บทที่ 50 เอาไปอย่างถูกต้อง

หมอผีแม่ลูกติด

บทที่ 50

เอาไปอย่างถูกต้อง

“ถ้าองค์ชายไม่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าเจ้าจะพูดอย่างไรก็ถือเป็นโทษตาย” เหลียนเอ๋อพูดอย่างโมโห และด้วยความที่โมโหอย่างสุดๆ แม้แต่ใบหน้าที่ซีดของนางก็ยังมีสีแดงขึ้นมา

หลินซีเหยียนจึงได้กล่าวต่อ “แม่นางเหลียนคำพูดของท่านช่างโหดร้าย ข้าไม่ได้ขโมยไปเสียหน่อย เพราะทั่วทั้งพระราชวังแห่งนี้อีกเดี๋ยวก็จะเป็นของข้าอยู่แล้ว”

หลังจากที่พูดจบหลินซีเหยียนก็ได้ยิ้มอย่างชัยชนะไปที่เหลียนเอ๋อแล้วยิ้มราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ

“เจ้า…..เจ้ายังไม่ได้แต่งงานกับพี่เย่เสียหน่อย?” เหลียนเอ๋อกล่าวอย่างโมโห แล้วนางก็ได้ผลักสาวใช้ของนางแล้วสั่ง “เจ้ารีบไปตามทุกคนมาที่นี่ให้ทุกคนได้เห็นว่า หลินซีเหยียนที่จะแต่งกับพี่เย่ของข้านั้นเป็นคนอย่างไร?”

แล้วสาวใช้ก็รีบวิ่งไป

หลินซีเหยียนก็คิ้วขมวดขึ้นมา ถึงแม้นางจะไม่สนที่จะป่าวประกาศเรื่องนี้ออกไป แต่ทว่านางไม่อยากที่จะเป็นลิงที่เล่นไปตามละครของใคร หลินซีเหยียนจึงได้ใช้ยากับเหลียนเอ๋อ

ด้วยยาตัวนี้จะสามารถทำให้เหลียนเอ๋อไม่ขยับไปไหนชั่วขณะหนึ่งโดยที่ไม่มีผลข้างเคียงอย่างอื่น

“เจ้าทำอะไรกับข้าน่ะ?” เหลียนเอ๋อมองไปที่ หลินซีเหยียนอย่างหวาดกลัว นางรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาและกลัวว่าหลินซีเหยียนจะทำอะไรที่โหดร้ายกับนาง

“ไม่ต้องกลัวไปหรอก ข้าไม่ทำอะไรเจ้าทั้งนั้น เพียงแต่ที่นี่ไม่มีทั้งเก้าอี้, น้ำชา, และของหวาน มันไม่ใช่สถานที่สำหรับพูดคุยแม้แต่น้อย” หลินซีเหยียนถกแขนเสื้อของนางขึ้นแล้วกล่าว “การที่จะรอคนมาที่นี่มันช่างยุ่งยาก ข้าจะไปที่ห้องโถงก่อนเจ้าตามข้ามาทีหลังก็แล้วกัน”

จากนั้นนางก็ได้ทำการล็อกห้องเก็บสมบัติแล้วจากนั้นก็พาเทียนเอ๋อไปที่ห้องโถงใหญ่

ในขณะที่ทุกคนมาถึง ก็พบเหลียนเอ๋อที่กำลังยืนนิ่งอยู่

“ใครก็ได้มาช่วยข้าคนนึง ส่วนที่เหลือไปที่ห้องโถงกับข้าไปดูสิว่าพระชายามีอะไรจะแก้ตัว” เหลียนเอ๋อพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง และด้วยท่าทางที่บอบบางนี้ได้ทำให้ใครหลายคนรู้สึกสงสารนาง

เมื่อทุกคนมาถึงที่ห้องโถง พวกเขาก็พบหลินซีเหยียนกับเทียนเอ๋อที่กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้แทะเม็ดแตงโม, ทานขนม, จิบชาและมีแม้แต่หนังสือวางอยู่บนโต๊ะเพื่ออ่านฆ่าเวลา ทั้งสองคนนั้นใช้ชีวิตที่สบายมาก

สาวใช้ของเหลียนเอ๋อก็โมโหมาก และพูดอย่างเกรี้ยวกราด “แม่นางหลิน ท่านวางยาคุณหนูของข้า แต่ท่านกลับมาสนุกสนานอยู่ที่นี่ มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอเจ้าค่ะ?”

หลินซีเหยียนผละออกจากกิจกรรมที่วุ่นวายของนางแล้วเงยหน้ามาและจ้องไปที่สาวใช้คนนั้นแล้วกล่าว “ข้าไม่เห็นว่ามันจะมากไปตรงไหน คุณหนูของเจ้าเป็นคนที่เสนอเองให้ตามทุกคนมา แล้วข้าจำเป็นต้องรออยู่กับนางงั้นเหรอ?”

หลินซีเหยียนพูดโดยไม่ได้รีบร้อนอะไร จากนั้นนางก็มองไปรอบแล้วถามด้วยเสียงที่อ่อนโยน “ทุกคนอยู่ที่นี่แล้วใช่ไหม?”

