บทที่ 58 ผ่าเปิด คะแนนติดลบ!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เฉินชางลืมตาขึ้น สูดหายใจลึกๆ สองครั้ง!

เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้แซ่เฉินแล้ว แต่กลายเป็นแซ่ซุน ถูกขังอยู่ในห้องผ่าตัดห้าร้อยปี!

เมื่อคิดถึงไส้ติ่ง เขาก็รู้สึกคันคะเยอขึ้นมาทันที…

แต่ทั้งๆ ที่เป็นเช่นนั้น ในสมองของเขากลับไม่มีอย่างอื่น มีแต่ไส้ติ่งเต็มไปหมด!

ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน ไส้ติ่งเรื้อรัง หนองในไส้ติ่ง…ไส้ติ่งบลาๆๆ…

สิ่งที่ได้มาช่างมากมายจริงๆ!

[ติ๊ง! ยินดีด้วย ทักษะการผ่าตัดไส้ติ่งของคุณเพิ่มระดับ: ระดับสมบูรณ์แบบ!]

ความจริงเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนนี้ เฉินชางก็ไม่รู้สึกเหนือคาดเลยสักนิด เพราะถ้าไม่อยู่ในระดับสมบูรณ์แบบ เฉินชางคงรู้สึกอยากตายจริงๆ มีเพียงจิตวิญญาณของตนที่รู้ว่าเขาผ่าตัดไส้ติ่งไปมากน้อยแค่ไหน

คงมีเพียงวิญญาณที่รู้ว่าเขาผ่าท้องไปมากน้อยแค่ไหน!

เฉินชางรู้สึกเหมือนได้เรียนทักษะลับมาอย่างหนึ่งที่เรียกว่าเห็นท้องรู้ไส้ติ่ง!

สมัยโบราณมีการดูกระดูกคำนวณชีวิต ดูมือคำนวณโชคชะตา ตอนนี้ฉันมีวิชาดูท้องวินิจฉัยไส้ติ่ง

แน่นอนว่านี่ออกจะเกินจริงไปบ้าง

จะวินิจฉัยไส้ติ่งให้แม่นยำได้อย่างไรน่ะหรือ สิ่งสำคัญอยู่ที่ประวัติผู้ป่วย ประวัติอาการ ตลอดจนการตรวจสอบลักษณะร่างกายของผู้ป่วยอย่างละเอียด จากนั้นจึงวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนจึงจะได้การคาดเดาที่สมบูรณ์แบบออกมา

เพียงแต่ทำไมไส้ติ่งที่ตนเองตัดถึงไม่มีลักษณะพิเศษล่ะ?

จู่ๆ เฉินชางก็ตบหน้าผากตัวเอง “อยู่ในระดับสมบูรณ์แบบแล้วยังต้องการลักษณะพิเศษอะไรอีก?”

แค่คิดจะพัฒนามาถึงระดับสมบูรณ์แบบก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว

เฉินชางย้อนคิดไปถึงตอนแรก ประสบการณ์บางอย่างของเหล่าเฉินเหนือระดับทักษะไปอย่างชัดเจน แต่ทักษะยังไม่ผ่าน ถึงแม้ประสบการณ์จะมากพอแต่ความเข้าใจยังไม่ถึงขั้น

การเรียนหมอเป็นเหมือนการทดสอบพรสวรรค์ ศัลยแพทย์ก็เป็นเช่นนี้

ดูท่าทาง [บัตรฝึกพิเศษ] จะเป็นของดีจริงๆ แต่ว่า…เฉินชางไม่คิดใช้บ่อยๆ เนื่องจาก…ทุกครั้งที่ใช้ก็เหมือนนั่งอยู่ในห้องขัง

……

……

ตอนกลางวัน เฉินปิ่งเซิงมาหาเฉินชาง “บ่ายวันนี้จางจื้อซินมีผ่าตัดไส้ติ่งหลายเคส คุณตามผมไปด้วยนะครับ คุณไปผ่าตัด ผมจะช่วยชี้แนะข้อด้อยของคุณ”

“การสอบคราวนี้คุณก็อย่าเครียดมากนะครับ” ขณะที่เหล่าเฉินพูด ในใจก็รู้สึกไม่สบายนัก กระทั่งรู้สึกตำหนิตนเองด้วยซ้ำ “อา ต้องโทษผมที่สองปีมานี้ให้คุณเป็นผู้ช่วยอยู่ในแผนกฉุกเฉินมาตลอด ทำแต่งานจิปาถะ ไม่ได้ร่วมผ่าตัดเท่าไหร่ นี่เป็นความรับผิดชอบของผมจริงๆ”

เฉินชางยิ้ม พูดปลอบใจ “หัวหน้าครับ คุณไม่คิดว่าผมผ่าตัดไส้ติ่งได้ดีมากหรือ?”

