ตอนที่ 183 คุณให้ผมมา / ตอนที่ 184 ลูกชายโง่ของเจ้าของที่ดิน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 183 คุณให้ผมมา

 

 

ว่ากันว่าวันนั้นเขาถอเงินสดกล่องหนึ่งไปให้ซ่างซินด้วยตัวเอง พร้อมทั้งสาบานว่าจะต้องทำให้ซ่างซินเซ็นสัญญากับเขาให้ได้

 

 

คิดไม่ถึงว่าวันนั้นเข้าไปหาซ่างซินแล้ว เขากลับไม่ได้เจอหน้าเธอ และถูกผู้จัดการของเธอไล่กลับไปด้วยซ้ำ

 

 

แม้แต่กล่องเงินของเขาก็ถูกโยนออกมาด้วย

 

 

ตอนนั้นมีลูกคนรวยอีกสองสามคนไปด้วยกัน หลินเชาจึงเสียหน้ากับการถูกโยนออกมาครั้งนั้นอย่างมาก

 

 

และตอนนี้ไม่มีใครรู้ ว่าซ่างซินจุดอ่อนของเขา

 

 

เดิมทีซ่างซินไม่เคยรับงานพรีเซ็นเตอร์ เขาพอจะแสร้งคิดว่าซ่างซินมีใจให้เขาอยู่บ้าง

 

 

แต่ตอนนี้…

 

 

“พูดขึ้นมาแล้วซูเปอร์ไวเซอร์ที่เพิ่งมาใหม่ของบริษัทเราก็เก่งนะ เรื่องที่แม้แต่คุณชายหลินทำไม่ได้ เธอก็ทำได้หมด ฉันว่านะ คุณชายหลินไม่คู่ควรกับซ่างซินหรอก คุณเสียเวลากับเธอไปมากขนาดนั้น ตอนนี้เธอกลับรับปากคนอื่นอย่างง่ายด้าย ไม่เท่ากับเป็นการหักหน้าคุณเหรอ”

 

 

เหวินหย่าไต้ชายตามองใบหน้าที่ดูไม่ได้จนถึงที่สุดของหลินเชา ราวกับว่าอยากจะระบายความอัดอั้นตันใจในคืนนี้ให้กับเขาทั้งหมด พร้อมทั้งยิ้มสดใสกว่าเดิม

 

 

“คุณพูดจริงเหรอ” หลินเชาฟังเธอแล้วพูดไม่ออกจริงๆ

 

 

เขาคว้าข้อมือของเธอพลางกัดฟัน

 

 

นางแบบคนหนึ่งทำตัวสูงส่งต่อหน้าเขา เขาก็ไม่พอใจอยู่แล้ว

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของเขาอยากจะคลุกคลีอยู่ในวงสังคมชั้นสูง ไม่อนุญาตให้เขาก่อเรื่อง เขาคงจะจัดการผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว!

 

 

“จริงแท้แน่นอน วันนี้ฉันมาที่นี่ ก็เพราะมาฉลองให้กับเพื่อนร่วมงานใหม่ที่ทำให้ซ่างซินเซ็นเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้ สงสารก็แต่คุณชายหลินนี่แหละ…จิ๊ๆ!” เหวินหย่าไต้ใช้นิ้วเรียวจิ้มหน้าอกของหลินเชา ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ย

 

 

จากนั้นก็ส่ายหน้าให้เขา แล้วเดินเข้าห้องน้ำสาธารณะไป

 

 

 

 

 

ในห้องจัดเลี้ยงส่วนตัว

 

 

การออกไปจากห้องของเหวินหย่าไต้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศสนุกสนานของทุกคนเลย

 

 

โดยเฉพาะคนกินจุบางคน

 

 

อวี๋เยว่หานพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าของเขาหันไปด้านข้างเล็กน้อย จะได้มองเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ปูขึ้นมาแทะทีละตัว

 

 

ไม่นานตรงหน้าเธอก็เต็มไปด้วยกระดองปู

 

 

ไข่ปูเหลืองทองติดอยู่ที่ข้างปาก เธอไม่เพียงไม่หยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ด แต่ใช้ลิ้นเลียกลับเข้าไปในปาก

 

 

จากนั้นก็กินต่ออีกตัวหนึ่ง…

 

 

เธอแกะปูเก่งมาก และยังไม่ลืมที่จะพึมพำว่า “ปูอร่อยขนาดนี้ ยังไม่คนไม่กินด้วยแฮะ”

 

 

พูดจบเธอก็หันไปชำเลืองมองเขาครั้งหนึ่ง

 

 

จากนั้นก็ก้มหน้าแทะปูอย่างเงียบๆ

 

 

อวี๋เยว่หาน “…”

 

 

เมื่อเห็นปูก้ามขนตรงหน้า เขาก็เลิกคิ้ว แล้วดันปูของตัวเองไปตรงหน้าเธอ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตาเป็นประกายทันที แต่เพิ่งจะลังเลว่าต้องทำเป็นเกรงใจเขาสักหน่อยไหม ก็ได้ยินเสียงดึงดูดของเขาพูดขึ้นมา “แกะให้ผมกินหน่อย”

 

 

“…”

 

 

อะไรนะ?

