บทที่ 19 เพื่อหาเงิน จะใช้ทุกวิถีทาง

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

ตัวตนคนทึ่มของกู้ชูหน่วน ทุกคนรู้กันทั่ว คนส่วนมากที่เดิมพันซื้อผู้เป็นชนะคืออ๋องเจ๋อและกู้ชูหยุน เพราะความสามารถของอ๋องเจ๋อและกู้ชูหยุนนั้นดังกระฉ่อนไปทั่วแคว้นเย่มาเนิ่นนานแล้ว

เรื่องซุบซิบที่เกี่ยวกับกู้ชูหน่วนนั้นลือกันน่าเกลียดเกินไป ชิวเอ๋อร์ได้ยินแล้วโมโหจนไฟสุมอกไปหมด สีหน้าของเซียวหยู่เซวียนก็ดูไม่ค่อยดี

เซียวหยู่เซวียนหน้าตาดำคล้ำ ส่งสายตาด่าว่าโง่ใส่นาง “ไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ ใครก็ต่างกลัวว่าชื่อเสียงของตัวเองจะฉาวโฉ่ เจ้าดีนี่ กลับใช้จ่ายเงินในการจ้างคนเป็นจำนวนมากเพื่อให้ตัวเองเสื่อมเสียชื่อเสียง เหมือนกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าเจ้าเป็นคนทึ่ม”

“ก็ใช่สิ”

ชิวเอ๋อร์เองก็โมโหเช่นกัน เดิมทีคุณหนูหน้าตาอัปลักษณ์ก็ยากจะแต่งงานกับใครแล้ว ตอนนี้ชื่อเสียงมาถูกนางทำฉาวโฉ่เองอีก แล้วใครยังจะกล้าแต่งงานกับนางอีกล่ะ

และกลัวว่าแม้แต่เทพเจ้าสงครามจะโกรธมากจนตรงมาสังหารนาง

“เจ้าจะรู้อะไร”

กู้ชูหน่วนสบายอกสบายใจ เพลิดเพลินกับสุราในโรงเตี๊ยมผิงอัน ราวกับคนที่ทุกคนพากันหัวเราะเยาะนั้นไม่ใช่นาง

“คุณหนู ข้าไม่เข้าใจ งั้นท่านก็บอกสิข้าคะ เหตุใดท่านต้องทำแบบนี้”

“ยังจะทำไมอีก แค่เพื่อหาเงินไง”

ชิวเอ๋อร์หมดอารมณ์

นี่มันเกี่ยวอะไรกับหาเงิน

อีกอย่าง ทำชื่อเสียงของตัวเองเป็นแบบนี้ด้วยเงินเพียงเล็กน้อย มันคุ้มกันเหรอ

“พรุ่งนี้งานชุมนุมแข่งขันบุ๋นจะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ถ้ายังไม่ได้วางเดิมพันก็รีบวางเดิมพันซะ พลาดครั้งนี้ต้องรออีกห้าปี”

กลางโรงเตี๊ยม ชายวัยกลางคนตั้งเดิมพัน ตะโกนให้ทุกคนวางเดิมพัน

ดวงตาหงส์เรียวรีของกู้ชูหน่วนเจือรอยยิ้ม โปรยไปที่โต๊ะพนันเป็นครั้งคราว

ความคิดของเซียวหยู่เซวียนเปลี่ยนไป เขาตบต้นขาทันควัน “สวรรค์ ข้ายังสงสัยว่าทำไมเจ้าให้คนจำนวนมากวางเดิมพัน เจ้าคิดจะทำอะไร เดิมพันให้อ๋องเจ๋อกับกู้ชูหยุนชนะ เราหยุดสร้างเรื่องวุ่นวายได้ไหม ใครจะไม่รู้ว่ากู้ชูหยุนและอ๋องเจ๋อมีโอกาสชนะสูงสุด ต่อให้เจ้าซื้อมากแค่ไหน ก็ทำเงินได้ไม่เท่าไร ในกรณีที่แพ้ ก็สูญเสียเงินจำนวนมากไปเปล่าๆ”

กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ “ข้าว่างมากขนาดนั้นเลยเหรอ”

“หรือว่า……เจ้าคิดเดิมพันให้ตัวเองชนะ”

เซียวหยู่เซวียนดวงตาเบิกกว้าง

นางคงจะไม่ทำเรื่องเกินตัวหรอกใช่ไหม

ตัวนางมีภาษีเท่าไร นางไม่ชัดเจนเหรอ ไม่อยากเชื่อว่ายังกล้าเดิมพันตัวเองชนะ

ในโรงเตี๊ยมเต็มไปด้วยผู้คน กำลังพูดถึงว่าจะซื้อใคร ในที่สุดก็ต่างวางเดิมพันอ๋องเจ๋อกับกู้ชูหยุน

คนที่ตั้งเปิดเดิมพัน อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “ทำไมพวกเจ้าไม่มีใครซื้อคุณหนูสามกู้ แต่ละคนต่างซื้ออ๋องเจ๋อกับกู้ชูหยุน เดิมพันนี้ก็ไม่สนุกสิ”

“ถ้าเจ้ามั่นใจกับคุณหนูสามกู้นัก ทำไมเจ้าไม่ซื้อนางเองล่ะ”

“นั่นสิ ใครจะไม่รู้ว่าคุณหนูสามกู้มีชื่อเสียงว่าเป็นคนทึ่มไร้ประโยชน์ ถ้านางสามารถชนะได้ ข้าจะตัดหัวข้าให้พวกเจ้าเอาไปเตะเล่นเลย”

เสียงของคนที่เริ่มต้นวางเดิมพันดังขึ้น “ซื้อคุณหนูสามกู้ หนึ่งจ่ายห้าสิบ ซื้อไม่ซื้อ”

“คนโง่เท่านั้นแหละถึงซื้อคุณหนูสามกู้ พวกเราไม่ได้มีเงินมากพอจะจ่ายหรอกนะ”

“หนึ่งต่อร้อยล่ะ ตราบใดที่พวกเจ้าซื้อว่าคุณหนูสามกู้จะเข้ารอบสุดท้าย ก็จะได้รับเงินเป็นร้อยเท่า”

ทั่วทั้งสถานที่เงียบสงัด

ได้สูงขนาดนั้นเลยเหรอ

หนึ่งต่อร้อย

นี่มันสุดยอดเกินไปหรือเปล่า

“ข้าว่าเจ้าเป็นเถ้าแก่ที่ใจดำเกินไปหรือเปล่า เจ้าก็รู้ทั้งรู้ว่าคุณหนูสามกู้ไม่สามารถเข้ารอบสุดท้ายได้ ยังจะล่อด้วยรางวัลก้อนโตที่นี่ ถ้าดีขนาดนั้นจริง เจ้าก็รีบวางเดิมพันไปสิ”

“นั่นสิ แม้จะหนึ่งต่อพัน ก็ไม่มีใครกล้าซื้อข้างคนทึ่มกู้ว่าจะชนะหรอก”

“แม่งเอ๊ย คนอื่นต่างว่าเจ้าแบบนี้ เจ้าก็ไม่สนเหรอ” เซียวหยู่เซวียนโบกสะบัดพัดอย่างโกรธจัด

กู้ชูหน่วนพูดด้วยรอยยิ้ม “ผลเป็นแบบนี้ก็คือสิ่งที่ข้าต้องการ จะสนอะไร ไป เราไปวางเดิมพันกันสักหน่อย”

กู้ชูหน่วนเอาเงินออกมาหนึ่งพันตำลึง แล้ววางเงินหนึ่งพันตำลึงลงในกล่องของกู้ชูหน่วน ทันใดนั้นผู้คนบริเวณนั้นก็สูดปาก

“ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วมั้ง ไม่อยากเชื่อว่าจะกล้าเดิมพันข้างคุณหนูสามกู้ชนะ”

“บ้าไปแล้ว คนปกติที่ไหนจะเดิมพันข้างคุณหนูสามกู้”

