ตอนที่ 47 เสี่ยวซื่อเสนอตัวรับงานเอง!

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ

เมื่อหลิงศูนย์เจ็ดนับถอยหลังจนถึงหนึ่ง โฮเวอร์คาร์ที่เดิมทีแล่นด้วยความเร็วสูงก็พลันหยุดนิ่ง หลิงหลานรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับถูกเหวี่ยงออกไปก็ไม่ปาน แต่เนื่องจากเข็มขัดนิรภัยบนตัวเธอคาดเอาไว้แน่นมาก เธอเลยยังถูกมัดติดกับที่นั่ง

ไม่นาน หลิงหลานสัมผัสได้ถึงแรงเฉื่อยกำลังอ่อนลง ทว่าทั่วทั้งร่างกายกลับรู้สึกเบาหวิวอย่างไม่คาดคิด เวลานี้เองเข็มขัดนิรภัยก็คลายออก แท้จริงแล้วโฮเวอร์คาร์ที่พังจนแยกชิ้นส่วนในเวลานี้ได้เปลี่ยนเป็นแตกกระจุยกระจาย

“หลบ!” หลิงฉินตะโกนเสียงต่ำ เขาอาศัยพลังสุดท้ายของโฮเวอร์คาร์เล็กน้อยพุ่งออกไปจากรถเป็นคนแรก หลิงฉินตัดสินใจเด็ดขาดแต่แรกแล้วว่า เขาจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อดึงดูดความสนใจของพวกมือสังหารที่ดักซุ่มอยู่รอบด้านเพื่อให้หลิงหลานมีโอกาสหลบหนีไป

จากนั้นหลิงหลานก็ลอยออกมา เธอคว้าหนึ่งในเศษชิ้นส่วนของโฮเวอร์คาร์อย่างปราดเปรียวท่ามกลางเศษชิ้นส่วนที่ระเบิดกระจายออกไปนับไม่ถ้วน นี่เป็นเป้าหมายที่เธอเลือกไว้ชั่วพริบตา มันมีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กสามารถกำบังร่างกายน้อยๆ ของเธอได้พอดี นอกจากนี้ทิศทางที่มันลอยออกไป รวมไปถึงจุดที่ตกก็เป็นจุดที่เธอต้องการได้เช่นกัน

หลิงหลานแนบชิดกับเศษชิ้นส่วนแผ่นนั้นอย่างแนบแน่นราวกับตุ๊กแก และใช้ประโยชน์จากเศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วนที่อยู่รอบด้านมากำบังตัว เธอตีลังกาอยู่กลางอากาศอย่างคล่องแคล่วเพื่อให้เศษชิ้นส่วนบังเธอไว้ จากนั้นเธอก็เก็บงำกลิ่นอายปล่อยให้มันร่วงลงไปอย่างอิสระ สุดท้ายมันก็ร่วงลงไปยังพื้นที่รกร้างกว้างโล่งไม่มีของสิ่งใดมาอำพราง

พริบตาที่ร่วงลงมา หลิงหลานก็โคจรเคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกายไปทั่วร่าง แขนขาทั้งสี่รวมไปถึงเอวและท้อง อัดลงไปที่พื้นแรงๆ ทุกคนต่างไม่รู้ว่าพื้นข้างใต้เศษชิ้นส่วนปรากฏร่องเว้าลึกสุดขีด หลิงหลานฝังอยู่ด้านใน เศษชิ้นส่วนบนร่างกายเธอคว่ำอยู่บนพื้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีใครนึกเลยว่าข้างใต้เศษชิ้นส่วนแผ่นนั้นยังมีคนหลบซ่อนอยู่

สาเหตุที่หลิงหลานเลือกซ่อนตัวแบบนี้เป็นเพราะว่าผู้คนต่างมีความนึกคิดและจุดบอดทางสายตา ที่ราบรกร้างกว้างโล่งไม่มีสิ่งใดแห่งนี้ไม่มีสถานที่ใดที่อำพรางผู้คนได้เลย มันจึงถูกคนมองข้ามได้ง่ายมาก นอกจากนี้ความสนใจยังเน้นหนักไปที่พื้นที่หลายแห่งที่ซ่อนตัวคนได้ง่ายๆ อย่างป่าพุ่มไม้ต่ำๆ ที่อยู่ด้านข้าง รวมไปถึงพวกพุ่มหญ้าที่เกิดขึ้นมาสะเปะสะปะ

