บทที่ 37 การจ้างงานเหมือนจะเป็นไปอย่างราบรื่น

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

เผยเชียนส่ายนิ้วและไล่เรียงทุกอย่างให้หวงซื่อปั๋วฟัง อีกฝ่ายอึ้งไปเมื่อได้ยินแบบนั้น

การต่อรองอัตราค่าจ้างแบบกลับตาลปัตรทำให้หวงซื่อปั๋วตะลึงงัน

สี่พันหยวนหรือ

นั่นมันสองเท่าจากที่คิดไว้เลยนะ

บอสเผยเป็นอะไรหรือเปล่า

หรือคนรวยเขาเป็นแบบนี้กัน

หวงซื่อปั๋วอ้าปากค้าง เขาเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะตอบกลับ “ก…ก็ได้ครับ”

เผยเชียนยิ้ม “ไม่ต้องห่วง พนักงานใหม่ได้เงินเดือนต่ำเป็นปกติ ขอแค่คุณทำงานดี คุณก็มีโอกาสได้ขึ้นเงินเดือนทุกเดือน”

ขึ้นเงินเดือนหรือ!

หวงซื่อปั๋วคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในความฝัน

“โอเค ถ้างั้นก็ตามนี้แหละ!” เผยเชียนยืนขึ้น “อย่าลืมมาทำงานวันมะรืน ยินดีต้อนรับสู่บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีครับ”

พนักงานต้อนรับพาหวงซื่อปั๋วกลับออกไป

เผยเชียนแสนสุขใจ เขาได้พนักงานสุดเหมาะสมมาอีกคนแล้ว!

เขามั่นใจตั้งแต่ตอนที่หวงซื่อปั๋วนั่งลงแล้ว ว่านี่แหละคือคนที่ตนต้องการ

คนที่ขยันแต่ไม่ค่อยฉลาด

นี่แหละพนักงานที่สมบูรณ์แบบ!

เงินเดือนสี่พันหยวนถือว่าเป็นอัตราที่เหมาะสม ระบบไม่สามารถหาจุดตำหนิได้

ยกตัวอย่างเช่น หัวหน้าฝ่ายวางแผนหลิวที่สมัครเข้ามาสัมภาษณ์เมื่อครู่เป็นคนซึ่งไม่ตรงกับคุณสมบัติที่เผยเชียนกำหนดไว้สักนิด

หลังจากครุ่นคิดดู เผยเชียนก็เขียนโน้ตอธิบายความคิดเห็นจากการสัมภาษณ์ลงบนประวัติส่วนตัวของเหล่าผู้มาสัมภาษณ์

โน้ตที่เขียนไว้บนประวัติส่วนตัวของหัวหน้าหลิวคือ “มีประสบการณ์เยอะแต่ความคิดล้าหลัง แนวคิดแบบดั้งเดิมของผู้สมัครขาดความคิดสร้างสรรค์ มองการสร้างเกมเหมือนงานอื่นทั่วไป ขาดใจรักเรื่องเกมและไม่สามารถรับผิดชอบเรื่องการสร้างเกมใหม่ได้ ไม่เหมาะรับเข้าทำงาน”

ส่วนนี่คือโน้ตที่เขียนไว้บนประวัติส่วนตัวของหวงซื่อปั๋ว “หน้าใหม่ที่คิดปฏิรูปวงการเกม มีใจรักเรื่องเกม กระตือรือร้นและขยันมาก เพื่อให้ตอบรับกับค่าใช้จ่ายเลยให้เงินเดือนเริ่มต้นที่สี่พันหยวน”

เผยเชียนรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากหลังจากเขียนอธิบายความคิดเห็นเสร็จ

ดูเหมือนว่าระบบจะไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้เลย!

ดูจากทิศทางในตอนนี้ ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลแล้ว!