เซียวหยู่เซวียนกุมหน้าผาก

ความกล้าของนางมันมโหฬารจริงๆ

นั่นมันเงินหนึ่งพันตำลึงหมดหน้าตักเลยนะ เดิมพันขนาดนี้ แถมยังเดิมพันข้างตัวเอง นางไปเอาความมั่นใจมาจากไหน

ชิวเอ๋อร์เริ่มตาแดง

การจะมีเงินหนึ่งพันตำลึงมันไม่ง่าย ตอนนี้หมดแล้ว……ไม่มีเหลือแล้ว……

“แม่นางท่านนี้ วางแล้วคือจบ ตอนนี้เจ้าไม่มีโอกาสกลับใจแล้วนะ” คนที่ตั้งเดิมพันยิ้มย่อง เหมือนกลัวนางกลับใจ

“วางใจเถอะ เจ้าอย่าเสียใจภายหลังก็พอ”

กู้ชูหน่วนมองที่เซียวหยู่เซวียน แล้วแบมือขาวนวลของตัวเองออกไป

“ในตัวเจ้ายังมีเงินอีกเท่าไร เอาออกมาให้หมด”

“ก่อนหน้านี้เจ้าไถเงินจากข้าไปพันตำลึง แล้วเจ้าก็เอาเงินข้าไปอีกร้อยตำลึง ตอนนี้ข้าหมดตัวแล้ว ไหนเลยยังจะมีเงินอะไรล่ะ”

“จริงเหรอ”

“ไร้สาระ จะโกหกทำไมล่ะ”

กู้ชูหน่วนตรงเข้าค้นตัว ทำเอาเซียวหยู่เซวียนอารมณ์เสีย

“เจ้าเป็นผู้หญิงนะ ไม่เข้าใจเหรอว่าอะไรที่เรียกว่าชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน แต่เจ้ายังมาสัมผัส……สวรรค์ นี่เป็นผู้หญิงแบบไหนเนี่ย รีบไสหัวไปเลย”

“ไม่ใช่เหรอ ไม่มีเงินแล้วจริงเหรอเนี่ย” กู้ชูหน่วนค่อนข้างผิดหวัง จากนั้นก็ดึงพู่หยกทั้งหมดบนร่างกายออก ไปวางเดิมพันที่กู้ชูหน่วน

“นี่คือหยกโบราณหมื่นปี มันมีค่ามากนะ โธ่โว้ย นี่คือพู่หยกมรดกสืบทอดของตระกูลข้า เจ้าเอาไปวางเดิมพันได้ยังไง”

เซียวหยู่เซวียนสาบาน ถ้าอยู่กับนางอีก เขาจะไม่ใช้แซ่เซี่ยว

“ขอยืมวางเดิมพันแค่คืนเดียวเท่านั้น ยังไงพรุ่งนี้กำไรทั้งหมดก็จะเป็นของเจ้า”

“ถ้าเจ้าแพ้ล่ะ”

“ไม่ต้องห่วง มันจะไม่มีวันนั้น”

“ข้าเชื่อเจ้าก็บ้าแล้ว”

เซียวหยู่เซวียนเอื้อมมือไปต้องการคว้าพู่หยกตัวเองกลับ แต่ทุกคนรีบห้ามไว้ “วางแล้วคือจบ นี่เป็นกฎของบ่อน ในเมื่อวางเดิมพันแล้ว เว้นแต่จะชนะ ไม่อย่างนั้นใครก็ไม่สามารถเอากลับคืนได้”

“นี่เป็นพู่หยกของข้า และข้าก็ไม่ได้เป็นคนวางเดิมพันด้วย”

“นั่นไม่เกี่ยวกับพวกเรา ยังไงตอนนี้ก็วางเดิมพันแล้ว”

เซียวหยู่เซวียนโกรธมากจนโบกสะบัดพัดพั่บๆ แต่ลมเย็นๆ ก็ยังไม่สามารถระงับความโกรธของเขาได้

เขาโกรธแล้ว

ชนิดที่เรียกว่าอย่างไรก็ง้อไม่หาย

ออกจากโรงเตี๊ยม เซียวหยู่เซวียนแม้จะโกรธ แต่ยังคงส่งพวกนางทั้งสองกลับถึงยังประตูด้านหลังจวนเฉิงเซี่ยงอย่างปลอดภัย

