ตอนที่ 45 ที่รัก ฝากหิ้วไหม

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ห่างจากภารกิจไปโลกมนุษย์อีกแค่สามวันเท่านั้น

รายชื่อของนักเรียนใหม่ที่ไปแดนมนุษย์ได้รับการยืนยันแล้ว มีเพียงแค่สามคนคือ อันหลิน เซวียนหยวนเฉิงและสวีเสี่ยวหลาน

เซวียนหยวนเฉิงเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักเรียนใหม่ เขาจึงได้โควตาหนึ่งที่นั่ง

เป็นเพราะซูเฉี่ยนอวิ๋นไม่ผ่านด่านภาษาแดนมนุษย์ จึงตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

จากนั้นจึงได้สวีเสี่ยวหลานอันดับที่ยี่สิบห้า มาแทนโควตาของซูเฉี่ยนอวิ๋น

ตามมาด้วยอันหลิน ผู้ที่เป็นเจ้าถิ่นแดนมนุษย์

อันหลินผู้ที่มากความสามารถแถมยังเกิดและโตในโลกมนุษย์ อาจารย์ต่างก็ฝากความหวังไว้ที่เขา แต่งตั้งให้เขาเป็นกัปตันของภารกิจนี้!

อันหลินประหลาดใจ แม้แต่พี่เฉิงก็กลายเป็นลูกทีมของเขาไปแล้ว ช่างกดดันนัก!

วันนี้ แขกที่คาดไม่ถึงมาเคาะประตูห้องเขา

“รุ่นพี่หลิว มาได้อย่างไร!”

อันหลินเห็นผู้มาเยือนคือหลิวเชียนฮ่วน สาวน้อยผู้คลั่งไคล้ไซเบอร์ ก็อดรู้สึกไม่ดีในใจไม่ได้

หลิวเชียนฮ่วนเคยมาเยี่ยมเขาตั้งแต่ตอนพักฟื้นแล้ว

ที่มาครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะคิดถึงเขาแน่ ต้องมีแผนการอะไรแน่นอน!

“หึๆ อันหลิน คิดถึงข้าไหม”

หลิวเชียนยิ้มหวานหยาดเยิ้ม ดวงตาสีม่วงทอสีสันของความเพ้อฝัน กระซิบเสียงเบา

“เอ่อ…รุ่นพี่หลิว อันที่จริงมีอะไรก็พูดมาตามตรงเถอะ” อันหลินรับไม่ได้กับวิธีการพูดของหลิวเชียนฮ่วน จึงโพล่งออกมาโดยตรง

หลินเชียนฮ่วนถอนหายใจ แววตาฉายความผิดหวัง “อันหลิน เจ้าพูดจาน่ารักหน่อยไม่ได้หรือ เจ้าเป็นแบบนี้ จะไม่มีคู่เอาได้นะ…”

คำพูดนี้ทำให้อันหลินโมโหจนอัดอั้นตันใจ “เจ้าเองก็พูดจาน่าโมโหขนาดนี้ จะหาคู่ได้หรือไง!”

มุมปากของหลิวเชียนฮ่วยยกขึ้น พูดอย่างกระหยิ่มใจว่า “ข้าเผาจดหมายรักไปหลายร้อยฉบับแล้ว เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ”

คำพูดนี้ของหลิวเชียนฮ่วน ทำเอาอันหลินจุกจนต้องสะกดกลั้นโทสะ เจ็บกระดองใจ!

“เทพีหลิวมาเยือนถึงที่ มีเรื่องอะไรกันแน่” อันหลินยอมจำนนแล้ว พูดอย่างจนใจ

“เอาล่ะ ข้ามาหาเจ้า เพราะมีเรื่องอยากให้เจ้าช่วยนิดหน่อย” หลิวเชียนฮ่วนเห็นอันหลินไม่ต่อปากต่อคำกับนางแล้ว จึงเข้าประเด็นด้วยสีหน้าจริงจัง

“ว่ามาเถอะ เรื่องอะไร”

หากไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไร อันหลินก็จะแสดงคุณธรรมอันเต็มใจช่วยเหลือผู้คนของเขา

“เจ้าจะไปแดนมนุษย์แล้วไม่ใช่หรือ ข้าอยากฝากเจ้าหิ้วของหน่อย!” หลิวเชียนฮ่วนพูดอย่างคาดหวัง

