ตอนที่ 21 ทำพันธสัญญา

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

— ฟึ้บ!–

ยูนิคอร์นสีนิลพุ่งตรงเข้าไปหาฉินอวี้โม่ในตอนที่นางไม่ทันได้ตั้งตัว สตรีโฉมงามไม่มีเวลาตอบสนอง ไม่มีแม้กระทั่งเวลาให้ตั้งสติเสียด้วยซ้ำ มันพานางขึ้นหลังไปดื้อๆ และวิ่งหายกลับเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำอย่างรวดเร็ว

ฉินอวี้โม่ตกตะลึงกับการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันของยูนิคอร์นสีนิล แท้จริงแล้วอดีตนักฆ่าสาวมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ว่องไวเพียงพอ นางสามารถหลบหลีกการโจมตีของยูนิคร์อนสีนิลได้อย่างแน่นอน ทว่าในเสี้ยวลมหายใจที่เจ้าอสูรมายาตัวใหญ่เข้ามาใกล้ จู่ๆ นางก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่งก้องขึ้นในหัว

‘เจ้านายแห่งโชคชะตาของข้า โปรดตาม ‘เขา’ เข้ามาด้วยเถิด’

เสียงของผู้ชายที่ฟังดูอ่อนล้าดังเข้ามาภายในใจของฉินอวี้โม่ เสียงอ่อนระโหยนั้นไม่ดังไม่เบาแต่เจือแวววิงวอนอย่างเด่นชัด*….เสียงนั้นเสมือนกำลังเรียกหานาง*

และเป็นเพราะเสียงที่ได้ยินนั้นเองทำให้ฉินอวี้โม่หยุดตัวเองเอาไว้และยินยอมขึ้นไปนั่งบนหลังของยูนิคอร์นสีนิลแต่โดยดี

เมื่อเห็นยูนิคอร์นสีนิลพาฉินอวี้โม่วิ่งเข้าไปในถ้ำด้วยความเร็วสูงสุด คิ้วของหานโม่ฉือก็กระตุกก่อนจะขมวดเป็นปมแน่น  บุรุษมนุษย์น้ำแข็งพุ่งตามอสูรมายารูปร่างคล้ายม้าไปอย่างไม่ลังเล

ชื่อเซียวตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก หัวหน้ากองทหารรับจ้างถึงกับยืนนิ่งไปชั่วครู่

“ฝากพวกเจ้าเฝ้าตรงนี้ไว้ด้วย”

เมื่อเรียกสติคืนมาได้ชื่อเซียวก็สั่งการลูกน้อง ก่อนที่เขาจะวิ่งตามไปด้วยอีกคน

ตอนนี้ฉินอวี้โม่อยู่บนหลังของยูนิคอร์นสีนิล มันพานางพุ่งลึกเข้าไปภายในถ้ำมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเร็วสูง

และยิ่งเข้ามาในถ้ำลึกเท่าไหร่ ฉินอวี้โม่ก็ยิ่งรู้สึกถึงความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้น คล้ายกับว่าพวกนางกำลังตรงเข้าไปยังแกนกลางของภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นซึ่งอยู่ในส่วนลึกที่สุดของถ้ำแห่งนี้

ยูนิคอร์นสีนิลไม่มีท่าทีที่จะหยุดเลยแม้แต่น้อย มันพุ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้

เวลาผ่านไปไม่นานนัก ฉินอวี้โม่ก็มองเห็นกลุ่มแสงจางๆ ปรากฏอยู่เบื้องหน้า

และเมื่อม้าสีนิลยิ่งพานางเข้าไปใกล้ ฉินอวี้โม่ก็ยิ่งพบว่าแสงนั้นสว่างเจิดจ้ามากเสียจนทำให้ตาพร่า จนในที่สุดหญิงสาวผู้ถูกม้าพาตัวมาก็ต้องหลับตาลงเพราะไม่อาจต้านทานแสงนั้นได้

เมื่อรู้สึกตัวว่ายูนิคอร์นสีนิลหยุดเคลื่อนที่ ฉินอวี้โม่ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ  และในตอนนั้นเองที่นางพบว่าแสงแสบตาได้สลายหายไปหมดแล้ว

สิ่งแรกที่หญิงสาวมองเห็นหลังจากลืมตาทำให้นางอดที่จะตื่นตะลึงไม่ได้  ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านางในตอนนี้เป็นฉากอันแสนแปลกประหลาด!

เพราะตอนนี้ตัวนางกำลังอยู่ในทะเลเพลิง ทว่านางกลับไม่รู้สึกถึงความร้อนร้ายแรงหรือรู้สึกว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟเผาแม้แต่น้อย

ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายูนิคอร์นสีนิลที่เป็นผู้พานางเข้ามาก็หายตัวไปแล้ว  ฉินอวี้โม่รู้สึกราวกับว่าท่ามกลางทะเลเพลิงอันกว้างใหญ่ไพศาลจะมีแค่ตัวนางอยู่เพียงผู้เดียวเท่านั้น!

‘นายหญิง หลังจากการรอคอยอันแสนยาวนาน ข้าก็ได้พบท่านเสียที’

ในตอนนั้นเองเสียงอ่อนระโหยเสียงเดิมก็ดังเข้ามาภายในใจของฉินอวี้โม่อีกครั้ง ทว่าเมื่อมองดูพื้นที่รอบๆ ตัว นางกลับมองไม่เห็นผู้ใดอยู่เลย

‘เจ้าเป็นใครกัน ทำไมถึงได้เรียกข้ามาที่นี่ เจ้ามีจุดประสงค์อะไร?’

