บทที่ 63 เข้าใจผิด

ไหปีศาจ

บทที่ 63

เข้าใจผิด

สามวันต่อมา

องค์หญิงเจียโรว ฟื้นขึ้นมาอย่างช้าๆ ในปากของนางแห้งผาก กระเพาะของนางโหยหิวและร่างกายของนางอ่อนแรงจนไม่ต่างจากของคนพิการ

นี่ข้าอยู่ที่ไหนกันเนี่ย

ก็จริงนะ

เพราะนางเพิ่งฟื้นขึ้นมา ความคิดของนางจึงยังสับสนอยู่เล็กน้อย

โอ้ ข้าจำได้แล้ว

ข้าถูกซุ่มโจมตี จากนั้นข้าก็ใช้วิชาจักรพรรดิมังกรลงมากำจัดมัน แล้วข้าก็ตกอยู่สภาพที่แย่มากเพราะอาการข้างเคียง จากนั้นก็ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ชายคนหนึ่ง

ใครจะไปคิดว่าจะถูกผู้ใช้พลังวิญญาณระดับทองแดงช่วยชีวิตไว้จริงๆ

แต่เจ้าสุนัขตัวนั้นช่างน่าสนใจจริงๆ

“ดูเหมือนว่าจะต้องใช้เวลาพักราว ๆ หนึ่งเดือนสินะ”

องค์หญิงเจียโรวจ้องมองเพดานอย่างเศร้าสลด จากนั้นนางก็รู้สึกผิดปกติที่ร่างกายของนางอย่างบอกไม่ถูกและก้มลงดู

“อ๊ะ! อ๊าา”

มันเป็นเสียงร้อง ด้วยความตกใจ

ทั้งโรงเตี๊ยมเหมือนจะสั่นสะเทือนด้วยเสียงร้องของนาง

ลั่วอู๋ นวดใบหูของเขาแล้วเดินเข้าไปในห้องพร้อมบ่นว่า “ทำไมเจ้าถึงส่งเสียงดังแบบนั้น หูของข้าจะหนวกเอาเพราะเจ้าเนี่ยแหละ ดูเหมือนว่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเลยนะ”

องค์หญิงเจียโรวสงบลงและมองดูลั๋วอู๋

เขาน่าจะเป็นชายหนุ่มที่ช่วยนางเอาไว้

“เสื้อผ้าของข้าอยู่ที่ไหน … “องค์หญิงเจียโรว ถามอย่างอ่อนแอ

ลั่วอู๋ตอบกลับ “ทั่วร่างของเจ้าปกคลุมไปด้วยเลือดและเสื้อผ้าของเจ้าก็สกปรก เจ้ายังคิดจะใส่มันอยู่อีกเหรอ”

สายตาขององค์หญิงเจียโรวดูเย็นชา

“เจ้าคนโรคจิต, บังอาจนัก ข้าจะฆ่าเจ้า”

พลังวิญญาณที่เหลืออยู่ขององค์หญิงเจียโรว ค่อยๆควบแน่นและไหลลงไปในแหวนสัตว์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์สีเขียวบนข้อมือของนางที่จู่ ๆ ก็สว่างขึ้น

มวลของพลังวิญญาณสีทองแผ่ออกมาแล้วค่อย ๆ กลายเป็นสัตว์วิญญาณมังกรขนาดเล็กที่เหมือนสัตว์ประหลาด

“มังกรวิญญาณ”

ลั่วอู๋รู้สึกประหลาดใจ

เขาไม่ได้คาดคิดว่าสัตว์วิญญาณตัวแรกขององค์หญิงเจียโรวคือมังกรวิญญาณ มันไม่ใช่สัตว์วิญญาณที่มีตัวตนจริงแต่เกิดจากคลื่นพลังวิญญาณและภูมิปัญญา

มันสัตว์วิญญาณหายาก

“กรร!” ดูเหมือนว่าจะรู้สึกถึงความตั้งใจของเจ้านายมังกรทองตัวเล็ก ๆ เปิดปากออก เสียงของมันดูเหมือนจะยังไม่โตเต็มวัย

“เงียบ! เจ้านี่ชื่อว่าอะไร” ทันทีที่ลั่วอู๋ตบหัวมันเบา ๆ มังกรวิญญาณก็ร่วงลงนอนบนพื้น

องค์หญิงเจียโรว ร้องออกมาด้วยความปวดใจ

“เสี่ยวจิน … “

สงครามครั้งยิ่งใหญ่จบลงอย่างง่ายดาย

นางในตอนนี้อ่อนแอมาก เนื่องจากนางได้สูญเสียพลังวิญญาณไปมาก นอกจากนี้ร่างกายของนางยังต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาตัวเอง ไม่ต้องคิดถึงเรื่องต่อสู้เลย

“ไอ้บ้า ข้าไม่คิดเลยว่าข้าจะหนีเสือปะจระเข้แบบนี้ ชื่อเสียงของข้าในฐานะองค์หญิงเจียโรว ถูกทำลายบ่นบี้หมดแล้ว”องค์หญิงเจียโรวอยากร้องไห้ออกมาแม้ไม่มีน้ำตา

