อนของหลินจยาอวี่ จึงโบกมือทักทายและยิ้มให้ตามมารยาท “สวัสดีค่ะ คุณเฉียว”

 

 

เฉียวพั่นเอ๋อร์ถูกผู้ชายทั้งสองคนเมิน เธอค่อนข้างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก มองอวี๋กานกานเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม จากนั้นเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างหยิ่งยโส แสดงท่าทีที่อยู่เหนือกว่าผู้อื่น

 

 

อวี๋กานกานอิหลักอิเหลื่อเล็กน้อย “…”

 

 

เฉียวพั่นเอ๋อร์มองหลินจยาอวี่แล้วกล่าว “เมื่อกี้ฉันเกือบนึกว่าทักคนผิดแหนะ ฉันเพิ่งกลับจากต่างประเทศเมื่อสองวันก่อนนี่เอง พอกลับมาถึงก็ได้ข่าวว่าเธอไม่สบาย ไม่อยากพบหน้าใครทั้งนั้น ฉันเป็นห่วงเธอมาก ว่าจะไปเยี่ยมเธอที่บ้าน นึกไม่ถึงว่าเธอจะนัดเพื่อนออกมากินข้าว เธอหายดีแล้วเหรอ”

 

 

หลินจยาอวี่ตอบส่งๆ “ใกล้หายแล้ว”

 

 

เฉียวพั่นเอ๋อร์ขมวดคิ้วแล้วกล่าว “ทำไมเธอไม่ไปตรวจแบบครบวงจรที่โรงพยาบาลของฉันล่ะ พ่อฉันบอกว่า พ่อแม่ของเธอเชิญแต่แพทย์แผนจีนมา ฉันก็ไม่ได้อะไรนะแต่นี่มันสมัยไหนแล้ว ยังมีคนกล้าหาแพทย์แผนจีนอยู่อีกเหรอ ไม่ป่วยก็รักษาจนป่วย ร่างกายของเธอมีเชื้อโรคต้องให้แพทย์แผนปัจจุบันเป็นคนรักษา ฉันจะเล่าอะไรให้ฟังนะ ครั้งก่อนมีคนไข้คนหนึ่ง…”

 

 

อวี๋กานกานฟังคำพูดเหล่านี้แล้ว ฟังอย่างไรก็ไม่เข้าหู เธอพองแก้มมองฟังจือหันที่นั่งอยู่ตรงหน้า ฟังจือหันเองก็กำลังจ้องมองมาที่เธอเช่นกัน นัยน์ตาฉายประกายความขบขัน เขาใช้ตะเกียบคีบอาหารว่างยื่นมาตรงปากของอวี๋กานกาน

 

 

อวี๋กานกานไม่ทันได้ตั้งตัว เผลออ้าปากกินเข้าไป มุมปากของเธอเลอะซอสเล็กน้อย ฟังจือหันใช้ทิชชูเช็ดให้เธอ

 

 

หลินจยาอวี่ฟังสิ่งที่เฉียวพั่นเอ๋อร์พูดแล้วไม่สบายใจ เธอกลัวว่าอวี๋กานกานได้ยินแล้วจะไม่พอใจ จึงชำเลืองไปมองอวี๋กานกานด้วยความรู้สึกผิด เผอิญได้เห็นฉากนี้เข้าพอดี ดูเหมือนพวกเขาก็รักกันดี สามีของอวี๋กานกานก็ดูเหมือนเขารักอวี๋กานกานมากจริงๆ หรือว่าเธอจะคิดมากไปเอง บางทีฟังจือหันอาจจะไม่ได้ไม่อยากให้อวี๋กานกานรู้ แต่ยังไม่คิดที่จะเล่าเรื่องทั้งหมดจากปากของตนเองให้อวี๋กานกานรู้

 

 

เฉียวพั่นเอ๋อร์เห็นว่าหลินจยาอวี่เหมือนจะไม่ได้ฟังในสิ่งที่เธอกำลังพูด สายตาจดจ้องอยู่ที่ผู้ชายสองคนตรงหน้า ผู้ชายสองคนนี้รูปร่างหน้าตาไม่เลวเลยทีเดียว แต่เธอไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อน พวกเขาไม่ใช่คนในแวดวงนี้อย่างแน่นอน