เฉินปิ่งเซิงถลึงตาใส่เฉินชางอย่างไม่สบอารมณ์ นี่มันเวลาอะไรแล้ว เด็กคนนี้ยังมาล้อเล่นอยู่อีก

แต่ตอนนี้เฉินปิ่งเซิงไม่อยากพูดโจมตีเขา ไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับเขาเหมือนปกติ ทั้งยังพูดสนับสนุนด้วยซ้ำ “ผมคิดว่าคุณเป็นหนึ่งในคนที่มีพรสวรรค์ด้านการผ่าตัดยอดเยี่ยมที่สุดเลยนะครับ ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น อนาคตไร้ขีดจำกัดแน่นอน แต่ตอนนี้ประสบการณ์ด้านการแพทย์ของคุณยังมีไม่พอ”

“ก็เหมือนกับการผ่าตัดไส้ติ่งหลายเคสของจางจื้อซินในวันนี้ คุณไปดูหมอจางทำก่อน จากนั้นอีกสองเคสหลังคุณค่อยมาทำ พวกเราจะดูข้อด้อยของคุณและช่วยชี้แนะส่วนที่ยังขาดไป”

ตอนนี้เฉินปิ่งเซิงคิดเตรียมตัวเอาในเวลากระชั้นชิดแล้ว

เฉินชางยิ้ม พยักหน้าแล้วกล่าวขอบคุณ

เหล่าเฉินกลัวว่าเฉินชางจะไม่ให้ความสำคัญจึงกล่าวกำชับอีกครั้ง

“โอกาสครั้งนี้หาได้ยากจริงๆ ความจริงโควต้าของโรงพยาบาลสามอันดับแรกจะเป็นของผู้ที่จบปริญญาโทขึ้นไป ถ้าคุณคิดจะซื้ออย่างน้อยก็ต้องใช้เงินมหาศาล ซึ่งจะต้องผ่านการสอบข้อเขียนก่อน และตอนนี้การสอบบรรจุก็ยากขึ้นเรื่อยๆ การให้โอกาสกับบุคลากรในโรงพยาบาลแบบนี้มีมาน้อยมาก”

ตอนนี้เฉินปิ่งเซิงรู้สึกสับสนในใจ ด้านหนึ่งก็กลัวว่าเฉินชางจะลำพองใจ ไม่ให้ความสำคัญกับศัตรู อีกด้านหนึ่งก็ไม่กล้าพูดใจร้ายเกินไป กลัวจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้เฉินชาง

เหล่าเฉินที่ปกติอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ตอนนี้ถึงกับมีท่าทางเหมือนคุณป้าคนหนึ่ง

เฉินปิ่งเซิงอารมณ์เสียจริงๆ ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าเฉินชางมีพรสวรรค์ในด้านการผ่าตัด แต่ว่า…ต่อให้พรสวรรค์ดีแค่ไหนก็ยังต้องใช้ประสบการณ์ทางการแพทย์อันยาวนานมาเป็นเครื่องรับประกัน จะอย่างไรเฉินชางก็ผ่าตัดมาน้อยเกินไป

หลังจากเฉินชางเข้าร่วมทำงานในแผนกฉุกเฉิน งานที่ทำมากที่สุดก็คืองานใช้แรง ส่วนเรื่องผ่าตัดก็มาเป็นผู้ช่วยบ้าง นี่เป็นความเคยชินไปแล้ว

แผนกฉุกเฉินมีงานจุกจิกเยอะมาก ก่อนเฉินชางมาก็มีหมอคนหนึ่งมาทำงานชั่วคราว แต่หลังจากเฉินชางมาแล้ว เฉินปิ่งเซิงก็รู้สึกว่าความกดดันลดลงไม่น้อย อย่างน้อยเฉินชางก็เขียนประวัติคนไข้ได้มาตรฐาน สองปีกว่านี้ เฉินปิ่งเซิงไม่เคยเห็นเฉินชางถูกลงโทษจากการเขียนประวัติคนไข้ไม่ได้มาตรฐานเลยสักครั้ง

แผนกประกันสุขภาพเป็นแผนกที่มหัศจรรย์แผนกหนึ่ง เฉินปิ่งเซิงสงสัยว่าผลงานของบุคลากรในแผนกประกันสุขภาพมาจากหมอที่ถูกทำโทษเหล่านั้น

ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรคนไหนในแผนกประกันสุขภาพก็มักจะหาส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานจากประวัติคนไข้ของคุณ จากนั้นก็หักเงินสามพันห้าพัน เคสหนึ่งได้สามพันห้าพัน น่ากลัวจริงๆ!

