— ฟึ้บ!–
ยูนิคอร์นสีนิลพุ่งตรงเข้าไปหาฉินอวี้โม่ในตอนที่นางไม่ทันได้ตั้งตัว สตรีโฉมงามไม่มีเวลาตอบสนอง ไม่มีแม้กระทั่งเวลาให้ตั้งสติเสียด้วยซ้ำ มันพานางขึ้นหลังไปดื้อๆ และวิ่งหายกลับเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำอย่างรวดเร็ว
ฉินอวี้โม่ตกตะลึงกับการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันของยูนิคอร์นสีนิล แท้จริงแล้วอดีตนักฆ่าสาวมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ว่องไวเพียงพอ นางสามารถหลบหลีกการโจมตีของยูนิคร์อนสีนิลได้อย่างแน่นอน ทว่าในเสี้ยวลมหายใจที่เจ้าอสูรมายาตัวใหญ่เข้ามาใกล้ จู่ๆ นางก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่งก้องขึ้นในหัว
‘เจ้านายแห่งโชคชะตาของข้า โปรดตาม ‘เขา’ เข้ามาด้วยเถิด’
เสียงของผู้ชายที่ฟังดูอ่อนล้าดังเข้ามาภายในใจของฉินอวี้โม่ เสียงอ่อนระโหยนั้นไม่ดังไม่เบาแต่เจือแวววิงวอนอย่างเด่นชัด*….เสียงนั้นเสมือนกำลังเรียกหานาง*
และเป็นเพราะเสียงที่ได้ยินนั้นเองทำให้ฉินอวี้โม่หยุดตัวเองเอาไว้และยินยอมขึ้นไปนั่งบนหลังของยูนิคอร์นสีนิลแต่โดยดี
เมื่อเห็นยูนิคอร์นสีนิลพาฉินอวี้โม่วิ่งเข้าไปในถ้ำด้วยความเร็วสูงสุด คิ้วของหานโม่ฉือก็กระตุกก่อนจะขมวดเป็นปมแน่น บุรุษมนุษย์น้ำแข็งพุ่งตามอสูรมายารูปร่างคล้ายม้าไปอย่างไม่ลังเล
ชื่อเซียวตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก หัวหน้ากองทหารรับจ้างถึงกับยืนนิ่งไปชั่วครู่
“ฝากพวกเจ้าเฝ้าตรงนี้ไว้ด้วย”
เมื่อเรียกสติคืนมาได้ชื่อเซียวก็สั่งการลูกน้อง ก่อนที่เขาจะวิ่งตามไปด้วยอีกคน
ตอนนี้ฉินอวี้โม่อยู่บนหลังของยูนิคอร์นสีนิล มันพานางพุ่งลึกเข้าไปภายในถ้ำมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเร็วสูง
และยิ่งเข้ามาในถ้ำลึกเท่าไหร่ ฉินอวี้โม่ก็ยิ่งรู้สึกถึงความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้น คล้ายกับว่าพวกนางกำลังตรงเข้าไปยังแกนกลางของภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นซึ่งอยู่ในส่วนลึกที่สุดของถ้ำแห่งนี้
ยูนิคอร์นสีนิลไม่มีท่าทีที่จะหยุดเลยแม้แต่น้อย มันพุ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ฉินอวี้โม่ก็มองเห็นกลุ่มแสงจางๆ ปรากฏอยู่เบื้องหน้า
และเมื่อม้าสีนิลยิ่งพานางเข้าไปใกล้ ฉินอวี้โม่ก็ยิ่งพบว่าแสงนั้นสว่างเจิดจ้ามากเสียจนทำให้ตาพร่า จนในที่สุดหญิงสาวผู้ถูกม้าพาตัวมาก็ต้องหลับตาลงเพราะไม่อาจต้านทานแสงนั้นได้
เมื่อรู้สึกตัวว่ายูนิคอร์นสีนิลหยุดเคลื่อนที่ ฉินอวี้โม่ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ และในตอนนั้นเองที่นางพบว่าแสงแสบตาได้สลายหายไปหมดแล้ว
สิ่งแรกที่หญิงสาวมองเห็นหลังจากลืมตาทำให้นางอดที่จะตื่นตะลึงไม่ได้ ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านางในตอนนี้เป็นฉากอันแสนแปลกประหลาด!
เพราะตอนนี้ตัวนางกำลังอยู่ในทะเลเพลิง ทว่านางกลับไม่รู้สึกถึงความร้อนร้ายแรงหรือรู้สึกว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟเผาแม้แต่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายูนิคอร์นสีนิลที่เป็นผู้พานางเข้ามาก็หายตัวไปแล้ว ฉินอวี้โม่รู้สึกราวกับว่าท่ามกลางทะเลเพลิงอันกว้างใหญ่ไพศาลจะมีแค่ตัวนางอยู่เพียงผู้เดียวเท่านั้น!
‘นายหญิง หลังจากการรอคอยอันแสนยาวนาน ข้าก็ได้พบท่านเสียที’
ในตอนนั้นเองเสียงอ่อนระโหยเสียงเดิมก็ดังเข้ามาภายในใจของฉินอวี้โม่อีกครั้ง ทว่าเมื่อมองดูพื้นที่รอบๆ ตัว นางกลับมองไม่เห็นผู้ใดอยู่เลย
‘เจ้าเป็นใครกัน ทำไมถึงได้เรียกข้ามาที่นี่ เจ้ามีจุดประสงค์อะไร?’