 

 

ไม่ใช่ให้เธอกิน แต่ให้เธอแกะให้เขาอย่างนั้นเหรอ

 

 

รอยยิ้มตรงมุมปากของเหนียนเสี่ยวมู่แข็งทื่อไปแล้ว แม้แต่ขาปูข้างสุดท้ายในมือก็ลืมดูด

 

 

แต่เพิ่งคิดจะพูดว่าเขาเองก็มีมือมีเท้า ทำไมต้องให้เธอคอยเอาใจ

 

 

ก็ได้ยินเขาพูดเสริมอีกประโยคด้วยความสบายใจว่า “คุณให้ผมมานะ”

 

 

เสียงของเขาไม่ดังมาก มีเพียงเหนียนเสี่ยวมู่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาเท่านั้นถึงจะได้ยิน

 

 

เธอคิดจะเถียง แต่ในหัวก็นึกได้ทันทีว่าวันนั้นเธอลุ่มหลงไปกับความหล่อเหลาของเขาอยู่บนรถ ถึงได้เอ่ยปากชวนเขามา

 

 

หญิงสาวเงียบไปในบัดดล

 

 

จากนั้นก็ก่นด่าอยู่ในใจเงียบๆ ‘เป็นกรรมที่ตัวเองก่อทั้งนั้น ทนๆ เดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว…’

 

 

เธอใส่ถุงมือด้วยความชำนาญ จากนั้นก็แกะปูพร้อมกับต่อว่าเขาอยู่ในใจ

 

 

และถือโอกาสตอนที่อวี๋เยว่หานไม่ได้สังเกต แอบยัดใส่ปากตัวเองด้วยคำหนึ่ง

 

 

สุดท้ายแล้วเธอก็อดทนแกะปูจนเสร็จอย่างยากลำบาก แล้วส่งไปตรงหน้าเขา

 

 

“คุณชาย ค่อยๆ กินนะ”

 

 

“แกะต่อไป”

 

 

 

 

ตอนที่ 184 ลูกชายโง่ของเจ้าของที่ดิน

 

 

อวี๋เยว่หานรับถ้วยใส่เนื้อปูจากตรงหน้าเธอมาก จากนั้นก็ถือโอกาสส่งถ้วยเปล่าให้เธออีก

 

 

จากนั้นเขาก็คีบเนื้อปูใส่ปากอย่างสบายใจ ท่ามกลางสายตาโมโหเกรี้ยวกราดของเธอ

 

 

ไม่นานปูหนึ่งตัวที่แกะได้เป็นอย่างดีก็ลงไปอยู่ในท้องเขาแล้ว

 

 

ปูก้ามขนตามฤดูกาลรสชาติสดใหม่มาก

 

 

โดยเฉพาะตอนที่ไข่ปูสัมผัสปุ่มรับรส…

 

 

อวี๋เยว่หานหรี่ตาสีดำขลับของเขาลงเล็กน้อย เทียบกับอาหารอร่อยๆ แล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังแกะปูได้อย่างสวยงามข้างๆ ดึงดูดสายตาเขายิ่งกว่า

 

 

สองมือของเธอจับตัวปูก้ามจน แกะกระดองและขาปูออก จากนั้นก็นำเนื้อทั้งหมดใส่ลงไปในชามเปล่า

 

 

ตัวเธอแอบซ่อนไข่ปูเอาไว้ ก่อนจะดูดคำหนึ่ง พร้อมหรี่ตาลงอย่างมีความสุข

 

 

เธอคิดว่าเขาไม่รู้ ถึงได้ยิ้มเหมือนจิ้งจอกน้อยที่ทำแผนการร้ายได้สำเร็จ

 

 

นัยน์ตาของอวี๋เยว่หานวูบไหว มุมปากยกยิ้มอย่างอดไม่อยู่…

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ยินดีต้อนรับเข้าสู่แผนกของเรานะครับ ผมขอดื่มยกย่องคุณแก้วหนึ่งได้ไหม” ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังทำลายความปรองดองระหว่างพวกเขาสองคน

 

 

อวี๋เยว่หานเลิกคิ้วมองไปข้างๆ เธอ

 

 

เพื่อนร่วมงานชายในแผนกประชาสัมพันธ์คนหนึ่ง กำลังยกแก้วไวน์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แต่มองเธอด้วยตาเป็นประกาย

 

 

ท่าทางแบบนี้ดูเหมือนแม่หม้ายที่กำลังสารภาพรัก

 

 

ทั้งคาดหวัง ทั้งกลัวที่จะถูกปฏิเสธ

 

 

แต่เหนียนเสี่ยวมู่กลับเหมือนลูกชายโง่ของเจ้าของที่ดิน เธอมองความคิดของอีกฝ่ายไม่ออกโดยสิ้นเชิง จึงทิ้งกระดองปูในมือทิ้ง และยกแก้วไวน์ตรงหน้าขึ้นมาชนแก้วกับอีกฝ่ายด้วยท่าทางอาจหาญอย่างยิ่ง ก่อนจะดื่มอึกๆ จนหมด

 

 

“ฉันดื่มหมดแล้ว คุณก็ตามสบายนะคะ!”

