ตอนที่ 53 : การตัดสินใจของหวังเย่า
บัวหิมะน้ำแข็งนั้นมีค่าอย่างมาก มันไม่อาจจะหาซื้อได้ และบอกได้ว่ามันคือของล้ำค่า
เมื่อสิ่งนี้มันล่อตาลวงใจ ผลก็คือหวังเย่าไม่อาจจะใจเย็นได้อีก อันที่จริงการที่เขาตื่นเต้นแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เมื่อกลับเข้ามาในถ้ำและเดินลึกไปยังโพลงนั้นเขาก็พบว่าบัวหิมะน้ำแข็งกินพื้นที่ขนาดกว้าง มันมีแค่ส่วนริมที่ถูกกินไปเท่านั้น
เขาจะเก็บบัวขนาดใหญ่แบบนี้ได้ยังไง ?
หวังเย่าได้แต่นั่งคิด
แม้ว่าบัวหิมะน้ำแข็งจะได้มาฟรี แต่ถ้าหากเขากินเข้าไปทั้งหมด เขาคงรู้สึกไม่ดีแน่ ถึงจะได้ความสามารถในการควบคุมน้ำแข็งมา แต่ก็คงไม่มีประโยชน์เท่าไหร่นัก
เมืองอรุณนั้นตั้งอยู่ทางใต้ อากาศที่นั่นอบอุ่น มันแบ่งเป็น 4 ฤดูอย่างชัดเจน
ถ้าเป็นทางเหนือก็พอมีหิมะและน้ำแข็งอยู่บ้าง หากเป็นที่นั่นก็จะดึงความสามารถของมันออกมาได้จริง ๆ
หวังเย่ารู้ว่าความสามารถและสภาพแวดล้อมนั้นเกี่ยวข้องกัน อย่างเช่น หากควบคุมไฟได้แต่ถ้าอยู่ในน้ำ งั้นเป็นธรรมดาที่พลังจะลดลงอย่างมาก
“ยังไงซะก็เก็บมันไปก่อนแล้วค่อยคิดว่าจะเอายังไงต่อ” หวังเย่าคิดแล้วค่อย ๆ ตัดบัวหิมะน้ำแข็ง ความเย็นของมันเย็นไปถึงขั้วกระดูก มันถึงกับทำให้หน้าของเขามีชั้นน้ำแข็งเกาะเต็มไปหมด
เพราะกระเป๋ามิติเต็มไปด้วยผลหยวน ดังนั้นหวังเย่าจึงต้องเอามันออกมาบางส่วนเพื่อจะเก็บบัวหิมะน้ำแข็งนี่เข้าไป
เขาเรียกหงอคงออกมาเพื่อให้มันกินผลหยวนที่เอาออกมานี้
เมื่อเห็นค่าประสบการณ์และความภักดีของหงอคงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หวังเย่าก็วางใจขึ้นมา เขาปล่อยให้หงอคงกินเพียงลำพัง ส่วนตัวเขาก็เก็บบัวหิมะน้ำแข็งต่อ
สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในเช้าวันสุดท้ายของการทดสอบ ครูประจำชั้นได้พานักเรียนกลุ่มแรกลงจากเขาไป บริเวณต้นสะพานนั้นมีจุดรับลงทะเบียนจำนวนหนอนเงาที่จับมาได้
จ้าวเมิ่งซี 32 ตัว
เหลิ่งจื่อมู่ 27 ตัว
จ้าวซื่อ 5 ตัว
หวังเย่ายืนมองอยู่ข้าง ๆ ด้วยความแปลกใจ แต่มันก็มีเหตุผลที่จ้าวเมิ่งซีจะจับหนอนเงาได้มากแบบนี้ เดาได้ว่ามันคงเกี่ยวกับเทอร์โรซอร์ไฟของเธอ เธอใช้สกิลบินของมัน ดังนั้นการจับหนอนเงานี้จึงไม่ได้ยากมากนักสำหรับเธอ
สำหรับเหลิ่งจื่อมู่ เขามีลูกน้องหลายคน เขาพึ่งจำนวนคนที่มากกว่าในการไล่จับหนอนเงา
สุดท้ายเมื่อถึงตาหวังเย่า หวังเย่าก็เอาหนอนเงา 3 ตัวออกมา
3 ตัวนี้คือหนอนเงาที่จ้าวเมิ่งซีให้เขามา ในอีกความหมายคือตลอดหลายวันมานี้เขาไม่ได้จับหนอนเงาแม้แต่ตัวเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้หนอนเงาเพิ่ม
หวังเย่า 3 ตัว
“ หวังเย่า ฮ่าฮ่า ตอนนี้แกก็เริ่มรู้สึกเสียใจแล้วล่ะสิที่ปล่อยแมวของแกไป แกมันขยะดี ๆ นี่เอง” เหลิ่งจื่อมู่หัวเราะออกมา
“ หวังเย่า เอาจริง ๆ แล้วฉันไม่เคยเห็นใครโง่เท่าแกมาก่อน การพนันครั้งนี้ ฉันชนะ” จ้าวซื่อยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
หวังเย่าเบะปากใส่ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาทำท่าว่าการจับหนอนเงานั้นเป็นเรื่องยาก
แต่เขาก็ยังรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้สนใจการทดสอบนี้ เพราะเขามีเรื่องสนุกเรื่องอื่นรออยู่
“ด้วยสภาพของฉันในตอนนี้ คะแนนแค่ไม่กี่ร้อยคะแนนไม่คู่ควรกับฉัน” หวังเย่าพึมพำออกมา
หนอนเงานั้นแลกได้คะแนนไม่มากนัก เจ้าของเขตลับจะให้คนมาเก็บหนอนเงาจากพวกครู จากนั้นทางโรงเรียนก็จะให้คะแนนเป็นรายบุคคล