“ฝากหิ้วหรือ” หนังตาของอันหลินกระตุก เห็นผู้อื่นรับหิ้วของจากต่างประเทศ แต่เขาจะรับหิ้วของจากนอกโลกหรือนี่…

“เจ้าอยากได้อะไร” เขาเอ่ยปากถามอย่างระแวง

“อืม ของที่ข้าอยากได้ไม่เยอะหรอก โน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ล่าสุดหนึ่งเครื่อง ต้องติดตั้งเกมเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่มาแรงอย่างลีกออฟเลเจ็นดส์ โอเวอร์วอช ลีคออฟคิง องเมียวจิด้วย…นอกจากนี้ ข้าขอลำโพงรุ่นใหม่ล่าสุดของอิดิฟายเออร์ มือถือไอโฟนแปดเครื่อง ทีวีจอแบนที่มีความละเอียดระดับ 4K 65 นิ้วของโซนี่เครื่องหนึ่ง…”

หลิวเชียนฮ่วนพูดไม่หยุด อันหลินทำหน้าเอือมระอา

ไม่เยอะงั้นเหรอ นี่มันเรียกว่าไม่เยอะงั้นเหรอ!

บ้านหลังเดียวจะยัดหมดเหรอ!

“จะว่าไป…ของมากมายขนาดนั้น ข้าขนคนเดียวไม่ไหวหรอก! จะให้ส่งมาที่สำนักความร่วมมือเซียนหรือไง!” อันหลินพยายามสงบสติอารมณ์ พูดพลางยิ้มเยาะ

ตลกน่า ของเยอะแยะแบบนี้ กองเป็นภูเขาได้แล้ว!

“ปัญหานี้ ข้าหาทางออกให้เจ้าตั้งนานแล้ว!” หลิวเชียนฮ่วนหยิบแหวนวงหนึ่งออกมา ยิ้มกริ่ม “นี่เป็นแหวนมิติ ข้างในมีเนื้อที่รัศมีสิบจั้ง เป็นแหวนมิติชั้นสูง มีมูลค่าสองหมื่นหินวิญญาณเชียวนะ! ต่อให้เป็นผู้อาวุโสแห่งสำนักบำเพ็ญเซียนทั่วไป ยังทำใจซื้อไม่ลงเลย และวงนี้ ถือเป็นค่าตอบแทนในการช่วยหิ้วครั้งนี้!”

“มัน…” อันหลินเบิกตากว้าง บอกตามตรงแหวนวงนี้ยั่วยวนใจเขามากทีเดียว!

แต่ว่า เขายังคงทำหน้าบูดบึ้ง “จะว่าไป เปลี่ยนรูปแบบได้ไหม”

แหวนในมือหลิวเชียนฮ่วน…เป็นสีชมพู! แถมยังเป็นลายดอกไม้ด้วย!

ถ้าอันหลินสวมแหวนวงนี้ไว้บนนิ้ว…

ต้องถูกมองว่าผิดเพศแน่ๆ!

“ทำไมล่ะ แหวนวงนี้สวยจะตายไป” หลิวเชียนฮ่วนพูดอย่างแปลกใจ

“เจ้าช่วยคิดในมุมของข้าหน่อยได้ไหม…” อันหลินพูดไม่ออกแล้ว

“ก็ใช่ไง ข้าคิดในมุมของเจ้าแล้ว! หากข้าเป็นเจ้า ข้าต้องชอบมากแน่ๆ สีชมพูสวยดีออก!” หลิวเชียนฮ่วนเอียงหัวน้อยๆ ทำหน้างุนงง

อันหลินกุมหน้าอกของตัวเอง ริมฝีปากสั่นเทา

นี่คิดในมุมของเราแล้วเหรอ!

ความคิดของหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ปกติจริงๆ เหรอ

โชคดีที่ในคลังของหลิวเชียนฮ่วนยังมีแหวนสำรองวงอื่นอยู่ อันหลินชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูด จนในที่สุดก็ได้แหวนสีเงินวงหนึ่งมาแทน แม้จะเป็นแหวนสีบรอนซ์ที่ดูไม่มีมูลค่า แต่ดีกว่าสีชมพูเยอะ!

