ลูกชาย!
คนนี้คือลูกชายอีกคนของเธอ!!
เส้นหมี่ตื่นเต้นจนอยากบอกเขาว่าเธอคือหม่ามี๊ของเขา
ทว่าเวลาเดียวกัน ชายโฉดที่ย่อเข่าอยู่ตรงหน้าเด็กผู้ชายกล่าวหนึ่งประโยค “คนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไร โอเค ถ้าวันนี้ลูกไม่อยากไปเรียนอนุบาล งั้นก็ให้คุณอาเคพาลูกลงไปเล่น แล้วกินอะไรเล็กน้อย”
ชินจังได้ยินว่ามีของกินก็รีบตอบตกลง
ดังนั้นหลายนาทีต่อมา เส้นหมี่ก็ได้แต่ผู้ช่วยของชายโฉดพาลูกชายจากไป
“แสนรัก ทำไมคุณถึงบอกว่าฉันเป็นคนไม่เกี่ยวข้องอะไร?ทั้ง ๆ ที่ฉันเป็นหม่ามี๊ของเขานะ!”
“ออ ใช่เหรอ?แต่เท่าที่ผมรู้ก็คือ หม่ามี๊ของเขาตายแล้ว ฝังอยู่ที่สุสาน”
ผู้ชายคนนี้เห็นลูกชายตัวเองออกไปแล้วก็ลุกขึ้นรินไวน์แดงให้ตัวเองที่บาร์เครื่องดื่ม จากนั้นก็นั่งบนโซฟาในห้องรับแขกด้วยอิริยาบถสง่างาม
ทำราวกับเส้นหมี่ไม่มีตัวตน
เส้นหมี่รู้สึกเดือดดาลจนควันออกหู แต่เมื่อเจอกับถ้อยคำเช่นนี้ เธอกลับโต้แย้งไม่ได้ครึ่งคำ
ใช่ สำหรับลูกชายคนนี้ เธอได้ตายไปแล้ว หากตอนนี้เธอให้เขาเรียกเธอว่าหม่ามี๊ แล้วเธอต้องอธิบายยังไง?บอกว่าความจริงแล้วเธอยังไม่ตาย แค่ตอนนั้นไม่ได้เอาเขาเฉย ๆ หรือ?
ใบหน้าซีดเผือดของเส้นหมี่กำลังกัดริมฝีปากตัวเองแรง ๆ
แสนรักเห็นแล้วความเย้ยหยันตรงมุมปากยิ่งเด่นชัดมากขึ้น “นึกถึงได้แล้วหรือ?ผมยังคิดจะบอกลูกว่า คุณคือหม่ามี๊ของเขา?”
นิ้วขาวนวลของเส้นหมี่กำหมัดแน่น!
“แสนรัก คุณอยากทำอะไรกันแน่?ในเมื่อคุณไม่อยากให้ลูกชายรู้จักฉัน แล้วคุณพาฉันมาที่นี่ทำไม?ให้ฉันรักษาอาการคุณเหรอ?ฉันเคยบอกแล้วว่า ถึงฉันจะตาย แต่ฉันก็ไม่ยอมรักษาให้คุณเด็ดขาด”
เส้นหมี่ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันตอนที่พูดประโยคนี้
ใครจะไปรู้ ผู้ชายคนนี้กลับพูดเยาะเย้ยอย่างดูถูกว่า “คุณคิดมาแล้ว ฝีมือกระจอก ๆ อย่างคุณ ผมคงไม่โง่จนถึงขั้นฝากชีวิตไว้ที่คุณหรอก”
เส้นหมี่ “……”
เมื่อรู้สึกกริ้วโกรธถึงขีดสุดก็กลับกลายเป็นความเงียบงัน
“แล้วคุณพาฉันมาทำไม?”
“พาคุณมาทำไมหรอกหรือ?คุณไม่รู้หรือ?เส้นหมี่ ห้าปีมานี้ คุณแกล้งตายหนีปัญหา คุณรู้ตัวไหมว่าสร้างบาปกรรมอะไรไว้บ้าง?คุณลืมคนที่เป็นห่วงเป็นใยคุณ เพราะ‘การตาย’ของคุณ พวกเราต้องพบเจออะไรบ้าง”
ประโยคสุดท้าย น้ำเสียงของผู้ชายคนนี้ดุร้ายอย่างยิ่งยวด
เขาต้องเธอด้วยดวงตาหรี่ขึ้น คล้ายกับวิญญาณร้ายที่ต้องการฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ทุกเมื่อ ชวนเส้นหมี่หน้าซีดขาว ร่างกายโซเซไปด้านหลังหลายก้าวอย่างควบคุมไม่ได้
เธอจะไปลืมได้ยังไง?