แน่นอนว่าการที่หลิงหลานซ่อนตัวอยู่ที่นี่ไม่ใช่เพราะเรื่องความปลอดภัย หากแต่เป็นเพราะเธออยากจะโจมตีกลับ เมื่อความสนใจของทุกคนอยู่ที่ด้านหน้า และตำแหน่งของเธออยู่ด้านหลังซึ่งทุกคนไม่ได้สนใจแล้ว มันก็เป็นโอกาสให้เธอโจมตีทีเดียวจอด

หลิงหลานจำเป็นต้องเสี่ยงเพราะว่าจุดที่อีกฝ่ายเลือกดักซุ่มก็ดีมากเกินไปจริงๆ มันเป็นสถานที่ที่พลังป้องกันของเมืองเปราะบางมากที่สุด ควรทราบว่าเส้นทางที่หลิงหลานเดินทางผ่านเพื่อไปยังสถาบันศูนย์กลางลูกเสือต่างก็เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง มีเพียงในระหว่างช่วงเวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงนี้ที่เป็นเขตพื้นที่ว่างเปล่าไม่มีผู้คน นอกจากป่าแล้วก็เป็นพื้นที่รกร้างซึ่งนับว่าห่างไกลไร้ผู้คน มีเพียงสัตว์ร้ายและนกป่าเท่านั้น

เธอดักซุ่มอยู่ที่นี่ เมื่อเมืองทั้งสองด้านได้รับสัญญาณก็จะส่งกองกำลังตำรวจมาช่วยเหลืออีก อย่างเร็วที่สุดอีกสิบห้านาทีกำลังเสริมก็จะมาถึง หลิงหลานเชื่อว่าสิบห้านาทีเพียงพอให้คนเหล่านี้ฆ่าเธอได้นับครั้งไม่ถ้วน เธอเชื่อว่าถ้าหากฝ่ายตรงข้ามค้นหาร่างของเธอไม่พบในสถานที่อื่น พวกเขาย่อมกวาดล้างพื้นที่อย่างไม่เลือกหน้า ถึงขนาดที่ขุดดินสามฟุต[1] เวลานั้นต่อให้เธอซ่อนตัวอยู่ในจุดอับสายตาก็จะถูกหาพบเช่นกัน เธอเดิมพันเรื่องนี้ไม่ไหว

สิ่งสำคัญที่สุดคือ เธอไม่สามารถแน่ใจได้ว่าพ่อบ้านหลิงฉินจะยืนหยัดอยู่ในวงล้อมได้สิบห้านาที ถ้าหากเธอไม่ลงมือ เกรงว่าเธอคงได้เผชิญกับการเสียชีวิตของคนที่เธอรักเป็นครั้งแรกหลังจากที่มาถึงโลกอนาคต เธอยิ่งเดิมพันเรื่องนี้ไม่ไหว

ไม่นาน โฮเวอร์คาร์สามคันก็บินเข้ามา แต่ฝ่ายตรงข้ามระมัดระวังมากและไม่ได้เข้ามาใกล้ หากแต่ร่อนลงอย่างมั่นคงห่างจากจุดที่หลิงหลานซ่อนตัวอยู่สามสิบเมตร

โฮเวอร์คาร์สองคันจากในนั้นถูกเปิดออก ชายร่างกำยำแปดคนเดินลงมา คนทั้งแปดนี้ต่างติดอาวุธทั่วทั้งตัว ศีรษะสวมหมวกป้องกัน ลำตัวสวมชุดป้องกัน มือถือปืนกลเลเซอร์อนุภาค ของพวกนี้ต่างเป็นอุปกรณ์ธรรมดาสุดขีดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นทางกองทัพหรือว่าพลเรือนที่ติดอาวุธส่วนตัวในสหพันธรัฐ ดูท่าฝ่ายตรงข้ามก็ระวังตัวมากเช่นกัน ดังนั้นของที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเปิดเผยสถานะตัวตนต่างถูกกำจัดทิ้งไป