ความสัมพันธ์ระหว่างคนเราเป็นสิ่งที่เกิดจากการสั่งสม ที่เหล่าเฉินพอใจเฉินชาง เพราะการมาถึงของเฉินชางทำให้คนอื่นหาข้อบกพร่องไม่เจอ

ทั้งสองเดินไปด้วยกัน เมื่อถึงห้องผ่าตัดพบว่าจางจื้อซินกำลังเปลี่ยนชุดอยู่ เมื่อเห็นเฉินชางเดินมาก็พูดว่า “เวลาเร่งรัด ภารกิจสำคัญ คุณต้องพยายามนะครับ”

เฉินชางพยักหน้า

เฉินปิ่งเซิงอดถามไม่ได้ว่า “เหล่าจาง นั่น…ทักษะการผ่าตัดของโจวเสี่ยวตงแผนกศัลยกรรมทั่วไปคนนั้นเป็นอย่างไรหรือครับ?”

จางจื้อซินมองเฉินชาง จากนั้นจึงมองไปยังเฉินปิ่งเซิง ทอดถอนใจออกมา “เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์มากครับ เป็นลูกศิษย์ของหนิวเฉียนเลี่ยงแผนกศัลยกรรมทั่วไปแห่งมหาวิทยาลัยแพทย์ตะวันออก ตอนนี้ถือว่าเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ในแผนกพวกเรา หัวหน้าแผนกให้ความสำคัญมาก ปกติจะมอบการผ่าตัดเล็กๆ น้อยๆ ให้เขาทำ ทำคนเดียวก็ไม่มีปัญหา ตอนนี้สอบระดับกลางผ่านแล้ว คาดว่าปลายปีจะมีการชี้วัดออกมา”

เมื่อจางจื้อซินกล่าวออกมาเช่นนี้ทั้งสามก็จมลงสู่ความเงียบงัน

เดิมทีนี่คือโอกาสที่จะมอบให้เฉินชาง แต่เพราะสาเหตุต่างๆ นานา ตอนนี้จึงต้องมาแข่งขันกับคนอื่น ทั้งๆ ที่เป็นคนมีความสามารถแท้ๆ

ทั้งสามเดินไปยังห้องผ่าตัด ระหว่างทางเฉินปิ่งเซิงเดินออกห่างจางจื้อซิน ดึงเฉินชางเอาไว้ กระซิบว่า “เสี่ยวเฉิน คุณวางใจเถอะ ไม่ว่าคุณจะสอบผ่านหรือไม่ ผมเฉินปิ่งเซิงขอรับประกันเลยว่าอย่างน้อยคุณต้องได้เข้าระบบสัญญาแน่”เฉินชางยิ้มแล้วพยักหน้า ความจริงเฉินชางซาบซึ้งกับความใส่ใจของเหล่าเฉินมาก ถึงอย่างไรตนก็ไม่มีญาติมิตรที่นี่ สำหรับความใส่ใจที่อีกฝ่ายมีให้ตน เรียกได้ว่าไม่เลวเลยทีเดียว

เฉินปิ่งเซิงถอนใจ ไม่ได้พูดอะไรมาก ทำเพียงตบไหล่เฉินชางเท่านั้น

……

……

ภายในห้องผ่าตัด จางจื้อซินยกมีดผ่าตัดขึ้นเตรียมจะเริ่มการผ่าตัด

เฉินปิ่งเซิงกำชับอีกครั้ง “สังเกตให้ดีนะครับ เหล่าจางมีความเข้าใจลึกซึ้งในเรื่องการผ่าตัดไส้ติ่ง”

เฉินชางพยักหน้า!

จางจื้อซินเป็นศัลยแพทย์หลัก เฉินปิ่งเซิงเป็นผู้ช่วย ส่วนงานของเฉินชางคือสังเกตและศึกษาอย่างใส่ใจ

เพียงแต่เมื่อจางจื้อซินยกมีดขึ้นมาผ่าลงไป เฉินชางก็ทำการวิเคราะห์ตามสัญชาตญาณ จากนั้น…ก็พูดคำที่ปรากฏในสมองออกมาอัตโนมัติ

“ผ่าเปิด คะแนนติดลบ!”

ถูกต้อง นี่เป็นความรู้สึกแรกของเฉินชาง

หากการลงมีดเมื่อครู่นี้จางจื้อซินออกแรงมากขึ้นอีกนิดจะดีกว่า ยิ่งไปกว่านั้นมุมของมีดและมุมของผิวหนังค่อนข้างทำได้สวย เฉินชางขมวดคิ้วเล็กน้อย

นี่ไม่ใช่การเรียน นี่คือการทดสอบสนามจริง!