ฉินอวี้โม่โพล่งคำถามที่นางสงสัยทั้งหมดออกไปพร้อมกันในคราวเดียว ถึงแม้ว่าเปลวไฟเหล่านี้จะไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้แก่ร่างกาย แต่มันก็ยังให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดอยู่ดี…. ‘แน่นอนล่ะ จมอยู่ในทะเลเพลิงแบบนี้จะให้สบายใจได้ยังไงกันเล่า!’
‘นายหญิง ข้ารอท่านอยู่ที่นี่มาเป็นพันปีแล้ว ในที่สุดข้าก็ได้พบท่าน’
ทันใดนั้นเสียงอ่อนระโหยก็คล้ายจะสั่นเครือเล็กน้อย น้ำเสียงนั้นเต็มแน่นไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
ที่ฉินอวี้โม่พอจะจับใจความและเข้าใจได้ก็มีเพียงแค่ อีกฝ่ายกำลังรอนางอยู่ที่นี่ และเขารอมาเป็นพันปีแล้ว
‘นายหญิงของข้า ตอนนี้ข้ายังไม่สามารถตอบคำถามใดๆ ได้ สหายของท่านใกล้เข้ามาแล้ว รีบทำพันธสัญญาก่อนเถิด!’
เสียงดังขึ้นในใจฉินอวี้โม่อีกครั้ง ทว่าครั้งนี้มันฟังดูจริงจังและร้อนรน ซึ่งในทันทีที่เสียงนั้นจบลง หญิงสาวก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย
มันคล้ายกับว่าร่างกายของนางถูกเปลวไฟแผดเผา ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่น่าอึดอัดอย่างมาก
หากตอนนี้มีผู้อื่นอยู่กับอดีตคุณหนูสี่คนงามที่นี่และมองดูตัวนางก็จะเห็นว่า ร่างกายบอบบางกำลังแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานไปทั่วทั้งร่าง อีกทั้งยังถูกเปลวเพลิงที่ดูร้อนแรงห่อหุ้มเอาไว้!
‘ภายใต้นามแห่งท่าน พันธสัญญาถูกสร้างขึ้นแล้ว ไม่ว่าเป็นหรือตายก็มิอาจแยกจากกันได้!’
เสียงบุรุษเสียงเดิมดังขึ้น ทว่าในครั้งนี้ไม่ได้อ่อนระโหยอีกแล้ว แต่กลับเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยว หนักแน่น และทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง ฉินอวี้โม่รู้สึกได้ว่าตอนนี้ความเจ็บปวดทั้งหมดที่ตัวนางได้รับหายไปหมดสิ้น และเวลานี้ภายในจิตของนางมีร่องรอยของการเชื่อมต่อพิเศษบางอย่างปรากฏขึ้นมา
โดยปกติแล้วภายในจิตของมนุษย์จะมีมิติพิเศษซ่อนเร้นอยู่ มิติพิเศษนี้มีไว้สำหรับเป็นที่อยู่ของอสูรมายาเรียกว่า ‘มิติเชื่อมอสูร’ ทว่าตอนนี้ในมิติเชื่อมอสูรของฉินอวี้โม่กลับมีบางสิ่งที่แสนแปลกประหลาดเข้ามาอาศัย รูปร่างของมันแปลกพิกลและดูคลุมเครือมองเห็นได้ไม่ชัดเจน
ในเวลาเดียวกัน ที่ใต้ฝ่าเท้าของนางก็ปรากฏเป็นดาราเจ็ดดวงขึ้น จากเดิมพื้นที่บริเวณนั้นมีดาราเพียงสองดวงในตอนนี้ก็กลายเป็นเก้าดวงดาราภายในครั้งเดียว!
ดาราทั้งเก้าหมุนวนไปมาไม่หยุดนิ่ง ทันใดนั้นเองพวกมันก็เคลื่อนที่เข้าหาและรวมตัวกันเป็นดาราขนาดใหญ่หนึ่งดวง เสี้ยวลมหายใจถัดมาดาราอีกสองดวงก็ปรากฏขึ้นเคียงคู่ จนตอนนี้มีดาวดวงใหญ่อยู่ทั้งหมดสามดวง
“ขอบเขตทิพย์มายาสามดารา!”
เมื่อเห็นพัฒนาการของตัวเองในตอนนี้ ฉินอวี้โม่ก็อุทานเสียงดังอย่างอดไม่ได้
ไม่น่าแปลกใจที่นางจะตกตะลึง เพราะก่อนการพัฒนาครั้งนี้นางยังเป็นเพียงผู้ที่อยู่ในขอบเขตจิตมายาสองดาราเท่านั้น ทว่าในตอนนี้กลับก้าวข้าม…ไม่สิ….ก้าวกระโดดขึ้นมามากมายหลายระดับจนกลายเป็นผู้ที่อยู่ในขอบเขตทิพย์มายาสามดาราแล้ว!
‘นายหญิง หลายปีที่ผ่านมาข้าสูญเสียพลังไปมาก แม้ว่าในที่สุดก็ได้พบท่านแล้วและได้ทำพันธสัญญาอีกครั้ง ทว่าข้าก็ยังจำเป็นต้องเข้าสู่ห้วงนิทราเป็นเวลาสั้นๆ เพื่อฟื้นพลัง แต่ก่อนหน้านั้นมีบางอย่างที่ข้าต้องทำเพื่อท่าน’