ลั่วอู๋กลอกตา “ เจ้าพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไรเนี่ย สาวใช้ของข้าต่างหากที่ช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจ้า แม้ว่าข้าจะไม่ใช่สุภาพบุรุษ แต่ข้าก็ไม่คิดที่จะฉวยโอกาสจากคนอื่น”

“สาวใช้ของเจ้า”องค์หญิงเจียโรวกะพริบตา

“หลี่หยินออกมา”

ลั่วอู๋ส่งเสียงเรียกสาวใช้ประจำตัว

หลี่หยินเข้ามาในห้องและทักทายเล็กน้อย “องค์หญิงเจ้าคะ ข้าเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ท่านเองเจ้าค่ะ”

“อืม” สีหน้าขององค์หญิงเจียโรวเปลี่ยนไปทันที นางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เป็นไร”

ลั่วอู๋พูดไม่ออก

นี้คือองค์หญิงเจียโรวใช่ไหม ข้าไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่แล้ว

……

……

“ไปเอาน้ำมาให้ข้าหน่อยได้ไหม ข้ากระหายน้ำ” องค์หญิงเจียโรวพูดอย่างน่าสงสารด้วยใบหน้าที่บอบบางและละเอียดอ่อนของนาง

ลั่วอู๋เลยสั่งให้หลี่หยินป้อนน้ำและขนมให้นางเพื่อบรรเทาความหิวกระหายของนาง

ข้านอนหลับไปนานแค่ไหนแล้วเหรอ”องค์หญิงเจียโรว ถามทันที

“ สามวัน” ลั่วอู๋พูด

“โอ้ ไม่เป็นไรการประมูลสินค้ายังไม่เริ่มเลย” องค์หญิงเจียโรวพูดอย่างพึงพอใจ “ในอีกไม่กี่วันข้าก็จะได้เห็นภูตน้ำอันสวยงามแล้วสินะ”

“ภูตน้ำหายไปแล้ว” ลั่วอู๋พูด

องค์หญิงเจียโรว เหลือบมาที่เขา “นั่นจะเป็นไปได้ยังไงกัน คฤหาสน์ชวนเทียน ได้ส่งข่าวมาบอกข้าแล้วนี่นา”

“คนที่จะนำภูตน้ำมาขึ้นโรงประมูล ได้พามันกลับไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีการประมูลภูตน้ำ” ลั่วอู๋กล่าว

จิตใจขององค์หญิงเจียโรวกำลังสั่นคลอนอย่างรุนแรง

ไม่นะ ไม่

ถ้าอย่างนั้นจุดประสงค์ที่นางมาที่นี่ เพื่ออะไรกัน

“ น่าขยะแขยง ไอ้พวกเลวนั่นไม่แม้แต่จะทิ้งของไว้ด้วยซ้ำ”องค์หญิงเจียโรว ขบฟันของนาง

“เจ้าหมายถึงอะไร”

“ พวกคนที่นำภูตน้ำมาคือคนที่ต้องการจะลักพาตัวข้า พวกมันจึงนำภูตน้ำไปขึ้นประมูลที่คฤหาสน์ชวนเทียน เพื่อล่อให้ข้ามาที่นี่ ที่มันเอากลับไปเพราะคงคิดว่าข้าตายแล้ว”

องค์หญิงเจียโรวอารมณ์เสียมาก

ลั่วอู๋เข้าใจแล้ว

ไม่น่าแปลกใจเหตุการณ์ออกมาเป็นแบบนั้น

“ข้าคงจะต้องตายถ้าไม่ได้ภูตน้ำ” องค์หญิงเจียโรวนอนขดบนเตียงเหงา ๆ “ข้าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ข้าถึงจะได้พบกับภูตที่ใช่”

ลั่วอู๋กล่าวว่า “จริง ๆ แล้วคฤหาสน์ชวนเทียน กลัวที่จะทำให้เจ้าขุ่นเคือง ก็เลยไปหาภูตดอกไม้มาแทนที่ภูตน้ำในการประมูลเป็นพิเศษแทน”

“จริงเหรอ” ดวงตาขององค์หญิงเจียโรว เปล่งประกาย

“แน่นอนสิ มันเป็นเรื่องจริง”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ภูตดอกไม้ ดีมาก ภูตดอกไม้ ดีจริง ๆ ภูตน้ำจะเอาไปทำอะไรได้ ภูตดอกไม้นี่สิสามารถใช้จัดการสวนลอยฟ้าของข้าได้” องค์หญิงเจียโรวดูมีความสุขมาก

โอ้ ยัยนี่

ใครกันนะที่บอกว่าไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากภูตน้ำ

ลั่วอู๋ถามอย่างสงสัยว่า “ข้าได้ยินข่าวลือว่าเจ้าจะเดินทางมาล่าช้า ดังนั้นเจ้าจึงไม่สามารถมาเข้าร่วมงานได้จนกว่าการประมูลจะจบไม่ใช่เหรอ “

