บทที่ 153 ทวงคืนสิ่งที่สูญเสียไป / บทที่ 154 โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 153 ทวงคืนสิ่งที่สูญเสียไป

 

 

ในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ถัดมา ซ่งจื่อหางทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ แสดงความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเฉินเมิ่งฉีอย่างเปิดเผย

 

 

เยี่ยหวันหวั่นซุ่มติดตามการเปลี่ยนแปลงของตระกูลเจียงอย่างใจเย็น พลางแอบรวบรวมข้อมูลและรอจังหวะโอกาส

 

 

ครั้งก่อนเธอปล่อยกระบวนท่าใหญ่ใส่ซือเซี่ยไปคงอยู่ได้อีกนาน สัปดาห์นี้ผู้ชายคนนั้นเป็นเด็กดีเชื่อฟังมาก ไม่กล้ามายั่วโมโหเธออีก ระหว่างการฝึกซ้อมก็มีระเบียบวินัยดี

 

 

หลังจากรอคอยอยู่เงียบๆ มาหลายวัน ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็ได้ข่าวที่รอคอยมานาน

 

 

วันนี้เป็นวันที่รัฐบาลประกาศการประกวดราคา

 

 

เพิ่งจะกลับถึงหอพักตอนเย็น ก็มีสายของคุณพ่อเจียงโทรเข้ามา

 

 

เยี่ยหวันหวั่นรีบร้อนส่งสายตาเปล่งประกายเร่งเร้าเจียงเยียนหราน “รีบรับสายเร็ว!”

 

 

เจียงเยียนหรานพยักหน้า กดเปิดลำโพง “ฮัลโหล พ่อคะ?”

 

 

ปลายสายมีเสียงรักและเอ็นดูของคุณพ่อเจียงดังขึ้นมา “อืม เยียนหราน พ่อโทรมาเพราะมีข่าวจะบอกลูก การประกวดราคาวันนี้ราบรื่นมาก ตระกูลเจียงของเราได้งานก่อสร้างแล้ว!”

 

 

แม้ว่าจะเป็นผลลัพธ์ตามความคาดหมาย เยี่ยหวันหวั่นก็ยังรู้สึกตื่นเต้นมาก

 

 

ขณะที่กำลังดีใจอยู่นั้น ก็ได้ยินคุณพ่อเจียงพูดต่อ “และพ่อก็ได้ประกาศต่อสาธารณชนเรื่องการยกเลิกงานหมั้นระหว่างลูกกับตระกูลซ่งเรียบร้อยแล้ว โชคดีมากที่ได้เพื่อนคนนั้นของลูกเตือน ยังดีที่เราพบทันเวลา ก่อนจะแหวกหญ้าให้งูตื่น พ่อได้แอบดึงเงินทุนของโครงการอื่นๆ กลับมาแล้ว ยกเลิกความร่วมมือทางธุรกิจและการติดต่อที่มีก่อนหน้าไปหลายอย่าง ลดความเสียหายได้ในระดับสูงสุด!”

 

 

ที่สำคัญคือ โครงการก่อสร้างใหญ่นั้นได้ตกมาอยู่ในมือของตระกูลเจียงแล้ว

 

 

ดังนั้นไม่ว่าจะคำนวณอย่างไรก็ได้กำไร!

 

 

“ใช่แล้ว เพื่อนของหนูคนนั้นอยู่ไหม?”

 

 

“เธออยู่ค่ะ” เจียงเยียนหรานยื่นมือถือส่งให้ในมือของเยี่ยหวันหวั่น

 

 

“คุณลุงเจียง หนูอยู่ในสายค่ะ”

 

 

“หวันหวั่น มีเวลาแวะมาทานข้าวที่บ้านลุงนะ ครั้งนี้ลุงติดหนี้บุญคุณเธอครั้งใหญ่ ต่อไปหากมีอะไรให้ลุงช่วย ขอเพียงให้บอกมานะ!”

 

 

“ขอบคุณค่ะคุณลุง!”

 

 

“อะไรกัน ลุงต่างหากต้องขอบใจเธอ!”