แปดคนนั้นเข้ามาใกล้ที่นี่ด้วยความระมัดระวังยิ่ง และทิ้งโฮเวอร์คาร์ที่ยังปิดประตูหน้าต่างแน่นคันนั้นไว้ ปืนใหญ่เลเซอร์สองกระบอกตั้งตระหง่านอยู่บนรถเพื่อเป็นตัวคุ้มกัน เมื่อพบการต่อต้าน พวกเขาก็จะยิงปืนใหญ่เลเซอร์สังหารโดยที่ไม่มีการละเว้น

เห็นได้ชัดมากว่าโฮเวอร์คาร์สามคันนี้ต่างเป็นโฮเวอร์คาร์รูปแบบต่อสู้ที่ผ่านการแก้ไขดัดแปลงส่วนตัวมาก่อน หลิงหลานสังเกตเห็นว่าบนรถของพวกเขาไม่มีหมายเลขสัญญาณที่สหพันธรัฐกำหนดให้ลงทะเบียน ฝ่ายตรงข้ามทำได้อย่างไร้ช่องโหว่ตามที่คาดคิดไว้จริงๆ

หลิงหลานไม่ได้เงยหน้าสังเกตการณ์ ทว่าเธอรู้สถานการณ์ในตอนนี้อย่างแจ่มแจ้ง เธอมีเสี่ยวซื่อ ดังนั้นต่อให้หลับตาก็สามารถรู้สถานการณ์รอบด้านในขอบเขตระยะหนึ่งพันเมตร ถึงขนาดที่เธอยังรู้ว่าตรงจุดที่ห่างไกลยิ่งกว่าโฮเวอร์คาร์ซึ่งสายตามองไปไม่ถึง ยังมีหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์สองตัวกำลังยกปืนสไนเปอร์ระยะไกลเล็งเป้ามาที่นี่ ฝ่ายตรงข้ามไม่คิดจะให้โอกาสรอดแก่พวกเขาโดยสิ้นเชิง

หลิงหลานคำนวณอัตราความสำเร็จในการโจมตีรูปแบบต่างๆ ในมิติแห่งจิตอย่างเยือกเย็น ถึงแม้ว่าแผนการโจมตีที่เธอสามารถคิดได้จนถึงตอนนี้จะมีอัตราความสำเร็จอยู่ที่ศูนย์ แต่หลิงหลานก็ไม่ท้อแท้ใจ การฝึกเอาตัวรอดในป่าดึกดำบรรพ์เมื่อไม่นานมานี้ทำให้เธอจำขึ้นใจว่า ต่อให้จะตายก็ต้องเยือกเย็นเข้าไว้ โอกาสมักจะปรากฏตัวขึ้นในเวลาที่เป็นไปไม่ได้มากที่สุด

อยากจะได้โอกาสรอดก็ต้องแก้ปัญหาเรื่องโฮเวอร์คาร์ที่รั้งท้ายราวกับเสือที่จ้องพร้อมตะครุบเหยื่อคันนั้นก่อน ปืนใหญ่เลเซอร์สองกระบอกอันตรายต่อพวกเขามากเกินไปจริงๆ ถึงแม้ว่าหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่อยู่ห่างไกลจะคุกคามมากเช่นกัน…แต่หลิงหลานตัดสินใจว่าจะจัดการอันตรายตรงหน้าก่อน

อย่างไรก็ตาม อาวุธที่เธอพกติดตัวมาตอนนี้ไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอจัดการกับโฮเวอร์คาร์ที่ติดอาวุธเต็มคันได้ ยิ่งไปกว่านั้นด้านในยังมีนักฆ่าที่ร้ายกาจอีกหลายคน หลิงหลานที่ตัวเล็กแบบนี้จะจัดการหนึ่งคนอาจจะยังมีความเป็นไปได้ แต่ถ้าสองคนขึ้นไปก็ไม่รู้แล้ว

ควรจะทำอย่างไรดีนะ

“เชอะ ทำไมช่วงเวลาสำคัญถึงได้ลืมฉันแล้วล่ะ” เสี่ยวซื่อที่อยู่ในห้วงสติเฝ้ารอหลิงหลานร้องขอความช่วยเหลือมาตลอดก็รู้สึกหดหู่แล้ว เขาเอ่ยประท้วงอย่างรุนแรง