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 118 สืบทอดรุ่นสู่รุ่น ไม่มีวันสาบสูญ

 

 

พวกเขาไม่ใช่คนในแวดวงนี้อย่างแน่นอน คงไม่ใช่ว่าหลินจยาอวี่ไปคบค้าสมาคมกับพวกแมงดาเกาะผู้หญิงกินหรอกนะ มิน่าล่ะเมื่อครู่เธอถึงไม่ยอมแนะนำพวกเขาให้เธอรู้จัก เมื่อรู้สึกว่าตนเองคาดเดาได้ถูกต้อง ทันใดนั้นเฉียวพั่นเอ๋อร์ก็ทอดถอนหายใจออกมายาวเหยียด มองหลินจยาอวี่แล้วถาม “จยาอวี่ นี่แฟนใหม่ของเธอเหรอ”

 

 

หลินจยาอวี่มองหน้าเฉียวพั่นเอ๋อร์ “ไม่ใช่”

 

 

เฉียวพั่นเอ๋อร์สีหน้าเป็นกังวล “ฉันได้ยินมาว่าใครนะบอกเลิกเธอตอนที่อยู่ขั้วโลกใต้ ฉันเคยบอกกับเธอตั้งนานแล้วว่าสถานะอย่างพวกเรา อย่าไปมักจี่กับพวกคนบ้าๆ บอๆ มีคนมากมายที่เข้าหาพวกเราเพราะฐานะ เธอต้องรู้ว่าถ้าพวกมันได้แต่งงานกับเรา นั้นหมายถึงพวกมันไม่ต้องดิ้นรนไปอีกยี่สิบปี สามารถใช้ชีวิตแบบหล่อรวยไฮโซได้อย่างสบายๆ”

 

 

อวี๋กานกานฟังเฉียวพั่นเอ๋อร์พูดแล้วค่อนข้างรู้สึกเอือมระอา แม้ว่าเธออยากจะรู้ว่าตอนไปขั้วโลกใต้เกิดเรื่องอะไรที่ทำให้หลินจยาอวี่ถึงขั้นหมดอาลัยตายอยาก แต่อวี๋กานกานก็เคยคาดเดาไว้ว่าน่าจะเป็นปัญหาความรัก ทว่าก็ไม่กล้าถามออกไปตรงๆ กลัวหลินจยาอวี่จะเสียใจ

 

 

เฉียวพั่นเอ๋อร์ดูเป็นห่วงเป็นใยหลินจยาอวี่ก็จริง แต่การที่มาพูดต่อหน้าคนมากมายแบบนี้ แท้จริงแล้วเป็นการหยิบมีดมาแทงหลินจยาอวี่มากกว่า

 

 

“คือเพื่อนฉันรออยู่…” หลินจยาอวี่เอ่ยเสียงเย็น พูดขัดเฉียวพั่นเอ๋อร์

 

 

นัยน์ตาของเฉียวพั่นเอ๋อร์ปรากฏความประหลาดใจ เบื้องลึกลงไปในหัวใจเกิดความไม่พอใจพรั่งพรูออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เธอรู้สึกว่าตัวเองปรารถนาดี แต่อีกฝ่ายกลับไม่รับ สีหน้าพลันถมึงทึง “โอเค งั้นเธอกินข้าวเถอะ เดี๋ยวสายๆ พวกเราไปหาร้านกาแฟนั่งเล่นกัน”

 

 

หลินจยาอวี่ปฏิเสธออกไปตรงๆ “ไม่ล่ะ พอดีฉันมีธุระ”         

 

 

สีหน้าของเฉียวพั่วเอ๋อร์ฉายแววความไม่พอใจอยู่แวบหนึ่ง ลังเลเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป

 

 

หลินจยาอวี่มองอวี๋กานกานแล้วกล่าว “ขอโทษที”

 

 

อวี๋กานกานคลี่ยิ้มบางๆ “ขอโทษฉันทำไม?” ที่เฉียวพั่นเอ๋อร์พูดเมื่อกี้ เหมือนจะแอบด่าฟังจือหันและลู่เสวี่ยเฉินว่าเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินมากกว่า