ตระกูลหิรัญชาคุณท่านและยังมีครอบครัวน้าหญิงของเธอด้วย
ยิ่งคุณท่านกมลภพแล้ว ตอนนั้นท่านดีกับเธอมาก ๆ ถึงแม้ลูกชายของเขาไม่ชอบเธอ ไม่ยอมรับการแต่งงานของพวกเธอสองคน
ทว่าท่านก็ยังคงปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี
ส่วนครอบครัวของน้าหญิง หลังจากตระกูลวชิรนันท์ล้มละลาย คุณพ่อต้องเข้าคุก คุณแม่แบกรับเรื่องสะเทือนใจไม่ไหวจึงล้มป่วยตายในที่สุด ตระกูลวชิรนันท์จึงพึ่งพิงน้าหญิงเสมอมา ผู้หญิงท่านนี้ช่วยเหลือเธอนานัปการ
ทว่าต่อมา เธอกลับใช้การแกล้งตายตอบแทนบุญคุณท่าน
เส้นหมี่หลับตาด้วยความเจ็บปวด
“เรื่องพวกนี้ก็เป็นเพราะคุณเป็นคนก่อ”
“เพราะผมเป็นเหตุอย่างนั้นหรือ?คิกคิก เส้นหมี่ รู้จักปัดความผิดให้พ้นตัวจริง ๆ เลย ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะคุณยินดีแต่งงานด้วย มันจะมีจุดจบแบบนี้ไหม?ตอนจะขึ้นเตียงกับคุณสามารถวางยาได้ แต่การที่คุณแต่งเข้าบ้านตระกูลหิรัญชา มันไม่มีใครบังคับคุณนะ!”
คนนี้เป็นปีศาจขนานแท้จริง ๆ
ห้าปีผ่านไป เธอคิดว่าเมื่อเขาเคยเห็นเธอตายแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อเจอหน้ากันใหม่เขาจะเมตตากรุณาต่อเธอ ทว่าความจริงก็คือ เขาแทงเข้ารอยแผลเป็นของเธอแรง ๆ อีกครั้ง
ทำให้เธอตอบสนองไม่ทัน ความเจ็บปวดอันรุนแรงและตราตรึงใจปกคลุมทั่วทั้งร่างกายเธออีกหน
“ใช่ ไม่มีคนบังคับฉัน ฉันมันโง่เองที่แต่งเข้าบ้านตระกูลหิรัญชาของพวกคุณ แต่งกับสัตว์เดรัจฉานอย่างคุณ คุณพอใจหรือยัง?ฉันต้องเสียอนาคตของตัวเอง ทำให้ตอนนี้เหมือนไม่ใช่คนไม่ใช่ผี คุณเห็นแล้วก็สบายใจมากใช่ไหม?คุณรีบไสหัวไปเลย——”
ความบ้าคลั่งเข้ามาครอบงำเส้นหมี่คว้าสิ่งของข้างกายแล้วเขวี้ยงใส่คนสวะตรงหน้า ดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา และเส้นเลือดในนั้นล้วนเป็นความอาฆาตแค้น
แสนรักรู้สึกชะงักงัน
เขาคงคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะสติแตกกะทันหัน
เธอบ้าหรือเปล่า?
เธอด่าเขาได้ แต่ไม่ยอมให้เขาโต้กลับเธอ?
เมื่อสิ่งของที่ลอยเข้ามาใกล้จะกระแทกใส่เขาอยู่รอมร่อแล้ว เขาก็รีบขยับกายหลบหนีสิ่งของพวกนี้
“เส้นหมี่ คุณบ้าหรือเปล่า?ผมขอบอกคุณเลย อย่ามาบ้าที่นี่ ถึงคุณจะกลายเป็นคนวิปลาสจริง ๆ ผมก็จะพาคุณกลับไป เพื่อให้พวกเขาดูหน้าตาของคุณ”
ผู้ชายหน้าเขียวคนนี้ ทิ้งประโยคเช่นนี้ท่ามกลางสภาพห้องที่มีวัตถุเกลื่อนกลาด จากนั้นก็ยกเท้าเดินออกไป
เส้นหมี่เห็นก็รีบกระโจนใส่ทันที
ทว่าเธอยังไม่ถึงหน้าประตู กลุ่มคนที่ก่อนหน้านี้แบกเธอมาที่นี่ปรากฏตัวอีกครั้ง และครั้งนี้พวกเขาเห็นเธอก็ยกปืนขึ้นมาเล็งศีรษะเธอ
“……”
“แสนรักคุณมันเศษสวะ สัตว์เดรัจฉาน คุณกลับมาเดี๋ยวนี้ ปล่อยฉันออกไปแสนรัก——”