ในเวลานี้ฉินอวี้โม่และคนอื่นๆ อยู่ไม่ไกลจากถ้ำที่อยู่อาศัยของยูนิคอร์นสีนิลแล้ว
แท้จริงแล้วเหตุผลที่ทำให้คนของกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนค้นพบที่ซ่อนตัวของยูนิคอร์นสีนิลได้ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มของฉินอวี้โม่ด้วยเช่นกัน
พวกเขามาเยือนบึงสายหมอกแห่งนี้และออกค้นหากันแทบพลิกผืนป่าแต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ ของเจ้าอสูรมายาระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นเลย ทว่าในขณะที่กำลังค้นหากันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นั้น ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นว่า จู่ๆ ยูนิคอร์นสีนิลก็บินออกมาจากทิศทางใดไม่ทราบและข้ามผ่านจุดที่พวกเขาอยู่ไป พวกเขาทุกคนดีใจเป็นอย่างมากและพยายามไล่ตามสุดฤทธิ์จนในที่สุดก็มาพบกับถ้ำแห่งนี้
ชื่อเซียวเดินนำอยู่หน้าสุด ขณะที่หลินจิ้งหงเดินตามเขาไปติดๆ ส่วนหานโม่ฉือและฉินอวี้โม่ก็เดินเคียงคู่กันตามหลินจิ้งหงไป
“ฉินอวี้โม่ ข้าพบว่ายิ่งอยู่กับเจ้ามากเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งรู้จักเจ้ามากขึ้น และข้าก็ยิ่งรู้สึกถึงความไม่ธรรมดาของเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ”
ในขณะที่หลินจิ้งหงเดินอยู่ เขาก็เอ่ยปากพูดกับฉินอวี้โม่ด้วยความสงสัย
“เจ้ารู้หรือไม่ ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวตายมาหลายตัวแล้วนะ”
ฉินอวี้โม่ตอบกลับไปด้วยวาจาหยอกล้อ นางกำลังหลีกเลี่ยงเพราะไม่ต้องการตอบคำถามนั้นของหลินจิ้งหง
“ข้าไม่กลัว แม้ว่าข้าจะเป็นแมว แต่ก็เป็นแมวที่มีกรงเล็บแหลมคม ยิ่งกว่านั้นแมวมีถึงเก้าชีวิต ไม่ตายง่ายๆ หรอก”
หลินจิ้งหงโต้กลับ มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ ดูเหมือนว่าเวลานี้เขาจะอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษ
….เมื่อได้ยินบทสนทนาเชิงหยอกเย้าของหลินจิ้นหงและฉินอวี้โม่ ใบหน้าเยือกเย็นของมนุษย์น้ำแข็งหานโม่ฉือที่เดินอยู่ถัดจากฉินอวี้โม่ก็ดูเหมือนจะเย็นเฉียบมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม…
หลังจากเดินต่อไปอีกกว่าหนึ่งก้านธูป ชื่อเซียวที่อยู่ด้านหน้าก็เริ่มชะลอฝีเท้าลง
“ทุกคนระวังตัว เราเกือบจะถึงปากถ้ำนั่นแล้ว”
ชื่อเซียวกล่าวเตือนทุกคน
ฉินอวี้โม่เองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นลมหายใจที่เป็นเอกลักษณ์ของยูนิคอร์นได้บางๆ จากพื้นที่ด้านหน้า ห่างออกไปไม่ไกลนัก
“ฉินอวี้โม่ อย่าอยู่ห่างจากพวกเรา ครั้งนี้ยูนิคอร์นสีนิลอาจจะจู่โจมเจ้าอีกก็ได้”
หลินจิ้งหงเปลี่ยนมาเดินอยู่ด้านข้างสตรีเพียงผู้เดียวในกลุ่มอย่างเงียบๆ ตอนนี้ฉินอวี้โม่มีหลินจิ้งหงและหานโม่ฉืออยู่ขนาบซ้ายขวาโดยตัวนางนั้นอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสอง
พวกเขายังจำเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ได้ดี ถ้าในตอนนั้นฉินอวี้โม่ไม่ไหวตัวทันหรือถ้าหากนางช้าเกินไปอีกเพียงก้าวเดียวล่ะก็ การลอบโจมตีครั้งนั้นของยูนิคอร์นสีนิลก็คงจะสำเร็จไปแล้ว
พวกเขาเดินกันต่ออีกไม่กี่ก้าวกลุ่มหมอกด้านหน้าก็เริ่มเบาบางลง ตรงหน้าของพวกเขา ณ จุดที่ห่างออกไปอีกไม่ไกลนักปรากฏให้เห็นเป็นถ้ำแห่งหนึ่ง
และก็เป็นเช่นที่กองกำลังทหารรับจ้างชื่อเหยียนกล่าวไว้ไม่มีผิด พื้นที่หน้าถ้ำแห่งนั้นมีกลุ่มของอสูรมายาคอยเฝ้าเอาไว้ เมื่อเห็นมนุษย์กลุ่มใหญ่เดินใกล้เข้ามา พวกมันก็ลุกขึ้นยืนและส่งเสียงร้องคำรามเป็นการข่มขู่ทันที
พื้นที่บริเวณนั้นมีอสูรมายาอยู่หลายสิบตัว ตัวที่มีระดับสูงที่สุดเป็น *‘อสูรมายาระดับภูตเก้าดารา’*และตัวที่อ่อนแอที่สุดคือ ‘อสูรมายาระดับต่ำเจ็ดดารา’
พวกมันอยู่รวมกันไม่ซ้ำชนิดมีทั้ง เสือ สิงโต หมาป่า จระเข้ และอินทรี
พวกมันบางตัวกำลังบินอยู่บนฟ้า บางตัวก็วิ่งไปมาอยู่บนพื้น บ้างก็เกาะอยู่ตามกิ่งไม้ หรือแม้แต่โผล่ออกมาจากป่าที่อยู่โดยรอบ ตอนนี้อสูรมายานานาชนิดออกมายืนประจันหน้ากับกลุ่มของฉินอวี้โม่และเหล่าทหารรับจ้าง
“สหายชื่อ ดูเหมือนว่ามันจะมีเยอะอย่างที่ท่านว่าจริงๆ ด้วย!”