หลิวเชียนฮ่วนยื่นใบรายการสั่งซื้อสินค้าให้อันหลินแล้วก็กลับไป

อันหลินสวมแหวนอย่างปลาบปลื้ม แหวนสีเงินวงนี้ก็เป็นแหวนชั้นสูงเช่นกัน มันเป็นแหวนที่มีราคาตั้งสองหมื่นหินวิญญาณเชียวนะ…

แหวนระดับนี้นับว่าเป็นของล้ำค่าในแดนบำเพ็ญเซียนแล้ว ไม่คิดว่าแค่ช่วยหิ้วสินค้าจากแดนมนุษย์ จะทำให้เขาดีใจได้ขนาดนี้

อันหลินเปลี่ยนสถานะของมันอย่างอดรนทนไม่ไหว จากนั้นก็โยนก้อนอิฐสีดำกับกระบี่เล่มนั้นเข้าไปในแหวนมิติ

นอกจากนี้ เขายังเลือกบางส่วนเก็บไว้ในห้อง ข้าวของเครื่องใช้อย่างยาอายุวัฒนะและผ้ายันต์ต่างๆ ที่แฟนคลับที่น่ารักมอบให้ โยนเข้าไปเก็บในแหวนทีละชิ้น

ขณะที่เขากำลังลูบแหวนในมืออย่างเบิกบานใจ ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในสมอง ราวกับเปิดประตูโลกใบใหม่!

โอกาสจะได้ทะลุมิติไปยังแดนมนุษย์ ไม่ใช่โอกาสที่นักเรียนทุกคนจะได้รับ

และนักเรียนที่คลั่งไคล้ของในแดนมนุษย์ มักจะคิดหาวิธีนำของบนโลกมนุษย์เข้ามาผ่านช่องทองต่างๆ

ถ้าอย่างนั้น…เขาก็สามารถรับหิ้วของแดนมนุษย์ได้ใช่หรือไม่

คิดค่ารับหิ้วเป็นหินวิญญาณที่นักเรียนต้องจ่ายให้เขา ตามขนาดของเนื้อที่ที่สินค้าใช้ และระดับความยากง่ายในการซื้อสินค้าชิ้นนั้น…

นัยน์ตาของอันหลินเป็นประกาย เอาก็เอา!

ชั่วพริบตา บริเวณหอพักของสำนักความร่วมมือบำเพ็ญเซียน ก็เต็มไปด้วยโฆษณาของอันหลิน

ที่รัก ต้องการฝากหิ้วไหม

เพียงจ่ายหินวิญญาณตามที่กำหนด อันหลินจะช่วยซื้อของนานาชนิดของแดนมนุษย์ ราคายุติธรรม รับรองคุณภาพดีเยี่ยม…

ข่าวนี้กระจายไปทั่วสำนักราวกับพายุหมุน!

อันหลินเป็นใคร

ดาราเบอร์หนึ่งของสำนักอย่างไรเล่า!

ซ้ำยังได้ยินว่าเขามาจากแดนมนุษย์ ต้องรู้เรื่องทางนั้นดีเยี่ยมแน่นอน…

ฝากเขาหิ้วสินค้า ต้องเชื่อใจได้แน่นอน คุณภาพก็ต้องไว้ใจได้มากเป็นแน่!

ด้วยเหตุนี้ นักเรียนที่หลงใหลในวัฒนธรรมของโลกมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วน พากันสั่งสินค้ากับอันหลิน

บางคนฝากหิ้วเครื่องเล่นเสียงกับอัลบั้มเพลงทั้งหลาย บางคนฝากซื้อขนมขบคิ้วนานาชนิด บางคนให้เขาช่วยดาวน์โหลดหนังสนุกๆ หลายร้อยเรื่อง ถึงขั้นว่ามีบางคนให้อันหลินซื้ออะไรก็ได้ที่เห็นว่าน่าสนใจมาให้พวกเขาหน่อยก็พอแล้ว…

อันหลินได้ค่าฝากหิ้วทั้งหมดสามหมื่นหินวิญญาณ ภายในระยะเวลาสามวัน!

เขามองหินวิญญาณที่กองเท่าภูเขา กับใบรายการสินค้าที่กองสุมกันในแหวนมิติอย่างหน้าชื่นตาบาน!

………………………………