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นาน วันศุกร์ก็มาถึงอีกครั้ง

เผยเชียนนอนแผ่อยู่บนโซฟาในห้องพักผ่อน รู้สึกแน่นท้องเพราะดื่มชาเยอะเกินไป แต่ฤทธิ์ชาก็ส่งผลดีเสียจนนอนกลางวันไม่ได้

เครื่องปรับอากาศเปิดที่อุณหภูมิแสนสบายขณะที่เผยเชียนกลิ้งไปมาในชุดสูทหลักหมื่น

ตอนใส่สูทใหม่ๆ เผยเชียนคอยบอกตัวเองว่าเขากำลังใส่เงินหมื่นอยู่บนตัว

แต่ตอนนี้เผยเชียนกลับมองมันไม่ต่างจากชุดธรรมดาทั่วไป

นั่นเพราะทุกครั้งที่เขาใส่สูทไปสักพัก ซินไห่ลู่ก็จะแวะไปรับสูทที่อพาร์ตเม้นต์ของเขาเพื่อส่งซัก ไม่ว่าสูทตัวนั้นเขาจะใส่หรือยังไม่ใส่ หรือจะใส่นานแค่ไหน พอซักเสร็จแต่ละตัวก็เหมือนกันหมด

เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว เขาจะใส่อย่างไรก็ได้ตามใจ!

ถ้าขาดก็แค่ซื้อใหม่

เผยเชียนรู้สึกว่าตัวเองฟู่ฟ่ามาก

ตลอดช่วงที่ผ่านมา เขาไม่ได้กลับไปหอพักเลยและเริ่มคุ้นชินกับอพาร์ตเม้นต์ เผยเชียนนึกภาพตัวเองต้องอยู่อัดรวมกันเป็นปลากระป๋องกับชายห้าคนในหอพักแคบๆ ไม่ได้อีกต่อไป

รูมเมตคนอื่นๆ พอจะรู้ว่าช่วงนี้เขาทำงานหนักในธุรกิจของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทุกคนง่วนอยู่กับการปั่นงานเพราะเป็นเด็กปีหนึ่ง ตอนนี้พวกเขายังเต็มที่กับชีวิตในมหาวิทยาลัยและบรรดานักศึกษาสาวรอบตัวเลยไม่ได้สนใจเรื่องเงินมากนัก

อีกอย่าง เผยเชียนก็ไม่ได้ไปโอ้อวดอะไรให้ฟัง พวกเขาเลยไม่คิดว่าเผยเชียนจะทำอะไรได้สำเร็จ

ถึงอย่างไรในแต่ละปีจะมีเด็กสองสามคนที่จู่ๆ ก็ลาออกไปเริ่มธุรกิจของตัวเอง แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวังและกลับมาเรียนใหม่

การเริ่มต้นธุรกิจเป็นอะไรที่เสี่ยงมากแต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่าไม่น้อย ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะได้สัมผัสแต่ความเสี่ยงก็เถอะ

แม้แต่คนที่ทำงานมานานหลายปีและมีเส้นสายในวงการยังมีโอกาสเจ๊งได้ถ้าเริ่มประกอบธุรกิจ ไม่ต้องพูดถึงนักศึกษาจนๆ ที่ไม่มีอะไรเลย

เป็นเรื่องธรรมดาที่เผยเชียนไม่คิดอยากพิสูจน์ตัวเองกับเหล่ารูมเมต

เขากำลังเสวยสุขกับชีวิต!

จริงอยู่ที่ลงท้ายแล้วคนส่วนใหญ่ที่เริ่มประกอบธุรกิจจะเจ๊งกันหมด แต่ถ้าฉันอยากเจ๊งตั้งแต่เริ่มล่ะ

ถ้าเป้าหมายในการทำธุรกิจของฉันคือทำให้เจ๊งล่ะ

เป้าหมายแบบนี้ไม่ได้ทำให้สำเร็จได้ง่ายกว่าหรือ

เห็นไหมล่ะ! แค่เปลี่ยนแนวคิด ความจริงอันแสนโหดร้ายก็จะกลายเป็นสิ่งที่แสนสุขสม!

ตลอดทั้งสัปดาห์ เผยเชียนรับพนักงาน ‘สุดยอดเยี่ยม’ มาได้เพิ่มอีก

ในหมู่พนักงานที่ว่าก็มีเปาซวี่กับหวงซื่อปั๋ว

คำนวณเร็วๆ ดู ตำแหน่งว่างทั้งสามสิบตำแหน่งก็เริ่มมีคนมาเติมเต็มอย่างรวดเร็วกว่าที่เผยเชียนคิดไว้

ตอนแรกเขาวางแผนว่าจะค่อยๆ รับสมัครทั้งสามสิบตำแหน่งไปตลอดทั้งเดือน แต่กระบวนการทั้งหมดกลับเป็นไปอย่างราบรื่นมาก

ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะบริษัทเกมในเมืองจิงโจวนั้นเลวร้ายมาก

แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติเหมือนกัน ยิ่งบริษัทตั้งอยู่ในที่เล็กๆ ก็ยิ่งไม่ดี

เมืองอย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว มีบริษัทเกมเกลื่อนไปหมด ถ้าพนักงานไม่พอใจงานก็สามารถลาออกไปทำที่อื่นได้

ทำให้เหล่าเจ้านายไม่กล้าโขกสับพนักงานมากจนเกินไป

แต่สำหรับเมืองเล็กๆ อย่างจิงโจวนั้นแตกต่างออกไป

บริษัทเกมมีไม่มาก อีกทั้งพวกเจ้านายน่าจะรู้จักกัน มีไปพบปะดื่มสังสรรค์กันบ่อยๆ

ต่อให้มีใครไม่พอใจงานปัจจุบันแล้วอยากลาออก พวกเขาก็ต้องคิดเรื่องการหางานใหม่ให้ดีๆ

ที่ปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้สามารถหางานใหม่ได้แน่นอน ปัญหาอยู่ที่จะได้ตอนไหนแค่นั้น

ต่อให้หาไม่ได้ก็แค่ลดมาตรฐานและเงินเดือนที่ต้องการลง แค่นั้นก็สามารถหางานดีๆ ได้ในเวลาไม่นานแล้ว

แต่ที่จิงโจวไม่ใช่แบบนั้น คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนบริษัทได้กี่ครั้งกันเชียว

อีกอย่างพวกเจ้านายก็รู้จักกัน ถ้าใครคนหนึ่งไม่พอใจ คนอื่นๆ ก็อาจไม่อยากรับเข้าทำงานด้วยเหมือนกัน

พอเป็นแบบนี้ พวกเจ้านายส่วนใหญ่ก็โขกสับพนักงานจนเละ หวงซื่อปั๋วคือตัวอย่างที่ชัดเจน

ทำให้คนส่วนใหญ่ได้แต่เก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจ

เมื่อเห็นบริษัทใหม่รับสมัครพนักงาน ต่อให้บริษัทจะดูไว้ใจไม่ได้ พวกเขาก็พร้อมลองสมัคร

แต่ก็แน่นอนว่าเป็นเพราะเผยเชียนตั้งคุณสมบัติไว้ต่ำด้วย

สุดท้ายภายในสัปดาห์เดียว เขาก็เหลือตำแหน่งว่างแค่หกตำแหน่งจากทั้งหมดสามสิบตำแหน่งที่เปิดรับ

เรื่องวันเริ่มงาน เผยเชียนไม่ได้เคร่งอะไรมาก

ถ้าหาคนได้ไม่ทันและไม่สามารถเริ่มงานได้ ระบบก็ไม่น่าจะว่าอะไรได้

แต่ถ้าจ้างคนมาได้เพียงพอแล้วแต่ยังไม่เริ่มงานก็จะถือว่าผิดกฎ

ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะเริ่มงานเมื่อไหร่ดี เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องรับรองแขก

“เข้ามาได้”

คนที่เคาะประตูก่อนเข้าในตอนนี้ก็น่าจะมีแค่เลขาซินกับหม่าหยาง

แล้วก็เป็นหม่าหยางที่เปิดประตูเข้ามาจริงๆ

“มาๆ ดื่มชาสักหน่อย” เผยเชียนที่นอนอย่างสบายใจเฉิบอยู่บนโซฟาผายมือให้หม่าหยางดื่มชา

หม่าหยางหยิบถ้วยชาเงินขึ้นจิบอย่างระมัดระวัง เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมแสนผ่อนคลายของชาและรสชาติหวานละมุนที่หลงเหลืออยู่ในปาก ถึงชายหนุ่มจะไม่ได้รู้เรื่องชามากนัก แต่แค่จิบเดียวก็รู้ได้ว่าเป็นของแพง

นี่คือรสชาติของเงินทอง

“พี่เชียน! พี่ทำงานเก่งเกินไปแล้ว! ไม่กี่วันก็จัดการทุกอย่างได้!”

“แล้วเรื่องจ้างคนเป็นไงบ้าง” หม่าหยางถามอย่างเป็นห่วง

…………………