ฉินอวี้โม่โพล่งคำถามที่นางสงสัยทั้งหมดออกไปพร้อมกันในคราวเดียว ถึงแม้ว่าเปลวไฟเหล่านี้จะไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้แก่ร่างกาย แต่มันก็ยังให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดอยู่ดี…. ‘แน่นอนล่ะ จมอยู่ในทะเลเพลิงแบบนี้จะให้สบายใจได้ยังไงกันเล่า!’

‘นายหญิง ข้ารอท่านอยู่ที่นี่มาเป็นพันปีแล้ว ในที่สุดข้าก็ได้พบท่าน’

ทันใดนั้นเสียงอ่อนระโหยก็คล้ายจะสั่นเครือเล็กน้อย น้ำเสียงนั้นเต็มแน่นไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

ที่ฉินอวี้โม่พอจะจับใจความและเข้าใจได้ก็มีเพียงแค่ อีกฝ่ายกำลังรอนางอยู่ที่นี่ และเขารอมาเป็นพันปีแล้ว

‘นายหญิงของข้า ตอนนี้ข้ายังไม่สามารถตอบคำถามใดๆ ได้ สหายของท่านใกล้เข้ามาแล้ว รีบทำพันธสัญญาก่อนเถิด!’

เสียงดังขึ้นในใจฉินอวี้โม่อีกครั้ง ทว่าครั้งนี้มันฟังดูจริงจังและร้อนรน  ซึ่งในทันทีที่เสียงนั้นจบลง หญิงสาวก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย

มันคล้ายกับว่าร่างกายของนางถูกเปลวไฟแผดเผา ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่น่าอึดอัดอย่างมาก

หากตอนนี้มีผู้อื่นอยู่กับอดีตคุณหนูสี่คนงามที่นี่และมองดูตัวนางก็จะเห็นว่า ร่างกายบอบบางกำลังแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานไปทั่วทั้งร่าง อีกทั้งยังถูกเปลวเพลิงที่ดูร้อนแรงห่อหุ้มเอาไว้!

‘ภายใต้นามแห่งท่าน พันธสัญญาถูกสร้างขึ้นแล้ว ไม่ว่าเป็นหรือตายก็มิอาจแยกจากกันได้!’

เสียงบุรุษเสียงเดิมดังขึ้น ทว่าในครั้งนี้ไม่ได้อ่อนระโหยอีกแล้ว แต่กลับเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยว หนักแน่น และทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง  ฉินอวี้โม่รู้สึกได้ว่าตอนนี้ความเจ็บปวดทั้งหมดที่ตัวนางได้รับหายไปหมดสิ้น  และเวลานี้ภายในจิตของนางมีร่องรอยของการเชื่อมต่อพิเศษบางอย่างปรากฏขึ้นมา

โดยปกติแล้วภายในจิตของมนุษย์จะมีมิติพิเศษซ่อนเร้นอยู่ มิติพิเศษนี้มีไว้สำหรับเป็นที่อยู่ของอสูรมายาเรียกว่า ‘มิติเชื่อมอสูร’  ทว่าตอนนี้ในมิติเชื่อมอสูรของฉินอวี้โม่กลับมีบางสิ่งที่แสนแปลกประหลาดเข้ามาอาศัย  รูปร่างของมันแปลกพิกลและดูคลุมเครือมองเห็นได้ไม่ชัดเจน

ในเวลาเดียวกัน  ที่ใต้ฝ่าเท้าของนางก็ปรากฏเป็นดาราเจ็ดดวงขึ้น จากเดิมพื้นที่บริเวณนั้นมีดาราเพียงสองดวงในตอนนี้ก็กลายเป็นเก้าดวงดาราภายในครั้งเดียว!

ดาราทั้งเก้าหมุนวนไปมาไม่หยุดนิ่ง   ทันใดนั้นเองพวกมันก็เคลื่อนที่เข้าหาและรวมตัวกันเป็นดาราขนาดใหญ่หนึ่งดวง  เสี้ยวลมหายใจถัดมาดาราอีกสองดวงก็ปรากฏขึ้นเคียงคู่  จนตอนนี้มีดาวดวงใหญ่อยู่ทั้งหมดสามดวง

“ขอบเขตทิพย์มายาสามดารา!”

เมื่อเห็นพัฒนาการของตัวเองในตอนนี้ ฉินอวี้โม่ก็อุทานเสียงดังอย่างอดไม่ได้

ไม่น่าแปลกใจที่นางจะตกตะลึง เพราะก่อนการพัฒนาครั้งนี้นางยังเป็นเพียงผู้ที่อยู่ในขอบเขตจิตมายาสองดาราเท่านั้น ทว่าในตอนนี้กลับก้าวข้าม…ไม่สิ….ก้าวกระโดดขึ้นมามากมายหลายระดับจนกลายเป็นผู้ที่อยู่ในขอบเขตทิพย์มายาสามดาราแล้ว!

‘นายหญิง หลายปีที่ผ่านมาข้าสูญเสียพลังไปมาก   แม้ว่าในที่สุดก็ได้พบท่านแล้วและได้ทำพันธสัญญาอีกครั้ง ทว่าข้าก็ยังจำเป็นต้องเข้าสู่ห้วงนิทราเป็นเวลาสั้นๆ เพื่อฟื้นพลัง แต่ก่อนหน้านั้นมีบางอย่างที่ข้าต้องทำเพื่อท่าน’