 

 

ท่าทางกล้าได้กล้าเสียแบบนี้ แม้แต่ผู้ชายมองก็ยังงุนงง

 

 

ผู้ชายคนนั้นอยากพูดอะไรต่อ แต่เธอก็นั่งลงตั้งอกตั้งใจแกะปูต่อแล้ว

 

 

ราวกับว่าในสายตาของเธอไม่มีเรื่องอื่นใดเทียบกับงานแกะปูในมืออีกแล้ว…

 

 

อวี๋เยว่หานชำเลืองมองเพื่อนร่วมงานชายที่เดินกลับไปอย่างรวดเร็ว มุมปากทำมุมโค้งเห็นชัดยิ่งขึ้น

 

 

จากนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นเหนียนเสี่ยวมู่แอบกินขาปูสองข้างของเขาด้วยใบหน้าใด้ใจอีกครั้ง

 

 

“แกะเสร็จตัวนี้แล้ว ที่เหลือผมให้คุณหมดเลย”

 

 

“…” เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้ามองเขาด้วยความงงงัน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าก้อนน้ำแข็งถึงมีนิสัยแบบนี้

 

 

เธอได้ยินว่าตัวเองใกล้จะปลดแอกแล้ว ก็ยิ่งก้มหน้าก้มตาตั้งใจแกะปูให้เขายิ่งกว่าเดิม

 

 

แต่ยังไม่ทันได้แกะปูในมือให้เสร็จ ก็มีเพื่อนร่วมงานชายมาขอชนแก้วอีก

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ผมขออวยพรคุณครับ เพิ่งมาทำงานที่แผนกประชาสัมพันธ์แท้ๆ แต่ก็ตกลงให้ซ่างซินมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้” เพื่อนร่วมงานชายในครั้งนี้เตรียมพร้อมก่อนจะมาอย่างเห็นได้ชัด เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันเอ่ยปาก เขาก็ดื่มไวน์ของตัวเองจนหมดก่อน เพื่อขอดื่มหมดแก้วก่อนต่อหน้าเธอ

 

 

จากนั้นดวงตาของเขาจ้องเขม็งมาที่เธอ

 

 

แล้วหล่าวชมจากใจ “คุณสวยมากเลยครับ”

 

 

“ไม่หรอกค่ะ เรื่องพรีเซ็นเตอร์ทุกคนก็มีสวยทั้งนั้น ต่อไปก็ขอให้ช่วยดูแลฉันด้วยนะคะ” เหนียนเสี่ยวมู่ยกแก้วไวน์ พร้อมกับตอบรับด้วยรอยยิ้ม

 

 

เธอคิดง่ายๆ ว่ามีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมงานในแผนก แน่นอนว่าเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว

 

 

แค่ดื่มไวน์เท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่นใด

 

 

เมื่อเห็นเธอเปิดเผยแบบนี้ คนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวก็พากันยกแก้วไวน์ดื่มตามเธอไปด้วย

 

 

งานเลี้ยงแผนกที่เดิมทีดูธรรมดาก็เปลี่ยนเป็นงานเลี้ยงดื่มเหล้าไปในพริบตา

 

 

เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานในแผนกประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานชายต่อแถวเข้ามาขอชนแก้วกับเหนียนเสี่ยวมู่ทีละคน ใบหน้าหล่อเหลามีมุมชัดเจนของอวี๋เยว่หานก็ค่อยๆ มืดมนลง แถมยังขมวดคิ้วมุ่นด้วย

 

 

เหล่าเพื่อนร่วมงานหญิงของแผนกประชาสัมพันธ์เพิ่งเคยนั่งกินข้าวอยู่ใกล้ๆ กับประธานบริษัทของตัวเองเป็นครั้งแรก

 

 

แถมเขายังเป็นเทพบุตรในสายตาของทุกคนด้วย

 

 

หญิงสาวหลายคนเพิ่งรวบรวมความกล้าได้ คิดจะไปชนแก้วกับเขา แต่ก็เหลือบไปเห็นใบหน้าเย็นชาของเขาเสียก่อน จึงได้แต่หดตัวกลับไปเงียบๆ

 

 

พากันเซื่องซึมกันไปเป็นแถว