ตอนที่ 47 รางวัล

ทะลุมิติทั้งครอบครัว

คำพูดในใจของซ่งฝูเซิงตอนนี้คือ อยู่ในป่าดงดิบ บนภูเขามีหมาป่า ใครอยู่ใครก็รู้ โอ้ย น่ากลัวจริงๆเลย 

 

 

แต่เขาไม่สามารถแสดงอารมณ์มาทางสีหน้าได้ เขาห่มผ้าให้ภรรยาและใช้แผ่นกันชื้นคลุมหน้าไว้เพื่อไม่ให้ยุงกัด 

 

 

ทำได้เพียงใช้แผ่นกันชื้นคลุมเพราะมีน้ำหนักเบา หากใช้ผ้านวมคลุมอาจจะขาดใจตายได้ นอนใส่หน้ากากก็อึดอัดเกินไป 

 

 

เขาเข้ามาใกล้เฉียนเพ่ยอิง จ้องมองนางอย่างพินิจ ในใจก็คิด เมียข้ากำลังฝันถึงอะไรนะ ขาสองข้างมีแรงถีบ ฝันเห็นยี่สิบเอ็ดกับ 618 แน่? กำลังแย่งกันซื้อสินค้า? เฮ้อ ชีวิตที่เคยมีความสุขแบบนั้นคงไม่สามารถย้อนกลับไปได้แล้ว 

 

 

ตลอดเหตุการณ์ พี่ชายคนโตกับคนรองก็พยายามเลี่ยงหันหน้าไปทางอื่น ไม่กล้ามองน้องสามกับน้องสะใภ้ ได้แต่พึมพำในใจ อายุก็มากแล้ว นี่มันสถานการณ์คับขัน ยังจะมาหวานชื่นกันอีก 

 

 

เกาเถี่ยโถ่วขุดหลุมไปมองไป เขาคิดว่าถ้าเขาได้แต่งกับเถาฮวา เขาจะปฏิบัติแบบนี้กับนาง และในใจก็ให้ความเคารพซ่งฝูเซิงมาก 

 

 

พูดไปก็น่าประหลาดนัก เมื่อก่อนเกาเถี่ยโถวก็เคยเจอซ่งฝูเซิง แต่ตอนนั้นที่เขารู้สึกกลับมีแค่สองพยางค์ คือ ‘เสแสร้ง’ 

 

 

เขาไม่อิจฉาคนเป็นบัณฑิตเลยสักนิด เพราะรู้สึกว่าคนเป็นบัณฑิตมักใช้ชีวิตที่หลอกลวง เวลาอ้าปากมาก็พูดจาหวานหู แต่ทำตามที่พูดไม่ได้ ตอนนั้นท่านพ่อเกาถูฮู่ของเขาก็เคยพูดไว้ 

 

 

แต่แค่หนึ่งวันที่ได้ใกล้ชิดกัน ความรู้สึกของเกาเถี่ยโถวที่มีต่อซ่งฝูเซิงกลับเปลี่ยนไป 

 

 

ในหนึ่งวันหนึ่งคืนมานี้ ซ่งฝูเซิงใช้แรงกายใจทั้งหมดในการปกป้องภรรยาและบุตรสาว เขาไม่เข้าร่วมหรือวุ่นวายกับเรื่องอื่นใด ด้านไหนที่เขาไม่เข้าใจก็จะมาสอบถามทุกคน ตั้งใจถักม่านและทำเต็นท์เพิงพักเพื่อให้ภรรยาและบุตรสาวอยู่ดีกินดีโดยไม่เดือดร้อน 

 

 

ใบหน้ามีแต่รอยยิ้มให้กับภรรยาและพั่งยา 

 

 

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เกาเถี่ยโถวที่อายุสิบแปดปี ไม่อยากมีบุตรสาวแค่เพียงคนเดียว แต่เขาก็อิจฉาซ่งฝูเซิงที่รักและดูแลภรรยากับบุตรสาวเป็นอย่างดี 

 

 

ซ่งฝูเซิงพบว่า เกาเถี่ยโถวชอบเหล่มองเขา เขาใช้คางชี้ไปที่หลุมโคลน “เจ้าขุดเพื่อทำอะไร? นี่มันดึกดื่นเที่ยงคืน” 

 

 

เกาเถี่ยโถวเกาหัวด้านหลัง “ไม่ใช่การเผาถ่านหรือ? ก็ข้าเห็นท่านขุดแบบนี้” 

 

 

“ข้ายังเผาไม่สำเร็จเลย เจ้าก็จะเลียนแบบข้า?” 