“เดินทางมาล่าช้างั้นเหรอ ไม่หรอก ยังไงข้าก็ไปทันได้ แต่ข้าไม่สามารถบอกให้คนอื่นรู้ได้”องค์หญิงเจียโรว กล่าว

ลั่วอู๋งงงวยมากขึ้น “ทำไมล่ะ”

“ถ้าข้ามาประมูลสมบัติแต่วันแรก ข้าจะต้องซื้อภูตดอกไม้ในราคาประมูลแข่งกันคนอื่นใช่ไหมล่ะ ข้าจะหาเงินมาซื้อได้ที่ไหน”องค์หญิงเจียโรวพูดด้วยเสียงที่สมเหตุสมผล

สีหน้าของลั่วอู๋ดีขึ้นมาก เขาเริ่มเข้าใจ

จะหาเงินมาซื้อได้ที่ไหนงั้นเหรอ

องค์หญิงเจียโรวกล่าว “เจ้าคิดว่าองค์หญิงอย่างข้ารวยมากรึไง ข้าได้เงินเข้ากระเป๋าเพียง แค่ 20,000 หินวิญญาณต่อเดือน ข้าไม่มีเงินไปซื้อภูตดอกไม้หรือภูตน้ำได้หรอก”

“บางคนต้องการทำให้ข้าพอใจ ดังนั้นพวกเขาจะพยายามเอาภูตดอกไม้มาให้ข้าอย่างแน่นอน”

“ถ้าข้ามาพวกเขาจะไม่เสนอราคาเพื่อเอาใจข้า และข้าเองก็ไม่สามารถเสนอราคาจองเองได้อยู่แล้วข้าจึงใช้ข้ออ้างเรื่องความล่าช้าในการเดินทางและข้าก็จะโผล่หลังจากที่พวกเขาซื้อกันเสร็จแล้ว”

“ตอนนั้น แน่นอนว่าเดี๋ยวก็จะมีคนเอามาถวายข้าเอง”

ลั่วอู๋ไม่มีอะไรจะพูด

องค์หญิงเจียโรวพูดอย่างเคร่งขรึม “ขอบคุณที่ช่วยข้าไว้ แต่ข้าเกรงว่าวันนี้ข้าจะขยับตัวไม่ไหวข้าขอซ่อนตัวที่นี่ก็แล้วกัน”

“ไม่เป็นไร ทำตัวให้สบาย” ลั่วอู๋กล่าว

องค์หญิงเจียโรว พูดอย่างจริงจัง “ในเมื่อเจ้าช่วยข้าไว้ เจ้าก็ถือเป็นคนของข้า ถ้าใครคิดจะรังแกเจ้า เจ้าอ้างชื่อของข้าได้เลย ข้าจะคุ้มครองเจ้าเอง”

“ ????” ลั่วอู๋สับสน “ เดี๋ยวก่อนนะ ตรรกะของเจ้าแปลกไปหน่อยไหม”

“เฮ้เฮ้” องค์หญิงเจียโรวพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนและน่ารัก “ข้าไม่สนหรอกนะ ต่อไปนี่เจ้าถือเป็นน้องชายของข้า ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรนะ”

ลั่วอู๋คิดในใจว่านางจะรับน้องชายใหม่ก็แล้วแต่เลย

“ชื่อของข้าคือลั่วอู๋ แต่ข้าไม่สนใจที่จะเป็นน้องชายของเจ้า เจ้าไม่ต้องให้อะไรข้าเลยก็ได้ แค่เจ้าไม่ตายก็ดีแล้ว”

“พักผ่อนให้สบายเถอะ ข้าจะกลับไปฝึกต่อ” เมื่อพูดจบ ลั่วอู๋ก็ลุกขึ้นและเดินออกไป

องค์หญิงเจียโรวรู้สึกสับสนขึ้นมา

แค่เจ้าไม่ตายก็ดีแล้ว ที่เขาพูดแบบนี้เขาหมายถึงอะไรกันแน่

หรือเขากำลังบอกข้าว่า…

ใบหน้าขององค์หญิงเจียโรวแดงระเรื่อขึ้นมา

ให้ตายสิ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าถูกผู้ชายสารภาพรัก แต่นี่มันฉุกละหุกมากไปหน่อยไหม

ลั่วอู๋ผู้นี้ เขาไม่ได้หล่อเหลามากนัก แต่ก็ถือว่าหน้าตาใช้ได้

แต่น่าเสียดายที่ระดับมิติวิญญาณเขาต่ำเกินกว่าจะเปรียบเทียบกับผู้ติดตามของข้า

ก็นะ

นี่ข้ามัวคิดอะไรของข้ากันเนี่ย

มันคงจะดีกว่านี้แน่ ถ้าข้าไปนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่เสียก่อน