เมื่อเห็นอสูรมายาหลายสิบตัว หลินจิ้งหงก็เกิดความตกตะลึงจนอดที่จะอุทานออกมาไม่ได้
‘นี่เป็นเรื่องประหลาด’ และเขาก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเหตุใดถึงได้มีอสูรมายามาเฝ้าอยู่หน้าถ้ำของยูนิคอร์นสีนิลอย่างมากมายได้ถึงเพียงนี้
“เยอะจริงๆ ข้างในถ้ำนี้มีของล้ำค่าอะไรอยู่รึเปล่า?”
ฉินอวี้โม่เอ่ยถาม ภาพที่ได้เห็นทำให้นางตื่นตะลึงไม่น้อย และในเรื่องนี้ก็ทำให้นางเกิดข้อสงสัยว่าอาจจะมีสมบัติล้ำค่าบางอย่างอยู่ภายในถ้ำ จึงนำพาให้เหล่าอสูรมายามารวมตัวกันมากมายขนาดนี้
“หึ หึ มีอะไรอย่างนั้นหรือ? แค่เข้าไปดูข้างในก็จะได้รู้เองนั่นแหละ”
หลินจิ้งหงชักขี้เกียจจะคาดเดา เขาพูดขึ้นอย่างใจกล้าก่อนจะหันไปมองเหล่าบุรุษชุดรัดกลุ่มแห่งกองทหารรับจ้างชื่อเหยียน
เมื่อเห็นหลินจิ้งหงมองมา ชื่อเซียวก็พยักหน้าและกล่าวขึ้น “หน่วยที่หนึ่งตามข้ามา หน่วยอื่นๆ อยู่ด้านนอกตรึงกำลังสกัดกั้นฝูงอสูรมายาไว้”
เพราะความเป็นมืออาชีพ และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ภายในกองทหารรับจ้างชื่อเหยียนจึงถูกแบ่งเป็นหน่วยย่อยอีกสิบหน่วย โดยแต่ละหน่วยจะประกอบด้วยทหารรับจ้างห้าคน ถ้ำแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนักจึงไม่ควรจะนำคนเข้าไปพร้อมกันจำนวนมาก ชื่อเซียวแบ่งให้คนตามเขาเข้าไปในถ้ำห้าคน และให้คนอื่นๆ ที่เหลือรับมือกับอสูรมายาอยู่ด้านนอก
“จิ้งหง เจ้ารออยู่ด้านนอก”
หานโม่ฉือผู้ที่ปกติจะพูดน้อยเสียจนคล้ายพูดไม่ได้ จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเย็นชา และคำพูดที่หลุดออกจากปากของเขาก็ทำให้หลินจิ้งหงถึงกับผงะไป
“ทำไม?”
คำพูดของสหายมนุษย์น้ำแข็ง ทำให้หลินจิ้งหงรู้สึกไม่ยินยอม เขาเองก็อยากจะเข้าไปในถ้ำนั้นเพื่อให้ได้เห็นยูนิคอร์นสีนิลกับตาและอยากจะรู้ด้วยว่าด้านในมีสมบัติอยู่จริงๆ หรือไม่
“ข้าไม่อยากรออยู่ที่นี่และรับมือกับพวกอสูรมายาปลายแถว”
หานโม่ฉือจ้องตาหลินจิ้งหงเขม็งขณะที่ฝ่ายคุณชายเจ้าสำอางก็จ้องตอบไม่ลดละเพราะอยากต่อต้าน ทว่าหลังจากสงครามสายตาผ่านไปเพียงชั่วครู่หลินจิ้งหงก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แววตาของสหายมนุษย์น้ำแข็งทำให้คุณชายหลินหยุดถามและได้แต่พยักหน้าอย่างอับจนหนทาง
แน่นอนว่าฉินอวี้โม่ไม่เข้าใจความหมายของสายตานั้น แต่นางก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา
หลังจากหารือกันเรียบร้อยแล้ว กลุ่มภาคีล่ายูนิคอร์นสีนิลก็เริ่มเปิดฉากบุกเข้าใส่ฝูงอสูรมายา