“เอ่อ นายจัดการได้กี่คนล่ะ” หลิงหลานอึ้งไป เธองุนงงมาก ตัวเธอรับมือสองคนไม่ไหว แล้วเสี่ยวซื่อที่มีเพียงความคิดไม่มีร่างกายสามารถทำได้ด้วยเหรอ

“ฉันจัดการคนไม่ได้ แต่ว่าฉันจัดการรถได้นะ” เสี่ยวซื่อกล่าวด้วยความห่อเหี่ยวใจ ทำไมลูกพี่ของเขาถึงได้โง่ขนาดนี้นะ มนุษย์ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ซะหน่อย เขาเจาะเข้าไปไม่ได้หรอก

คำพูดของเสี่ยวซื่อทำให้หลิงหลานตระหนักขึ้นมาได้ เธอเสียเวลาแก้ไขปัญหาที่ไม่มีทางแก้ออก เวลานี้โฮเวอร์คาร์ต่างใช้ออปติคัลคอมพิวเตอร์[2] ที่มีปัญญาประดิษฐ์มาควบคุม และเสี่ยวซื่อก็เป็นดาวข่มออปติคัลคอมพิวเตอร์ ขอเพียงให้โอกาสเขา เขาก็สามารถได้รับอำนาจควบคุมโฮเวอร์คาร์ เช่นนั้นอาวุธของรถคันนั้นก็จะยิงออกไปไม่ได้….

“นายสามารถเจาะเข้าไปในระยะห่างเท่านี้เหรอ” หลิงหลานยังถามขึ้นอีกประโยคด้วยความกังวล

“ต่อให้ห่างออกไปอีกสิบเมตรก็ไม่มีปัญหา…ถ้าเกิดพลังจิตของเธอสูงกว่านี้อีกหน่อย ฉันก็สามารถเจาะเข้าไปได้ไกลมากขึ้น” เสี่ยวซื่อตอบโดยที่แฝงความเสียใจเอาไว้ ราวกับกำลังดูถูกหลิงหลานว่าเธอจำกัดความสามารถของเขา

หลิงหลานหงุดหงิดจนโกรธ “ยังไม่ทำให้ฉันอีกล่ะ ถ้าเกิดฉันตายไป นายก็ไม่มีหวังแล้วเหมือนกัน…”

เสี่ยวซื่อสั่นงกๆ เขาจะลืมเรื่องนี้ได้อย่างไร เขาไม่กล้าพูดอวดแล้ว และยืมพลังจิตของหลิงหลานแทรกซึมเข้าไปที่โฮเวอร์คาร์คันนั้นทันที

ในขณะนี้เอง ชายแปดคนนั้นก็ผ่านจุดที่หลิงหลานซ่อนตัวอยู่ ถึงอย่างไรนอกจากเศษชิ้นส่วนใหญ่น้อยหลายชิ้นที่นอนระเนระนาดแล้ว สถานที่แห่งนี้ก็ไม่มีอย่างอื่นอีก ไม่มีสถานที่ให้คนซ่อนตัวได้เลย พวกเขาย่อมตัดที่นี่ทิ้งไปแน่นอนและเข้าไปหาพุ่มหญ้าต่ำๆ ที่อยู่รอบๆ บริเวณด้านหน้า เห็นได้ชัดมากว่าที่นั่นถึงจะเป็นจุดซ่อนตัวที่ดี

ฝ่ายตรงข้ามเข้าไปใกล้พุ่มหญ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ในใจของหลิงหลานก็เคร่งเครียดขึ้นมาเช่นกัน เพราะว่าพ่อบ้านหลิงฉินก็ซ่อนตัวอยู่ในนั้นจริงๆ

………………………………

[1] ขุดดินสามฟุต หมายถึง ค้นหาทั่วทุกพื้นที่อย่างละเอียดมาก เมื่อหาไม่พบก็ค้นหาต่อจนกว่าจะเจอ

[2] ออปติคัลคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ที่ใช้โฟตอนในการคำนวณ