พ่อบ้านเฒ่าก็ได้เดินออกมาแล้วเดินไปข้างๆ หลินซีเหยียนจากนั้นก็ก้มหัวให้แล้วกล่าว “องค์หญิงขอรับ ทุกคนมาที่นี่กันหมดแล้วขอรับ”

“ถ้าเช่นนั้น แม่นางเหลียนเอ๋อก็เริ่มได้!” หลินซีเหยียนกล่าวอย่างเน้นย้ำ

เหลียนเอ๋อก็ได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ในใจก็คอยเตือนตัวเองว่าอย่าได้สูญเสียความเยือกเย็นของตัวเองไป แล้วจากนั้นก็พูดขึ้นมา “พี่หญิง ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นว่าที่พระชายา แต่ว่าท่านก็ยัง…..”

แล้วนางก็ถูกขัดโดยหลินซีเหยียนก่อนที่นางจะได้พูดจบ “แม่นางเหลียน ถึงข้าจะเป็นว่าที่พระชายา แต่มันอาจจะผิดไปสักหน่อยที่จะเรียกข้าว่าพี่หญิง เรียกข้าว่าแม่นางหลินเถอะ”

เหลียนเอ๋อได้ยินก็โกรธกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วก็พยายามสงบอารมณ์แล้วกล่าว “แม่นางหลิน ท่านยังไม่ได้แต่งเข้าพระราชวังนี้อย่างเป็นทางการ ท่านจะเอาทรัพย์สินของพระราชวังไปโดยพลการไม่ได้ แบบนี้เขาไม่ได้เรียกว่าขอเจ้าค่ะ เขาเรียกว่าขโมย”

เมื่อเหล่าข้ารับใช้รอบๆได้ยินเข้าว่าหลินซีเหยียนนั้นเพ่งเล็งเงินในห้องเก็บสมบัติก่อนที่จะมาเป็นพระชายาอย่างเป็นทางการเสียอีก จึงได้พาดูถูกหลินซีเหยียนในใจ ถึงแม้พวกนางจะไม่กล้าพูดออกมา แต่สายตาของพวกเขาก็บ่งบอกทุกอย่างแล้ว

มองไปที่สายตาแปลกๆของทุกคนแล้ว หลินซีเหยียนก็ได้ถอนหายใจออกมา “ข้านั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับองค์ชาย และข้าเองก็เป็นถึงว่าที่พระชายาของพระราชวังนี้ ข้าจำเป็นต้องถามแม่นางเหลียนเพื่อเอาเงินด้วยเหรอ?”

“ตามปกติก็ไม่หรอกเจ้าค่ะ แต่ควรที่จะได้รับการอนุญาตจากองค์ชายเสียก่อน” เหลียนเอ๋อกล่าว

“เวลาที่จะต้องจ่ายเงินเดือนทุกคนใกล้มาถึงแล้วซึ่งเป็นเงินจำนวนมากเสียด้วย ในเมื่อข้าไม่ได้มีอำนาจมากขนาดนั้น มันก็จะเป็นการดีกว่าถ้าข้าจะฟังแม่นางเหลียนและรอให้องค์ชายกลับมาก่อน”

หลินซีเหยียนจึงแกล้งทำเป็นยอมแพ้ แต่สิ่งที่นางพูดนั้นทำเอาเหล่าคนรับใช้รู้สึกกลัวขึ้นมา พวกนางนั้นทั้งจนและไม่มีเงินเก็บมากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงมีเงินใช้แค่แบบเดือนชนเดือนเท่านั้น

“พระชายาเจ้าคะ ได้โปรดอย่าฟัง คุณหนูเหลียนเลยเจ้าค่ะ ท่านจะเลื่อนการจ่ายเงินของพวกเราไม่ได้นะเจ้าคะ!” เหล่าสาวใช้และข้ารับใช้ที่ต้องการเงินเดือนนั้นต่างก็พากันพูดขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น

“แต่ข้าคิดว่าที่แม่นางเหลียนพูดมาก็มีเหตุผลอยู่นะ!” หลินซีเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าสับสน

“ท่านเป็นถึงว่าที่พระชายา และพระราชวังนี้ก็จะต้องเป็นของท่านในอนาคตอยู่แล้ว ท่านจะไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจได้อย่างไรเจ้าคะ?” เหล่าสาวใช้ต่างก็ร้อนรนขึ้นมา

พันธมิตรที่คิดว่าไม่สามารถทำลายได้นั้น ก็สามารถแตกออกเป็นเสี่ยงๆได้ในทันทีเมื่อผลประโยชน์อยู่ตรงหน้า

สีหน้าของเหลียนเอ๋อก็ได้ซีดขึ้นมา

แต่ช่างน่าเสียดายที่ภาพลักษณ์ที่น่าสงสารของนางนั้นทำให้หลินซีเหยียนรู้สึกเห็นใจไม่ถึงครึ่ง หลินซีเหยียนก็ได้มองไปที่เหลียนเอ๋อแล้วกล่าว “แม่นางเหลียน ท่านคิดว่าอย่างไร?”