 

 

หลินจยาอวี่พูดเสียงเบา “เขาบอกว่าแพทย์แผนจีน…”

 

 

อวี๋กานกานยิ้ม “นั้นมันไม่มีอะไรสักหน่อย เป็นความจริงที่แพทย์แผนจีนตกต่ำ แพทย์แผนปัจจุบันแผ่ขยายความนิยม จริงๆ แล้วหลายปีมานี้สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีการประยุกต์เอาแผนแพทย์จีนและแพทย์ปัจจุบันมารวมกันแล้ว”

 

 

ตอนคุณปู่ยังมีชีวิตอยู่ มีอยู่หลายปีที่แพทย์แผนจีนเรียกว่าตกต่ำได้จริงๆ ผู้คนโพสต์ข้อความโจมตีแพทย์แผนจีนมีให้เห็นเป็นประจำ ยกกรณีตัวอย่างที่แพทย์แผนจีนรักษาผิดพลาดยาวเป็นขบวน จนถึงขนาดที่ว่ามีคนยื่นเรื่องเสนอรัฐบาลให้ยกเลิกศาสตร์แพทย์แผนจีน และแน่นอนก็เป็นเพราะว่ามักมีคนแอบอ้างใช้ชื่อแพทย์แผนจีนมารักษาผู้คน ทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย

 

 

ตอนนั้นอวี๋กานกานอ่านข่าวเหล่านี้ เธอโมโหเป็นอย่างมาก แต่คุณปู่พูดกับเธออย่างสุขุมเยือกเย็น “หลังจากนี้หนูจะได้พบกับเรื่องทำนองนี้อีกมาก แต่อย่าได้โกรธไปเลย ไม่สู้เอาเวลาที่โกรธอยู่ไปคิดวิธีรักษาผู้คน คิดวิธีที่จะทำอย่างไรให้ศาสตร์ของแพทย์แผนจีนสืบทอดต่อไปได้ไม่ดีกว่าหรือ หนูต้องเชื่อมั่นว่าแพทย์แผนจีนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติจีน ได้รับการสืบทอดจากอีกรุ่นสู่อีกรุ่น เป็นเฉกเช่นนี้ต่อไป ไม่มีวันสาบสูญอย่างแน่นอน”

 

 

น้ำเสียงอบอุ่น รอยยิ้มอันมีเมตตา แต่กลับให้ความรู้สึกที่ฮึกเหิม แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของแพทย์แผนจีนค่อนข้างจะน่ากลุ้มใจ แต่ต้องมีสักวันที่แพทย์แผนจีนจะโชติช่วงชัชวาลขึ้นมา

 

 

คุณปู่มีลูกศิษย์มากมาย เธอไม่ใช่คนที่ดีเลิศที่สุด แต่เธอจะเป็นลูกศิษย์คนที่รักษาไว้ซึ่งเจตนารมณ์ของคุณปู่ไว้อย่างถึงที่สุด

 

 

ทันใดนั้นลู่เสวี่ยเฉินก็ถามขึ้นมา “แซ่เฉียว ถ้างั้นโรงพยาบาลเด็กและสตรีเฉียวซาน โรงพยาบาลป๋อจือ โรงพยาบาลศัลยกรรมความงามพั่นเอ๋อร์อะไรพวกนี้ ก็เป็นของคนตระกูลเฉียวหมดเลยนะสิ?”

 

 

หลินจยาอวี่มองหน้าลู่เสวี่ยเฉิน จากนั้นพยักหน้าน้อยๆ

 

 

อวี๋กานกานขมวดคิ้วเล็กน้อย “…”

 

 

โรงพยาบาลเด็กและสตรีเฉียวซาน โรงพยาบาลป๋อจือ โรงพยาบาลศัลยกรรมความงานพั่นเอ๋อร์ โรงพยาบาลสองสามที่นี้…ประวัติคนไข้ของอาจารย์ที่ถูกเก็บไว้ในกล่องใบนั้นเหมือนว่าจะมีหลายใบที่เป็นของโรงพยาบาลเหล่านี้