 

 

“ข้าเชื่ออาสาม” 

 

 

ซ่งฝูเซิงอยากหัวเราะ เขายังไม่เชื่อตนเองเลย คนอื่นกลับเชื่อมั่นในตัวเขาหรือนี่ 

 

 

“มาเถอะ พี่ใหญ่ พี่รอง ช่วยข้าขุดที จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ครั้งนี้แหละ เถี่ยโถวจะได้ไม่เสียแรงเปล่า” 

 

 

ถุงโคลนสภาพดีๆ ถูกผู้ชายหลายคนควักออกมาจนเละเทะ ในถุงโคลนยังมีไอร้อนลอยออกมา 

 

 

ซ่งฝูเซิงนั่งลงกับพื้นควักไม้ออกมา แต่ที่ควักออกมาช่วงแรกกลับเป็นไม้ที่ยังไม่ถูกเผา 

 

 

พี่ชายคนโตกับคนรองยืนอยู่ด้านข้างพึมพำเบาๆ “แย่แล้ว ไม่สำเร็จแน่ๆ” 

 

 

ทำให้ซ่งฝูเซิงเสียความรู้สึก เขาใช้เวลาไปตั้งหกชั่วโมงกว่ายังไม่สำเร็จ แต่ละคนก็พูดไม่ค่อยเป็น 

 

 

ส่วนไม้ที่เอาออกมาต่อจากนั้น ก็ถูกเผาจนเป็นเศษไม้ ซ่งฝูเซิงรู้สึกใจหายวาบ ดูท่าจะไม่มีหวังแล้ว 

 

 

นำไม้กระบองยาวเขี่ยดู เขี่ยจนหน้าของเขาเต็มไปด้วยขี้เถ้า ไม่น่าล้างหน้าสระผมก่อนเลย 

 

 

“โอ้ ทำได้แล้ว พวกเจ้าดูนี่สิ นี่คือถ่าน!” 

 

 

ชายหลายคนรีบมารุมดูและจุดไฟส่องให้สว่าง เห็นเป็นถ่านออกมา ถ่านที่ถูกเผาจะดูกรอบและดำเป็นเงา 

 

 

แต่ละคนต่างตื่นเต้นยินดี พี่รองถือคบไฟรีบวิ่งไปเอาตะกร้าที่อยู่ตรงชายเขามา พี่ใหญ่ลูบมือพูดกับน้องชาย “น้องสาม เจ้าทำหลุมโคลนอีกสักหลุมหนึ่งเถอะ ถ้าทำตอนนี้ ช่วงบ่ายก็น่าจะได้ถ่านมาอีกหลุมหนึ่ง” 

 

 

เกาเถี่ยโถวขุดหลุมตรงนั้นอย่างตั้งใจ “ข้าบอกแล้วอาสามต้องสำเร็จ เมื่อวานเย็นข้าไม่น่าไปล้อมรั้วกับพวกลุงเถียนเลย น่าจะเรียนรู้กับอาสามเร็วหน่อย ไม่งั้นตอนนี้บ้านข้าคงได้ถ่านมาเก็บไว้ใช้แล้ว” 

 

 

สั่งน้องสามให้ไปช่วยซ่งฝูเซิงเขี่ยถ่านออกมา เพราะซ่งฝูเซิงอยากจะมุดเข้าไปเก็บข้างใน ทำเตาหนึ่งไม่ง่าย ต้องใช้เวลาเผาครึ่งวัน ไม่อยากเสียเวลาไปแม้แต่น้อย 

 

 

“อาสาม ให้น้องสามปีนเข้าไปดีกว่า ท่านอย่ามุดเข้าไปเลย” 

 

 

“ใช่ อาสาม ข้าเข้าไปเอง ข้าเห็นท่านอาบน้ำแล้ว ข้ายังไม่ได้อาบ ข้าไปดีกว่า” 

 

 

ตอนเช้าตีสี่กว่า บนเขาไม่รู้ว่าเสียงนกอะไรร้อง สักพักร้อง กู และก็ร้อง กู อีก เฉียนเพ่ยอิงตื่นมาลืมตามองฟ้า เหมือนยังสะลึมสะลือ 

 

 

อ๊าห์ ใช่แล้ว นี่เราข้ามมิติมายุคโบราณแล้วนี่นา 

 

 

เมื่อชะโงกหน้าออกมาดูก็ถึงกับตกใจ พวกผู้ชายหลายคนกำลังตั้งใจขุดหลุมทำบ่อโคลน 

 

 

ซ่งฝูเซิงโบกมือให้เฉียนเพ่ยอิง “เจ้าดูสิ ทำสำเร็จแล้ว ข้าได้ถ่านตั้งสองตะกร้าแล้ว คราวนี้อากาศหนาวก็ไม่กลัว พวกเราสามารถผิงไฟได้แล้ว”