เหลียนเอ๋อนั้นเป็นคนฉลาด นางจึงได้กัดฟันแล้วกล่าว “เหลียนเอ๋อช่างความคิดตื้นเขิน พระชายาตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ”

หลินซีเหยียนก็ได้ผงกหัว แล้วจากนั้นก็ได้ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้พ่อบ้าน “อ่านให้พวกเขาฟัง”

“ข้าเจียงหวายเย่ ได้ให้แม่นางหลินซีเหยียนช่วยเอาไว้และเป็นหนี้อยู่ทั้งหมด 4,000 ตำลึงทอง” หลังจากที่พ่อบ้านอ่านจบ เหล่าคนรับใช้ต่างก็รู้สึกละอายใจในความคิดของพวกเขาเมื่อสักครู่

“ถ้าเรื่องที่เข้าใจผิดกระจ่างกันหมดแล้ว ก็แยกย้ายกันได้แล้ว” หลินซีเหยียนกล่าว

จากเรื่องในครั้งนี้ เหมือนกับว่าหลินซีเหยียนนั้นได้มาอยู่ตรงหน้าของทุกคนและประกาศว่าให้ทุกคนได้รู้ว่าตัวนางนั้นไม่ง่ายนักที่จะมาทำให้นางโกรธ

แต่ก็มักย่อมที่จะมีคนที่ไม่กลัวตายอยู่ในเมื่อพระราชวังกว้างใหญ่เช่นนี้ และในมุมหนึ่งของพระราชวัง เหล่าคนที่ หลินซีเหยียนรู้จักอย่างหงเสวี่ย, เหลียนเซียง, และเหลียนเอ๋อที่ถูกหลินซีเหยียนทำให้ป่นปี้ในวันนี้ได้มารวมตัวกัน

“พวกเจ้าเห็นถึงความอวดดีของนังหลินซีเหยียนแล้วหรือยัง?” เหลียนเอ๋อนั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้วยสีหน้าที่เย็นชา ซึ่งต่างไปจากภาพลักษณ์ของนางที่ปกติอ่อนโยน

หงเสวี่ยกับเหลียนเซียงต่างก็ผงกหัว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เหลียนเอ๋อนั้นรู้ดีว่าทั้งสองคนนั้นยังคงระแวงตัวนางอยู่ ดังนั้นนางจึงได้พูดอย่างประชดประชัน “ดูเหมือนพวกเจ้าจะยังไม่รู้ตัวอีกสินะว่าศัตรูของพวกเจ้าจริงๆคือใครกัน?”

หงเสวี่ยที่ยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของนาง ก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี “แม่นางเหลียน นี่คือท่าทีของคนที่จะมาขอให้พวกเราช่วยอย่างนั้นเหรอ?”

เหลียนเซียงจึงได้กลืนน้ำลายลงไปแล้วขยับไปหา หงเสวี่ยด้วยท่าทางที่กลัว เดิมทีนางคิดว่าคุณหนูเหลียนนั้นจะเกรี้ยวกราดกลับมาหลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น แต่ไม่คาดคิดว่านางจะอยู่เฉย

ในขณะที่นางกำลังสงสัยอยู่นั้น คุณหนูเหลียนก็ได้ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัวราวกับผีร้ายจากยมโลก “ข้าก็แค่เห็นว่าพวกเจ้านั้นโง่ ข้าจึงได้เตือนว่าข้านั้นต่างจากพวกเจ้านัก”

หงเสวี่ยจึงได้กล่าวอย่างประชดประชัน “แล้วมีสิ่งใดกันที่เจ้านั้นต่างจากพวกเรา ไม่ใช่ว่าพวกเราต่างก็เป็นผู้ที่อยากได้ความรักจากองค์ชายหรอกเหรอ?”

คุณหนูเหลียนนั้นรู้สึกเหมือนกับนางได้ยินเรื่องตลกครั้งใหญ่ “ข้าจะไปเหมือนกับนางสนมอย่างพวกเจ้าได้อย่างไร? ข้าเป็นถึงลูกพี่ลูกน้องขององค์ชายนะ”

“แล้วต่างจากพวกเราที่เป็นนางสนมตรงไหนแม่นางเหลียน? พวกเราต่างก็เป็นผู้หญิงขององค์ชายทั้งนั้น” เหลียนเซียง กล่าวด้วยเสียงที่แหลมเล็กแต่ก็โดนเข้ากับบาดแผลของเหลียนเอ๋อเต็มๆ

“เหลียนเซียงพูดถูกแล้ว พวกเราต่างก็เป็นผู้หญิงขององค์ชายเหมือนกันก็จริง แต่พวกเรานั้นสามารถเข้าหาองค์ชายได้อย่างไม่ต้องอายใคร แต่เจ้านั้นไม่สามารถทำได้แม่นางเหลียน” หงเสวี่ยที่พบถึงความแตกต่างก็ได้พูดเหยียบย่ำบาดแผลของเหลียนเอ๋อซ้ำ