 

 

……

 

 

เวลานี้เอง ณ โรงอาหารของโรงเรียน

 

 

ซ่งจื่อหางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เลย ยังไปกินอาหารเย็นกับเฉินเมิ่งฉีด้วยความชื่นมื่น หลายวันนี้คนทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกัน เหมือนกับเป็นคู่หนุ่มสาวที่กำลังมีความรัก

 

 

วันนี้คนทั้งสองก็แสดงความรักให้คนโสดต้องอิจฉาเหมือนที่ผ่านมา

 

 

“จื่อหาง วันนี้ครอบครัวนายไปร่วมประกวดราคาของรัฐบาลใช่ไหม? ไม่รู้ว่าผลออกมาเป็นอย่างไรบ้าง…” เฉินเมิ่งฉีลองหยั่งเชิงถามดูด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย

 

 

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซ่งจื่อหางพลันทระนงตนขึ้นมา เอ่ยด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม “เมื่อคืนฉันคุยโทรศัพท์กับพ่อเรื่องนี้แล้ว ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว เงินทุนมาคงจะเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรเด็ดขาด!”

 

 

เฉินเมิ่งฉีกล่าวออกไปอย่างโล่งอก “ค่อยยังชั่วหน่อย ทีแรกฉันยังกังวลว่าตัวเองจะมาเป็นภาระของนาย หากว่าเยียนหรานพูดอะไรต่อหน้าพ่อแม่ของเธอ…”

 

 

ซ่งจื่อหางทำหน้าไม่เกรงกลัวอะไรพลางกล่าว “เป็นไปได้อย่างไร เมิ่งฉีเธอไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ครอบครัวของพวกเราร่วมงานกันมาหลายปีขนาดนี้ พ่อแม่ของเจียงเยียนหรานเมื่อก่อนก็อยู่แต่ในแวดวงนักแสดง เพิ่งจะเข้าวงการนี้มาช่วงหลัง จะเข้าใจการทำธุรกิจอะไรกัน?”

 

 

“เป็นเช่นนี้ก็ดี ความจริงต้องขอบคุณครอบครัวของนาย เยียนหรานช่างไม่รู้จักบุญคุณเลย ร่วมมือกับฉู่เฟิงทำเรื่องแบบนั้น ไม่ใช่เพราะจงใจทำให้นายอับอายหรอกเหรอ?” เฉินเมิ่งฉีทำท่าทางปกป้องดูแล มองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความชื่นชม

 

 

………………………………..

 

 

 

 

 

 

บทที่ 154 โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

 

 

สายตาแบบนี้ใช้ได้ผลกับซ่งจื่อหางที่สุด คุยโวต่อไปเรื่อยไม่รู้จบ “อย่าพูดถึงผู้หญิงคนนั้นเลย เอาเขามาเทียบกับเธอได้อย่างไร! เมิ่งฉี ฉันเป็นลูกชายคนเดียวของคุณพ่อ ในอนาคตฉันต้องได้เป็นผู้สืบทอดของตระกูลซ่งแน่นอน ถึงเวลานั้น ฉันจะต้องมอบสิ่งที่ดีที่สุดของโลกใบนี้ให้เธอ!”

 

 

“จื่อหาง…” เฉินเมิ่งฉีใบหน้าซาบซึ้ง “ฉันไม่สนใจของพวกนั้นหรอก ขอเพียงได้อยู่กับนายก็เพียงพอแล้ว!”

 

 

ขณะที่คนทั้งสองกำลังคุยกันกระหนุงกระหนิง โทรศัทพ์ของซ่งจื่อหางก็ดังขึ้น

 

 

เห็นหมายเลขที่โทรเข้ามา ซ่งจื่อหางพลันมีสีหน้าดีใจ “คุณพ่อโทรมาน่ะ ต้องโทรมาบอกข่าวดีแน่เลย!”

 

 

เฉินเมิ่งฉีได้ยินก็ตื่นเต้นมาก

 

 

“ฮัลโหล พ่อครับ?” ซ่งจื่อหางรีบรับสาย

 

 

“จื่อหาง แกรีบกลับมาหาฉันเดี๋ยวนี้!” ปลายสายเป็นเสียงเคร่งขรึมของคุณพ่อซ่ง

 

 

ซ่งจื่อหางยังจมอยู่ในภวังค์ความตื่นเต้นที่ได้สาวงามมาครอบครอง จึงไม่ทันสังเกตว่าน้ำเสียงของพ่อผิดแปลกไป “ครับ ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้!”

 

 

วางสายแล้ว ซ่งจื่อหางก็พูดกับเฉินเมิ่งฉี “เมิ่งฉี คุณพ่อให้ฉันกลับไปหา เดาว่าคงจะเรียกให้ฉันไปร่วมงานฉลองความสำเร็จ!”

 

 

“งั้นนายรีบไปเถอะ!” เฉินเมิ่งฉีเผยสีหน้ายินดีปรีดา เธอเลือกขุมสมบัติไม่ผิดจริงๆ ด้วย

 

 

ซ่งจื่อหางกุมมือเรียวของหญิงสาว “เมิ่งฉี ฉันจะกลับไปบอกเรื่องของพวกเรากับคุณพ่อคุณแม่ รอครั้งหน้า ฉันจะพาเธอกลับบ้านไปด้วยกันนะ!”

 

 

……

 

 

“พ่อ! ยินดีด้วยครับ! เย็นนี้จะมีงานฉลองไหมครับ?” ซ่งจื่อหางผลักประตูเดินเข้าไปยังห้องรับแขกด้วยความกระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวา

 

 

ผลที่ได้ เพิ่งจะก้าวเข้าไปก็มีถ้วยน้ำชาใบหนึ่งกระแทกหน้าเข้าใส่ศีรษะของเขา “ไอ้ลูกเลว!”

 

 

ซ่งจื่อหางปวดร้าวไปทั้งหน้าผาก โดนปาใส่อย่างงุนงง “พ่อ…เสียสติไปแล้วเหรอ!!!”

 

 

คุณแม่ซ่งอยู่ด้านข้างเห็นลูกชายถูกปาของโดนศีรษะ หยิบผ้าเช็ดหน้าเข้าไปช่วยประคบให้ด้วยความสงสารเป็นที่สุด “พี่ซ่ง! มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากันไม่ได้เหรอ! ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันรุนแรงขนาดนี้ด้วย!”

 

 

“ค่อยพูดค่อยจา เธอจะให้ฉันค่อยพูดค่อยจาอะไรกับมัน!” คุณพ่อซ่งโกรธจนหน้าแดงเปล่ง

 

 

“แม่? มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่? วันนี้ไม่ใช่วันประกวดราคาเหรอ? ทำไมพ่อถึงได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้ เพิ่งกลับมาก็ทำร้ายผมแล้ว! ผมเป็นลูกของเขาจริงหรือเปล่า!” ซ่งจื่อหางทำหน้าโมโห

 

 

คุณแม่ซ่งเอามือปิดปากลูกชายห้ามเอาไว้ “อย่าพูดถึงเรื่องประกวดราคา! ทีแรกตระกูลเจียงรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะโอนเงินหนึ่งร้อยล้านเข้าบัญชีก่อนการประกวดราคา ใครจะรู้ว่าเริ่มการประกวดราคาก็ยังไม่โอน แต่กลับเข้าร่วมประมูลเป็นผู้ประมูลมาแข่งกับเรา สุดท้าย…งานนั้นก็ตกไปอยู่ในมือของตระกูลเจียง…”

 

 

ซ่งจื่อหางหน้าเปลี่ยนสีทันที ตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว “แม่! แม่พูดว่าอะไร! นี่ตระกูลเจียงหักหลังเรางั้นเหรอ! พวกเขาทำอย่างนี้ได้อย่างไร! งานนั้นเป็นเป็นของครอบครัวเราชัดๆ!”

 

 

คุณแม่ซ่งทำหน้าเคร่งขรึมพูดต่อไปว่า “นี่ยังไม่ใช่เรื่องแย่ที่สุด พวกเราสองครอบครัวเป็นเสมือนญาติมิตร หากว่าพวกเขาไม่ไว้ใจพวกเรา ตัวเองจะถือไว้เองก็ไม่เป็นอะไร อย่างไรแล้วไม่ช้าไม่เร็วพวกเราก็จะดองกันอยู่แล้ว ตระกูลเจียงมีลูกสาวเพียงคนเดียว ไม่ช้าไม่เร็วทุกอย่างก็จะเป็นของลูกด้วย

 

 

แต่ว่า หลังจากจบการประกวดราคาแล้วเจียงไห่เฉาคนนั้น ประกาศยกเลิกงานหมั้นของเราสองตระกูล ต่อสาธารณชน ซ้ำยังบอกอีกว่าแม้ตายก็ไม่มาเผาผี สัญญาทั้งหมดระหว่างพวกเราสองตระกูลถูกตัดขาดเพียงชั่วข้ามคืน!”

 

 

ซ่งจื่อหางตกตะลึงไม่อยากจะเชื่อ “แม่! แม่พูดว่าอะไรนะ? ยกเลิกงานหมั้น? ตระกูลเจียงพวกเขาบอกว่ายกเลิกก็ยกเลิก เห็นตระกูลซ่งของพวกเราเป็นอะไร? หมดประโยชน์แล้วก็ทิ้งกันเลยเหรอ? รังแกกันเกินไปแล้ว! เรื่องนี้จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”