เมื่อเห็นหัวหน้าทหาร ครูประจำชั้นก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ หัวหน้า จำไว้ว่าใน 1 อาทิตย์คุณต้องบริจาคให้กับทางโรงเรียนในนามของหวังเย่า นี่คือบัญชีของโรงเรียน”
ถ้าครูไม่พูดถึงเรื่องนี้ หวังเย่าก็อาจจะลืมไปแล้วเพราะบัวหิมะน้ำแข็งนั้นมีค่าอย่างมาก หวังเย่ายังจมอยู่กับความดีใจจนไม่ได้สนใจเรื่องอื่น หากครูไม่พูดออกมา งั้นเขาคงลืมมันไปแล้วจริง ๆ
แต่แน่นอนว่าเขาไม่มีทางลืมพนันกับเหลิ่งจื่อมู่และจ้าวซื่อได้ ยังไงซะการพนันกับพวกทหารก็ให้ผลประโยชน์กับทางโรงเรียน เขาก็ได้แค่ชื่อเสียง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
หัวหน้าทหารได้ยินแบบนั้นก็สีหน้าหม่นลงพร้อมกับบิดเบี้ยว เขาได้แต่พยักหน้าตอบรับ
1 ล้านเครดิตอาจจะฟังดูเยอะ แต่ในฐานะหัวหน้ากลุ่มทหารที่ดูแลที่นี่มาหลายปี เขาก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง
ยิ่งกว่านั้นการพนันนี้ก็ไม่ใช่การตัดสินใจของเขาคนเดียวแต่เป็นการตัดสินของทั้งกลุ่ม สมาชิกทุกคนควรจะรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย
เมื่อเดินทางผ่านประตูมิติออกมา หวังเย่าก็รู้สึกต่างไปจากเดิม ในตอนที่เดินเข้าไปในประตูมิติ เขารู้สึกเหมือนมีแรงบางอย่างผลักเขาอยู่
จากนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าแรงผลักนั้นได้ผลักเขาออกมาจากประตู
1 นาทีต่อมา หวังเย่าก็ได้ออกมาจากเขตลับและพบกับโลกที่คุ้นเคย โลกที่มีท้องฟ้าสดใส โลกที่มีซากปรักหักพังอยู่ทั่วทุกที่
ที่ทางเข้านั้นมีลิงภูเขารออยู่ มันยังถือเชือกสลิงไว้ในมือและเตรียมพร้อมที่จะส่งคนลงไป เมื่อเห็นแบบนั้น หวังเย่าก็เข้าไปจับเชือกก่อนจะเดินทางลงไป
ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาไม่อาจจะโดดลงจากที่สูงหลายสิบฟุตได้ ถึงจะใช้สกิลของการ์ฟิลด์ แต่เขาก็โดดได้สูงแค่ 20 เมตรเท่านั้น
เมื่อเป็นแบบนั้น มันก็ไม่ปลอดภัยที่เขาจะโดดจากที่สูงระดับนี้ลงไป
หลังจากนั้นนักเรียนก็มาจับกลุ่มรวมกันก่อนจะเดินทางกลับไปที่เมืองภายใต้การนำของพวกครู
“ทุกคนอย่าเพิ่งผ่อนคลาย มันยังมีอันตรายอยู่ระหว่างทางกลับไปที่เมือง” ครูประจำชั้นพูดขึ้น
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่หลังจากการทดสอบจบลง การที่พวกเขาได้พบกับหมีป่า, ค้างคาวเหมันต์รัตติกาลและงูเลือดก็ทำให้พวกเขาพัฒนาตัวเองขึ้นมาไม่ใช่น้อย
หวังเย่าเดินอยู่ด้านหลังของกลุ่มนักเรียนอย่างเงียบ ๆ
ยังไงซะการทดสอบนี้เขาก็ได้รับผลประโยชน์กลับมามากที่สุด ถึงเขาจะแพ้พนันให้กับจ้าวซื่อและเหลิ่งจื่อมู่ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะมูลค่าของบัวหิมะน้ำแข็งนั้นมีค่าอย่างน้อยก็ 10 ล้านเครดิตแล้ว
แต่เหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้เงียบไปนั้นก็เพราะว่าเขาคิดถึงอนาคตว่าจะเข้ามหาลัยดีรึไม่
หลังจากที่คิดได้สักพักเขาก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยจำเป็น ด้วยการที่มีระบบวิวัฒนาการสัตว์อสูรอยู่กับตัว มันไม่จำเป็นที่จะต้องเดินตามเส้นทางที่ใครกำหนด เพื่อจะได้มาซึ่งพลัง
การเข้ามหาลัยนั้นเป็นการจำกัดเขา มันต้องใช้เวลาอย่างมากในการเรียนรวมถึงการใช้เส้นสาย แต่สำหรับเขาแล้วเรื่องพวกนี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรนัก
“คงต้องพักเรื่องเรียนไว้ก่อน” เขาตัดสินใจ แน่นอนว่าเรื่องนี้คนอื่น ๆ คงไม่เข้าใจ แต่หวังเย่าไม่ต้องการให้ใครมาเข้าใจ เพราะเป้าหมายของเขาคือต้องแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุด