ตอนที่ 59 ปรากฏการณ์ประหลาด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

พวกนางเดินอย่างรวดเร็วไปตามทิศทางของเสียง และเป็นไปตามที่คาดไว้ พวกนางเห็นศิษย์คนอื่นๆ ที่มาสอบอีกหลายคนในบริเวณร้อยเมตร เห็นพวกเขาถูกฝูงผีรายล้อมอยู่ตรงกลาง มีเพียงข่ายพลังที่ยังพอต้านเอาไว้ แต่ข่ายพลังนั้นเต็มไปด้วยรอยร้าวมากมายแล้ว ดูท่าทางจะประคองไว้ได้อีกไม่นาน ในฝูงผีนั้นก็มีผีตัวหนึ่งคอยควบคุมอยู่ตรงกลาง 

 

 

พวกนางตกตะลึง ไม่คิดว่าที่นี่ก็มีผีมากมายเช่นนี้ เหมือนกับสถานการณ์ก่อนหน้านี้ทุกประการ อีกทั้งพวกเขาจะไม่รู้เลยว่ามีคนอยู่ตรงนี้ด้วย 

 

 

เมื่อเห็นว่าผีเหล่านั้นกำลังจะทำลายข่ายพลังได้สำเร็จ ถังเฉินได้สติกลับมาก่อน เขาหยิบยันต์เปลวเพลิงออกมาอีกครั้งแล้วโยนมันออกไป ในเวลาต่อมาเปลวไฟก็ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เปลวไฟสีแดงที่ลุกโชนขึ้นได้กลืนกินผีไปเสียส่วนใหญ่ หยุดยั้งไม่ให้พวกมันได้เข้าใกล้ 

 

 

“เร็วเข้า เก็บวิญญาณ!” ถังเฉินหันกลับมาเตือนเขา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถเก็บผีจำนวนมากเพียงลำพังได้ 

 

 

จากนั้นชายแก่และคนอื่นๆ ถึงได้ดึงสติกลับมา นำยันต์เก็บผีออกมา และเริ่มกำจัดผีในที่เกิดเหตุ 

 

 

ผีที่อยู่ตรงกลางดูเหมือนจะรู้ถึงแผนของพวกนาง ทันใดนั้นส่งเสียงกรีดร้องออกมา สั่งการให้ฝูงผีหันกลับมาโจมตีพวกนางแทน พวกนางใจหล่นลงไปในทันที ผีที่นี่มากกว่าเมื่อกี้อย่างมาก พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องเอายันต์และอาวุธออกมา อีกทั้งยังต้องจัดการกับมันอย่างจริงจัง 

 

 

แต่มีผีมากเกินไป ไม่ถึงชั่วครู่พวกนางก็ถูกขังเช่นกัน ความเร็วในการเก็บวิญญาณนั้นเทียบไม่ได้กับความเร็วในการรวมตัวของวิญญาณ เสียงร้องโหยหวนของผีร้ายดังขึ้นรอบหู 

 

 

ถังเฉินที่อยู่ด้านข้างดูเหมือนจะเริ่มโกรธ เขาถอนหายใจออกมาและเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “หาที่ตาย!” หลังจากพูดเสร็จ เขาก็หยิบยันต์เปลวไฟออกมาอีกครั้ง 

 

 

อวิ๋นเจี่ยวมีลางสังหรณ์ในใจ ก่อนจะหยุดเขาเอาไว้ “เดี๋ยวก่อน! ผีนี้มันผิดปกติ” 

 

 

“หากรอต่อไป พวกเราจะถูกขังด้วย!” ถังเฉินไม่ฟัง เขาโยนยันต์ไปทางฝั่งตรงข้าม 

 

 

เห็นเพียงแต่ยันต์บินไปทางผีร้าย ไม่รู้เป็นเพราะว่าผีร้ายตัวนี้หยิ่งยโสเกินไปหรือไม่ มันไม่แม้แต่จะหลบ ยันต์ติดอยู่บนหัวของผีร้ายอย่างแม่นยำ วินาทีถัดมา เปลวไฟอันวาววับก็สว่างขึ้นอีกครั้ง และกลืนวิญญาณผีร้ายไปในทันที ผีร้ายถูกเผาไหม้อย่างสมบูรณ์ในเวลาไม่ถึงครู่หนึ่ง 

 

 

ทันทีที่ผีร้ายถูกกำจัด ฝูงผีนั้นราวกับสูญเสียการควบคุม พวกมันสงบลงในทันทีและไม่เข้าใกล้คนอีกต่อไป แม้แต่ถังเฉินก็ยังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่มันจะดำเนินไปอย่างราบรื่น เมื่อคิดถึงคนไม่กี่คน เขาก็ไม่ได้คิดลึกลงไปอีก พลางเก็บวิญญาณพลางเดินไปหาคนสองสามคนที่ติดอยู่ตรงกลาง 

 

 

“ขอบคุณท่านสหายที่ช่วยเหลือ” ใบหน้าของคนที่อยู่ตรงกลางเต็มไปด้วยความสุขจากการรอดชีวิต 

 

 

ถึงแม้เป็นกลุ่มคนที่พบฝูงผีที่ควบคุมโดยผีร้ายเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับพวกเขาที่ไม่ได้รับการบาดเจ็บเลยแล้ว ศิษย์กลุ่มนี้ดูน่าเวทนาอย่างมาก 

 

 

พวกเขามีทั้งหมดห้าคน สี่คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากการถูกผีเข้าโจมตี อีกคนอาการหนัก เขานอนอยู่บนพื้น ขยับไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือด อีกทั้งใบหน้ายังซีดเซียวเห็นถึงพลังวิญญาณลางๆ 

 

 

“เขาถูกพลังวิญญาณของผีร้ายโจมตี!” อวิ๋นเจี่ยวเหลือบมองคนบนพื้น ชายที่อยู่บนพื้นมีรอยแผลเป็นแถบบริเวณหน้าอก แต่บาดแผลนั้นไม่ได้ทำให้เลือดไหลออกมา แต่มีพลังงานสีดำออกมา ซึ่งค่อยๆ กลืนกินพลังชีวิตของเขา 

 

 

“เขาต้องการช่วยพวกเรา! จนถูกวิญญาณร้ายของผีตัวนั้นโจมตี” ศิษย์อีกคนที่สวมชุดเขียวพูดอย่างกังวล ดูเหมือนเขากำลังจะร้องไห้ออกมา ก่อนจะอ้อนวอนพวกนาง “ท่านสหาย พวกท่านมียารักษาอยู่กับตัวหรือไม่“ 

 

 

“ฉันมียาฟื้นฟู” ถังเฉินไม่ลังเลและหยิบยาเม็ดออกมาโดยตรง 

 

 

“กินยาฟื้นฟูไม่ได้!” อวิ๋นเจี่ยวขัดทันทีที่เขากำลังจะยื่นออกไป “ยาฟื้นฟูคือการเติมพลังให้กับเลือด เขาถูกโจมตีโดยพลังวิญญาณ การกินยาฟื้นฟูจะเร่งให้ตายเร็วขึ้นเท่านั้น“ 

 

 

สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป และศิษย์ในชุดเขียวก็ยิ่งกังวลมากขึ้น “ถ้าอย่างนั้น…ควรทำอย่างไรดี?” 

 

 

“ข้าลองดู” อวิ๋นเจี่ยวหยิบเข็มเงินที่อยู่ข้างตัวออกมา 

 

 

ขณะที่นางกำลังจะปักเข็มเพื่อผนึกหัวใจของอีกฝ่าย ถังเฉินที่อยู่ถัดจากนางกลับตกใจและจับมือนางในทันที “เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?!” 

 

 

“ช่วยชีวิตคน!” นางตอบ 

 

 

“เจ้าฝึกฝนด้านข่ายพลังไม่ใช่หรือ ไม่ใช่หมอรักษา อาจทำให้เขาตายได้!” ถังเฉินไม่เชื่อ 

 

 

อวิ๋นเจี่ยว “…” ใครบอกเจ้าว่าข้าฝึกฝนข่ายพลัง 

 

 

“ข้าคิดว่าควรใช้ยันต์ขนส่งส่งเขากลับไปที่สำนักเทียนซือ” ถังเฉินขมวดคิ้วและมองคนอื่นๆ “มีหมอรักษาในสำนักเทียนซือ ซึ่งสามารถช่วยเขาได้อย่างแน่นอน” 

 

 

“แต่…” ศิษย์ในชุดเขียวมองดูคนที่อยู่บนพื้นอย่างลังเลใจ “ถ้าใช้ยันต์ขนส่ง การทดสอบนี้…” จะนับเป็นการสละสิทธิทันที 

 

 

“ชีวิตจะไม่มีอยู่แล้ว จะสนใจการทดสอบอีกหรือ!” ถังเฉินเหลือบมองเขาอย่างไม่พอใจ “พลังวิญญาณบนร่างกายของเขากำลังจะบุกเข้าไปในหัวใจของเขา และอาจฆ่าเขาได้ทุกเมื่อ” 

 

 

ชายหนุ่มชุดเขียวแลกเปลี่ยนสายตากับศิษย์คนอื่นในกลุ่มก่อนแล้วพยักหน้า ควานหายันต์เคลื่อนย้ายในตัวของคนที่อยู่บนพื้นก่อนจะใช้มัน เห็นเพียงแต่แสงสีขาวสว่างขึ้นทันที ก่อนจะห่อหุ้มคนที่อยู่บนพื้น คนที่กำลังจะถูกส่งกลับไป ทันใดนั้นแสงสีขาวก็จางลงอีกครั้ง และยันต์ขนส่งก็กลายเป็นเถ้าถ่านไป 

 

 

“หือ?” ศิษย์ในชุดเขียวมองไปยังคนที่ยังอยู่ที่เดิมด้วยสายตาเหลือเชื่อ “ทำไมถึงไม่ส่งกลับไปที่สำนักเทียนซือ” 

 

 

ทุกคนดูตะลึงงัน ก่อนที่ศิษย์ในชุดเขียวหยิบยันต์เคลื่อนย้ายของเขาออกมาลองอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ และพบว่าคนที่ควรถูกส่งกลับไปนั้นยังอยู่ที่เดิม ไม่เคลื่อนไหวเลย 

 

 

เกิดอะไรขึ้น? คนสิบคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุเปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย หากยันต์นั้นใช้ไม่ได้ แล้วพวกเขาจะกลับได้อย่างไร? 

 

 

เพียงแค่คิดได้เท่านี้ ทันใดนั้นพื้นดินก็สั่นสะเทือนครู่หนึ่ง ห่างจากพวกเขาออกไปไม่กี่เมตร มีแสงสีแดงพุ่งออกมาจากพื้น ก่อนจะพุ่งเข้าหาพวกนางโดยตรง พวกนางเงยหน้ามอง พบว่าไม่เพียงแต่ด้านข้าง แต่มีอีกหลายสิบดวงปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า แสงเหล่านั้นส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน และเริ่มมาบรรจบกัน 

 

 

ทันใดนั้น แสงสีแดงก็ระเบิดออกราวกับดอกไม้ไฟ เกิดเป็นภาพนกยักษ์ที่ลุกเป็นไฟ นกยักษ์บินวนอยู่ในอากาศรอบหนึ่ง ก่อนจะส่งเสียงร้องดังก้องไปทั่ว วินาทีต่อมาก็หายไปราวกับดอกไม้ไฟ เหมือนว่าไม่เคยมีมาก่อน 

 

 

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไปจากการปรากฏตัวของแสงสีแดงไปจนถึงการหายตัวไปของนกยักษ์ใช้เวลาเพียงสามอึดใจเท่านั้น ราวกับว่าเป็นการแสดงดอกไม้ไฟจริงๆ 

 

 

“นั่นอะไร…เมื่อครู่นี้?” ทำไมถึงได้มีนกยักษ์ปรากฎตัวขึ้น ภาพหลอน? ทุกคนต่างตกตะลึง มองหน้ากันครู่หนึ่ง และก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร 

 

 

แต่อวิ๋นเจี่ยวกลับหันหน้ามองไปที่จุดที่แสงสีแดงเพิ่งปรากฏขึ้น เมื่อกี้ตรงนั้น…ดูเหมือนจะเป็นที่ที่ผีร้ายยืนอยู่? และวิธีที่นกยักษ์ปรากฏตัวขึ้น ทำไมถึงช่างเหมือนกับ…ข่ายพลัง?