“ไม่เข้าใจเจ้าจริงๆ ประตูใหญ่ก็ไม่เข้า ดันเข้าประตูหลัง ยังไม่รีบเข้าไปอีก ถ้าเจอทำมิดีมิร้าย ข้าไม่สนนะ”

“ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว ถ้าข้าไปเข้าประตูใหญ่ ไม่เท่ากับปลุกทุกคนในจวนเหรอ”

“ก็จริง” เดี๋ยวเขากลับจวน ก็ต้องไปประตูหลังหรือเปล่า

“เสี่ยวเซวียนเซวียน เจอกันพรุ่งนี้นะ”

เซี่ยหยู่เซวียนเซถลาและกำลังจะโกรธ แต่ตรงหน้าไหนเลยยังมีเงาของกู้ชูหน่วนอยู่

ยัยขี้เหร่นี่ รวดเร็วว่องไวเหลือเกิน

ในจวนเฉิงเซี่ยง ชิวเอ๋อร์ร้อนรนกังวลใจ

“คุณหนู วันนี้ท่านทำให้เซี่ยหยู่บาดเจ็บหนัก แถมยังตบอนุภรรยาห้าไปหลายทีด้วย อนุภรรยาห้าจะไปฟ้องนายท่านหรือไม่เจ้าคะ พวกเขาจะหาเรื่องท่านหรือเปล่า”

“คงจะเป็นอย่างนั้น แต่ไม่ใช่มาหาเรื่องพวกเรา เซี่ยหยู่บาดเจ็บหนักแทบไม่รอด ฮูหยินใหญ่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับอนุภรรยาห้ามาโดยตลอด นางจะไม่พลาดโอกาสที่จะได้กำจัดมือขวาและซ้ายของอนุภรรยาห้า”

“คุณหนู……ข้าไม่ค่อยเข้าใจว่าท่านพูดถึงอะไร”

“พูดง่ายๆ คือฮูหยินใหญ่กำลังฟาดฟันกับอนุภรรยาห้า ส่วนฟาดฟันกันยังไงนั้น ไม่ใช่เรื่องของเรา ยังไงก็ตามก่อนที่เซี่ยหยู่จะตาย พวกนางจะไม่มีเรี่ยวแรงพอมาสร้างปัญหาให้เรา”

หลังจากกู้ชูหน่วนกล่อมชิวเอ๋อร์กลับไปที่ห้อง ส่วนตัวเองก็คว่ำพลิกกล่องเปิดตู้คุ้ยหาเสื้อผ้า พบเสื้อผ้าเก่าจากในตู้แล้วจึงสวมใส่มัน และเปลี่ยนผ้าคลุมหน้า จากนั้นพลิกกายอย่างคมเฉียบ กระโดดปีนกำแพงข้ามรั้วไป

ชั่วพริบตาเดียว กู้ชูหน่วนวิ่งไปยังเรือนพักร้อนชิวเฟิงตามความทรงจำอันน้อยนิดในจิตใจ

นางรูปร่างเพรียวบาง เคลื่อนไหวแผ่วเบาราวนกนางแอ่น นางหายตัวไปท่ามกลางความมืดด้วยการแตะก้าวไม่กี่ครั้ง จะเห็นได้ว่านางเคยฝึกวิทยายุทธมาก่อน

กู้ชูหน่วนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ร่างกายนี้ดูเหมือนจะดีกว่าที่นางจินตนาการไว้มาก

เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าของเดิมรู้วิทยายุทธ

แต่นาง…ทำไมไม่รู้สึกถึงพลังภายในจุดตานเถียนเลยแม้แต่น้อยล่ะ

เรือนพักร้อนชิวเฟิงตั้งอยู่ในสถานที่อันเงียบสงบทางตะวันออกของเมือง และเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวังของท่านอ๋องหานเทพเจ้าสงคราม

ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยใบเมเปิล จึงมีชื่อเรียกว่าเรือนพักร้อนชิวเฟิง